เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I write film. ไออ้อ
ฟิล์มม้วนที่ 22 ภาพที่ 10 ​: พ่อ
  • เค้าว่ากันว่าในสถาบันครอบครัว การเป็นพ่อนั้นลำบากน้อยกว่าแม่ เพราะได้ออกไปทำงาน ได้พบปะผู้คน มีงานเลี้ยงสังสรรค์ มีสังคม แต่สำหรับเรา เราว่าการเป็นพ่อก็มีมุมที่ลำบากไม่น้อยไปกว่าแม่นะ เผลอๆ จะมากกว่าแม่ด้วยซ้ำ

    พ่อของฉันมีกิจวัตรที่ซ้ำๆกันในทุกวัน นั่นคือ ออกไปทำงานแต่เช้า กลับมาก็กินข้าว ดูทีวี เผลอหลับหน้าทีวี พอตื่นก็ขึ้นไปอาบน้ำนอน เป็นแบบนี้ซ้ำๆกันไปในวันธรรมดา ส่วนวันหยุด เค้าจะชอบยมาเคีลยร์ของในบ้านออก ดูแลสวนหน้าบ้าน ล้างรถ อาบน้ำเกี๊ยว (หมาชิสุที่บ้าน) พาทุกคนไปกินข้าวเย็น นั่งดูบอล เผลอหลับหน้าทีวี พอตื่นก็ขึ้นไปอาบน้ำนอน ... เดี๋ยวนะ แล้วเค้าไม่พักหรอ?

    ฉัน : พ่อไม่พักบ้างหรอ ไม่เหนื่อยหรือไงทำอะไรอยู่ได้ทุกวัน...นอนตีพุงงี้ จะได้หายเหนื่อย
    พ่อ : แค่เห็นว่าบ้านเรายังรักกัน อยู่ด้วยกัน เห็นทุกๆคนมีความสุข แค่นั้นก็หายเหนื่อยแล้ว
    ฉัน : เวอร์

    สำหรับเรา มันเป็นคำที่ลิเกมากจริงๆนะเมื่อได้ยินประโยคนี้ครั้งแรก เหมือนฟังเพลง มุม ของ Playground แล้วเจอท่อนฮุค "ได้แอบมองเธอข้างเดียวอยู่ที่ตรงนี้ ก็พอแล้ว" เอาจริงถ้าชอบใครก็อย่าแค่แอบมองป่ะ เข้าไปคุยเข้าไปทำความรู้จักเลยสิ (อินจัด) แต่ก่อนที่จะออกทะเลไปไกล เมื่อนำประโยคที่พ่อพูดมาคิด วิเคราะห์ แยกแยะดูดีๆจะพบว่า มันไม่ง่ายเลย ที่เราจะแบกรับภาระของพ่อไว้

    เพราะนอกจากภาระงานที่แค่ต้องทำทุกวันนี้ก็เรียกได้ว่าพ่อแทบจะไม่มีเวลาได้เจอหน้าคนในครอบครัวเลย ยังมีอีกหลายๆครั้งที่เค้าต้องรับบทเป็น หมอ เป็นนายพยาบาล เป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา เป็นช่างซ่อม หรือแม้กระทั่ง Trainer ออกกำลังกายส่วนตัวให้กับคนในบ้าน เพราะอย่างที่ตัวเค้าบอก

    "เห็นทุกคนมีความสุข แค่นั้นก็หายเหนื่อยแล้ว"



    อย่างในภาพ เป็นตอนที่พี่ชายโดนแก้วตำที่เท้าตอนไปเที่ยวเกาะหลี่เป๊ะ พ่อเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล  เอาเศษแก้วออกจากเท้า พร้อมบอกกับพี่ชายว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย" 

    ในวันนั้น แค่คำว่าไม่เป็นไรคำเดียวของพ่อ ทำไมมันทำให้สถาการณ์ที่ดูเหมือนจะเลวร้าย กลับกลายลงเป็นดีอย่างบอกไม่ถูก 

    หรืออีกหลายๆเหตุการณ์ เช่น แมงมุม หรือ งูเข้าบ้าน พ่อก็จะเป็นคนที่รวบรวมความกล้า  (พ่อเรากลัวจิ้งจกมาก สัตว์น่ากลัวอื่นๆนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง) เพื่อต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายในบ้าน เหมือนกับเป็นอัศวิน ที่ต่อสู้กับมังกรร้ายเพื่อปกป้องเมืองของเขาเอาไว้

    เพราะด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ได้เล่ามา นั่นจึงทำให้เรารู้สึกรักและเคารพเค้าในฐานะ ผู้นำของบ้าน ไอดอลประจำตัว และพ่อผู้ซึ่งให้กำเนิดและทนความเป็นลูกลิงเรามาตั้งแต่เด็กๆ

    คงจะรู้สึกเสียศูนย์ไปในระดับหนึ่งเลยถ้าบ้านเราต้องเสียพ่อไป เหมือนกับตอนนี้ที่ประเทศไทยสูญเสียพ่อที่เป็นที่รักยิ่ง เรารู้สึกได้ถึงความเสียศูนย์เบาๆทั้งในตัวเราเองและตัวทุกๆคน แต่สุดท้ายเราเชื่อว่าคนเป็นพ่อ เค้าอุตส่าสร้างสร้างสถาบันครอบครัวให้แข็งแรงแล้ว ก็ไม่อยากเห็นหรอกว่าเมื่อเค้าจากไปแล้ว สิ่งที่ได้สร้างมาทั้งหมดกลับพังทะลายให้พริบตา





     


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in