เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Kyoto dokidokiRin36xxx
ดูคอนเสริตในญี่ปุ่นดีจริงมั้ย!?(เล่าประสบการ์ณติ่ง)
  • ในตลอดปี 2019 ฉันเป็นคนที่ชอบการไปดูคอนเสริตมากกกกกก ไม่ว่าจะเป็นนักร้องไทยหรือต่างประเทศ เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา เรียกได้ว่า จองตั๋วคอนบ่อยมาก ทั้งปีนั้น (รวมๆก็เกือบ 10 คอน) (แต่ตอนนี้กลับพบว่าดูอยู่บ้านดีกว่ากันเยอะ) 

    ตอนที่อยู่ไทยก็ไปดูคอนเสริตตลอดอย่างที่บอก ไปคนเดียวบ้างไปกับเพื่อนบ้าง จนกระทั่งตอนไปญี่ปุ่น ก็ยังอยากจะลองมีประสบการ์ณดูคอนเสริตในญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิต ! แค่คิดภาพก็รู้สึกฟิน รู้สึกว่ามันจะต้องดีมากๆๆ การได้ไปดูคอนในฝันที่ต่างแดน .... แต่ช้าก่อน คุณคิดผิดค่ะ ! 

     บอกเลยว่า สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงนั้นช่างแตกต่าง! ในช่วง 6 เดือนที่เรียนอยู่ญี่ปุ่น เรามีโอกาศได้ไปดูคอนเสริตด้วยกันทั้งหมด 3 งานด้วยกัน จะมารีวิวแต่ล่ะคอน ข้อดีข้อเสียแบบละเอียดกันค่ะ! 

      1) Troye sivan concert in tokyo 
          - ฝากคนในทวิตเตอร์กดบัตรคอนเสริต ตั๋วเป็นกระดาษปริ้นท์พิมพ์รายละเอียดวันจัดงานสถานที่ เราได้ตั๋วตั้งแต่อยู่ไทย แล้วนำติดตัวไปญี่ปุ่นด้วย บัตรเสี่ยงหายมากๆเพราะไม่ใช่บัตรแข็งแบบบ้านเรา งานที่จัดอยู่ในฮออล์ขนาดกลาง จัดที่โตเกียวในวันธรรมดา  ซึ่งเราต้องนั่งรถไฟชินกังเซนไปในช่วงบ่ายวันนั้น แล้วกลับรถบัสกลางคืน จากโตเกียวมาลงที่โอซาก้า แล้วนั่งรถไฟ 30 - 1 hr มาเกียวโต แล้วนั่งบัสกลับไปเรียนในตอนเช้า (ทรหดมากก แต่ตอนนั้นความติ่งบังตา นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาถึงญี่ปุ่นที่เราไปเที่ยวเองโดยพูดอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่น แถมยังต้องทำเวลาอีกด้วย) 

         ตอนไปถึงหน้าคอนเสริต ฝนก็เริ่มปรอยๆล่ะ + อากาศเย็นๆ กลุ่มแฟนคลับจำนวนนึงก็มารอต่อคิวซื้อของ กับอีกส่วนมาแจกใบโปรเจ็ค ซึ่งก็คล้ายกับที่ไทย เราก็ยืนรอวนไป จนเขาเรียกเข้างาน เนื่องจากเราซื้อโซนหน้า ( เป็นตั๋วแบบยืนทั้งหมด ขนาดประมาณ Gmm LIVE CENTRAL WORLD ) 

          ไอ้ตอนแรก คนก็ยืนกระจายๆกันตามปกติ เราถูกเรียกคิวแรกๆ เลยยืนชิวรอใกล้ๆแถวเวที คิดว่ายังไงก็เห็นชัดชัวร์ คนรอบข้างรายล้อมไปด้วยนิฮงจินทั้งหญิงชาย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น แต่ก็แอบเห็น เด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่มากับคุณพ่อใส่สูทลุคพนักงานบริษัทเหมือนกัน ซึ่งก็มองว่าน่ารักดี 

           ในความเชื่อที่ว่า คนญี่ปุ่นตอนดูคอนคือเรียบร้อย ไม่กรี๊ด ดูเงียบๆอย่างสงบ นั้นฝังหัวเราอยู่ตลอด จนพอมาเจองานนี้ถึงได้พบว่า มันไม่จริงเลยจ้าาาาา 

            ทันทีที่ทรอย ซีวาน นักร้องชาวออสซี่หน้าหวานของเรา ปรากฏตัวขึ้นเท่านั้นแหละ ชาวนิฮงจินจำนวนมหาศาลที่ไม่รู้ว่ากรูกันมาจากไหน ได้พุ่งกรูกันเข้ามาด้วยความเร็วสูง จนร่างของฉันบี้แบนเป็นกล้วยตากแห้ง ขยับไม่ได้แม้แต่องศาเดียว ไหนจะกล้องมือถือที่ทุกคนพร้อมใจกันยกขึ้นมาถ่ายรัวๆ กลื่นเหงื่อจากซอกคอของคนข้างหน้า 

            ฉันมองรอดรูไปยังนักร้องจากมุมเดิม (เพิ่มเติมคือทรมานกว่าเดิม)  ไม่สามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อีกต่อไป รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจกับเหล่าฝูงซอมบี้ในขณะนั้น คิดในใจว่า ตรูอยากกลับบ้าน ชั้นมาทำอะไรที่นี้..... จังหวะที่จะชูป้ายกระดาษโปรเจ็คที่ทำจากแฟนคลับขึ้นเท่านั้นแหละ

           แคว้กกก!

            ขนาดกระดาษยังขาดเลยอ่ะคิดดู T0T 

          แต่ถามว่าเข็ดไหม ตอบเลยว่าไม่จ้า เพราะหลังจากนั้นก็มีอีก 2 คอนเสริต ที่ฉันได้มีโอกาศไปดูอีก ซึ่งเหตุการ์ณพีคๆอย่างอื่นก็มีอีกเช่นกัน.... 

         2) SM town in Tokyo 2019 
     
         ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของเดือน 7 นั้น เรากับคนไทยที่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยกันที่วาเซดะ ตอนอยู่กรุงเทพ ก็ได้ทำการนัดวางแผนที่จะไปติ่งคอนเสริตเกาหลีแบบจัดเต็ม โดยผู้ร่วมขบวนการคนแรกคือน้อง เมโลดี้ (ชื่อสมมุติ)  มาเรียนภาษาที่โยโกฮาม่าพร้อมกับเรา เป็นผู้จัดแจงหาบัตรคอนเสริตจากช่องทางออนไลน์ คลั่งไคล้ NCT jeahyun เป็นพิเศษ และพี่เกตโตะ เลิฟน้องๆ NCT dream โดยเฉพาะ น้องเฉินเล้อกับนาแจมิน ลงทุนบินมาจากไทย ส่วนเราก็ไม่ได้ขัดข้อง ถึงจะไม่ได้ตามวงของ SM เท่าไหร่ แต่ก็ฟังเพลงของหลายๆคนในค่ายนี้ และอยากจะลองมาคอนของSM ดูซักครั้ง 
           พอวันไปคอน ก็มีน้องอีกคนที่มาเสริม เป็นคนในแอปนกฟ้าที่เมโลดี้รู้จักอีกที เราเดินทางไปยังสถานที่จัดงานคอนเสริตซึ่งก็ไกลพอสมควร แถมวันนั้นร้อนและคนเยอะมากๆๆ มีทั้งโซนขายของ โซนถ่ายรูป เยอะแยะไปหมด 
           ไอ้เราก็คิดว่า เออ คอนนี้คงเข้าไปนั่งดูชิวๆ ฟินๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ ! ตอนที่จะได้เวลาเข้างานคอนเสริต ตั๋วคอนที่ได้รับเป็นแบบ E-ticket ซึ่งเป็นบาร์โค้ด หลายๆอัน เราต้องแบ่งกันสแกนเข้าไป แต่ประเด็นคือพอเรากับน้องอีกคนเอาบาร์โค้ดที่ได้ทางเมลล์มาสแกน ปรากฏว่าเข้าไม่ได้จ้า เหมือนกลายเป็นบาร์โค้ดมันซ้ำ เลยทำให้อีกคนเข้าไม่ได้
            เรากับน้องพยายามถามสื่อสารกับเจ้าหน้าที่แต่ก็ไม่เป็นผล จับใจความได้แค่ว่าเข้าไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องมานั่งรอข้างนอก น้องที่ออกมาเลยพยายามติดต่อน้องเมโลดี้ให้ช่วยเรื่องบัตรด่วน เพราะคอนจะเริ่มแล้ว (ซีนอารมณ์มาก) จนพอเวลาผ่านไปเกือบสามสิบนาที คอนวง exo ได้เริ่มขึ้นไปซักพัก แต่พวกเราก็ยังเข้าไปในงานไม่ได้ น้องข้างๆเริ่มร้องไห้ เราเลยบอกน้องเขาว่าให้เข้าไปเหอะ พี่ไม่เข้าก็ได้ (คิดในใจว่าจะไปหาคากิโกริกินดีกว่าตรู เซ็ง) น้องเขาก็ไม่ยอม จนสุดท้ายติดต่อพี่อีกคนที่เป็นคนจัดการเรื่องบัตรให้แก้ไขให้ได้ จึงรีบวิ่งเข้าไป ตอนคอนเริ่มไปสักพัก 
            แต่ก็ยังดีที่ทันวงอื่นๆที่เหลือ ที่นั่งเรากับเวที เอาจริงๆคอนข้างไกล มองเห็นศิลปินอยู่ลิบๆ เหมือนมองลงมาจากดอย เหอะๆๆ
            บรรยากาศโดยรวม เพลง ศิลปิน ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่ไม่ได้ตราตรึงขนาดนั้น ถามว่าถ้าให้ไปดูซ้ำจะไปมั้ย เราอาจจะไม่ไปอีกนะ.... ดูเอาอยู่ที่บ้านน่าจะประหยัดและเห็นใกล้กว่า T^T 
          

         3) Summer Sonic in Osaka 2019 

          ยังไม่จบกับช่วงปิดเทอมฤดูร้อน งานซัมเมอร์โซนิคของญี่ปุ่น ถือว่าเป็นงานดนตรีout door ที่ใหญ่และจัดแทบทุกปีของญี่ปุ่น  จะจัดที่โตเกียวและโอซาก้าติดต่อกันประมาณสามวัน มีศิลปินชื่อดังจากญี่ปุ่น และต่างชาติที่มีชื่อเสียงมารวมในงานนี้มากมาย      
           ด้วยความที่โอกาศนี้มีแค่ครั้งเดียว เราจึงไม่รอช้าไปจัดการซื้อตั๋ว โดยมีเพื่อนช่วยกดบัตรให้ที่ตู้ทำรายการในร้านสะดวกซื้อ (ที่ญี่ปุ่นในเซเว่นจะมีตู้ให้ทำรายการพวกซื้อบัตรสวนสนุก บัตรคอนเสริตได้เอง) เราเลือกจะไปดูที่โอซาก้า วันสุดท้ายแค่วันเดียว เพราะเราอยู่เกียวโต ห่างจากโอซาก้าแค่ 30 นาทีโดยรถไฟ อีกทั้งเพื่อนคนที่คนให้ก็จะไปเหมือนกัน
           แต่บังเอิญว่าเราไปซื้อตอนที่ใกล้หมดเขตจองตั๋วแล้ว ทำให้เหลือแค่บัตรโอซาก้าสามวันเท่านั้น จึงต้องยอมควักตังค์(ที่ไม่ใช่ว่าถูกๆ) เปย์บัตรคอนไปโดยปริยาย...  พอได้บัตรแล้วก็ต้องทำการจองที่พักในโอซาก้า และตอนนั้นเราก็ได้นัดเพื่อนคนนึงที่เราสนิทด้วยที่ไทย ชวนมาดูคอนเสริตด้วยกัน และไปเที่ยวในโอซาก้าและเกียวโต ก่อนที่เราจะกลับไทย 

            พอวันจริง สรุปคร่าวๆตั้งแต่ต้นจนจบเลยคือ...

     -ตอนเดินทางหอบกระเป๋าไปโอซาก้า วันนั้นพายุเข้า... 
    - ไปดูคอนวันแรก ไม่เจอเพื่อนที่เป็นคนกดบัตรให้ (เพราะเพื่อนไปดูอีกวงคนละเวลา ทำให้ไม่เจอกัน แม้จะพักที่เดียวกันก็ตาม)
    -ร้อนมากกกก นึกว่านรก คนจะเยอะไปไหน
    -การมาดูคอนคนเดียว เราว่าก็เชี่ยวพอสมควร แต่มางานนี้รู้สึกเปล่าเปลี่ยวมาก ถ้ามากับเพื่อนน่าจะสนุกกว่านี้ 
    -มาคอนนี้เพื่อดู RADWIMPs วงที่ร้องเพลงประกอบ yourname ช่วงนั้น Tenki no go เข้าพอดี คาดหวังว่าจะได้ฟังแบบสดๆ ปรากฏว่าร้องแต่เพลงที่ไม่คุ้นหู so sad หนักมาก เลยเดินไปอีกโซนฟัง baby metal ปรากฏว่าดีมาก แสงสีเสียง คนมาดูเยอะมาก แต่แฟนคลับแอบฮาร์ดคอร์พอสมควร
    - ทิ้งตั๋วคอนวันนึง เพราะจะไปสวนสนุกกับเพื่อนที่ universal studio japan แต่วันนั้นเราดันพากันเลท ออกจากที่พักกันสาย หงุดหงิดจนเผลอทะเลาะกับเพื่อน (แต่ก็คืนดีกันอย่างรวดเร็ว)
    -วันคนที่ไปกับเพื่อน ส่วนใหญ่จะเป็นวง EDM ดังๆ เช่น chain smoker Zedd เป็นต้น คนมหาศาลอีกเช่นกัน แต่มีเพื่อนมาด้วย เลยสนุกกัน ไปซุ้มทำผม แปะสต๊กเกอร์ตามตัว ถ่ายรูป หาอะไรกินกัน เพลงมันส์จัดเต็ม สนุกกันยังเลิกงาน (เพื่อนโดนหนุ่มญี่ปุ่นที่อยู่ข้างๆเข้ามาคุยด้วยจร้า)
    -แต่ข้อเสียคือไอ้ตอนเลิกงานนี้แหละ ที่ทำเราเสียอารมณ์มากที่สุด เพราะคนมารอรถเมลล์กันเยอะ แต่รถดันมาแบบนานๆที่ผ่านมา รถแท็กซี่ก็ไม่มี ได้แต่รอๆๆๆๆ เป็นชั่วโมง ไม่รู้จะได้กลับที่พักเมื่อไหร่ เราแบบเซ็งสุด เพราะวันก่อนที่มากลับไปเร็วกว่าวันนี้เลยมีรถกลับปกติ ไม่ต้องรอนานเหมือนวันนี้
    -หลายชั่วโมงผ่านไป รถบัสก็มา ตอนขึ้นไปก็เบียดกันสุดๆ จนเราต้องยืนอัดกันตรงแถวๆที่นั่งคนขับ 

    ก็เลยทำให้ตัดสินใจได้ว่า พอกันทีจ้า... คอนเสริตที่ญี่ปุ่น ลาก่อย ทรมานชีวิตชัดๆ ทั้งเหนื่อย ทั้งมีปัญหา คงจะเข็ดขยาดการดูคอนไปอีกสักพัก เพราะที่ไทยเราแทบไม่เจอปัญหาเบียดขนาดนี้ เวลากลับก็ยังมีรถไฟฟ้าหรือแท็กซี่มาได้รวดเร็วกว่า

        ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการ์ณแต่ละคน อาจจะมีคนที่ไปแล้วแฮปปี้กว่าเราก็ได้ 

        ใครที่อยากจะมาดูคอนที่ญี่ปุ่นก็บอกเลยว่ามันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เอาจริงๆดูคอนในบ้านเราสนุกกว่าเยอะมาก การตรวจบัตรใช้บัตรแข็ง ง่ายสะดวก คนไม่เบียดกันจะตายขนาดนี้  ^^;;;      

             

                  

             
         
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in