เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อฉันติดโควิดเมื่อฉันรีวิวหนังสือ
Day 1 ของการอยู่ hospital
  • #เมื่อฉันติดโควิด


    Day 1 ของการอยู่ hospital


    เริ่มต้นก็ตื่นเช้ามารู้สึกดีมาก แบบได้นอนเต็มอิ่มแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนหน้านี้จะตื่นนอนด้วยอาการเป็นไข้ตลอดเลย หรือนี่จะเป็นสัญญาณว่าฉันจะหายเองแล้วนะ หลังจากนั้นก็ตื่นมากินข้าวแล้วก็นั่งทำงาน ทำงานยังไม่ทันเสร็จก็ต้องเตรียมไป hospitel แล้วจ้าา คือนี่เตรียมหนังสือไปอ่านหลายเล่มมาก เพราะเก็บกดจากเดือนที่แล้วที่งานเยอะ เอาหละกักตัวครั้งนี้จะอ่านให้หนำใจ 

    พอรถมาฉันก็เดินตามทางขึ้นบนรถ ประทับใจมาก นี่คือเป็นครั้งแรกที่ได้นั่ง ambulance แต่พอนั่งแล้วแบบ อห ไม่น่าจะใช่ ambulance นะ น่าจะเป็นรถจาก fast and furious มากกว่า คือแบบขับไวมากกก ตั้งแต่นั่งมองนอกหน้าต่างมาคือรถที่ฉันนั่งคือแซงรถทุกคันจริงๆ คืออยากเคาะกระจกบอกพี่เขาว่าพี่คะ หนูยังสบายดีค่ะ อาการไม่รุนแรง พี่ไม่ต้องเหยียบคันเร่งขนาดนั้นก็ได้นะคะ หนูใจไม่ดีเลย เอาจริงก็คือไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเพราะโควิดก่อนหรือจะตายเพราะหัวใจวายจากการนั่งรถ ambulance ก่อนเหมือนกัน 

    ตัดภาพมาอีกที และแล้วฉันก็มาถึง hospitel ภายในไม่ถึง 30 นาที (คือคุณพี่ไม่ได้ขับรถมาแล้ว คุณพี่เหมือนเหาะมามากกว่า) ดูจาก banner โปรโมทโรงแรมแล้วก็รู้สึกใจชื้น เอาจริงแค่ชื่อโรงแรม Grand Richmond ก็รู้สึกดูดี มี style แหละ เอาหละชีวิตกักตัวของฉันมันต้องดีย์ แบบหรูหราหมาเห่าแน่นอน 

    โอเคกลับมาที่ความเป็นจริง หลังจากมาถึง พี่พยาบาลก็บอกว่าให้ขึ้นห้องไปก่อนได้เลย เรื่องซักอาการเดี๋ยวจะตามมาทีหลัง ฉันก็แบบโอเคค่ะ 

    ขณะขึ้นลิฟต์และเดินมาที่ห้องก็คือใจลุ่มๆ ดอนๆ แหละ roommate ฉันจะเป็นอย่างไงกันนะ จะเข้ากับเขาได้ไหม หรือความจริงอาจจะโชคดีได้ roommate ที่อายุใกล้กันจนกลายเป็นเพื่อนแบบ share เพลง share หนังสือด้วยกันได้แบบนี้ก็ได้นะ

    สรุปพอประตูเปิดออกมาฉันก็พบว่าภาพที่ฉันวาดฝันเอาไว้ แม่งไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเลยจ้าาา

    พี่ roommate ของฉันเป็นพี่สองคน คนนึงชื่อพี่น้อยอายุประมาณ 40 อีกคนคือพี่โอ๋อายุประมาณ 20 ปลายๆ โอเคอายุต่างแล้วหนึ่ง

    สิ่งที่ประทับใจต่อมาคือเสียงของ TV ที่ดังกระหึ่มที่เปิดโดยพี่น้อย ฉันก็ช็อกสิครับบบ เสียงดังขนาดนี้ ฉันจะอ่านหนังสืออย่างไง แล้วพี่แกก็คือ enjoy watching รายการ TV มาก แบบดูไปตอบไป ฉันก็แบบเอาแหละ ภาพที่ฉันจะได้อ่านหนังสือระหว่างกักตัวอย่าง peachful ดูจะลอยไปแหละ

    แล้วที่พีคกว่าก็คือเตียงในห้องมี 2 เตียงเป็นเตียง size ใหญ่หนึ่ง กับเตียงเสริมหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเตียงเสริมนั้นถูกจองโดยพี่น้อยคนเดิมของเราไปแล้ว สรุปคือฉันต้องนอนเตียวเดียวกับพี่โอ๋ ใครก็ไม่รู้ที่พึ่งได้รู้จักวันนี้…

    ในหัวฉันตอนนี้คือ ชิบหายแหละ จะใช้ชีวิตอย่างไงต่อไปดีวะ แถมพี่โอ๋ยังดูอาการหนักด้วย (เอิ่มเอาจริงก็ไม่ได้ขนาดนั้นแต่ก็อาการหนักกว่าฉันแน่ๆ แบบพี่แกมีไอหนักด้วย) และที่น่ากลัวคือข้างๆ ฝั่งที่พี่แกนอนมันมีถัง oxygen สีเขียว ความสูงประมาณ 150 ชม วางอยู่ คือฉันแบบ อห surreal อีกแล้ว คือพี่โอ๋เขาอาการรุนแรงหรอวะ หรือพยาบาลเอามาตั้งไว้กันเหตุฉุกเฉินเฉยๆ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้คือฉันใจไม่ดีเลยค่ะพี่สาววว 


    เอาจริงๆ อยู่กับพี่น้อยกับพี่โอ๋ก็ไม่ได้แย่ อาจจะเป็นฉันเองที่เรื่องมากเกินไป

    หลังจากได้สงบสติอารมณ์และพูดคุยกับพี่ทั้งสองคนก็รู้สึกได้ว่าพี่ทั้งสองคนน่ารักมาก แถมเอาเข้าจริง ฉันก็สามารถอ่านหนังสือไปด้วยตอนที่พี่น้อยเปิด TV ไปด้วยได้ แถมจะแอบ focus เนื้อหาได้ยากก็ตาม แต่พอทำได้ครั้งหนึ่งแล้วครั้งต่อไปก็ได้ยาก ถ้า status ของฉันเป็นเหมือนตัวละครในเกม ตอนนี้ฉันก็คงได้รับสกิลสมาธิขั้นปานกลางแล้ว

    หลังจากเปิดใจกับพี่น้อยกับพี่โอ๋ฉันก็ได้รู้จักกับพี่ทั้งสองคนมากขึ้น ทั้งสองคนเข้ามาที่ hospitel นี่ก่อนฉันสองวัน ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน แล้วก็เบื่ออาหารที่ hospitel เหมือนกันทั้งคู่ พี่น้อยชอบบ่นว่าอาหารที่ hospitel มีแค่สองรถคือเค็มกับหวาน แต่ไม่มีรสชาติความนัวหรืออูมามิเอาซะเลย (พี่เขาบอกด้วยว่ารู้งี้น่าจะซื้อผงรสดีมาด้วยจะได้คลุกกับข้าวกิน) ส่วนพี่โอ๋ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบกินข้าว แต่ชอบกันพวกขนมอย่างอื่นมากกว่า ล่าสุดคนรู้จักของทั้งสองคนก็ซื้อพวกผลไม้และมาม่ามาให้ทั้งคู่เพียบเลย พอเห็นพี่น้อยก็บอกว่าแบบนี้ค่อยกินได้หน่อย 

    แต่สิ่งที่ฉันว่าน่าสนใจคือเหตุการณ์ตอนที่พี่น้อยเห็นจำนวนหนังสือที่ฉันแบกมาอ่านด้วย พี่น้อยบอกว่าฉันอ่านพวกนิยายการ์ตูนเหมือนลูกชายพี่น้อยเลย แล้วพี่น้อยก็เล่าให้ฟังว่าลูกชายพี่น้อยที่เรียนวิศวะคอมกำลังขึ้นปี 3 ชอบอ่านหนังสือมาก แบบเขามักจะเก็บเงินเพื่อไปซื้อหนังสือที่งานหนังสือเสมอ (ฟังมาถึงตอนนี้แล้วบอกตรงๆ ว่าเห็นภาพตัวเองซ้อนทับเลยครับแม่ ไม่ต่างกันกับใจฉันเลย เอาจริงถ้ามีโอกาสก็อยากคุยเรื่องหนังสือกับลูกชายพี่น้อยเหมือนกันนะเนี่ย น่าจะชอบอ่านหนังสือแนวเดียวกัน) 

    หลังจากเม้าท์มอยกันกรุ๊บๆ ฉันก็โดยเรียกตัวให้ไปกรอกประวัติและเจอคุณหมอ ตอนกรอกประวัติไม่ได้มีอะไรมาก แค่ถามว่ามีอาการตอนไหน เคยฉีดวัคซีนหรือยัง แล้วฉีดไปวันไหน มีประจำเดือนล่าสุดวันไหน อะไรแบบนี้ แต่ที่พีคคือตอนโดนเรียกให้ไปพบหมอ ซึ่งแบบว่าหัวร้อนกับ service ตรงนี้มาก หนึ่งคือตอนแรกพยาบาลบอกว่าหมอจะเรียกตรวจตอนหนึ่งทุ่ม ไอ้เราก็แบบโอเคค่ะ สรุป หนึ่งทุ่มครึ่งแล้วก็ไม่มีใครมาตาม เราก็แบบโอเค งั้นคงได้ตรวจพรุ่งนี้แหละ สรุปคือพยาบาลโทรมาตามตอนสองทุ่มครึ่งจ้า แถมตอนนั้นเป็นตอนที่เรากำลังคุยงานกับเพื่อนอยู่ด้วย คือแบบ อห รู้สึกผิดกับเพื่อนมากๆ แล้วก็โมโหว่าทำไมไม่ตรงต่อเวลา! โมโหสองคือพอลงไปไอฉันก็ งง สิคะ คือคนนั่งเยอะมาก แบบมีประมาณ 30 คน แล้วฉันก็ งง ว่าเมื่อไรฉันจะได้ตรวจ นั่งรอแล้วนั่งรออีก สรุปหมอมาถึงหลังจากที่ฉันนั่งรอไปมากกว่า 30 นาที แล้วสิ่งที่หมอทำก็คือแค่ใช้สเต็ทโตสโคปฟังเสียงแล้วก็จากไป ฉันก็แบบเอิ่ม ฉันมารอเพื่อมา check up ไม่ถึง 5 นาทีงั้นหรอ แล้วคือกว่านี้จะได้ตรวจก็คือสามทุ่มกว่าไปแล้ว ถถถ 

    แต่ที่พีคของวันนี้ขอยกให้เรื่อง ‘น้ำ’ เลยจ้าาา

    คือพยาบาลก็บอกทุกคนว่าเดี๋ยวจะมีน้ำให้คนละ 14 ขวดนะ (น้ำ 1.5 ลิตร) แล้วคราวนี้ก็มีคนถามว่าถ้าน้ำหมดขอเพิ่มได้ใช่ไหมคะ แต่พยาบาลบอกว่า ถ้าจะขอเพิ่มต้องจ่ายเงินนะคะ เพราะรัฐบาลให้ฟรีแค่คนละ 14 ขวดค่ะ 

    ฉันแบบ Gu Ask Real นะ 

    แบบนี้ก็ได้หรอรัดบานนนน

    อห ตั้งแต่ติดโควิดมามีเรื่องให้ด่ารัดบานนี้ทุกวันเลยวุ้ย 

    ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก ฉันก็ขึ้นห้องมา แล้วพบว่าพี่โอ๋ไข้ขึ้น ฉันก็เลยเสนอเขาไปว่าเอาแปะลดไข้ฉันไหม เพราะฉันเตรียมมา ตอนที่เขียนนี้ทั้งที่โอ๋แล้วก็พี่น้อยก็หลับไปแล้ว 

    ฉันว่าฉันก็ควรนอนเหมือนกัน ถึงความจริงจะยังไม่ง่วงก็เถอะ 

    เอาเป็นว่าวันนี้ทำได้ดีมากจ๊ะ วันพรุ่งนี้ก็สู้ๆ


    ปล. ด้วยความที่ฉันคิดว่าพี่โอ๋อาการค่อนข้างหนักแบบมีไอหลายรอบตอนอยู่ด้วยกัน บวกตอนนั้นฉันยังอยากย้ายห้องอยู่ก็เลยถามหมอไปว่าถ้าคนที่นอนเตียงเดียวกันมีอาการไอแบบนี้ฉันจะไอตามไหม สิ่งที่หมอตอบกลับมาคือไม่นะครับ แต่ถ้าให้ดีก็ใสแมสนอนเลยครับ ฉันก็แบบใส่แมสนอนหรอคะ โอเค งั้นฉันยอมไอตามพี่โอ๋ก็ได้ ถถถถ


    ปล 2. บันทึกวันแรกก็จะเขียนยาวแบบนี้แหละ คนต่อมาก็จะสั้นลงเรื่อยๆ แหละ เพราะฉันขี้เกียจ 5555



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in