เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2017DC K ToKa
April
  • เมษาหน้าร้อน และเป็นหน้าร้อนที่ร้อนสมชื่อจริงๆ แต่ในวันที่ร้อนสุดๆก็ยังมีสายลมอ่อนๆคอยพัดให้คลายร้อนไปได้บ้าง ก็โอเคนิดหน่อย 

    พูดถึงเมษา นอกจากหน้าร้อนแล้วก็มีสงกรานต์นี่แหละ
    ปีนี้ ผมไม่ได้เล่นน้ำเป็นปีที่สองแล้ว อันที่จริงผมเองก็เริ่มไม่ได้อยากจะเล่นน้ำแล้ว ไม่ใช่ว่าตัวเองเริ่มแก่หรืออะไรอย่างที่หลายคนว่าไว้นะ แต่ถ้าจะเล่นน้ำจริงๆก็ไม่รู้จะเล่นกับใคร ในช่วง 5-6 ปีหลังก่อนที่จะไม่ได้เล่นน้ำ ก็อาศัยติดกับเพื่อนไปเล่นด้วยตลอด ทั้งแบบเล่นที่บ้านรุ่นพี่ นั่งกระบะหลังเล่นรอบเมือง หรือเดินเล่นไปเรื่อยๆ 

    เมื่อปีที่แล้วเป็นปีแรกที่ไม่ได้เล่นน้ำเพราะไปเที่ยวกับครอบครัวที่ชะอำ-หัวหิน เวลาเล่นน้ำก็เล่นน้ำทะเลหรือสระว่ายน้ำ ไม่ได้เน้นสนุกแต่เน้นผ่อนคลายมากกว่า หลังจากครั้งนั้นความอยากเล่นน้ำในช่วงสงกรานต์ก็หดหายไป กลายเป็นว่าพอสงกรานต์ก็จะอยากไปเที่ยวมากกว่า

    ปีนี้ก็ไม่ต่างจากปีที่แล้วเลย ไปเที่ยวชะอำ-หัวหินเหมือนเดิม ได้ที่พักก็พักที่เดิม ห้องก็ห้องเดิมอีก! เออ ดีแฮะ! แต่ที่ต่างก็คืออาจไปเที่ยวไม่ได้เยอะเท่าปีที่แล้วและเน้นไปตากแอร์ตามห้างมากขึ้น เพราะอากาศมันร้อนระอุสุดๆ ขนาดไปเดินที่มฤคทายวันตอนเที่ยง เหงื่อนี่ไหลเป็นสายน้ำเลย ถึงแม้ว่าจะมีต้นไม้ที่ช่วยบรรเทาความร้อนได้บ้าง แต่โดยรวมมันก็ยังร้อนอยู่ดี

    พอเที่ยวเสร็จกลับมาพักกรุงเทพหนึ่งคืนเพื่อไปไหว้พระบรมศพ ซึ่งเช้าวันนั้นตื่นตี 4 ซึ่งเป็นเวลาที่โดยปกติกำลังหลับสบายได้ที่เลย แต่นั่นแหละถ้าไม่ออกเช้ามีหวังได้รอคิวนานแน่ๆ ไปถึงที่ท้องสนามหลวงประมาณเกือบ 6 โมงเช้า และไม่ได้รอคิวนานมากนัก เพราะทันทีที่ต่อคิวเจ้าหน้าที่ก็จัดการเคลื่อนแถวทันที เรียกได้ว่าทันแบบฉิวเฉียด ก็เดินตามแถวไปเรื่อยๆขึ้นไปไหว้พระบรมศพเสร็จสรรพเรียบร้อยก็ประมาณ 7 โมงกว่าๆ ก็ถือว่าไม่นานมากกำลังดี 

    หลังจากไปไหว้เสร็จ ก็แวะกินข้าวเที่ยงที่จตุจักรก่อนที่จะขึ้นเครื่องกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ 
  • หลังจากที่เที่ยวกันสนุกสนาน ผ่อนคลายกันไปแล้ว ก็กลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง

    ช่วงก่อนสงกรานต์มีประกาศรับสมัครทุนเรียนดีของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมเองก็แอบเงียบๆกับเรื่องนี้ แบบประมาณว่าค่อยว่ากันอีกทีเพราะกว่าจะหมดเขตสมัครก็เดือนหน้า ยังมีเวลาให้คิดอีกเยอะ และพอเปิดเรียนหลังสงกรานต์ ก็มีอาจารย์หลายคนเข้ามาแนะนำทุนนี้ให้ผม ผมเลยไม่มีทางเลือก ก็เลยลองดูซักตั้งแล้วกัน 

    ประเด็นคือก่อนสมัคร ผมมีความกังวลกับทุนนี้อยู่พอสมควร ความกังวลแรกคือเขาต้องการคะแนน TOEFL 500 คะแนนขึ้นไป ซึ่งผมมีสกิลภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยโอเค มันจะรอดไหมเนี่ย ความกังวลที่สองคือถ้าได้ทุนจริงๆก็ต้องเรียนไม่ให้เกรดต่ำกว่า 3.25 ก็เลยกังวลว่าจะประคองไปถึงฝั่งฝันไหม แล้วทุนนี้มันควบถึงปริญญาเอกด้วย แล้วถ้าจบปริญญาเอกจริงๆจะไปทำงานที่ไหน แถมถ้าได้ทุนจริงๆก็ต้องให้พ่อแม่มาเซ็นสัญญาที่มหาลัยอีก ลำบากอีก บลาๆ...

    พอความกังวลแรกหลุดเข้ามาในหัว มันเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ คือมันก็จะคิดจะกังวลเรื่องนั้นเรื่องโน้นไปเรื่อย ทั้งๆที่มันคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ก็เลยเตลิดเปิดเปิงไปหมด ทุกวันนี้ก็เลยพยายามไม่คิดกังวลไปมากกว่านี้ เอาทีละขั้นตอน และถ้าบทจะได้จริงๆมันก็ต้องได้สิ 

    ตอนนี้ อยู่ในช่วงเตรียมเอกสารการสมัคร และเตรียมสอบ TOEFL ในเดือนหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ตามที่เขาขอไว้ไหม แต่ที่แน่ๆขอสู้ให้เต็มที่ก่อนแล้วกันนะ 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in