เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2017DC K ToKa
October
  • ปกติในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก็จะมีรายการให้ดูอยู่ตลอดในช่วงเวลา 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืน อย่างของผมวันจันทร์ก็จะเป็นจันทร์shockโลก วันอังคารมี live ทั่วไทยใครก็ได้และมี live ยูธูปให้ฟัง วันพุธก็จะมี I Can See Your Voice TH วันพฤหัสก็จะมี The Mask Singer วันศุกร์มี live Black Friday ส่วนเสาร์และอาทิตย์ก็จะเว้นว่างซะเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอะไรดู ก็จะดูคลิปใน Youtube Twitch 

    พอเข้าสู่เดือนตุลาคม ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เพราะรายการและ live ที่ดูๆอยู่งดออกอากาศเนื่องด้วยเป็นช่วงของการไว้อาลัย ถึงแม้จะดูหงอยๆเพราะไม่มีอะไรดูแต่ก็ได้เรื่องการเคลียร์หนังสือในสต๊อก 

    ในช่วงงานสัปดาห์หนังสือ ผมได้ไปพร้อมกับรุ่นพี่อีกสองคน นอกจากจะได้ไปซื้อหนังสือแล้ว ในช่วงนั้นเป็นเทศกาลกินเจพอดีและได้ไปโดนก๋วยเตี๊ยวหลอดเรียกได้ว่าอร่อยเอาเรื่องกันเลยทีเดียว ในครั้งนี้ได้หนังสือไปทั้งหมด 6 เล่ม

    Quarter-Life Crisis / TUNA DUNN
    เราไม่ได้อยู่คนเดียว - อยู่คนเดียว / Jirabell
    การมอดไหม้ที่พ้นผ่านไปนานแล้ว / ทานเกวียน ชูสง่า
    วิชาตัวเรา / องอาจ ชัยชาญชีพ
    ยอดมนุษย์ดาวเศร้า / องอาจ ชัยชาญชีพ
    17 สมการเปลี่ยนโลก / Ian Stewart

    และในช่วงที่ไม่มีอะไรดูก็ได้อ่านหนังสือที่ซื้อมานั่นแหละ และเคลียร์ได้ไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเลยทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วมักจะซื้อและดองยาวไว้ 2 เดือน 3 เดือนก็ว่าไป
  • ทีนี้ กลับมาที่ชีวิตในตอนนี้มีความคืบหน้าตรงที่ได้เอางาน paper ที่มันยังไม่เสร็จนี่แหละ! (แต่มีผลมีกราฟแล้วนะ) ไปให้อาจารย์ดูที่ มจธ.ราชบุรี ซึ่งการเดินทางจากทุ่งครุซิตี้มาที่ราชบุรีใช้เวลา 2 ชั่วโมง และต้องอึ้งกับสภาพแวดล้อมที่นั้น มันเต็มไปด้วยต้นไม้และข้างหลังเป็นเขา คือธรรมชาติเหี้ยๆและเงียบสงบเหี้ยๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อนไม่เหมาะแก่การเรียนหนังสือ ซึ่งพอเอางานให้อาจารย์ดูก็ตามคาดให้กลับไปแก้และเพิ่มเติมรายละเอียด และเดือนหน้าคงจะเริ่มทำ Powerpoint สัมมนาไปให้อาจารย์ดูอีก

    ย้อนกลับไป ผมเคยเขียนบันทึกเกี่ยวกับตัวผมเองที่ตัดสินใจมาเรียนป.โทว่า ถ้าผมไม่เรียนต่อและไปทำงานเป็นนักพากย์แข่งเกมมันจะเป็นยังไง 

    มีนักพากย์คนหนึ่งที่ลาออกจากบริษัทเกมที่เขาพากย์แข่ง ออกมา live อธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงลาออก คือตัวเขานอกจากจะทำหน้าที่พากย์แล้วเขายังทำหน้าที่เบื้องหลังจัดงานแข่งอีกด้วย ซึ่งเขาก็สาธยายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นที่เขาประสพพบเจอ สรุปง่ายๆคือทัศนะคติระหว่างเขากับผู้บริหารนั้นไม่ตรงกัน จึงตัดสินใจลาออก

    ทำให้ผมนึกถึงหนังสือของพี่วิชัยที่พูดถึงเบื้องหลังของแต่ละอาชีพที่คนภายนอกมักมองว่าสวยหรู แต่จริงๆแล้วมันไม่ง่ายและลำบาก ปวดหัว สารพัดสารเพ ซึ่งทำให้ผมกลับมาคิดอีกรอบหนึ่งว่าถ้าผมไปเป็นนักพากย์แข่งจริงๆ ชีวิตมันจะแย่กว่าตอนนี้หรือเปล่า ถึงแม้ว่าผมจะชอบเล่นเกมก็ตาม แต่การเล่นเกมกับการพากย์แข่งมันคือคนละเรื่องเลย และผมกลัวว่าถ้าเอางานอดิเรกไปทำเป็นอาชีพจริงๆมันจะไม่รู้สึกสนุกและอยากทำอีกต่อไป เหมือนที่ผมเคยเล่าตอนที่ผมไปถ่ายรูปให้รุ่นน้อง ไปถ่ายงานกิจกรรมแบบติดต่อกันจนไม่อยากจะถ่ายรูปอีก ทั้งๆที่การถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกที่ผมชอบก็ตาม

    ก็นั่นแหละ เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นมันจะทำให้เรา enjoy กับชีวิตหรือเปล่า จนกระทั่งได้ทำมันจริงๆ และคิดว่าคงไม่มีอาชีพไหนหรืองานไหนที่ทำแล้วมีความสุขไปตลอดหรอก มันไม่ absolutely ขนาดนั้น ที่สุดแล้วก็อาจจะต้องหางานอดิเรกอื่นๆทำในช่วงเวลาว่างๆ เพื่อจะได้เยียวยาจิตใจไม่ให้ห่อเหี่ยวไปมากกว่านี้
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in