เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Novelber 2017sleepy cat
Novelber วันที่สิบสอง: พายุ
  • ฝนหลงฤดูโปรยปรายลงมาตั้งแต่ช่วงบ่าย แม้ไม่ถึงกับเป็นพายุเหมือนในช่วงเดือนที่ผ่านมาแต่ก็ทำให้บรรยากาศมืดสลัวซึมเซาไปพอตัว

    สองคนและหนึ่งผีในร้านนั่งเหม่อลอย ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลยในบ่ายวันนี้ ส่วนอีกหนึ่งผีนอนกลิ้งไปมา กอดฟัดอดีตตุ๊กตาปลาทูของเธอ ที่ถูกยึดไปเป็นของเล่นโปรดของนางแมวไปเรียบร้อย เธอนั่งหาว นัทนั่งเปิดหาเพลงฟัง ซึ่งดูจะไม่ถูกใจเสียที ส่วนเขาถือหนังสืออยู่ในมือ เปิดค้างอยู่หน้าเดิมมาพักใหญ่แล้ว

    สำหรับเขา สายฝนทำให้เขาคิดถึงบ้าน

    ที่ๆ เขาจากมา สายฝนโปรยปรายถือเป็นเรื่องปกติ บรรยากาศอึมครึมมัวซัวอยู่ตลอดเวลา สมัยที่เขาอยู่ที่โน่น ฝนเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน ฝนปรอยๆไม่ทำให้เขาเอาร่มขึ้นมากางด้วยซ้ำ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติเหมือนไม่มีเม็ดฝนเปาะแปะเปียกกาย หากแต่ฝนที่นี่ต่างกันออกไป อากาศร้อนอบอ้าวเป็นสัญญาณเตือน ก่อนที่ฝนจะตกลงมาโครมใหญ่แบบที่เขาเรียกว่าraining cats and dogs และทุกอย่างก็ดูจะหยุดชะงักงันไปด้วยฝน การจราจรที่ติดขัดบรรยากาศในการทำงานที่ชวนให้ง่วงเหงาโดยฉับพลัน น้ำที่ท่วมขังพื้นถนน และบางครั้งก็ไฟดับ

    เขามองหนังสือในมือเป็นรอบที่สิบ ที่จริงแล้วบรรยากาศของฝนข้างนอกในวันนี้ช่างคล้ายคลึงกับที่โน่นเหลือเกิน ในตอนนั้นเขาเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดาและติดจะรำคาญ แต่ในตอนนี้เขากลับคิดถึงละอองชื้นๆ เหล่านั้นเหลือเกิน

    ...

    สำหรับนัท สายฝนทำให้เธอคิดถึงบ้าน

    บ้านเกิดของเธอ แม้จะไม่ถึงกับ “ฝนแปดแดดสี่”แต่ก็ถือว่ามีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี บางปีก็เกิดน้ำท่วมใหญ่วุ่นวาย มีการเฝ้าระวังกันเป็นเรื่องธรรมดา แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่บรรยากาศในเมืองก็คึกคัก อำเภอที่เธออยู่เป็นแหล่งเศรษฐกิจของภาค ลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวขาจรและขาประจำที่ซื้อส่งแวะเวียนกันมาที่ตลาดประจำอำเภอไม่ขาดสาย บ้านของเธอก็เป็นหนึ่งในเจ้าของธุรกิจสินค้าขายส่ง เธอวิ่งเล่นในร้านมาตั้งแต่จำความได้ ต่อมาก็ช่วยขายของเช่นเดียวกับพวกพี่ๆ ช่วงฝนตกเคยเป็นช่วงที่เธอชอบมากที่สุด ลูกค้าไม่มากนัก  พี่ๆ ดูร้านก็พอแล้ว เธอมักได้รับอภิสิทธิ์ให้เป็นอิสระยามฝนตก สมัยเด็ก เธอมักออกไปวิ่งเล่นฝน ยายที่สมัยนั้นยังแข็งแรงอยู่ต้องออกมาไล่จับเธอเข้าบ้าน เมื่อโตขึ้นความรับผิดชอบในการเรียนเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เธอเรียนดี ที่บ้านก็สนับสนุนส่งเรียนเต็มที่ ตั้งแต่โรงเรียนประจำจังหวัดขยับขึ้นไปจนกระทั่งเข้ามาเล่าเรียนในกรุงเทพฯ เธอค่อยๆ ห่างเหินกับสายฝนที่คุ้นเคย

    เธอเลือกทำงานที่กรุงเทพฯ ดูก่อน บอกทางบ้านว่าเพื่อหาประสบการณ์เมื่อเริ่มทำงาน สายฝนที่เธอเคยชอบกลายเป็นอุปสรรคสำหรับเธอ การจราจรที่ชะงักงันน้ำท่วมขัง คนที่เบียดเสียดแออัด ไอความร้อนและกลิ่นตัวที่ผสมปนเปกันชวนคลื่นเหียนและเป็นตอนนั้นเองที่เธอถูกฉวยโอกาส เธอแต่งกายไปทำงานตามปกติธรรมดา ไม่ใช่ชุดล่อแหลมอะไรเลย หากแต่เธอจะทำอย่างไรกับรูปร่างของเธอที่ได้รับมาเป็นกรรมพันธุ์ได้เล่า เธอพยายามจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทันการ ผู้กระทำหลบหนีไปได้ กระโปรงเปียกเปื้อนคราบเมือก ผู้คนรอบกายต่างตั้งคำถาม แม้แต่ที่บ้าน แต่งกายอย่างไร รัดกุมหรือเปล่า จบท้ายด้วยว่าให้ระวังตัวเอง พร้อมสายตาที่มองประเมินรูปร่างของเธอ ร้ายที่สุดคือที่ทำงาน หลังข่าวแพร่สะพัดออกไปกลายเป็นว่ามีสายตาที่จับจ้องเธอมากขึ้นไปอีก เธอเปลี่ยนขนาดเสื้อผ้าใหญ่ขึ้นจากไซส์ปกติของเธออีกเบอร์รู้สึกอึดอัด แม้เสื้อหลวมโพรกโชคดีที่สุดท้ายเพื่อนของเธอตัดสินใจออกจากงานมาเปิดร้านนี้เธอกระโดดเข้าร่วมด้วยโดยไม่ลังเล

    ช่วงแรก เธอหวาดแขยงผู้คน ไม่รับสัมผัสจากใคร เพื่อนสนิทของเธอพยายามจะช่วยเหลือ แนะนำให้รู้จักกับอุปกรณ์ป้องกันตัว เธอพกพาสเปรย์พริกไทยติดตัวตลอดเวลาแม้จะถูกประกาศให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายในเวลาต่อมาก็ตาม แต่อาวุธดังกล่าวกลายเป็นเหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับเธอไปแล้ว

    ในตอนนี้ นอกจากสเปรย์พริกไทยที่พกติดตัวประจำ เรื่องราวดังกล่าวก็เหมือนน้ำท่วมที่เหือดแห้งไปแล้ว แม้จะทิ้งคราบน้ำไว้บ้างก็ตาม

    เธอคิดถึงฝนสมัยเด็กของเธอจับใจ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in