เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storypymwang
หวนคืนการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่เคล้าเสียงดนตรี The Legend of Zelda Concert 2018

  • note: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา Music Appreciation 2737110


    ゼルダの伝説 コンサート2018
         ในช่วงวัยเด็กของใครหลายๆคน เราก็คงจะเคยเห็นหรือเล่นเกมแบบผ่านหูผ่านตามาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการจับโปเกม่อนท้าลีคสุดคูล หรือแม้แต่การปลูกผักslow life สไตล์ฮาร์เวสต์มูนก็ตาม เพียงแต่ในวันนี้ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับเกมในตำนานชื่อดังอย่าง "The Legend of Zelda" เกมโปรดตลอดกาลในดวงใจของผู้เขียนและคนทั่วโลก

         โดยตัวเกม The Legend of Zeldaนั้นได้ถูกพัฒนาและเปลี่ยนผ่านเครื่องเล่นมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 - 2017 นับได้ว่าเป็นเกมเรือธงของ Nintendo ที่เดินทางยาวนานนับทศวรรษเลยทีเดียว โดยเวอร์ชันล่าสุดของตัวเกมได้ออกมาในเครื่องเล่นของ Nintendo Switch โดยมีชื่อว่าThe Legend of Zelda ภาค Breath of the Wild ตัวเกมได้ถูกปล่อยออกมาให้แฟนๆได้เล่นในปี 2017 ทำการกวาดรางวัลและถูกเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาเกมนับไม่ถ้วน โดยมีสิ่งสุดแสนวิเศษสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นสามารถรู้สึกได้ภายในเกม ไม่ใช่เพียงงานภาพที่โดดเด่น ระบบการเล่นที่เฉียบคมเท่านั้น แต่มันคือ Soundtrack ภายในเกมนั่นเองที่เป็นตัวหลอมรวมทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ทำให้เกมมีบรรยากาศของเมืองและสถานที่ต่างๆ และคอยสร้างความวิเศษอัศจรรย์ตลอดการผจญภัยในโลกของ The Legend of Zeldaได้อย่างเพอร์เฟกต์ ไร้ที่ติ

         หลังจากทำการปล่อยเกม The Legend of Zelda ภาค Breath of the Wild มาได้ครบ 1 ปี ทางบริษัท Nintendo ก็ตัดสินใจประกาศจัด Orchestral Concert โดยได้นำเพลง Soundtrack ที่ประกอบในเกม The Legend of Zelda ภาคต่างๆมาบรรเลงให้แฟนๆได้ฟัง โดยการแสดงคอนเสิร์ตนั้นถูกจัดขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคม 2018 ณ Tokyo Bunkamura Orchard Hall 

         ตัวคอนเสิร์ตเองในครั้งนี้จะให้ Spotlightและความโดดเด่นไปกับเครื่องดนตรีอย่าง ocarina, harp และ accordion เพราะถือว่าเป็นเครื่องดนตรีที่เป็นตัวสร้างเอกลักษณ์ให้กับเกมเลยทีเดียว โดยมันสามารถสร้างบรรยายกาศ ความพิเศษเกินจินตนาการขึ้นในโลกThe Legend of Zeldaราวกับต้องมนต์ และในการจัดการแสดงครั้งนี้ยังถูกบรรเลงและขับร้องด้วย
    Conductor: Taizo Takemoto 
    Orchestra: Tokyo Philharmonic Orchestra
    Chorus: Voces Tokyo
    Ocarina: Micaco Honya
    Harp: Ruriko Yamamiya
    Accordion: Koji Tsubana
    Piano: CHIAKi


         การแสดงในครั้งนี้ถูกคัดเลือกมาถึง 14 บทเพลงด้วยกัน โดยในแต่ละตัวบทเพลงนั้นต่างมีเรื่องเล่าและความพิเศษภายในตัวมันเอง โดยตัวผู้ประพันธ์นั้นได้ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาอย่างปราณีต ราวจะต้องการร่ายมนต์สะกดให้เสียงเหล่านั้นเข้าไปสู่หัวใจผู้เล่นตั้งแต่เริ่มแรกยันสิ้นสุด

         ตัวผู้เขียนนั้นหากเป็นไปได้ก็อยากที่จะอธิบายถึงความพิเศษให้ครบทั้ง 14 บทเพลงแต่เกรงว่าบทความในครั้งนี้จะยาวเกินไปจึงได้คัดเลือก 2 บทเพลงที่ตั้งแต่ผู้เขียนได้ฟังก็เหมือนทำนองเพลงได้เข้าไปสถิตอยู่ในใจ ไม่ว่าจะได้ยินกี่ครั้งมันก็สามารถลากเรากลับไปยังโลกแห่งThe Legend of Zelda พัดพากลิ่นอายบรรยากาศภายในเกมกลับมาได้ในทุกครั้งไป

    โดยบทเพลงแรกที่เลือกมานั่นคือ

    Mipha's Theme

    ( ในช่วงเวลา 42:41 - 45:05  )

         ต้องเกริ่นก่อนว่าเพลง Mipha's Theme นั้น ถูกประพันธ์ขึ้นโดยคุณ Manaka Kataoka และ คุณ Yasuaki Iwata ชาวญี่ปุ่น โดยเพลงที่ถูกบรรเลงในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะให้ความรู้สึกเศร้าโศก คล้ายกำลังร้องไห้ในช่วงเริ่มแรกของบทเพลงแต่หลังจากนั้นก็แทรกไปด้วยความสดใสคล้ายการมีหวัง ช่างให้ความรู้สึกที่เหมาะกับพื้นหลังชีวิตของตัวละคร " Mipha - มิฟา " ที่เป็นธีมหลักของเพลงนี้อย่างยิ่ง 

       ภายในคอนเสิร์ตนั้น Mipha's Theme ในช่วงเริ่มต้นจะถูกบรรเลงด้วยเปียโนเป็นอันดับแรกและคงอยู่คลอไปถึงจนจบบทเพลง เพื่อสร้างบรรยากาศความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ความเศร้าเสียใจสุดสะท้านให้เหมาะกับคำเรียกของเปียโนที่เขาว่ากันว่า เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่ให้เสียงที่เศร้าโศกที่สุด ช่วงต่อมาของบทเพลงจะตามมาด้วยเครื่องสายและเครื่องเป่า ไม่ว่าจะเป็น ไวโอลิน , เชลโล ที่ยิ่งเป็นตัวทำให้บทเพลงมีความเศร้าสร้อยมากขึ้นไปอีก หลังจากนั้นเครื่องดนตรีอย่าง French Horn , Trombone ก็จะเข้ามาแทรกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของเพลงให้ไลท์มากขึ้น เมื่อสิ่งเหล่านี้หลอมรวมกันจึงเกิดเป็นบทเพลงที่ขึ้นชื่อว่า ได้รับการจดจำและผู้คนต่างตกหลุมรักในเสียงของมันมากที่สุดในเกม The Legend of Zelda ภาค Breath of the Wild กันเลยมีเดียว

        ทุกคนคงสงสัยว่าเท่านี้นับว่าพิเศษแล้วหรือ? เปล่าเลยที่จริงแล้วตัวผู้ประพันธ์เองได้ซ่อน easter egg ไว้ในบทเพลงรอให้แฟนๆได้มาค้นพบความวิเศษของมัน หากใครที่เป็นผู้เล่นดนตรีอยู่แล้วก็คงจะรู้ได้ในทันทีแต่สำหรับตัวผู้เขียนเองที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้เมื่อมารู้เข้าก็ถือว่าเซอร์ไพรส์มากเลยทีเดียว

       Easter egg ที่ว่านั่นคือตัวโน้ตในบทเพลง Mipha's Theme ชื่อของธีมนั้นก็มาจากชื่อตัวละครในเกมที่ชื่อ Mipha หากแต่ในภาษาญี่ปุ่นจะเขียนได้ว่า ミファ (Mifa) แล้วมันเกี่ยวกับeaster egga อย่างไร? ตัวโน้ตสากลที่ทุกคนอาจจะเคยจำมาบ้างตั้งแต่เด็กเช่น โด เร มี ฟา ซอล ลา ที หรือก็คือ C D E F G A B C ใช่หรือไม่ แต่ทุกคนรู้ไหมว่า หากเป็นที่ญี่ปุ่นจะมีการเรียกตัวโน้ตที่ไม่เหมือนกับที่เราเรียนมา โดยปกติที่ตัวE จะแทนด้วยเสียง มี แต่ในญี่ปุ่นจะใช้ตัวミ(mi) แทนตัวE และใช้ファ(fa) แทนตัว F โดยหากเราไปไล่ดูใน Sheetnote ของบทเพลงนี้ เราจะเห็นว่ามีการใช้โน้ตตัว E และF หรือ ミファ บ่อยๆตลอดบทเพลง เพื่อเป็นตัวแทนของMifa หรือ Mipha นั่นเอง


    ต่อมาก็เข้าสู่บทเพลงที่ 2 ที่ผู้เขียนได้เลือกมานั่นคือ

     Kass' Theme

    ( ในช่วงเวลา 1:11:28  )  
         Kass' Theme นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่บทเพลงที่เป็นบทเพลงโซโลใน Soundtrack และได้ถูกเลือกมาจัดแสดง โดย Kass' Theme ถูกบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีที่สุดวิเศษและน่าหลงไหลอย่าง accordion หรือ หีบเพลง เรียกได้ว่าบทเพลงชิ้นนี้เป็นผลงานที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมากเพราะสิ่งที่ทำให้มันต่างจากบทเพลงอื่นๆนั่นก็คือเครื่องดนตรีที่นำมารังสรรค์ให้เกิดเป็นบทเพลงและท่วงทำนองที่คล้ายจะพาเราหลุดเข้าไปยังโลกแห่ง Zelda อย่างหีบเพลงสุดคลาสสิคนั่นเอง

        หีบเพลงนั้นถือได้ว่าเป็นเครื่องดนตรีที่น่าสนใจอย่างมาก โดยกลไกลหลักในการทำงานของมันคือการใช้ลมคล้ายกับการที่เราใช้เครื่องเป่าไฟอย่าง Bellows ให้ไฟมันแรงขึ้น เมื่อกดกลไกลของหีบเพลงเข้าด้วยกัน มันจะส่งกระแสลมผ่าน reeds ในหีบเพลงและเปล่งเสียงออกมาให้เราได้ยิน โดยหีบเพลงนั้นจะมี2ด้าน ด้านหนึ่งจะมีลักษณะเป็นคีย์บอร์ดเพื่อบรรเลงเมโลดี้ ส่วนอีกข้างจะเป็นปุ่มต่างๆมากมาย ปุ่มเหล่านั้นมักมีการตั้งคอร์ดไว้ก่อนแล้วล่วงหน้าซึ่งสามารถบรรเลงเพลงได้ในทุกรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ หีบเพลงจึงเปรีบเสมือนเครื่องดนตรีที่สร้างมาวัดความสามารถในการcoordination เลยทีเดียว

         ในการแสดงเพลงนี้นั้น ตัวบทเพลงจะเปิดมาด้วยเสียงของ accordion ก่อนเลยเป็นอันดับแรก เรียกได้ว่าเป็นตัวเรียกความสนใจจากผู้ชมเลยทีเดียว เพราะเสียงของมันสามารถทำให้เรานึกถึงการผจญภัย ความท้าทาย พาเราไปยังดินแดนอีกแห่งเหมือนในโลกของนิทาน  เสียงหีบเพลงที่บรรเลงในช่วงแรกนั้นจะมีเสียงที่สูงอย่างเป็นเอกลักษณ์ มีความกระจ่างใสของเสียงเหมือนเป็นการพร้อมเดินทางในแดนกว้างใหญ่นี้อย่างมีความหวัง ในเวลาต่อมาเสียงไวโอลินและเชลโลก็เข้ามาผสมผสานอย่างลงตัว ทำให้เกิดมิติของเสียงดนตรีที่มากขึ้น และภายในวินาทีต่อมาที่ Trumpet ได้ขึ้นมามีบทบาทในเพลงก็ต้องพูดเลยว่าเหมือนเป็นการ Grand openingอย่างสมบูรณ์แบบ เราจะสามารถรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ การผจญภัยที่รอเราอยู่ในโลกของThe Legend of Zelda

         หากพูดรวมๆแล้ว Kass' Theme ในถูกประพันธ์ขึ้นโดยคุณ Yasuaki Iwata  โดยสร้างท่วงทำนองของบทเพลงที่เรียบง่ายมาก โดยครอบคลุมไปทั้งหมดเพียง 8 measures on loop เท่านั้น แต่การเล่นเพียง 8 measures นี้ก็บอกอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับตัวละครของ Kass หรือก็คือตัวละครหลักของบทเพลงนี้เป็นอย่างมาก 

         แนวดนตรีแบบนี้จะเรียกว่า ไลท์โมทีฟ (Leitmotif) ใช้เพื่ออุปรากรบางเรื่อง ผู้ประพันธ์จะมีแนวทำนองต่าง ๆ แทนตัวละครแต่ละตัว หรือแทนเหตุการณ์ สภาพการณ์ แนวทำนองเหล่านี้จะปรากฏอยู่ตลอดเวลาเพื่อแทนตัวละครหรือเหตุการณ์นั้น ๆ เช่นเดียวกับในเกมท่ี่ Kass จะพกหีบเพลงอยู่เสมอและยืนอยู่ในแต่ละแห่งของเกมให้เราไปค้นพบพร้อมบอกปริศนาหรือภารกิจให้เราทำ โดยการเล่าถึงภารกิจ Kass จะใช้หีบเพลงบรรเลงพร้อมเล่าเรื่องไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นเสียงดนตรีที่เป็นตัวแทนของKass และการผจญภัยน่าตื่นเต้นอันไม่รู้จบในเกมเลยทีเดียว


    บทสรุป 
         The Legend of Zelda Concert 2018 นั้นเรียกได้ว่าจัดขึ้นมาเอาใจแฟนๆเกมThe Legend of Zeldaอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะทำการเลือกเพลงต่างๆที่อยู่ในทุกภาคตั้งแต่มีเกมมา ตลอดการแสดงคอนเสิร์ตนั้นยังมีการเปิดวิดีโอภายในเกมไปด้วย เป็นเหมือนของขวัญให้ die-heart fan ที่มีความรักให้กับเกมและเสียงดนตรีอย่างผู้เขียนโดยไม่ต้องสงสัย แต่หากใครไม่ใช่แฟนตัวยงของThe Legend of Zeldaก็ไม่ต้องเสียใจไป บทเพลงนั้นเป็นเหมือนศิลปะ เราทุกคนสามารถเข้าถึงและชื่นชมมันในแบบของเราได้อย่างแน่นอน ผู้เขียนเชื่อว่าหากไม่ใช่ผู้ที่เล่นเกมแต่หากได้ฟังบทเพลงในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ก็ต้องมีความรู้สึกบางอย่างก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจอย่างแน่นอน ผู้เขียนหวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบ ทุกคนจะเข้าใจโลกของ The Legend of Zeldaมากขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทเพลงเหล่านี้จะช่วยปลอมประโลมหรือเป็นตัวจุดไฟนักผจญภัยในตัวท่านขึ้นมาไม่มากก็น้อย :)


        สำหรับท่านใดชื่นชมผลงานในครั้งนี้ และอยากมีแผ่นเสียงไว้ครอบครอง โชคดีที่ทาง Nintendo ได้ทำการอัดวิดีโอการแสดงคอนเสิร์ตไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ และทำการวางขายแผ่นการแสดงคอนเสิร์ตผ่านช่องทางต่างๆ โดยภายในอัลบั้มนั้นจะประกอบไปด้วย แผ่นซีดี 2 แผน แผ่นแบบ Blu-Ray 1 แผ่น และของแถมเป็นที่ระลึกในราคา ~ 4,870 เยน


    หากทุกท่านสนใจสามารถสั่งซื่อได้ที่ลิ้งค์ https://www.amazon.co.jp/dp/B07L45D4S5/

    พิมพ์ชนก สว่างอรุณพร 

    note: หากมีความผิดพลาดในข้อมูลประการใดขออภัยในความผิดพลาดมา ณ ที่นี้
    ขอบคุณข้อมูลจาก
    https://aminoapps.com/c/zelda/page/item/miphas-theme/42WF_vIoj6M3zQLP4b68vLR4PlJp2X1
    https://www.zeldadungeon.net/musical-musings-explore-the-simple-joy-of-kass-mysterious-theme/




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in