เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
StoryReview by StoryAddictedStoryAddicted
สาว(เหลือ)น้อยรีวิวเกม: รีวิวแรก "The Evil Within" เกมโหด เนื้อเรื่องชวนติดตาม
  • StoryReview by เจ๊แมว (ทำไมผู้หญิงจะเป็นฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ไม่ได้)
    ปล.เจ๊มือใหม่หัดรีวิว ถ้าติดขัด มึนงง วกวน ประการใดก็ขออภัยมาล่วงหน้านะจ๊ะ 
    ปล.2 การรีวิวนี้ไม่เกี่ยวกับการแสวงหากำไรและผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นการรีวิวที่เกิดจากความอินหนักมากล้วน ๆ 

    สวัสดีจ้ะ เจ๊แมวจากเพจ StoryAddicted จ้า ก่อนจะเข้าเรื่องหลัก เจ๊ขอบรรยายสั้น ๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่รีวิวเกมเป็นรีวิวแรกในชีวิตของเจ๊ 
    สาเหตุที่เรียกตัวเองว่าเจ๊ ก็เพราะคนเขียนก็เจ๊สมชื่ออะจ้ะ เจ๊เป็นมนุษย์เพศหญิงที่เล่นเกมมาตั้งแต่เครื่อง Famicom (วร๊ายยยยบ่งบอกอายุ) เรียกได้ว่าเติบโตมาโดยมีเกมเป็นส่วนหนึ่งของเมมโมรี่ในชีวิต 

    สาเหตุที่เจ๊คันมืออยากรีวิวเกม ส่วนหนึ่งเกิดจากคำถามที่โดนมาตั้งแต่เด็กคือ
    "เป็นผู้หญิงเล่นเกมด้วยเหรอ?" 
    "เป็นผู้หญิงทำไมเล่นเกมโหด?" 
    "เป็นผู้หญิงทำไมชอบเล่นเกมเหมือนผู้ชาย?" (เอ๊า!) 

    "เป็นผู้หญิง....."
    "เป็นผู้หญิง....."
    "เป็นผู้หญิง....."

    โอ๊ยยยยยยย เจ๊ขอถามว่ามันมีบัญญัติในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานเหรอว่า "เป็นมนุษย์เพศหญิงแล้วห้ามเล่นเกม" เจ๊จะเล่นเกมแนวไหน จะโหด จะมุมิอย่างไง ก็เรื่องของเจ๊ค่ะ เคมะ!

    เพราะฉะนั้นรีวิวแรกของเจ๊ เลยจะแสดงความฮาร์ดคอร์โดยการรีวิวเกมที่เจ๊ชอบเป็นอันดับต้น ๆ ใน
    ลิสต์ เกมนี้เลยค่ะ
    ถ้าถามว่าทำไมถึงขุดกรุเกมค่อนข้างเก่าขึ้นมารีวิว (ตั้งแต่ 2014 ละ) ก็เพราะเดือนตุลานี้ภาคสองกำลังจะมาละคร่าาาาาาาา เจ๊ตื่นเต้นมากกับข่าวนี้ > <
    ด้วยเหตุนี้แหละค่ะ เจ๊เลยขอขุดกรุความทรงจำของตัวเองมารีวิวภาคหนึ่งไว้ ณ ที่นี้
    รีวิวต่อไปนี้มีสปอยนิดๆ ด้วยนะจ๊ะ ถ้าหากใครยังไม่ได้เล่น (ไม่มีละมั้ง = =") ก็อย่าอ่านนะเดี๋ยวหมดสนุกกันพอดี

               ตอนเห็น trailer เกมนี้ครั้งแรก บอกได้เลยว่าชวนติดตาม น่าสอยมาเล่นเป็นยิ่งนัก เพราะเจ๊ชอบเกมแนวสยองขวัญปน action แบบนี้อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ภาษาทางการเขาเรียก Survival horror หรือเปล่าเจ๊ไม่แน่ใจ) อย่างเกม Resident evil กับ Silent Hill นี่เจ๊ได้เล่นมาหลายภาคจนน่าจะเรียกตัวเองว่าเป็นติ่งเกมแนวนี้ได้ประมาณหนึ่ง ไม่แค่นั้น พอได้รู้ว่าผู้กำกับเกมนี้คือ Shinji Mikami ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวพ่อด้านเกมสยองขวัญในวงการคนหนึ่ง เงินในกระเป๋าเจ๊ก็เลยต้องปลิวไปกับเกมนี้อย่างช่วยไม่ได้ (สายเปย์เกมเมอร์)
    รูปตอนก่อนเข้าเกมจะประมาณนี้ (รูปนี้ไปจิกมาจากเว็บ https://www.notebookcheck.net/The-Evil-Within-Benchmarked.128877.0.html)

              ความประทับใจแรกเมื่อเล่นเกมนี้คือพระเอกหล่อมาก! เอ๊ย ไม่ใช่ กราฟฟิกที่มีความอลังระดับ FullHD ค่ะ
    อันนี้ฉากแรก ๆ ตอนเริ่มเกม (จริง ๆมันควรจะชัดกว่านี้แต่คอมเจ๊ได้แค่นี้แหละ)

              เริ่มต้นเรื่องก็คือพระเอกของเราเซบาสเตียน (Sebastian Castellanos นามสกุลเขียนเป็นภาษาไทยยากมากเจ๊ขอข้ามละกันนะ) กับคู่หูอีตาแว่นโจเซฟ (Joseph Oda) และเพื่อนร่วมงานอีกคนคิดแมน (Juli Kidman ในเรื่องพระเอกของเราจะเรียกนางว่าคิดแมน เพราะงั้นเจ๊ก็จะเรียกนางว่าคิดแมนละกัน) ได้รับแจ้งว่ามีเหตุวุ่นวายอะไรสักอย่างที่ Beacon Mental Hospital เลยต้องไปตรวจสอบกัน ที่นั่นแหละค่ะที่ความบ้าบอได้เริ่มขึ้น เพราะหลังจากที่เราได้เห็นภาพชายปริศนาในชุดคลุมสีขาวในกล้องวงจรปิด ก็วูบไป แล้วพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ที่ไหนไม่รู้ที่เต็มไปด้วยคนบ้าและมอนสเตอร์หน้าเป็นมิตรมากกกก    T T แถมเพื่อนเราก็หายไปไหนไม่รู้ พระเอกของเราก็เลยต้องลุยเดี่ยวค่ะงานนี้
    ฉากแรกหลังจากที่วูบไปแล้วตื่นมาเจอ (เป็นเจ๊ตื่นมาเจออะไรแบบนี้คงวูบไปอีกรอบ รูปเอามาจาก https://www.mmoga.com/Steam-Games/The-Evil-Within.html)
    ชายปริศนาในเสื้อคลุม ที่เราจะรู้ทีหลังว่าชื่อรูวิก (Ruvik ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ไม่ขอเปิดเผยเดี๋ยวจะเป็นการสปอยมากเกินไป : P รูปนี้มาจาก http://theevilwithin.wikia.com/wiki/File:The_evil_within-Ruvik-10.jpg
    อีหัวเหลี่ยม (จริง ๆ มันชื่อ The Keeper แต่เจ๊เรียกมันแบบนั้น) หนึ่งในมอนสเตอร์ที่โหดและชอบตามหลอกหลอนเราไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เกือบทั้งเรื่อง (เจ๊เกลียดอีนี่มาก ฆ่ายาก ชอบโผล่มาให้ประสาทเสีย ถ้าใครเคยเล่น RE ภาคเนเมซิสจะอารมณ์ประมาณนั้นแหละคือ "อีเวงนี่มาอีกละ โอ๊ยยยย" รูปเอามาจาก http://nerdbacon.com/evil-within-executioner-dlc-ps3/

         หลังจากนั้นก็ตามสูตรเกมแนวนี้คือเอาตัวให้รอด ไขปริศนา และฆ่าบอส แต่เนื้อเรื่องเกมนี้ชวนติดตามมาก เพราะเราจะไม่รู้อะไรสักอย่างแม้กระทั่งว่าพระเอกของเราเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทำไมเราต้องมาเจอความบ้าบอระดับประสาทเสียแบบนี้ แล้วทำไมอีพวกนี้ต้องตามมาฆ่าเราตลอด ตอนเล่นไปเรื่อย ๆ ถึงจะค่อย ๆ รู้ อ้อเกือบลืมตัวละครหลักอีกตัวที่เป็นกุญแจสำคัญทำให้เรื่องยิ่งน่าสนใจคือเด็กหนุ่มคนนี้จ้ะ 
    เลสลี (Leslie Withers รูปเอามาจากhttp://www.fanpop.com/clubs/the-evil-within/images/38115224/title/leslie-withers-photo) 
    ที่เราต้องเล่นวิ่งไล่จับและเล่นซ่อนหาด้วยอยู่เป็นประจำ เพราะเจอหน้าทีไร วิ่งหนีตลอด = =" 

               จริง ๆ แล้วเลสลีนี่แหละที่เป็นคนกุมปริศนาทั้งหมดไว้ แต่เนื่องจากเขาป่วยเป็นประสาทหลอนมาตั้งแต่ต้นเรื่องทำให้พูดไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวดี เดี๋ยวหลุด เขาจึงจะค่อยๆเผยความจริงบางอย่างทีละนิด แต่ก็จะไม่ค่อยได้รู้อะไรจากเขาเท่าไรเพราะเจอหน้าคุยด้วยได้แค่แปปเดี๋ยวก็ต้องเจอเหตุการณ์ที่ทำให้อีเด็กนี่สติแตกวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปทุกครั้ง พระเอกของเราก็เลยต้องเหนื่อยตามหาเขาและคนอื่น ๆ ไปด้วยตลอดเรื่อง

             พอเล่นไปเรื่อย ๆ เรื่องราวก็ค่อย ๆ เปิดเผย ทำให้เจ๊รู้ว่าในเรื่องนี้มันไม่มีใครปกติเลยสักคน แม้กระทั่งพระเอกของเราเอง หรือใครจะเถียงว่าพระเอกเรานี่แหละเป็นผู้เป็นคนสุดในเรื่องนี้แล้ว เจ๊ขอค้านหัวชนฝาค่ะ เหตุผลอันดับแรก จุดเซฟของเกมนี้คือ บานกระจก ที่พอพระเอกของเราส่องแล้วจะเข้าไปในสถานที่หนึ่งที่เหมือนโรงพยาบาลบ้าปนกับห้องเก็บศพปนกับออฟฟิศของเซบาสเตียน ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็คือสถานที่ที่อยู่ในหัวพระเอกของเรานั่นแหละ พูดง่าย ๆ คือคนปกติที่ไหนเขาจะมีโรงพยาบาลบ้ากับห้องดับจิตเป็นหนึ่งในมโนภาพที่อยู่ในหัวกัน 
    ภาพห้องทั้งหลายที่เราจะต้องเจอทุกครั้งเวลาเข้ามาเซฟ หรืออัพสกิล หรืออะไรต่าง ๆ พยาบาลคนนั้นคือคนดูแลสถานที่ซึ่งสุดท้ายในเรื่องก็ไม่เปิดเผยว่าตกลงนางเกี่ยวข้องกับเราอย่างไร ทำไมนางถึงมาเป็นส่วนหนึ่งในสถานที่ส่วนตัวของเรา (หรือเปิดเผยแล้วเจ๊ไม่เก็ท ใครเก็ทมาอธิบายให้เจ๊ได้) 

    อันดับที่สองคือตั้งแต่เปิดเรื่องมา ต่อให้เซบาสเตียนจะเจอเรื่องราวจิตหลุดบ้าบอขนาดไหน พระเอกของเราก็ไม่เคยแสดงความสติแตกให้เห็นเลยค่ะ ซึ่งถ้าเป็นคนปกติเจออะไรเลือดสาดหัวกระจายแบบนี้มันก็ต้องกลัว หวาดระแวง กรี๊ดแตกอะไรบางใช่มะ แต่คุณชายสามารถไฝว์กะฝูงคนบ้าและมอนสเตอร์ได้เป็นปกติ เจ๊จำได้ว่าเซบาสเตียนให้คอมเมนต์ครั้งแรกกับเรื่องราวที่เผชิญอยู่ประมาณว่า "เออฉันก็รู้สึกว่าคน(?)พวกนี้ท่าทางแปลกๆนะ" ประมาณนี้ โอ๊ยยยยจะเยือกเย็นเกินไปละ เพราะงั้นเจ๊ขอบอกเลยว่าในเรื่องนี้ไม่มีใครปกติสักคนเหมือนกับชื่อเกมแหละ

           นอกจากเนื้อเรื่องแล้ว อีกสิ่งที่ทำให้เกมนี้ถูกจัดอยู่ในลิสต์เกมดีเด่นอันดับต้น ๆ ของเจ๊คือ Gameplay ค่ะ เกมนี้มันแนว fight or flee คือเราอยากบุกเดี่ยวเข้าไปในดงปีศาจประหนึ่ง Die Hard ก็ได้ หรือจะค่อย ๆ หมอบๆคลานๆหลบพวกหลิ่วล้อ ไปดักแทงข้างหลังแล้ว เก็บกระสุนและไอเท็มไว้ลุยบอสก็ย่อมได้ ซึ่งต่างจากแนว survival horror หลาย ๆ เกมที่ปกติจะมาแนว "ข้ามาคนเดียว" ลุยทุกอย่าง บู๊แหลก ซึ่งบางทีทำให้เราต้องเผชิญอุปสรรคหอบแทบแดกกว่าจะไปถึงบอส (แล้วพอไปถึงบอสก็กระสุนกับไอเท็มก็เกลี้ยงหมด จะให้เอามีดไปสู้บอสตัวเท่าตึกหรือไงยะ!) แต่ไม่ใช่ว่าเล่นเกมนี้แล้วไม่เหนื่อย ชิล ๆ ไรงี้นะ ตรงกันข้ามเลยจ้า เพราะกราฟฟิกเลือดสาด ฉากมืดๆ และมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมาก ทำให้เวลาเล่นไปแล้วรู้สึกถึงความตึงของเส้นเลือดในสมองอยู่เหมือนกัน เจ๊เลยจะแบ่งเล่นเกมนี้วันละหนึ่ง chapter หรือถ้า chapter ไหนยาวก็ทีละครึ่ง เพราะกลัวเส้นเลือดในสมองแตก (อายุอานามก็ไม่น้อยแล้วอะนะ) 
     ไม่ลงรูปเลือดสาดมากละกันนะเดี๋ยวจะรุนแรง 18+ มากเกินไป (รูปเอามาจาก http://gematsu.com/2017/06/reddit-ad-leaks-evil-within-2-announcement)

            ความเด่นอีกอย่างของเกมนี้คือในฉากมันมักจะมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เราใช้สู้กับปีศาจพวกนี้ได้ เหมือนกับวางกับดัก อย่างเช่นพวกระเบิดอะไรพวกนี้ ทำให้เราสามารถฆ่าฝูงมอนสเตอร์ได้โดยการไปไล่ใช้อุปกรณ์พวกนี้ที่จะวางอยู่ตามที่ต่าง ๆ ให้ครบ แล้ววิ่งล่อให้อีพวกบ้าไปติดกับดักแล้วตายไปเอง ถึงจะเสียเวลาหน่อยแต่ประหยัดกระสุนและชีวิตมากจ้ะ (แน่นอนเจ๊ให้ความสำคัญกับการประหยัดของ ใครจะว่านูปก็ไม่สน เพราะเจ๊มีประสบการณ์จะสู้บอสแล้วของไม่มีจากเกมอื่น ๆ บ่อยมาก จนบางทีต้องเสียเวลาย้อนไปเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น chapter เกลียดดดดดดดด) 
    นี่แหละค่ะหนึ่งในอุปกรณ์ที่ว่า (รูปเอามาจาก http://theevilwithin.wikia.com/wiki/File:The_Evil_Within_Walkthrough_-_Chapter_7_The_Keeper_(Part_1))

              อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เกมนี้สนุกมากคือมัน evil within สมชื่อมากค่ะ คือระหว่างที่เล่นไปจะมีหลายฉากมากที่อยู่ดี ๆ ฉากก็ยืด หรือหด หรือเปลี่ยนวูบวาบไปมากระทันหัน หรือบางทีก็มัว ๆ เบลอ ๆ เหมือนคนจะเป็นล้ม หรือบางทีเราก็สะดุ้งตื่นมาอยู่ที่ไหนไม่รู้ จนการรับรู้เรื่องเวลาและสถานที่มักจะปนกันมัวไปหมด ทำให้ไม่รู้ว่าตกลงสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่มันความจริงหรือความฝัน หรือแค่ภาพหลอน พูดง่าย ๆ ก็คือทำให้เราประสบกับความรู้สึกเหมือนคนใกล้บ้าจริง ๆ โดยเท่าที่เล่นเกมแนวนี้มายังไม่เคยเจอเกมที่ทำให้รู้สึกถึงความ madness ได้ขนาดนี้ (อ้อ นอกจาก Alice: Madness return อันนั้นก็ประสบการณ์คนบ้าใช้ได้) ซึ่งเจ๊รู้มาว่าชื่อภาษาญี่ปุ่นของเกมนี้รู้สึกจะชื่อ "Psycho break" เออมันก็ break สมชื่อจริง ๆ แหละ จนบางทีเล่นไปจะเกิดอาการ "เซบาสเตียนมึงไหวไหมเนี่ย" อะไรแบบนี้ 

              โดยสรุปใครอยากประสบกับความประสาทขั้นจิตหลุดก็เชิญเกมนี้เลยจ๊ะ สนุกมากกกกกกกกกกกกก เจ๊ให้ 10/10 เลย ทั้งในด้านเนื้อเรื่อง กราฟฟิก และ gameplay แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามันโหดมากมีภาพสะเทือนจิตหลายฉาก ใครจิตอ่อนกรุณาบายอย่าเล่นนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน 
              ก่อนจบขอเตือนอีกเรื่องไว้ ณ ที่นี้คือถ้าใครอยากรู้คำตอบของปริศนาทั้งหมดว่าตกลงเรื่องมันเป็นอย่างมาอย่างไงกันแน่ ในภาคนี้ไม่มีคำตอบให้ค่ะ!! (อ้าว) คือเราจะรู้แค่ตัวจริงของรูวิกและรู้ว่าตกลง The Evil Within นี้มันคืออะไร แต่จะไม่รู้ว่าทำไมพระเอกของเราต้องมาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ รวมถึงความเป็นไปของตัวละครเสริมอื่น ๆ หลังจากจบเรื่องแล้ว เช่น อีตาแว่นกับคิดแมน ซึ่งถ้าใครอยากรู้ต้องไปเล่นต่อในภาคเสริม หรือที่เรียกว่า DLC อีกสามภาค ที่ตัวหลักของเรื่องจะเปลี่ยนจากเซบาสเตียนเป็นคิดแมน (สองภาคแรก) กะอีมอนสเตอร์หัวเหลี่ยมแทน (ภาคสุดท้าย) ซึ่งแน่นอนสายเปย์เกมเมอร์อย่างเจ๊ก็ไปสอยมาเล่นหมดแล้ว 55555 ภาคเสริมไม่ค่อยสนุกเหมือนภาคหลักเท่าไร แต่รับรองว่าใครเล่นภาคหลักจบแล้วต้องสอยมาเล่นแน่ เพราะมันจบค้างคามากกกก (เจ๊จำได้ว่าตัวเองกรีดร้องหนักมากตอนเล่นจบภาคหลัก ทำไมมึงทำงี้อะ ทำม้ายยยยยย)
              
              โอเคจ้ะ เจ๊แมวขอจบการรีวิว+เล่าเรื่อง อันยืดยาวมา ณ ที่นี้ (เหนื่อยจุง = =") อย่าลืมภาคสองกำลังจะมาละนะ! เตรียมเงินไว้เปย์กันด้วย

                 สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณที่อุตส่าห์ตามอ่านรีวิวอันบ้า ๆ บอ ๆ ของเจ๊ และถ้ามีโอกาสเจ๊จะมารีวิวเรื่องอื่น ๆ อีกนะจ๊ะ ^ ^
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in