เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DROWNEDlostsouljs
Almost
  • "นี่...ไปดูที่นั่นกันไหม?"

    ฉันเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มที่นั่งข้างกายยกมือขึ้นจิบน้ำสีอำพันในมือ ขาข้างหนึ่งกระดิกเป็นจังหวะจากเสียงดนตรีจากร้านข้างๆ

    เขาเพียงส่ายหน้า บอกว่าไม่เป็นไร

    ความจริงมีเพื่อนอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามฉัน เขาดูสนุกกับบรรยากาศของร้าน ขณะที่ฉันกำลังสนใจอีกร้านที่มีดนตรีโฟล์คซองเล่นอยู่ 

    พวกเราสามคนไม่ได้พูดกันมากนัก ถึงแม้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในช่วงที่พวกเราห่างกันไปหลังเรียนจบ แต่ประโยคสนทนากลับเป็นหัวข้อเก่าๆ ที่คุ้นเคย

    ฉันยกแก้วของตนเองขึ้นจิบ สายตาลอบมองคนที่นั่งข้างๆ เขายังเหมือนเดิม ผอม ตลก ชอบดนตรี แต่งตัวเข้ากันดีแบบง่ายๆ เขาเป็นเพื่อนของฉัน 


    สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเขามีแฟนแล้ว
    แต่ความรู้สึกของฉันยังเหมือนเดิม


    ฉันชอบเขามากจนถึงขั้นกลัวการสูญเสียเขาไป เพราะฉะนั้นการมีเขาอยู่ แม้แค่ฐานะเพื่อนเป็นเรื่องที่ดีมากแล้วสำหรับฉัน

    เพราะฉันเองจินตนาการการเป็นคนรักกับเขาไม่ออก
    ฉันรู้สึกว่าเขาก็พอจะรับรู้ประมาณหนึ่ง จากวิธีที่เขาทรีตฉันต่อหน้าเพื่อนคนอื่น เขาทำเหมือนฉันเป็นเพื่อนผู้ชายเสมอมา (ซึ่งนิสัยที่ฉันมีก็ทำให้คนส่วนใหญ่คิดแบบนั้น) แต่ก็ห่วงใยดูแลฉันต่างจากเพื่อนผู้หญิงคนอื่นเล็กน้อย

    แต่แค่เล็กน้อยกทำให้ฉันมีความสุขมากแล้ว

    ฉันยังจำได้ถึงตอนที่เพื่อนในห้องต่างรุมเค้กวันเกิด พวกเรามีแค่ช้อนไม่กี่คันจึงผลัดกันตัก 
    ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นหยิบของตกแต่งเล็กๆ กินแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
    เขายืนอยู่ตรงข้าม ถือช้อนคันนึง ท่ามกลางเพื่อนๆ เขาตักเค้กขึ้นมาก่อนจะยื่นมาตรงหน้าฉัน

    "เอ้า มึง กินดิ"

    นั่นเป็นความทรงจำที่ฉันไม่มีวันลืม ฉันรักและชอบเขามากเป็นพิเศษเพราะชอบดนตรีคล้ายๆ กัน เขาและเสียงกีตาร์ของเขา เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยทำให้หัวใจที่แห้งแล้งของฉันในตอนนั้นชุ่มช่ำ

    มันเป็นเรื่องตลกที่ฉันกำลังคบกับผู้ชายคนหนึ่ง ถึงจะไม่ได้อยากคบกับเพื่อนคนนี้แต่หากพบกันเร็วกว่านี้ฉันคงจะชอบเขาอย่างสะดวกใจกว่า

    ความรักของฉันตอนนั้นมันไม่ได้ดีนัก ฉันเลิกกับผู้ชายคนนั้น เหตุผลไม่ได้เกี่ยวกับเขา แต่ผู้ชายที่ฉันเคยคบนั้นรักความสนุกมากกว่า ฉันดีใจที่ฉันหลุดพ้นเสียที


    แต่ความสัมพันธ์ของฉันกับเขายังเหมือนเดิม
    เขาให้กำลังใจฉัน
    ส่วนฉันก็ให้คำแนะนำเขาเรื่องความรัก


    ตลกชะมัด....


    เวลาผ่านมาตั้งนาน ฉันเองก็มีความรักใหม่ แต่ฉันไม่รู้วิธีตัดใจจากเขาจริงๆ

    หรือฉันรักใครไม่เป็นกันนะ?

    ฉันมองเขาที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ฉันส่งสายตาไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่งที่คงไม่ว่าอะไรถ้าเราสองคนจะแว่บไปดูดนตรีใกล้ๆ

    "รอก่อนนะ, นี่ ไปดูกันเถอะ" 

    ฉันลุก เขาเหมือนลังเล มองเพื่อนอีกคนที่ส่งยิ้มบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเดินนำฉันลิ่วๆ

    ฉันเองถ้ารู้ว่าอีกร้านจะมีงานโฟล์คซองคงเลือกไปจองโต๊ะร้านนั้น เสียงดนตรีที่ลอยมาตามลมดึงความสนใจฉันตั้งนานแล้ว พอหันไปมองคนข้างๆ ก็รู้ดีว่าเขาเองก็คิดเหมือนกัน

    ฉันมองเขาที่หยุดยืนมอง ฉันเดินไปยืนข้างเขา มือยื่นไปหาแขนของเขา ก่อนที่จะพูด


    ฉันก็ตื่น
    เพราะเสียงนาฬิกาปลุก
    พระเจ้าช่างเล่นตลกเก่งเหลือเกิน


    มันเหมือนจริงมาก เหมือนว่าเขาอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกที่เหมือนใกล้แค่เอื้อม แต่ไกลแสนไกล ความสบายใจของการมีเขาอยู่ข้างๆ มันทำให้ฉันเจ็บปวด
    ความจริงที่ว่าเราไม่มีทางรักกันได้ ราวกับลิ่มตอกลงบนหน้าอก การอยู่กับเขามันอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันระยะห่างที่เหมือนใกล้ ก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ

    ฉันยิ้มทอดสายตาไปในความว่างเปล่าของแสงอาทิตย์ยามเช้า ถึงแม้จะสาปส่งด่าทอความฝันที่เจ็บปวดนั้นแค่ไหน แต่ความฝันนั้นก็เป็นแค่ช่วงเวลาเดียวที่ฉันจะมีเขาได้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in