เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyห้องนอนที่อบอุ่น
จากใจของเด็กนักเรียน
  • - บันทึกก่อนจบ -
                                     
                                     เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราและเพื่อนทั้งห้องต้องนำเล่มรายงานจบพร้อมกับชิ้นงานที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่แต่ละกลุ่มได้ แต่มันก็เกิดสิ่งที่น่าตลกเกิดขึ้น 
    " นี่คืออะไรไปทำมาใหม่" 
    "นี่ชิ้นงานเหรอนึกว่าขยะ" 
    "ทำไมทำอะไรออกมาง่ายๆขนาดนี้ ไม่มีอะไรเลยที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความทุ่มเทของพวกเธอเลย" " ทำไมพวกทำออกมาได้แย่ขนาดนี้ "
                                    ประโยคเหล่านี้ได้ออกมาจากปากของคุณครูที่เรารักและเคารพท่านมาก มันทำให้เรามองท่านอย่างมีอคติ บางคนอาจจะบอกว่าทำเป็นไม่สนใจสิ หรือ แค่คำพูดเองเราทำของเราเต็มที่แล้ว เขาจะพูดอะไรไม่ต้องไปสนใจหรอก..... แต่ความจริงแล้ว เราทำไม่ได้หรอกนะ เราก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่โดนครูพูดประโยคเหล่านั้นใส่เหมือนกัน มันแย่มากเลยนะ คือเราทำตามที่ครูบอกทุกอย่างแล้ว มีสิ่งที่ครูต้องการคบแต่กลับพูดประโยค เหล่านี้ใส่ เป็นทุกคนจะรู้สึกยังไงบ้าง เล่มรายงานและชิ้นงานชิ้นนี้เราใช้เวลาทำมานานมาก กว่าจะคิดหัวข้อ ลงพื้นที่และเก็บงานต่างๆ ไหนจะชิ้นงาน แต่ประโยคที่ออกมาจากครูคือประโยคเหล่านี้เหรอ มันใช่เหรอ  
                                    บางคนอาจจะบอกว่าโตไปเราต้องเจอเยอะกว่านี้ แต่สิ่งที่เราสื่ออกมาคือตอนนี้ไง กับอายุของนักเรียนแบบเรา กับสิ่งที่ครูเปล่งออกมา มันส่งผลต่อจิตใจเรามากนะ มันแย่มากจริงๆ มันเหมือนว่าสิ่งที่เราทำไปมันไม่มีค่าเลย บางครั้งเราคิดว่า ครูจะติงานเราก็ได้ แต่ช่วยพูดประโยคที่คอยให้กำลังใจเด็กหน่อยได้ไหม ไม่ใช่พอนำเสนอจบก็พูดแบบนี้ บ่อยครั้งมากที่เราทำชิ้นงานของครูท่านนี้ เราตั้งใจทำอออกมาให้ดีที่สุดแต่สิ่งที่ครูบอกคือ " ได้แค่นี้เหรอ แบบนี้ใครๆก็ทำได้ " แต่สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำเต็มที่แล้ว พยายามสุดความสามารถแล้วแต่ก็ไม่พอกับครูสักที มันเหนื่อยนะ และเนื่องจากสถาบันที่เราอยู่มันแข่งขันสูง การสอบแล้วการบ้านเลยเยอะมาก ยิ่งช่วงนี้สอบปลายเทอม                                                       เวลาที่จะอ่านหนังสือก็ไม่มี งานของครูท่านนี้ก็ต้องมาตามแก้ ครูท่านเคยบอกไว้ว่า ที่ครูต้องให้พวกเธอทำงานยากๆขนาดนี้ แก้งานเยอะขนาดนี้ เพื่อที่โตไปเธอจะได้ปรับสภาพของตัวเองได้ ซึ่งถามว่าเห็นด้วยไหมกับสิ่งที่ครูพูดมา เห็นด้วยแต่ครูควรที่จะค่อยๆปล่อยสิ่งที่ครูอยากให้พวกเราทำอออกมาไม่ใช่ให้อะไรเยอะขนาดนี้ และตอนนี้จากที่เราต้องเจอกับครูท่านนี้มา มันทำให้เรามีอคติกับครูท่านจริงๆนะ ยิ่งหลังจากรายงานผลงานเสร็จ ครูบอกว่าสิ่งที่ครูพูดไป ประโยคต่างๆ คือครูต้องการให้เธอเอาคำพดของครูไปผลักดันตัวเธอให้ดีขึ้น 
                                                                                .... เหรอ 

                                         นี่คือสิ่งที่ดังอยู่ในหัวของเราหลังจากที่ครูพูดเสร็จ เราว่ามันเปลี่ยนจากผลักดันเป็นปั่นทอนดีกว่านะถ้าครูจะพูดแบบนี้ ครูรู้เหรอว่าพวกเราไม่พยายาม ครูรู้เหรอว่าสิ่งที่ทำไปมันไม่เต็มที่ แล้วครูรู้เหรอว่าเราไม่ทุ่มเทกับงานที่ทำลงไป เพื่อนๆหลายคนต้องเสียน้ำตากับคำพูดของครูไปเท่าไหร่ ครูรู้ไหม ถ้าครูอยากให้เราพัฒนาและยังใช้วิธีนี้ อยู่ พวกเราอยากบอกครู ว่าเรา เหนื่อยนะ ไม่ใช่เหนื่อยกับงาน แต่เราเหนื่อยกับครู เหนื่อยกับสิ่งที่ครูพูดเราเหนื่อยจริงๆ ถ้าเป็นไปได้พวกเราแค่อยากได้คำชมบ้างไม่ใช่ได้แต่ประโยคเหล่านี้ แต่ไม่ว่ายังไงครูก็ยังคงเป็นครูที่เรารักและเคารพอยู่เสมอ       

                                               แค่ความรู้สึกที่เราเจอครู จากวันแรก ถึงวันนี้ มันเปลี่ยนไปแล้ว.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Ben Sutjakul (@fb1021558472996)
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้าเราทำเต็มที่แล้ว ให้มองว่ามันเป็นโอกาสที่เราจะได้พัฒนา เพราะการแสดงออกของแต่ละคนต่างกัน
ภายในใจครูอาจจะมีเจตนาที่อยากผลักดันเราให้เกิดการพัฒนาจริงๆ

ยังไงก็ยังชื่นชมนะคะที่ยังเคารพครู ถึงแม้บางคำพูดอาจจะทำให้เราไม่สบายใจบ้าง

จากใจของคนเป็นครู :)
@fb1021558472996 ขอบคุณนะคะ