ไคโด คาโอรุมีจุดอ่อน โดยปกติแล้วคนเราจะมีจุดอ่อนอยู่สองประเภท หนึ่งคือจุดอ่อนที่ทำให้อยากทิ้งทุกอย่างแล้วไปอยู่กับมัน สองคือจุดอ่อนที่ทำให้กลัวจนหัวโกร๋น
ไคโดมีจุดอ่อนทั้งสองประเภท ประเภทที่หนึ่งคือแมว เขาว่ากันว่าคนประเภทเดียวกันมักอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งมันค่อนข้างใช้ได้กับไคโด เพราะไคโดเป็นงู ถึงจะรักแมวขนาดไหนสุดท้ายก็โดนเมินจนอดสงสารไม่ได้อยู่ดี แต่มันก็มีความน่าเอ็นดูซ่อนอยู่ ซึ่งเขาก็เขียนบันทึกไว้ในสมุดอีกเล่ม
ประเภทที่สองที่ทำให้เจ้างูน้อยกลัวจนหัวโกร๋นคือผี คนที่เก๊กนิ่งทำหน้าตาน่ากลัวแต่พอเล่าเรื่องผีก็เริ่มหาที่ซุก ไฟดับนิดหน่อยก็ขดตัวเข้าหาที่ปลอดภัย หนักหน่อยก็วิ่งหนีแล้วก็สติแตกอยู่กับตัวเองจนต้องไปตามกลับ จะแบบไหนก็น่าเอ็นดูสำหรับเขาทั้งนั้น
.
.
วันนี้ฝนตกลงมาโครมใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว จากที่ซ้อมกันอยู่ที่แม่น้ำก็ต้องพากันวิ่งกลับบ้าน แต่ด้วยความที่บ้านเขาอยู่ใกล้มากกว่าเลยเป็นข้ออ้างชวนรุ่นน้องคนสนิทมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เอามาเผื่อไว้ในตู้รอฝนหยุด เขาภาวนาให้มันตกหนัก ๆ และดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจ
หลังจากที่ไคโดอาบน้ำเสร็จฝนก็ตกหนักจนมองไม่เห็นทางแถมลบยังแรงเสียจนต้นไม้โยกไปมาอย่างน่ากลัว เขาลงไปทำอาหารง่าย ๆ พ่อกับแม่ติดฝนอยู่ที่ทำงานโทรมาบอกพร้อมบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องข้าวเย็น ทั้งสองคนจะจัดการเองก่อนเข้าบ้าน
ฝนตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ มันตกกระทบหลังคาจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่น ราเม็งร้อน ๆ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับวันที่อากาศเย็นกะทันกันแบบนี้ ไคโดเป็นคนล้างจาน ส่วนเขาก็ขึ้นไปกางโต๊ะเพื่อทำการบ้านและสรุปข้อมูลของคนในชมรมให้เป็นระเบียบ
.
.
รุ่นน้องขึ้นห้องมาแล้ว หมอนั่นบอกว่าปิดชั้นล่างเหลือเพียงแต่ไฟดวงเล็กก่อนจะกดล็อคห้องให้เสร็จสรรพ เจ้างูมาบ้านเขาบ่อยแล้ว ความถี่ก็คงพอ ๆ กับที่เอจิเซ็นและโมโมะไปกินแฮมเบอร์เกอร์ที่ร้านโปรดนั่นแหละ
ไคโดเอาการบ้านขึ้นมาทำเงียบ ๆ เสียงดินสอสีกับกระดาษแทรกมากับเสียงฝน เขาเหลือบตามองรุ่นน้องที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พลางคิดในใจว่าถ้าไฟดับคงจะดีกว่านี้ และก่อนที่ความคิดในด้านลบสำหรับไคโดแต่เป็นด้านบวกสำหรับเขาจะผุดขึ้นมาเยอะกว่านี้เขาควรจะให้ความสนใจกับสมุดตรงหน้าก่อน
เวลาผ่านไปสักพัก ไคโดกับการบ้านเสร็จแล้ว ส่วนเขายังเหลือเขียนสรุปอีกนิดหน่อย "ขึ้นไปนอนก่อนก็ได้"
"ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้" หมอนั่นนั่งกอดเข่า เห็นแบบนั้นจึงยอมเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศขึ้นอีกสององศา
"ไปเอาผ้ามาห่มไป เดี๋ยวไม่สบาย"
"รอรุ่นพี่" เขียนให้มันเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไงนะ...
เขาเพ่งสมาธิไปกับการเขียน สิบนาทีให้หลังก็ปิดสมุดแล้วดึงแขนรุ่นน้องให้ขึ้นมาบนที่นอน "เดี๋ยวไปทำนมอุ่นมาให้ รอนี่นะ" ไคโดพยักหน้า ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วซุกหน้าลงไป
"ผมชอบกลิ่นรุ่นพี่" เหมือนได้ยินเสียงอะไรขาดเลย
เขารินนมใส่แก้วแล้วเอาเข้าไมโครเวฟ นาทที่สองผ่านไป อีกนาทีเดียวนมอุ่นสำหรับลูกงูก็พร้อมเสิร์ฟ บรรยากาศรอบข้างมีเพียงเสียงฝนและเสียงการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า จะเสร็จแล้ว...
แต่จู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงแล้วไฟก็ดับ...
สวรรค์! เขาร้องในใจ ดับนาน ๆ นะ!! เขาขอพร
ฟูจิเคยบอกว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ พร้อมการยืนยันที่หนักแน่นจากการพยักหน้าจนคอแทบหลุดของเทะสึกะ เขายิ้มรับ ไม่ปฏิเสธคำกล่าวหานั้น การแก้แค้นออกมาในรูปแบบน้ำผักที่ทั้งสองคนไม่ได้กินแต่ไปตกที่รุ่นน้องและคนอื่น ๆ แทน น่าสงสารจริง ๆ
รุ่นพี่ปีสามยืนรอเวลา นมยังอุ่นไม่เสร็จก็จริง แต่มันก็อุ่นพอที่จะทำให้หลับสบาย ผ่านไปสามนาทีเขาค่อยเอามันออกจากไมโครเวฟ เดินขึ้นบันไดอย่างเชื่องช้า มีเสียงฟ้าร้องเป็นเพื่อนแทบจะตลอดเวลา ทันทีที่เปิดประตูเข้าห้องไปก็เจอกับไคโดที่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง
"เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก ผีก็โผล่จากในผ้าห่มได้เหมือนกันนะ"
"รุ่นพี่!!" ไคโดโวยวาย
"ดื่มซะ จะได้นอน"
"ทำไมไปนาน"
"ไฟมันดับ ไม่ชินทาง"
"โกหกชัด ๆ" เขาทำเป็นไม่ได้ยินเสียงพึมพำ "มันจะดับอีกนานมั้ย"
"ฟ้าผ่าแรงขนาดนั้นคงนานอยู่หรอก แถมฝนยังตกไม่เลิกด้วย กลัวเหรอ?"
"รู้แล้วยังจะถามอีก"
"อยู่ด้วยกัน ไม่เป็นไรหรอก" ไคโดพยักหน้า ก่อนจะส่งแก้วที่ดื่มสิ่งที่อยู่ข้างในหมดแล้วมาให้เขา "เดี๋ยวมา เอาแก้วไปเก็บก่อน"
"รีบมานะ"
"ระวังผีหลอกล่ะ" มีความสุขในการแหย่ไคโดจริง ๆ
เขารีบขึ้นมาบนห้อง แอบแง้มประตูดูลูกงูที่อยู่บนเตียง หมอนั่นงุ่นง่าน ไม่รู้จะอยู่ตรงไหนเพื่อให้ตัวเองปลอดภัย จะคลุมโปงก็ไม่กล้า จะโผล่มาแต่หัวก็กลัวเจอผี น่าเอ็นดูจริง ๆ
"มาแล้ว" ถึงแม้จะชอบแกล้ง แต่เขาก็ยังมีสิ่งที่ชอบมากกว่านั้นอีกอยู่ดี
อินุอิอ้าแขน ไคโดที่เอาผ้าห่มพันรอบตัวรีบพุ่งมาซุก กอดกันกลมเหมือนพ่อหมีกอดลูกแมว ฝังจมูกลงบนเส้นผมสีดำแล้วรัดแขนแน่น ๆ อีกที
"ไม่มีผีหรอก"
"รุ่นพี่ไม่ควรเอ่ยถึงคำนั้นอีก"
"ผีน่ะเหรอ?
"รุ่นพี่!!"
"หึหึ" เขายกยิ้ม "นอนซะ แบ่งผ้าห่มมาด้วย"
"นอนหนาวไปเลย"
"งั้นไปนอนห้องพ่อนะ" เขากำลังจะลุก ไคโดคว้าแขนหมับ ปากพึมพำอะไรสักอย่างซึ่งก็คงด่าเขานั่นแหละ ยอมปล่อยผ้าห่มให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม อินุอิใช้มันห่มทั้งเขาและไคโด สอดแขนไปให้หนุนอีกข้างก็วางไว้ที่เอว รั้งเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อแชร์ความอบอุ่น
ไคโดซุกอกเหมือนลูกแมว มือและขาเกี่ยวไปเกี่ยวมาเหมือนงูกำลังรัดเหยื่อ
เอาจริง ๆ เขาก็เหนื่อย ไม่รู้จะต้องจัดการกับความเอ็นดูของตัวเองยังไงให้มันสงบลง เจ้ารุ่นน้องก็ขยันทำให้หัวใจเต้นแรงเกินปกติเหลือเกิน
"รุ่นพี่ใจเต้นแรงมาก"
"เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวไม่ได้นอนหรอก" เขากดหัวไคโดให้ซุกอก ใช้ขาทั้งสองข้างหนีบขาอีกคนเอาไว้ไม่ให้ซนไม่เข้าเรื่อง
"ผมกลัวผี"
"รู้"
"แต่มีผีอย่างนึงที่ผมไม่กลัว" เขาหัวเราะเหอะในลำคอ ขยันยั่วซะจริง
"ผีอะไร" ตามน้ำหน่อยแล้วกัน
"ผีผ้าห่ม..." โอเค ไม่ต้องนอนมันแล้ว
"เล่นผีผ้าห่มกันเถอะ" ไคโดหัวเราะ แล้วเสียงหัวเราะนั้นก็เงียบลง...
Fin.
Talk : เขียนขึ้นตอนที่กำลังทำรายงานและอ่านหนังสือสอบปลายภาค ความจริงนี่มันโหดร้ายเหลือเกินค่ะ อยากหนีความจริง พอเปิดเทนิปุริดูแล้วมาถึงตอนแร็คเก็ตต้องสาป อ่านแล้วอยากแกล้งไคโด
รักนะลูก คนดี ♥
little2413
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in