ฉันเติบโตก้าวผ่านช่วงวัยที่บรรลุนิติภาวะโดยปราศจากการสมรสและภาระ เป็นวัยเวลาที่เขาบอกกันว่ามากพอจะตัดสินใจอะไรๆ ได้เอง ไม่รู้หรอกนะว่าเขาที่ว่านั่นใคร แต่เอาอะไรมาวัดกันว่ามาตรฐานนี้คือถูกควร ปัจจุบันฉันเลือกจะเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวที่ติดตัวมาแต่เกิด คือ ศาสนาจากพุทธกลายเป็นไม่มี อาจจะเป็นเรื่องปกติในยุคศตวรรษที่ 21 เสียด้วยซ้ำ ที่ใครๆ ก็เชื่อว่าตัวเองมีสิทธิในการนับถือสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ครั้งแรกที่แม่รู้ว่าไม่นับถือสิ่งใดแล้ว แม่ดูหัวเสียชัดเจน ออกมาจากน้ำเสียงเลยนะว่าไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ลูกสาวของแม่อยู่ดี ก็ลูกสาวของแม่มันรั้นหัวชนฝาเสียขนาดนี้ จะเอาอะไรมาพูดเปลี่ยนความคิดมันได้
ชีวิตจากทั้ง 23 ขวบปี ฉันผ่านการเรียนรู้มากมายถึงการเปลี่ยนผ่านของช่วงวัยและสิ่งเร้า การเปลี่ยนผลัดฤดูร้อนที่มีฝนพรำหรือแม้กระทั่งฤดูหนาวที่ไม่มีอยู่จริง ไม่ว่าจะพบเจอการเปลี่ยนแปลงมากมากี่ครั้ง มนุษย์จะไม่มีทางเคยชินกับมัน ไม่อยากพูดเหมารวม เอาเป็นว่าฉันแล้วกันที่ไม่เคยชินกับมันเลย การผลัดสีแต่ละช่วงชีวิตให้ความรู้สึกและความทรงจำที่ต่าง บ้างให้สีที่ร้อนแรงหรือให้สีอบอุ่นสบายตา แต่บางครั้งก็กลายเป็นสีหม่นเศร้าไม่อยากจำ ทุกความทรงจำจะมีสีสลักไว้ เหมือนเรื่อง Inside Out เลยใช่ไหมล่ะ เมื่ออดีตล่วงเลย ภาพรวม การกระทำ ความคิดที่ชัดเจนมากขึ้น ฉันจึงกลายเป็นเสมือนบุคคลที่สามที่รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย ได้ทบทวนถึงสิ่งที่เกิดและตอกย้ำให้มาเป็นฉันในทุกวันนี้
ลูกสาวคนเก่งของแม่เรียนรู้จะสูญเสียครั้งแรก
ไม่ใช่บาร์บี้แสนสวยที่เธอทำคอมันหลุดหรือกล่องดินสอสามชั้นที่ถูกเพื่อนร่วมห้องขโมยไป
เธอไม่คาดหวังการสอบได้ที่ 1 ถึงแม้เธอจะเป็นเด็กหัวดีเพียงใดก็ตาม
เธอไม่คาดหวังตุ๊กตาบาร์บี้ตัวใหม่ในวันเกิดอายุครบ 8 ขวบที่กำลังจะถึง
สิ่งที่เธอคาดหวังคือคำสัญญาเดียวจากปากคุณตาว่าจะอยู่กับเธอให้ถึง 10 ขวบปี
เธอใช้ชีวิตอย่างเด็กไร้เดียงสาอย่างที่เด็กวัยนั้นควรจะทำ
การตั้งหน้าตั้งตารอแปดโมงเช้าของวันเสาร์ การกระโดดยางแม่อีหัวได้ผ่าน การเป็นพี่ของน้องอนุบาล 3 หรืออะไรก็ตามแต่ การได้เที่ยวสวนสัตว์สุดสัปดาห์กับแม่ก็เป็นเรื่องที่ควรเช่นกัน
ยังจำได้ดีว่าเป็นเวลา 9 โมงเช้า แดดจัดสะท้อนเงาเป็นรูปร่างชัดเจน
เธอเดินออกจากบ้านพร้อมแม่ด้วยใจแน่วแน่จะไปสวนสัตว์ดุสิตครั้งแรกในชีวิต
ตื่นเต้นเสมอเมื่อใช้คำว่าครั้งแรก (ไม่นับถึง Safari World ที่เธอไปมานับไม่ถ้วนแล้วกัน)
สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์ดุสิต ในหัวเธอมีแต่คำนี้ผุดขึ้นมาเป็นจังหวะ
ขณะแม่ไขกุญแจเพื่อล็อกประตูบ้าน ริงโทนโทรศัพท์ Nokia รุ่น 3310 ของแม่ดังมาตามจังหวะในหัวเธอ
เมื่อรับและฟังปลายสาย เสียงตอบรับของแม่สั่นเครือและหยุดก้าวเท้าเดิน
จนเธอต้องเดินกลับเข้าไปถามว่าแม่เป็นอะไร
น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มที่มีรอยย่นประปรายที่แสดงถึงอายุของแม่
ข่าวร้าย เราไปสวนสัตว์ไม่ได้แล้วนะลูก
เธอสงสัยแต่เธอไม่โมโหเพราะเธอโตพอจะรับรู้ได้ว่าน้ำตาคือความเสียใจ
ทำไม คำถามจากเธอ คำตอบที่ได้รับ คือ มีคนถูกรถชน กระดูกหักทั้งร่างกาย
ซึ่งเป็นคุณตาเพียงคนเดียวที่เธอรักนักหนา สาบานเลยว่าชีวิตนี้จะขาดคุณตาไม่ได้
ขณะนั้นเธอไม่เข้าใจถึงความหนักหนาของคำว่ากระดูกหักทั้งร่างกายเท่าไหร่
ยังไงมันก็คงจะเจ็บเอาการ ขนาดหกล้มเธอยังรู้สึกเจ็บเลย
แต่เธอเชื่อว่าคุณตาจะต้องไม่เป็นอะไร ก็คุณตาแข็งแรงเสียขนาดนั้น
เสียงริงโทนซ้ำๆ ดังขึ้นแทบทุกจะ 10 นาที ไม่รู้หรอกว่าปลายสายพูดว่าอะไร
รู้เพียงแม่ร้องไห้ทุกครั้งที่รับมัน
จาก 9 โมงเช้ากลายเป็นเที่ยงวัน สารที่บอกว่าคุณตายังมีชีวิตเปลี่ยนเป็นหมดลมหายใจ
เธอยังคงไม่รู้สึกเนื้อรู้สาตัวถึงความเสียใจที่กำลังจะถาโถมเข้ามา
เธอยังสนุกสนานกับการเตะบอลอัดกำแพงกับพี่ชายและพี่สาว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in