เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าผ่านเสียงเพลงmonnierose
LAUV โปรเจคเพลงที่ตอบโจทย์ความรัก

  •  

     สวัสดีค่ะกลับมาอีกครั้ง วันนี้จะมาแนะนำหนุ่ม Ari Leff ซึ่งเป็นหนุ่มที่มีความสามารถมากๆทั้ง แต่งเพลง เขียนเนื้อเพลง และโปรดิวซ์อีกด้วย โดยเขาได้ ทำโปรเจคเพลงที่ชื่อว่า  LAUV ขึ้น โดยชาวมินิมอลทั้งหลายอาจไม่คุ้นหน้าค่าชื่อเขาเท่าไหรเพราะเพลงก็ไม่ได้มีกระแสอะไรมากมาย แตถ้าใครชอบฟังเพลงนอกกระแสก็จะต้องเจอชื่อ LAUV มั้งละ ด้วยความที่หาประวัติยากมากเลย จะขอเขียนถึงแค่นี้เพราะหัวใจหลักคือเราจะมารีวิวเพลงของเขากัน

    ถ้าถามว่าช่วงนี้ฟังเพลงใครวนซ้ำมากสุดก็ต้อง LAUV ค่ะ เราชอบดนตรีของเขามากรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอาย The1975 eletro เล็กๆ มี pop และยัง R&B ในบางที ส่วนตัวคิดว่าโทนเสียงเขาคล้าย ชาร์ลี พุท ด้วยเลยชอบ


    The other 
     ซิงเกิ้ลแรกเปิดตัวในปี 2015 ปัจจุบันยอดฟังเพลงนี้ใน spotify 65 ล้านกว่าเลยค่ะ ซึ่งมันดีงามตามตัวเลขเลย เพลงเปิดมาด้วยเสียงเบาๆของเขา หลังจากนั้นดนตรีข้างหลังที่มีเสียงเปียโนคลอเบาๆพร้อมกับดนตรีอิเล็กเล็กๆมีความป๊อปและ R&B ทำให้เราชอบมากเลยค่ะ จุดเด่นของ LAUV คือเนื้อเพลงค่ะเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมาย
    Who wrote the book on goodbye?
     There’s never been a way to make this easy
    ท่อนนี้เราชอบมากเลยค่ะทั้งเสียงและดนตรีมันเหมาะเจาะกันจริงๆ ชอบที่เปรียบเทียบแนวว่า ใครนะทีเขียนหนังสือวิธีการบอกลา แต่เอาจริงๆมัันไม่มีวิธีทำให้มันง่ายหรอก สื่อถึงว่าการบอกลามันไม่ง่ายเลยค่ะ เราชอบเนื้อเพลงเขามากเวลาพูดมีความคล้องจองลิ้นแปลกๆ 


    Reforget 
      เพลงนี้เป็นเพลงที่เราตัดสินใจเลือกว่าชอบที่สุดในทุกเพลงของ LAUV ค่ะ  ซึ่งจริงๆแล้วชอบทุกเพลงเพราะงานเขาดีจริงแต่ถ้าต้องเลือกก็ต้องเป็นเพลงนี้ เนื่องจากตัวดนตรีถูกใจเรามาก มัน Electro เล็กๆแล้วตัวท่อนฮุคก็เพราะตรงเนื้อเพลงมากเลยค่ะ 
    Lost in the light
    And I don’t know what night it is
    You’re somewhere else I’m drinking not to guess
    เพลงนี้ก็สื่อถึงการที่เราเลิกกับใครไปแล้วจนเราพยายามที่จะลืมเขาอีกหลายๆครั้งด้วยการเมามายออกไปกับคนอื่นแต่สุดท้ายทำยังไงก็ยังลืมไม่ได้ค่ะมีท่อนหนึ่งที่บอกว่า
    Blurry bodies but you're on my mind
    We let it go now I'm full of rum and regret
    ประมาณว่านอนกับผู้หญิงคนอื่นค่ะแต่ว่าในใจเขาก็มีแต่ภาพของเธอคนนั้น 


    The story never end  (piano version)
     เพลงนี้ทำให้เรารู้จักและสนใจ LAUV ค่ะเพราะเราชอบฟังซาวข้าวละวันนั้นแรนด้อมไปเรื่อยพอได้ยินเพลงนี้ชอบมากเลยค่ะ เพราะเป็นคนชอบเปียโนและ LAUV เอาเพลงนี้มาทำเป็นเวอร์ชั่นเปียโนยิ่งชอบไปเลย มันทำให้เศร้าไปหมดเลยค่ะโดยเฉพาะหน้าปกซิงเกิ้ลนี้ โหดร้าย

    But go ahead give me all the blame
    Twist my words and set them to flame, woah

    เพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เสียงเขาเจ็บปวดใจมากเลยค่ะสื่ออารมณ์ได้ดีมากตรงท่อน The story never ends, ends เสียงของเขาทำเรานึกถึงชาร์ลีทุกทีเลย

    จบการรีวิวซิงเกิ้ลค่ะ แต่นี้ไม่ใช่ทั้งหมดนะค่ะเพราะบางเพลงก็ไม่ได้นำมารีวิวแต่เพราะแน่นอนค่ะโดยเฉพาะ Breathe ห้ามพลาดเพลงนี้เลยค่ะ และยังมี Question ที่ฟีทกับ Travis Mills


    EP Lost In The Light" (2015)
    tracklist
    The Other
    Comfortable
    Adrenaline
    Reforget
    Come Back Home
        
    อีพีนี้ lauv ทำจากประสบการ์ณหลังจากที่เขาเลิกกับคนที่รักค่ะ โดยเขาต้องการให้ เนื้อเพลงนั้นสะท้อนถึงตัวของผู้ฟังที่เจอประสบการ์ณเดียวกับเขา  ช่วงที่เขียนเนื้อเพลงนี้เขาบอกว่าเขียนไปทุกที่เลยค่ะไม่ว่าจะห้องสมุด หรือที่หอพักการอัดก็เช่นกัน โดยทุกเพลงในอีพี เขาโปรดิวซ์เองยกเว้นสองเพลงที่มี Michael Matosic มาช่วยค่ะ 

    ซึ่งเพลงบางส่วนรีวิวแล้วด้านบนส่วนนี้จะรีวิวเพลงในอีพีที่ยังไม่กล่าวถึงนะค่ะ

    Comfortable 
    Could I ever do enough to make this coffee more than bitter water?
    Could I ever do enough to make you wear this love not like a collar?
    Could I ever do enough to make you feel the way you want to feel?

     เพลงนี้มาแนว we don't talk anymore แปลกๆสำหรับเรา เพราะตัวดนตรีและเสียงของเขามันใช่เหลือเกิน โดยเพลงนี้ชอบตรงที่ Lauv ร้อง Do you want it bad? /Yeah she said, baby do ya? เสียงเขา sexy ขยี้ใจมากเลยค่ะ ส่วนตัวดนตรีนั้นเหมือนเดินอยู่ในผับเลยค่ะอารมณ์ประมาณนั้น 

    Adrenaline

    เพลงนี้เราชอบมากๆเลยค่ะ ทั้งดนตรีและความหมายที่ชวนเขิน ไ่ม่ต้องถามนะค่ะเขินขนาดไหน
    Cause baby we hit the top
    Sweeter than sugar rocks
    พยายามจะแปลไม่ออกค่ะ 55555 รู้สึกว่า Lauv ใช้คำง่ายๆในการเขียนเนื้อเพลงแต่ความหมายนั้นลึกซึ้งหลาย + มากเลยค่ะ เพลงนี้เราชอบเสียงของเขาตรงร้อง Adrenaline รู้สึกเป็นเสียงที่ขยี้มากๆเลย และเราชอบซาวน์ที่เป็น ตึง ตึ๊ง ตึง ใสๆเหมือนเสียงเม็ดยาในขวดยาที่กลิ้งไปมาเลยค่ะ เพลงนี้ความหมายรวมเราจะไม่รีวิวค่ะ ไปหาอ่านเอานะค่ะ :))

    Come Back Home

    And I flew to California
    Thought I could leave
    Every piece of you right here

    เพลงนี้ความหมายที่ดูมาจากเว็บ genius นะค่ะ Lauv ต้องการทำงานดนตรีและคิดว่าการไปทำตามฝันของตัวเองนั้นยังไงก็เป็นทางออกที่ดีกว่าที่จะอยู่ที่เดิม ถึงแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องจากคนที่เขารักค่ะ เพลงนี้เราชอบเนื้อเรื่องของมันค่ะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องประสบเจออยู่แล้วการทำตามความฝันกับความรัก ในเนื้อเพลงบอกว่า
    But sometimes you have to go
    Trade your heart for bones
    to know you need to come back home

    ตรงนี้เราขอตีความว่า บางทีเราต้องตัดความรักออกไปคว้าสิ่งที่ดีที่สุดไว้เพื่อที่สิ่งนั้นจะได้ทำให้เรากลับมายังที่ๆเราจากมาอีกครั้งค่ะ เราไม่รู้สื่อความหมายได้ดีไหมแต่ชอบท่อนนี้มาก 

    สุดท้ายนี้ เราชอบ Lauv โปรเจคนี้มากๆเลยค่ะ ใครที่สนใจฟังเพลงนะค่ะสามารถฟังฟรีๆได้ที่
    https://soundcloud.com/lauvsongs

    ข้อมูลอีพี
    Cr.http://popculturedaily.guru/lauv/

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in