ปีนั้น ผมอายุ22 เขาอายุ22
เราคือคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก
ผมเริ่มคิดถึงอนาคตที่ไม่มีแจ็คสันไม่ออกแล้ว
ชีวิตหลังจากนั้นไม่ควรเรียกมันว่าเป็นความจริง ทุกสิ่งทุกอย่างใกล้เคียงคำว่าความฝัน สี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยของมาร์คและแจ็คสันผ่านไปไวเหมือนโกหก
หลังจากสอบติด มาร์คขอทางบ้านย้ายมาอยู่ที่หอกับแจ็คสัน พวกเขากลายเป็นรูมเมทกันเจอหน้ากันบ่อยมากกว่าที่เคย ตอนนี้เรียกได้ว่าแจ็คสันอยู่ไหนมาร์คก็อยู่นั่นด้วย เรามั่นใจว่าไม่ว่าจะอีกกี่ปีเราก็จะยังเป็นเรา เป็นคนรักเป็นเพื่อนเป็นแรงบันดาลใจเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของกันและกันต่อไป
ปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัย มาร์คชวนให้แจ็คสันลองสักคู่กันดู ลายที่เราเลือกเป็นสัญลักษณ์หยินหยาง มาร์คเอาหยินส่วนแจ็คสันเป็นหยาง สักไว้ตรงที่ข้อมือมันสวยดีเวลาที่พวกเขาเดินจับมือกัน
ตอนนี้ มาร์คคิดถึงอนาคตที่ไม่มีแจ็คสันไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
ปีนั้น ผมอายุ24 เขาอายุ24
หลังจากนั้น มาร์คไม่เคยได้เห็นผีเสื้อสีเหลืองอีก
มาร์คยังจำวันนั้นได้ติดตา เขาตะโกนด่าแจ็คสันอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน มือที่กำโทรศัพท์ไว้เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นช้ำเขียว น้ำตาไหลออกมามากที่สุดในชีวิต แจ็คสันเดินเข้ามาเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ มือคู่เดิมโอบร่างมาร์คไว้ในขณะที่ปากก็พยายามจูบซับน้ำตาให้เขา แต่มาร์คปัดออก ขืนตัวหนีจากอ้อมกอดที่เพิ่งรู้ว่าไม่ได้มีไว้ให้เขาแค่คนเดียว อารมณ์โกรธและเสียใจเข้าครอบงำมาร์ค เขาตวาดด่าแจ็คสัน ไล่ให้ไปตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า กวาดข้าวของที่อยู่ในห้องของเราทิ้งอย่างไม่ไยดี ริบเอาเกียรติที่เคยให้ไปกลับคืนมาด้วยถ้อยคำผรุสวาท
แจ็คสันเดินออกจากห้องไปหลังจากที่เห็นว่ามาร์คไม่ยอมพูดคุยกันดีๆ แล้ว เขาคงตั้งใจว่าจะให้มาร์คร้องไห้ให้พอก่อนแล้วค่อยเดินกลับเข้ามาปรับความเข้าใจกันใหม่ มาร์คไม่แม้แต่หันมามองด้วยซ้ำตอนที่กำลังซบหน้าเข้ากับหมอนอิงใบใหญ่ คนตัวบางปลอบตัวเองด้วยแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในห้อง เมาและหลับไปทั้งที่ยังสะอื้นโดยหวังแค่เพียงว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงแค่ฝันร้าย
แต่สุดท้าย มาร์คก็ต้องตื่นขึ้นมาและพบว่าแจ็คสันจะไม่ได้กลับมาที่ห้องนี้อีกตลอดกาล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in