เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
bemine x moviesบีไมนฟอร์อะไวล
Sorry to Bother You (2018), A- | ตลกร้ายกัดจิกสังคมทุนนิยมอย่างเจ็บแสบ


  • เล่าเรื่องผ่านมุมมองของแคสเชส หนุ่มผิวสีที่เพิ่งได้งานในบริษัทหนึ่งในตำแหน่ง Telemarketing หรือขายของผ่านทางโทรศัพท์ เขาเลียนเสียงคนผิวขาวถึงจะขายงานได้ ซึ่งการทำเช่นนั้นทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Power Caller ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลายๆคนใฝ่ฝัน เพราะมีสวัสดิการดีกว่า หลังจากได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว เขาดันไปรู้ความลับอย่างหนึ่งของบริษัท ซึ่งเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้ และนั่นจึงเป็นที่มาของเรื่องราววุ่นๆของหนังเรื่องนี้

    .
    .
    .
    - เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ -
    .
    .
    .
    .
    .
    หนังบันเทิงมากๆ เป็นพล็อตหนังที่ต้องอุทาน WTF แบบตั้งใจชมออกมา เปิดเรื่องได้เพียงสิบนาทีก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้แหละที่จะต้องเป็นหนังที่สุดยอดหนังคัลท์เลย ตลอดทั้งเรื่องไม่มีสักซีนเลยที่รู้สึกว่าหนังน่าเบื่อ มันมีเรื่องราววุ่นๆ เรื่องราวของที่ทั้งคนเขียนบทกำลังเมากาวเขียนทและทั้งตัวละครเมากาวและทำเรืองที่ไม่น่าเชื่อในเรื่อง

    หนังจงใจกัดจิกสังคมทุนนิยมให้อย่างเจ็บแสบ ไม่ว่าจะเป็นทุกๆอย่างเอาเงินเข้าแลก ทุกคนต้องมีงานทำเพื่อแลกกับเงินที่ได้มาเพียงน้อยนิด ตัวละครหลักอย่างแคสเชสก็เช่นกัน เขาเป็นพนักงานขายของทางโทรศัพท์ที่เจ้านายโคตรจะโหด แถมยังได้เงินเดือนน้อยอีก เขาและพนักงานอีกหลายๆคนโดนเสนอให้การเลื่อนขั้นด้วยการทำยอดขายที่สูง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร แถมยังบวกกับที่แคสเชสเป็นหนุ่มผิวสีที่เสนอขายของทางโทรศัพท์กับลูกค้าผิวขาว ก็ยิ่งทำให้หน้าที่การงานในตำแหน่งนี้ยากเย็นแสนเข็ญเข้าไปอีก แต่แคสเชสรู้จักการใช้ White Voice หรือเสียงของคนขาว วิธีการที่เขาใช้ในการขายของนี้ก็คือดัดเสียงเป็นคนขาว เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มความมั่นใจในอีกระดับ 


    มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกเลยถ้าพนักงานที่โดนกดขี่เป็นประจำรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องและประท้วงบริษัท ซึ่ง CEO หรือคนที่มีตำแหน่งสูงๆในบริษัทก็ไม่ได้แคร์อะไรมากมาย แถมยังใช้ชีวิตเริศหรูและสบายตามอัตราเงินเดือนของตัวเองอย่างเดิม

    ส่วนเรื่องความลับของบริษัทที่แคสเชสไปรู้เข้า นั่นก็เป็นเหมือนกับกับว่าหนังเรื่องนี้จงใจขยี้ประเด็นโลกของทุนนิยมไปอีกระดับหนึ่ง ระบบนี้ทำให้คนเรามีความเป็นมนุษย์ที่เหนือว่าสัตว์ประเสริฐน้อยลง บริษัท WorryFree ต้องการพนักงานที่อึดอดทนและแข็งแรง จึงพัฒนายาที่ทำให้คนกลายร่างเป็นม้า ที่สามารถทำงานได้อึดและอดทนมากกว่าพนักงานที่เป็นมนุษย์


    สไตล์ของหนังและแสงสีในหนังจัดจ้านจนกลายเป็นเอกลักษณ์สุดพิเศษของหนังเรื่องนี้ อีกทั้งยังมีการเสียดสีสีผิวอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น White Voice อย่างที่ได้พูดถึงไปในข้างต้นแล้ว แถมยังมีพนังงานในบริษัทในตำแหน่งล่างๆที่ล้วนจะเป็นคนผิวสีอยู่มากกว่าอีกด้วย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in