เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
pinkrant!pynkboy
My thought on ใครสักคนในเราทั้งคู่ โดย Moonscape



  • ในขณะที่นวนิยายแนว Gothic ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าหลายคนยังเข้าใจคอนเสปต์ของนวนิยายแนว Gothic ผิดไป หลายคนอาจจะสับสนนวนิยายแนวHorrorกับแนวGothic ซึ่งแท้จริงแล้วนวนิยายแนวGothicเป็นนวนิยายที่ควบรวบความกลัวเข้ากับความรักไว้ด้วยกัน ทั้งความน่ากลัวของบรรยายกาศ ความน่ากลัวของตัวละคร ส่วนใหญ่มักกล่าวถึงการผุพังลงของอะไรบางอย่าง ความรักที่เกิดขึ้นในเรื่องก็ไม่ใช่ความรักระหว่างหนุ่มสาวปกติ แต่เป็นความรักที่ลึกซึ้ง ขับเน้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่านให้ดื่มด่ำไปกับความกลัวและความรัก ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สีกกลัวและหลอนเช่นเดียวกับนวนิยายแนวสยองขวัญทั่วไป เพราะฉะนั้นจึงไม่อาจกล่าวได้ว่านิยายผีเป็นนิยายGothic และไม่ใช่นิยายสยองขวัญสั่นประสาททุกเรื่องจะเป็นนิยายแบบGothic จึงเรียกได้ว่านวนิยายGothicในไทยนั้นมีน้อย และสำหรับผู้เขียน นวนิยายแนวนี้ของไทยนั้นแทบไม่เคยอยู่ในคลังความรู้มาก่อน อาจจะเพราะประสบการณ์ที่น้อย ยังต้องสะสมไปเรื่อย ๆ แต่ ณ ขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ ผู้เขียนแทบไม่รู้จักนวนิยายGothicในไทยมาก่อน จนกระทั่งได้มาเจอกับ ใคร

    สักคนในเราทั้งคู่ ซึ่งเป็นหนังสือ self-published ของนักเขียน Moonscape

    ใครสักคนในเราทั้งคู่ เป็นเรื่องราวที่เล่าผ่านมุมมองของ ดาวเหนือ นักศึกษามหาวิทยาลัยในกรุงเทพที่ซิ่วกลับมาอยู่จังหวัดบ้านเกิด และทำให้เขาได้พบกับ ให้แสง ชายหนุ่มลึกลับที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างในหมู่บ้านเดียวกันของดาวเหนือ ซึ่งดาวเหนือมารู้ทีหลังว่าให้แสงไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ในบ้าน และเขาได้ตกหลุมรักปีศาจตนนั้นเข้าให้เสียแล้ว

    นักเขียนเรื่องนี้มีทักษะในการบรรยายบรรยากาศออกมาได้วังเวง น่าขนลุก และหม่นหมอง แต่ในคราวเดียวกันกลับมีกลิ่นหอมหวานอบอวลด้วยความรักของตัวละคร การเลือกใช้คำบรรยายของ ให้แสง ว่าเป็นปีศาจ ที่ไม่มีอยู่จริง*นั้นชาญฉลาด เขาแตกต่างจากผีและวิญญาณตรงที่เขาไม่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่การมีตัวตนของเขาเกิดขึ้นมาเองดื้อ ๆ เพราะความกลัวและความสิ้นหวังในจิตใจมนุษย์ เพราะฉะนั้นการทุ่มเทความรักอย่างสุดโต่งให้กับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงของดาวเหนือนั้น เป็นสิ่งที่ขับเร้าอารมณ์ของผู้อ่านได้ดีทีเดียว

    อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้อ่านประทับใจในหนังสือเล่มนี้คือการบรรยายของนักเขียน นักเขียนมีสำนวนและภาษาที่สวยงาม และมีเทคนิคที่แพรวพราว ทั้งบทบรรยายและบทสนทนาสามารถประทับลงในใจของผู้อ่านลงได้อย่างแน่นหนา ตัวอย่างของบทสนทนาที่ผู้อ่านชอบคือ


            "เธอจะเจอฉันอีก" ให้แสงกล่าวอย่างจริงจัง

            "ที่ไหนและอย่างไร"

            "เธอจะรู้ของเธอเอง ไม่ต้องตามหาฉันหรอก ดาวเหนือ ใช้ชีวิตไปตามครรลองของเธอ เราจะคลาดกัน จะเจอกันอีก และจะคลาดกันไปเรื่อย ๆ เหมือนที่เป็นมาเสมอ ถ้าระหว่างนั้นเธอบังเอิญเจอรักแท้ก็ไม่ต้องเสียดาย จะรักใครก็ทุ่มเทรักให้เต็มที่ เสพสุขให้สมวัยเยาว์อันมีค่าของเธอ ยกเว้นให้ฉันคนเดียว สัญญาได้ไหม"


    บทสนทนานี้ช่างกินใจขณะอ่าน ผู้อ่านรู้สึกเต็มเปี่ยมถึงความเศร้าของการจากลา แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากความรัก ความรักที่ไม่หวังผลตอบแทนเป็นความรักที่ซึ้งกินใจเสมอ ไม่ว่ากับคนไหน อีกสิ่งที่ผู้อ่านประทับใจเกี่ยวกับนิยายเล่มนี้คือ ชื่อเรื่อง ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวพันกับdoppelganger การมีอยู่ของคนคนเดียวกันในสองร่าง และจำต้องเลิกว่าจะให้ร่างไหนอยู่หรือร่างไหนตาย โดยไม่คำนึงเลยว่าทั้งสองร่างสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่มีใครต้องตายจากไป

    สำหรับผู้อ่านจึงถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดี ควรค่าแก่การครอบครอง และเหมาะกับการถูกจดจำเป็นหนึ่งในหนังสือนิยายGothicเล่มนึงของไทย โดยผู้เขียนบทความนี้ให้คะแนนหนังสือเล่มนี้ในบันทึกหนังสือส่วนตัวที่ ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ กล่าวคือเป็นหนังสือที่ดี แต่ไม่ใช่หนังสือที่ผู้อ่านโปรดปราน ซึ่งคะแนนนี้อาจแปรผันไปตามกาลเวลา


    *ถึงแม้ว่าในความคิดของผู้อ่าน การมีอยู่ของให้แสงนั้น จะเรียกว่าไม่มีอยู่จริงก็ไม่อาจพูดแบบนั้นได้ เพราะให้แสงก็มีตัวจริงอยู่จริง และสามารถจับต้องได้ เพียงแต่ตัวตนของให้แสงนั้น เกิดขึ้นโดยพื้นฐานของสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจอธิบายได้เท่านั้นเอง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in