เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึก TRPGHatred
another [Record of Rahet]: The Robbers เรื่องเล่าเหล่าโจร (2)
  • ขอให้เทพเจ้า(ดาวโจร)คุ้มครอง(ตัวข้า)

    จอห์น ไอส์เลย์กำลังปีติจนแทบกลั้นหัวร่อไว้ไม่ได้ ในใจกล่าวสรรเสริญเทพเจ้าดาวโจรตามธรรมเนียมของมิจฉาชีพ หวนคิดถึงในขณะที่หลอกล่อหัวหน้าทหารยาม ถึงแม้ว่าไอส์เลย์จะมั่นใจในความสามารถด้านหลอกลวงคนอื่น อีกทั้งเอกสารรับรอง วิสกี้ในถัง และตัวตนของฌอนจะเป็นของจริง แต่ก็ไม่บ่อยนักที่เขาจะเสี่ยงทำการต้มตุ๋นโดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ถือว่างานนี้สำเร็จราบรื่นราวกับได้รับการอวยพรจากเทพเจ้าดาวโจรเลยทีเดียว

    ในขณะนี้ไอส์เลย์กำลังเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านสวนขนาดใหญ่ซึ่งนำไปสู่พระราชวังที่ตั้งตระหง่าน แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขากลับเป็นสิ่งปลูกสร้างสองหลังซึ่งตั้งขนาบข้างพระราชวัง มันคือโบสถ์ขององค์กรศาสนานั่นเอง

    ก่อนที่จะออกมาสำรวจเส้นทางนั้น กลุ่มของไอส์เลย์ได้รับรายงานจากสายมาว่า นักโทษกลุ่มที่พวกเขาต้องช่วยถูกนำมาขังในชั้นใต้ดินของโบสถ์ซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐาน ดังนั้นนักโทษจะต้องถูกขังอยู่ในโบสถ์หลังใดหลังหนึ่ง หรือไม่ก็อยู่ทั้งสองหลัง เขาตัดสินใจที่จะเสี่ยงใช้พลังภูต สัมผัสทองคำ

    ปกติแล้วไม่ว่าจะมนุษย์ อมนุษย์ หรือกระทั่งพวกปิศาจ อย่างไรก็จะต้องพกของมีค่าอย่างน้อยก็ชิ้นสองชิ้น อาจเป็นเหรียญเงิน หรือไม่ก็เครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ พลังภูตของจอห์น ไอส์เลย์ สัมผัสทองคำ ทำให้เขาสามารถสัมผัสและระบุตำแหน่งของของมีค่า และใช้เป็นข้อมูลเพื่อคาดเดาจำนวนผู้คนจากตำแหน่งของของมีค่าที่สัมผัสได้ ครั้งนี้เขาพยายามเพ่งความสนใจไปที่บริเวณใต้ดินของอาคารทั้งสองแห่ง แต่กลับสัมผัสไม่พบของมีค่าอะไรในชั้นใต้ดินเลย ไอส์เลย์ที่กำลังสงสัยได้แต่เก็บความงุนงงเอาไว้ พลางทำการบันทึกเส้นทางและตำแหน่งของโบสถ์ลงบนแผนที่สำรวจ

    ในตอนนี้หน้าที่ของเขาก็สิ้นสุดลงแล้ว และนั่นนำมาสู่เหตุผลข้อที่สามที่ทำให้เขาออกมาจากที่ซ่อน เหตุผลข้อสำคัญที่สุดซึ่งนำสองเท้าของไอส์เลย์มุ่งหน้าสู่พระคลังสมบัติ


    เมื่อสองปีก่อนไอส์เลย์เคยมาที่เมืองหลวง มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในการเดินทางครั้งนั้น แต่หนึ่งในเรื่องเหล่านั้นคือข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเคยแอบเข้ามาในท้องพระคลังมาก่อน ในครั้งนั้นไอส์เลย์ได้เข้ามาเยี่ยมชมท้องพระคลังซึ่งเต็มไปด้วยทองคำและทรัพย์สินมีค่าจำนวนมหาศาล เขาจำได้ว่าเอาแต่เพียงแค่เหรียญทองนั้น พระราชาแห่งอะคาดอร์ยังมีเป็นกองเท่าภูเขา ด้วยเหตุนี้ไอส์เลย์จึงแอบนำอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เรียกกันว่า มิเทีย มาซ่อนไว้

    มิเทียเป็นอุปกรณ์เวทที่ถูกใช้เพื่อการสื่อสาร ผู้ที่ถือมิเทียเครื่องนึงไว้จะสามารถติดต่อไปยังมิเทียอีกเครื่องนึง รวมทั้งสามารถส่งของชิ้นเล็ก ๆ ไปมาระหว่างกันได้ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ไอส์เลย์จึงนำมิเทียไปซ่อนไว้ในภูเขาเหรียญทอง โดยหมายมั่นว่าในเวลาที่ขัดสน เขาจะสามารถหยิบยืมทองของพระราชาไปจับจ่ายได้

    อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากที่เขาไปจากอะคาดอร์ อิทธิพลขององค์กรศาสนาก็เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นครอบงำเมืองหลวงได้ พวกนักบวชเหล่านั้นได้ติดตั้งอุปกรณ์รบกวนสัญญาณเวทมนตร์ไว้ครอบคลุมเมืองเพื่อปิดกั้นการสื่อสาร ป้องกันไม่ให้สายสืบของกลุ่มต่าง ๆ รายงานสถานการณ์ของเมืองหลวงออกไปได้ ด้วยเหตุนี้ตัวไอส์เลย์เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท้องพระคลังและมิเทียของเขาบ้าง

    ไอส์เลย์เดินไปตามทางเดินในพระราชวัง ด้วยพลังภูต ปลอมแปลง ซึ่งทำให้เขาสร้างภาพลวงตาได้ ไอส์เลย์ได้ปลอมเป็นทหารยามบ้าง นางกำนัลบ้าง ในขณะที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ท้องพระคลังเท่าไร ลางสังหรณ์ร้ายในใจเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น

    แม้ว่าจะเข้าใกล้เท่าไร สัมผัสทองคำของเขาก็ยังไม่ทำงานขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว


    ในที่สุดเขาก็มาถึงเป้าหมาย หน้าท้องพระคลังไร้ซึ่งทหารยามแม้แต่คนเดียว ไอส์เลย์ข่มสังหรณ์ร้ายในใจลง พลางเอื้อมมือไปดันเปิดบานประตูเบา ๆ ก่อนที่จะชะเง้อหน้ามองผ่านรอยแยก เพื่อที่จะเห็นภาพที่แทบจะทำให้สติของเขาวูบลง

    เหตุผลสุดท้ายที่ทำให้เขาออกมาจากที่ซ่อน ทรัพย์สมบัติมหาศาลซึ่งเคยมีอยู่ท่วมท้นท้องพระคลัง บัดนี้ได้อันตรธานไปเสียแล้ว

    ...

    ไอส์เลย์ผลักประตูโดยแรง แสงจากภายนอกผ่านประตูที่เปิดกว้างเข้าไปในห้อง ทำให้เขาเห็นภาพของท้องพระคลังที่ว่างเปล่า ไม่สิ เกือบจะว่างเปล่า สายตาของไอส์เลย์รับรู้ได้ถึงหีบสมบัติใบหนึ่งซึ่งตั้งอย่างโดดเดี่ยวกลางท้องพระคลังว่างโล่ง สัมผัสทองคำของเขาบอกว่าในหีบนั้นมีของมีค่ามากชิ้นหนึ่งอยู่ หากแต่สัญชาตญาณของเขานั้นแทบจะกู่ร้องว่าหีบใบนั้นเป็นกับดัก

    ไอส์เลย์หยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องชั่วครู่นึงเพื่อประเมินสถานการณ์ หีบสมบัติใบหนึ่งในห้องว่างโล่ง ไม่ว่าจะมองจากมุมใดอย่างไรก็ต้องเป็นกับดักแน่ ๆ สมมุติว่าไม่ใช่กับดักอันตรายถึงตาย แต่หากเป็นกับดักประเภทจับกุมล่ะ ? หากเขาถูกจับได้จะเกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อแผนการช่วยตัวประกันคืนนี้แน่ สิ่งที่เขาควรทำตอนนี้คือการหาทางออกจากพระราชวัง เพื่อนำแผนที่ที่สำรวจมา ไปให้พรรคพวกจะไม่ดีกว่าหรือ ? ถึงแม้ว่าจะเสียดายทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลที่เคยมีในท้องพระคลัง แต่ระหว่างทางออกไปจากที่นี่ก็ยังมีของตกแต่งพระราชวังมากมายที่รอให้เขาหยิบฉวยออกไปไม่ใช่หรือ ?

    เมื่อประเมินทุกความเสี่ยงแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ กลับออกไปจากที่นี่
    เสี่ยงเกินไป ได้ไม่คุ้มเสีย คำพูดทำนองนี้ผุดขึ้นในหัวของจอห์น ไอส์เลย์ เขาทอดถอนใจทีหนึ่งก่อนจะเดินก้าวเข้าไปในท้องพระคลัง

    ถูกต้องที่ว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการกลับออกไป

    ถูกต้องที่จะกล่าวว่าเสี่ยงเกินไป ได้ไม่คุ้มเสีย

    แต่ปิศาจในตัวเขาไม่ยินยอมที่จะทำแบบนั้น ตราบเท่าที่สัมผัสทองคำยังเตือนเขา ความละโมบแรงกล้าผลักดันเท้าให้ก้าวเข้าไป ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปเปิดหีบใบนั้น

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in