เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Lonely Girl and Her Silly Storieseveyakk
ฉันเทสดีแล้วจะทำไม: มองแฟชั่นวัยรุ่นเทสดีผ่านบริบทสังคมของวัยรุ่นไทย
  • เหย คุณเธอขาทำไมเทสดีจัง” “อุนเธองับ เทสดีมาก ๆ เลยหลายคนอาจเคยเห็นความคิดเห็นเหล่านี้แบบผ่านตาในโซเชียลมีเดียอย่างเช่นอินสตาแกรม หรือ เฟซบุ๊ก ไม่นานมานี้ กระแสการแต่งตัวของวัยรุ่นไทยบางกลุ่มเริ่มเป็นประเด็นทางสังคมที่มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนมากแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกและเชิงลบเกี่ยวกับสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นกลุ่มนั้นซึ่งหลายเรียกกันว่า วัยรุ่นเทสดี”

                                                                 (Source: Twitter)
    “วัยรุ่นเทสดี” คืออะไร

    คำว่า วัยรุ่นเทสดี นั้นถูกใช้สำหรับการเรียกกลุ่มวัยรุ่นในไทยที่มีลักษณะการแต่งกายแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นเทสดีประกอบไปด้วยแฟชั่นไอเทมต่าง ๆ เช่น เสื้อยืดสีพื้นแบบมินิมอล เสื้อเชิ้ตสีพื้นไร้ลวดลาย กางเกงสแลคขายาวสีพื้น กางเกงขาสั้นสามส่วนสีพื้น และรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะสีไม่ฉูดฉาด เรียกได้ว่า การแต่งตัวแบบรวม ๆ ของกลุ่มวัยรุ่นเทสดีหยิบยืมความเป็นมินิมอลของเสื้อผ้ามาปรับใช้กับสไตล์การแต่งตัวของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฟชั่นการแต่งตัวในกลุ่มวัยรุ่นเทสดีมักจะไม่ใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่สีสันสดใส เช่น ชมพู แดง หรือ เหลือง สีสันที่วัยรุ่นเทสดีชอบใส่กันคือ สีเอิร์ธโทน ได้แก่ เบจ ครีม แดงอิฐ เป็นต้น ในส่วนของเสื้อผ้าสีขาวและดำนั้นถือได้ว่าเป็นสีสุดฮิตของการแต่งตัวเป็นวัยรุ่นเทสดี 

    วัยรุ่นเทสดีได้แรงบันดาลใจมาจากไหน

    เอและบี (นามสมมุติ) ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเราเกี่ยวกับประเด็นเรื่องวัยรุ่นเทสดี เอเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ชื่นชอบในการแต่งตัวแบบสไตล์มินิมอลและเป็นบุคคลที่เป็นที่นิยมในโซเชียลมีเดีย เอเคยถูกชมว่าเป็นคนที่มีเทสดี ส่วนบีนั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่กำลังจะเรียนจบ บีเป็นคนที่ชอบแต่งตัวแนวมิ-นิมอล เรียกได้ว่า ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เสื้อผ้าและการแต่งตัวรวม ๆ ต้องออกมามินิมอลเท่านั้น

    “ผมได้แรงบันดาลใจในการแต่งตัวจากคนในไอจีที่ชื่อว่า ‘tndtle’ เขาแต่งตัวแบบเรียบ ๆ และผมชอบมาก โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบอะไรเรียบ ๆ อยู่แล้ว พอได้เห็นคนนี้แต่งตัวและลงรูปในไอจี ผมเลยชอบและอยากแต่งตาม” เอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของเขาที่ได้มาจากวัยรุ่นไทยคนหนึ่งที่มีสไตล์การแต่งกายแบบมินิมอล
      
    ในทางกลับกันบีเล่าเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการแต่งตัวสไตล์มินิมอลว่า “เราได้แรงบันดาลใจในการแต่งตัวแบบมินิมอลมาจากประเทศเกาหลีใต้ ในเกาหลีใต้ นักร้องและนักแสดง รวมไปถึงคนที่มีชื่อเสียงล้วนแต่แต่งตัวสไตล์นี้กันหมด เราเห็นผ่านไอจีทั้งนั้นเลย ในไอจีมีคนเกาหลีแต่งตัวแบบนี้เยอะมาก เรารู้สึกว่ามันแต่งตามง่ายและดูแล้วสบายตามากอะ”

                                                        (Source: โอตะตัวปลอม, YouTube)

    แล้วทั้งสองคนคิดยังไงกับประเด็นดราม่าวัยรุ่นเทสดี

    เนื่องจากมีประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดียซึ่งเป็นการถกเถียงกันระหว่างกลุ่มคนที่ออกมาปกป้องวัยรุ่นเท-สดีและกลุ่มคนที่ต่อต้านการชื่นชมวัยรุ่นเทสดี ไม่นานมานี้วัยรุ่นจำนวนมากได้มีการนำเสนอมุมมองความชอบของตัวเองต่อการแต่งตัวสไตลิมินิมอลของวัยรุ่นไทยจำนวนหนึ่งว่า การแต่งตัวแบบนี้ถือว่ามีรสนิยมทางแฟชั่นที่ดีมาก ๆ ส่งผลให้วัยรุ่นที่แต่งตัวในสไตล์ดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม อย่างไรก็ตาม ประเด็นดราม่าก็ได้เกิดขึ้นเพราะ ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่งได้ออกมาล้อเลียนการแต่งตัวในแบบวัยรุ่นเทสดี และบางกลุ่มได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนที่ไม่ได้แต่งตัวแบบนั้น ส่งผลให้เกิดการทะเลาะและโต้เถียงกันยกใหญ่ในหมู่แม่ยกของวัยรุ่นเทสดีกับกลุ่มแอนตี้วัยรุ่นเทสดี
      
    “ผมคิดว่ากลุ่มที่มาล้อเลียนสไตล์การแต่งตัวคนอื่น หรือ มาแอนตี้เป็นคนที่ Toxic มาก พวกเขามาบุลลี่วัยรุ่นเทสดี เพียงแค่กลุ่มคนเทสดีโดนชมว่าดูดี หรือ หล่อ มันไม่ใช่อะครับ พวกเขาไม่ควรลดคุณค่าตัวเอง แล้วอ้างว่าเราไม่ได้หล่อแบบพวกนั้น เราไม่ได้ขาวแบบพวกนั้น ไม่เห็นต้องมาอิจฉากันเองเลย ทุกคนมีสไตล์การแต่งตัวที่ต่างกันอยู่แล้ว” เอกล่าวตำหนิกลุ่มคนที่ออกมาล้อเลียนการแต่งกายของวัยรุ่นเท-สดี
      
    ในขณะเดียวกันบีบอกว่า “การแต่งตัวแบบวัยรุ่นเทสดีจริง ๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรเลย การแต่งแบบเทสดีหรือมินิมอลเนี่ยมันถูกตีกรอบให้แต่งแค่สีพื้นและแพทเทิร์นของคนส่วนใหญ่ มันเลยทำให้รู้สึกว่าคนเหล่านี้แต่งตัวดีจัง ดังนั้นคนที่บุลลี่กลุ่มวัยรุ่นเทสดีน่ะ ไม่จำเป็นต้องมาพูดจาเสีย ๆ หาย ๆเลย เพราะมันเป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล ไม่ควรมาก้าวก่ายกัน” 

    ทำไมมองว่าการแต่งตัวแบบมินิมอล = รสนิยมดี
      
    การที่คนเราจะมองว่าแฟชั่นการแต่งกายนั้น ๆ ดูดีมีรสนิยม เราใช้อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินกันแน่ ถ้าบอกว่าเราใช้ราคาของแฟชั่นไอเทมที่วัยรุ่นเทสดีสวมใส่เป็นตัวตัดสินว่าเขารสนิยมดีหรือดูแพงได้ไหม คำตอบคือ อาจจะไม่ เพราะ การแต่งตัวสไตล์มินิมอลนั้นสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าสีพื้นได้ในราคาหลักสิบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เสื้อผ้าสไตล์มินิมอลถูกผลิตและขายในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังหลายแห่ง เช่น Uniqlo Cotton On H&M เป็นต้น 

    ซึ่งราคาของเสื้อผ้ามินิมอลของแบรนด์ดัง ๆ นั้นค่อนข้างสูงเกือบถึงหลักพันเมื่อซื้อเสื้อยืดหรือกางเกงแบบมินิมอลเพียงหนึ่งตัว สาเหตุมาจากเสื้อมินิมอลจำเป็นต้องพึ่งพิงแพทเทิร์นการแต่งตัวแบบมินิมอลของ Mainstream หรือ กลุ่มคนในกระแสหลักที่แต่งกายแบบมินิมอล เมื่อเสื้อผ้ามินิมอลที่วางขายตามห้างร้านมีความคล้ายกับแพทเทิร์นของสไตล์การแต่งตัวแบบมินิมอลที่คนส่วนใหญ่ชอบใส่ มูลค่าของเสื้อผ้ามินิมอลและการสไตล์การแต่งตัวแบบนั้นก็ถูกเพิ่มมูลค่าทางรสนิยมไปด้วย 

    มากไปกว่านั้นการแต่งตัวสไตล์มินิมอลเป็นที่นิยมอย่างมากในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในอินสตาแกรม (ไอจี) วัยรุ่นไทยจำนวนมาก รวมไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในเกาหลีใต้ซึ่งมีอิทธิพลต่อการแต่งตัวของประเทศอื่น ๆ ได้ตกแต่งอินสตาแกรมของพวกเขาด้วยการคุมโทนให้มีความมินิมอล ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพที่ลง ซึ่งจะต้องเป็นภาพถ่ายที่พวกเขาใส่ชุดมินิมอล แม้กระทั่งสถานที่ฉากหลังของรูปก็ยังเป็นคาเฟ่ หรือ สถานที่ที่มีความมินิมอลสูง อย่างเช่น หอศิลป์ ดังนั้นการแต่งตัวตามกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อรสนิยมอันเป็นที่ชื่นชอบส่งผลให้การแต่งกายของเราถูกมองว่า “เทสดี”
                                                               (Source: CatDumb)

    แล้วทำไมถึงเกิดดราม่าการล้อเลียนวัยรุ่นเทสดี

    กลุ่มแอนตี้วัยรุ่นเทสดีได้อ้างว่า กลุ่มวัยรุ่นเทสดีหลายคนชอบไปถ่ายรูปที่หอศิลป์และสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนที่ต้องการมาชื่นชมผลงานศิลปะ และพวกเขายังมองว่าวัยรุ่นเทสดีทำลายบรรยากาศในหอศิลป์ ด้วยสาเหตุนั้นพวกเขาเลยเริ่มไม่พอใจและล้อเลียนกลุ่มวัยรุ่นเทสดี ในความเป็นจริง วัยรุ่นเทสดีที่ไปหอศิลป์นั้นเป็นเพียงแค่กลุ่มเล็ก ๆ และมีกลุ่มคนที่แต่งตัวสไตล์เทสดีหรือมินิมอลจำนวนมากที่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนที่หอศิลป์ 

    ดังนั้นการ Stigmatize หรือ ตีตราว่าพวกวัยรุ่นเทสดีชอบสร้างความเดือดร้อน ขี้แอ็ค พยายามทำตัวเท่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้น stigmatization หรือ การตีตรา ว่าพวกวัยรุ่นเทสดีคือพวกสร้างความเดือดร้อน ไม่ได้มาจากแค่เพียงการแต่งกายของพวกเขา แต่ว่า การตีตรานั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทางสังคม รวมไปถึงลักษณะของบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างหน้าตา เพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือ วัฒนธรรม 

    โดยกลุ่มวัยรุ่นเทสดีที่ถูกล้อเลียนส่วนมากจะเป็นเด็กผู้ชายที่มีรูปร่างและหน้าตาเป็นไปตามมาตรฐานความงามของผู้ชายในประเทศไทย กล่าวคือ สูงโปร่ง ผิวขาว และหน้าตาดี (ตามแบบพิมพ์นิยม) ซึ่งการที่พวกเขาถูกล้อเลียนนั้นอาจเป็นเพราะอภิสิทธิ์ที่เขาได้รับจากมาตรฐานความงาม การถูกชื่นชมในเรื่องรูปลักษณ์ รวมไปถึงการแต่งตัว อาจส่งผลให้กลุ่มแอนตี้บางส่วนไม่พอใจกับการเชิดชูมาตรฐานความงามที่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชื่นชมคนเหล่านี้ว่าเทสดี ทำให้เกิดข้อกังขาว่า แล้วคนที่แต่งตัวแบบอื่นแปลว่ารสนิยมแย่หรือเปล่า เนื่องจากคำว่า ดี ให้ความรู้สึกถึงขั้วตรงข้ามซึ่งก็คือคำว่า ห่วย หรือ แย่ ด้วยเหตุนี้อาจก่อให้เกิดความไม่พอใจได้ 

    ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแต่งตัวในสไตล์ที่พวกเขาพึงพอใจ และทุกคนไม่ควรถูกล้อเลียนหรือกลั่นแกล้ง ไม่ว่าพวกเขาจะแต่งตัวแบบไหน การเคารพและไม่ดูถูกรสนิมผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญ และการยกย่องสไตล์การแต่งตัวของคนกลุ่มนึงจนนำไปสู่การเหน็บแนมการแต่งตัวที่ต่างออกไปนั้นล้วนแต่จะส่งผลเสีย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นสตรีท วัยรุ่นเทสดี หรือ วัยรุ่นธรรมดา ทุกคนสามารถสนุกกับการแต่งตัวได้ทั้งสิ้น 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in