เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
see saw scene.Zupisets Sasiwimon
BANKSY Does New York ตอกหน้าคนทั้งโลกด้วยศิลปะ
  • ผมรู้จักชื่อ BANKSY ครั้งแรกตอนที่อ่านหนังสือ 'จุลินทรีย์แห่งความสำเร็จ' ของพี่เคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ที่เล่าเรื่องของกราฟฟิตี้ปริศนาคนนี้ได้อย่างน่าสนใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจกว่าก็เข้ามาแทนที่ จนเกือบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าเคยอ่านมาจากไหน จนมาเห็นโปสเตอร์งาน A Design Film Festival Bangkok 2017 ที่ TCDC จัดขึ้นมา

    ตัวหนังเป็นสารคดีที่เลือกเล่าช่วงเวลา 1 เดือนที่ BANKSY ไปทำงานศิลปะ 1 ชิ้น 1 วัน จนครบ 1 เดือนที่นั่น ท่ามกลางความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ สีผิว รสนิยม เพศ วัย ฯลฯ ผลงานศิลปะของเขาจะสร้างอิมแพคอะไรกับที่นั่นได้บ้าง

    เขาจะโพสต์ภาพเป็นคำใบ้ลงในเว็บไซต์ส่วนตัว แล้วให้คนตามหาว่างานศิลปะของเขาอยู่ที่ไหน และเมื่อทุกคนได้ชื่นชม ถ่ายรูป ดื่มด่ำ และตีความงานเหล่านั้นไปแล้ว วันรุ่งขึ้นมันจะอันตรทานหายไป ที่น่าสนใจก็คือมีนักล่า BANKSY ปรากฎตัวออกมาเยอะมาก เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อสนทนาในอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว มีการอัปเดตกันแบบเรียลไทม์ คนที่เจองานต่างก็อัปภาพขึ้นโซเชียลมีเดียอวดกันสุดฤทธิ์ ส่วนใครที่ยังหาไม่เจอก็ตั้งหน้าตั้งตา ทุ่มเทเพื่อให้ได้มาเห็นของจริงและบันทึกภาพของตัวเองเก็บเอาไว้

    งานศิลปะที่ทำตลอดทั้งเดือนนั้นไม่มีรูปแบบตายตัว บ้างเป็นภาพกราฟฟิตี้ธรรมดาๆ แต่เลือกประเด็นสื่อสารได้อย่างน่าสนใจ บ้างเป็นคลิปวิดีโอที่พูดถึงความรุนแรงของสงคราม หรือจะเป็นการเอาภาพของตัวเองไปขายข้างถนน (แต่ไม่มีใครสนใจใยดี) คนที่ซื้อไปเป็นชาวต่างชาติที่บังเอิญอยากได้ภาพไปประดับบ้านเท่านั้น ภาพเหล่านี้ขายในราคา 60 เหรียญ แต่วันต่อมา BANKSY เฉลยความจริงว่านี่เป็นผงานของเขาจริงๆ ก็เล่นเอาชาวนิวยอร์กเกอร์เสียดายกันเป็นแถวๆ (ตอนนี้มูลค่าของภาพเหล่านั้นสูงขึ้นถึงแสนเหรียญไปแล้ว) เรียกได้ว่าเป็นตบหน้าฉาดใหญ่กับคนที่คิดว่างานศิลปะดีๆ ต้องอยู่ในพิพิธภัณฑ์อย่างเดียวเท่านั้นได้แสบสันต์จริงๆ

    นอกจากเสียงตอบรับจากบรรดาแฟนคลับแล้ว เรื่องนี้ก็กระจายวงกว้างไปยังสำนักข่าว ที่ต้องการตามหาตัวกราฟฟิตี้ปริศนาคนนี้ มีการถกเถียงกันมากมาย มีเสียงสะท้อนทั้งแง่บวกและแง่ลบ นอกจากนี้ ก็ทำให้เราเห็นถึงความรู้สึกเบื้องลึกของคน งานศิลปะของ BANKSY นั้นอยู่ข้างถนน บางชิ้นเจ้าของบ้าน ก็อาศัยความเป็นเจ้าของสถานที่ เก็บงานเหล่านั้นเอาไว้คนเดียว บางที่มีเจ้าถิ่นมาเรียกเก็บเงินก่อนเข้าไปถ่ายรูป หรือบางคนก็เอาไปประมูลขายเลยก็มี

    มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้น่าสนใจ เพราะตัวประเด็นที่เลือกมาน่าสนใจมากๆ อยู่แล้ว แต่หนังก็ทำหน้าที่ได้ไม่ด้อยไปกว่าตัว BANKSY เลย ทั้งการสัมภาษณ์ subject ที่หลากหลาย ทำให้เราเห็นมุมมองที่แตกต่าง และนำมาผสม ตัดต่อ คลุกเคล้ากันได้อย่างลงตัว จะบอกว่าดูเพลินก็ไม่เชิงนัก เพราะนอกจะต้องตีความงานศิลปะของ BANKSY แล้ว ยังต้องขบคิดถึงประเด็นที่หนังพยายามแยบคนดูอยู่ตลอดอีกต่างหาก 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in