เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Janie’s Reviewsjanieishappy
TV Series: Unbelievable
  • เหตุการณ์ร้ายเหตุการณ์หนึ่งมันส่งผลกระทบต่อแต่ละคนที่โดนผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นต่างกัน

    ซีรีส์นี้ชี้ให้เห็นว่า ต่างคน แม้จะประสบเหตุการณ์ร้ายแบบเดียวกันมา ก็มีการแสดงออกที่ต่างกัน ซึ่งซีรีส์นี้บอกเล่าถึงเหยื่อที่โดนชายชุดดำ ใส่หมวกคลุมหัวแบบปิดหน้าโผล่มาแต่ตา ใช้มีดหรือไม่ก็ปืนขู่ว่าจะทำร้ายหากไม่ยินยอม แล้วก็ข่มขืนเหยื่อซ้ำๆ หลายชั่วโมง ก่อนที่จะหายตัวไปโดยไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ 


    *สปอยล์รึเปล่าไม่รู้ แต่เราว่าไม่นะ พยายามจะเล่าแบบไม่สปอยล์*

    ตัวละครหลักของเรื่องนี้ มารี แอดเลอร์ คือเด็กสาววัย 12 ที่มีอดีตแย่ๆ มามากมาย โดนข่มขืนโดยชายชุดดำที่ใส่หมวกคลุมหน้าที่แอบเข้ามาในห้องของเธอตอนที่เธอกำลังหลับอยู่ เอามีดมาจี้เธอ จับเธอเปลื้องผ้าละมัดมือเธอและข่มขืนเธอก่อนที่จะจากไปแบบไร้ร่องรอยใดๆ ให้ตำรวจตามสืบ เราจะเห็นได้ว่าเหยื่อที่โดนล่วงละเมิดนั้นต้องโดนล่วงละเมิดซ้ำๆ จากกระบวนการยุติธรรมที่สุดท้ายก็ไม่สามารถนำความยุติธรรมมาให้กับเธอได้ เธอต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ซึ่งแน่นอนมันไม่มีใครอยากจะจำหรือนึกถึงซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ให้ทั้งกับคนเดิมๆ และคนอื่นๆ ฟังจนสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะจบเรื่องนี้โดยการบอกว่า โอเค จริงๆ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉันแค่โกหก เพื่อให้ตัวเองหลุดออกมาจากการโดนทำร้ายซ้ำๆ และเมื่อมันไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันได้ว่าเธอถูกข่มขืน สุดท้ายสังคมก็เลือกที่จะมองว่าเธอโกหกเพื่อเรียกร้องความสนใจ โดยเอาเรื่องในอดีตของเธอเพียงบางเรื่องผสมกับความนิ่งและความใจเย็นของเธอหลังจากเกิดเหตุการณ์มาใช้ตัดสินเธอ โยงมันเข้ากับสิ่งที่ตัวเองเคยเจอ เคยเป็น เคยรู้สึก ว่าเธอโดนข่มขืนนะ เธอต้องเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ เธอต้องโวยวาย เธอต้องเศร้า เธอต้องร้องไห้ เธอไม่ควรมานั่งนิ่งใจเย็นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ มันผิด เพราะฉะนั้นเธอไม่ได้โดยข่มขืน

    ซีรีส์นำเสนอให้เราเห็นถึงการทำงานที่แตกต่างกันของตำรวจ ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชายที่ไม่แยแสอะไรมากนักกับการที่ผู้หญิงโดนข่มขืนและเมื่อไม่มีหลักฐานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็สรุปเอาเองว่าเธอโกหก อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่รู้วิธีการพูด วีธีการสอบถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ ปฏิบัติกับเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดอย่างดีต่างกันกับฝ่ายแรกราวฟ้ากับเหว ซึ่งอันนี้เราแอบไม่ชอบอยู่หน่อยนึงที่ซีรีส์เลือกที่จะให้นักสืบผู้ชายเป็นแบบนี้ และให้นักสืบผู้หญิงเป็นแบบนี้ คือนักสืบผู้ชายดีๆ มันก็ต้องมีไหม คนที่รู้วิธีที่จะปฏิบัติต่อเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดอย่างถูกวิธี ไม่ไปล่วงละเมิดเหยื่อซ้ำๆ -- เราเลยเลือกที่จะมองว่านักสืบพาร์คเกอร์ (ผู้ชาย) แสดงให้เห็นถึงตำรวจขี้เกียจๆ ที่ไม่สนใจจะทำคดีอะไรที่มันซับซ้อน หรือที่ตัวเองคิดว่าไม่สำคัญ พาร์คเกอร์คงมองว่าการที่ผู้หญิงถูกข่มขืนมันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ "ก็แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก" ... "อย่างน้อยเธอก็ไม่ตาย" โดยเลือกที่จะมองว่าตัวละครหลักที่โดนข่มขืนและไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนได้ ไม่รู้เพราะว่าความไร้ความสามารถของพาร์คเกอร์หรือความนิ่งเฉยของเหยื่อ ซึ่งเรามองว่าทั้งคู่ พาร์คเกอร์มองว่าการไปทำคดีฆ่าๆ แกงๆ หรือทำร้ายร่างกายอะไรที่มันจับต้องได้มันมีค่ามากกว่ามาทำคดีข่มขืนที่นางตั้งธงเอาไว้แล้วว่าเหยื่อก็แค่โกหกเพื่อเรียกร้องความสนใจ


    สิ่งที่มารีพูดในตอนสุดท้ายคืออะไรที่กระทบกับเรามาก และนั่นก็คือสิ่งที่เราต้องการมาตลอด -- เมื่อคุณทำอะไรแย่ๆ หรือทำอะไรผิดพลาดแล้วมันส่งผลร้ายต่อชีวิตคนอื่น สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณทำได้คือการขอโทษ มันไม่มีอะไรดีกว่านี้หรอก เงิน ค่าชดเชย หรือสิ่งของใดๆ มันทดแทนกับสิ่งที่เสียไปไม่ได้จริงๆ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in