เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fuangfah, a Story TellerFuang Likkhasit
มาเล ... มาทำไม (วะ) !?
  • "มาเลเซีย ประเทศที่มีแต่ตึกคู่สูงๆนั่นน่ะเหรอ? ไม่เห็นมีอะไรน่าดึงดูดเลย เอาเวลาไปเที่ยวที่อื่นดีกว่ามั้ย?"

    Pitronas Twin Tower ตัวแทนของประเทศมาเลเซียในสายตาของชาวโลก
    นี่เป็นคำถามที่ผมเฝ้าถามกับตัวเองมาอย่างยาวนาน และยังเป็นความรู้สึกที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านติดชายเเดนใต้สุดของประเทศไทย ที่ซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลยสักนิด แต่ทว่า รู้สึกตัวอีกทีมือเจ้ากรรมก็ดันไปกดซื้อตั๋วไป-กลับ กระบี่-กัวลาลัมเปอร์ซะนี่

    เอาล่ะ เรามาหาคำตอบกันว่า

    "มาเที่ยวมาเล มาทำอะไรดี (วะ)?"

    สภาพบ้านเมืองใน Kuala Lamphur

    เนื่องจากไฟลท์บินตรงจากกระบี่มาที่นี่ ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเศษๆ (ใกล้กว่าไปเชียงรายอีก) ดังนั้นหลังจากออกมาจากอาคารผู้โดยสารขาออก พลังงานในร่างกายยังมีอยู่ล้นเหลือ เรา (ผมมากับแฟน ขออนุญาตใช้สรรพนามว่า เรา นะครับนะ) เลยตัดสินใจเดินลากกระเป๋าจากสนามบินเข้าไปยังตัวเมือง ระยะทางก็เเค่จิ๊บๆ 50 กิโล บอกเลยว่ากายพร้อม ใจพร้อม เดินอีกกี่ร้อยโลก็ไหว ระหว่างทางจะได้ซึมซับบรรยากาศ โอบกอดวัฒนธรรม สังเกตวิถีชีวิตชาวบ้ ...

    ล้อเล่น! ใครมันจะไปเดินวะครับ ...

    ประหนึ่งอยู่ข้างล่างราง BTS

    รถโดยสารพาพวกเรามาส่งที่สถานี KL Sentral ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมในกัวลาลัมเปอร์เพราะมียานพาหนะให้คุณเลือกสรรทุกประเภท ตั้งเเต่ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถไฟความเร็วสูง รถไฟความเร็วปานกลาง รถบัส วินมอไซรับจ้าง รถแดงเชียงใหม่ (อันนี้ไม่น่ามี) 

    สองเท้ารีบจ้ำเข้าไปใน KL Sentral สถานีสูงใหญ่เบิ้มที่มีลักษณะคล้ายๆหมอชิตแต่ไฮโซเเละไฮเท็คกว่าราวๆแปดเท่า ด้านในมีช็อปปิ้งมอลติดแอร์เย็นฉ่ำ รอดเเล้วผม ขออนุญาตนั่งรับแอร์สักครู่

    แล้วเราควรหาห้องพักแถวไหนดี?

    มัสยิดจาเม็ก (Masjid Jamek)

    เท่าที่ผมเคยอ่านรีวิวมา คนส่วนใหญ่จะเลือกพักบริเวณ KL Sentral นี่เลย เพราะไปไหนมาไหนสะดวก แต่เนื่องจากผมอยู่ในกลุ่มคนส่วนน้อย จึงเลือกโรงแรมใกล้กับสถานี Masjid Jamek ข้อดีก็คือ มันใกล้กับจัตุรัสเมอร์เดก้า ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งของมาเลเซีย ข้อเสียก็คือ ไม่มีข้าวขาหมูขาย (มันก็ไม่มีสักที่นั่นเเหละ!)
    เตียงนุ่มใช้ได้
    สภาพห้องของโรงแรม Hotel 99 ที่ผมเลือก (เพราะว่าถูก) 
    โอเค จัดการเอาสัมภาระทุกอย่างปาทิ้งไว้ในห้องพัก เสร็จแล้วก็ไปหาอะไรกระเเทกปากกันสักหน่อยดีกว่า อืม ... เอาร้านไหนดีนะ อันนี้หน้าตาแปลกๆ อันนี้ทำไมสีเข้มจัง อันนี้เขาใส่อะไรลงไปบ้างวะ?


    และในที่สุด หลังจากยืนบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่นาน ผมก็ได้ตัดสินใจเลือกสิ่งนี้!

    ผ่าม! ข้าวกล่อง CP จากเซเว่นอีเลฟเว่น ..

    ไม่น่าเชื่อว่าซีพีจะยังตามมาหลอกหลอนยันประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยเเพ็กเกจจิ้งที่ดึงดูดสายตาเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นผู้ชนะไปด้วยคะเเนน 10 ต่อ 9 ไหนดูซิว่าด้านในจะเป็นยังไง

    เห้ย คุณหลอกดาว

    ถึงเเม้จะไม่ตรงปกเท่าไหร่ เเต่มันอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ ซอส Nasi Lemak รสชาติกลมกล่อม ไก่ Chicken Rendang ก็อร่อย แม้แต่ปลาชิ้งชั้ง (ภาษาใต้) ก็ยังอร่อย โอ้โห มันเยี่ยมมากครับคุณชาคริต! 

    เริ่มต้นเที่ยวที่ไหนเป็นที่แรกดี?

    บ้านเมืองเป็นระเบียบ
    Pavilion ห้างใหญ่ใจกลางกรุง ชีวิตดีๆที่ลงตัว

    หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน เเต่เดี๋ยวก่อน .. ยังนอนไม่ได้ เพราะเวลามีจำกัด ผมเลยต้องลากท้องตึงๆไปตะลุยกัวลาลัมเปอร์ต่อ ขั้นแรก ก็เเค่หาสถานีรถไฟฟ้าใกล้ๆ เเละสถานีที่ใกล้ที่สุดสำหรับโรงเเรมของเราก็คือ สถานี Masjid Jamek 

    การซื้อตั๋วรถไฟก็จะคล้ายๆ MRT บ้านเรา เเต่ที่นี่รับทั้งเหรียญเเละธนบัตรเด้อ (ไม่ต้องต่อเเถวเเลกเหรียญ ฮัดช่า) เพียงแค่นำเงินไปหยอดตู้ขายตั๋ว ตู้ก็จะคาย Token ออกมา (ลักษณะเหมือนเหรียญ MRT เอาไว้แตะตอนขาเข้า เเละหยอดคืนตอนขากลับ) แต่ก่อนจะหยอดเงิน ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนถ่องเเท้ว่าชื่อสถานีที่โชว์อยู่บนจอมันใช่สถานีที่เราต้องการจะไปมั้ย เพราะเส้นทางรถไฟของกัวลาลัมเปอร์มันซับซ้อนซ้อนเงื่อนระดับสิบ เรียกได้ว่ายั้วเยี้ยเหมือนรังปลวก (อย่าหลงแบบเรานะครับ)

    สถานีแรก Merdeka

    หอนาฬิกาบิ๊กเบนเเห่งมาเลเซีย (จำชื่อไม่ได้)

    สถานี Merdeka ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมัสยิดจาเม็กเลย ประมาณ 10 นาทีสำหรับการเดิน  และ 7 นาทีสำหรับการวิ่ง เป็นคล้ายๆโซนศูนย์กลางของเมือง มีสนามหญ้าสีเขียวคล้ายสนามหลวง ธงชาติสูงตระหง่าน พิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่าง หอนาฬิกาอะไรสักอย่าง และอาคารสไตล์ยุโรปอะไรสักอย่าง (จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านมั้ยเนี่ย ...)

    อาคารสไตล์ยุโรปอะไรสักอย่าง
    ฟีลท่านสุลต่านก็มา
    รถอะไรสักอย่าง (ไม่ใช่ละ)

    เเละเนื่องจากบริเวณนี้ร้อน พวกเราก็เลยรีบกระหน่ำกดชัตเตอร์ไม่ยั้งเพื่อรีบไปยังที่ต่อไป หากใครต้องการทราบประวัติการสร้างของที่นี่ ไปหาอ่านได้ในวิกิพีเดีย 

    ฟ้าเริ่มมาคุ
    ตึกนี้น่าจะเป็น National Glass Museum

    หลังจากไล่ผู้อ่านไปหาข้อมูลเอง พวกเราก็ตรงดิ่งไปยังสถานี Bukit Bintang เพื่อชื่นชมความศิวิไลของประเทศเพื่อนบ้าน เรียกได้ว่า ไทยมีสยาม มาเลก็มีบูกิต บินตังล่ะวะ! ความทันสมัยกินกันไม่ลงเลยทีเดียว นอกจากจะมีห้างสุดหรู Pavilion แล้ว ที่นี่ยังมีช็อป Sephora ใหญ่เบ้อเริ่ม ซึ่งน่าจะทำให้เหล่าสุภาพสตรีตาลุกวาว ดังนั้นกระผมจึงใคร่ขออนุญาตไปช็อปปิ้ง (ช่วยแฟนถือของ) ก่อนนะครับ

    จุดเสียเงินของกัวลาลัมเปอร์ 

    และแล้วก็มาถึงจุดไฮไลท์!

    ตึกคู่กับเราทั้งคู่
    "สะเต๊เซ๋น เพรีค๊อตญ่า เก๋ แอ๋ล สี่ ซี"

    เสียงประกาศใน LRT ดังขึ้นเป็นภาษาบาฮาซา  (น่าจะเเปลว่า สถานีต่อไป KLCC) ผู้คนขวักไขว่ทะลักออกมาจากโบกี้รถไฟ มุ่งหน้าไปยังเเลนด์มาร์กสำคัญของมาเลเซีย "ตึกแฝดปิโตรนาส" ซึ่งในรีวิวกล่าวไว้ว่า จุดที่ดีที่สุดในการชมตึกแฝดคือการเดินทะลุห้าง Suria ที่อยู่ตรงกลางระหว่างตึกแฝด 
    เดินทะลุห้างมาจนถึงน้ำพุอันนี้แล้วหันหลังกลับไป

    ผมไม่รอช้ารีบเดินหาทางออกจากห้าง ไม่นานนักก็เจอสวนสาธารณะบวกน้ำพุขนาดใหญ่ หลังจากนั้นเราก็หันหลังกลับไป และนี่คือภาพที่เราเห็น

    ตึกแฝดปิโตรนาสยามราตรี

    "ภาพตึกแฝดสูงตระหง่านยามท้องนภาเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬถือได้ว่าเป็นการปิดฉากการตะลุยกัวลาลัมเปอร์ในวันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ"

    .

    .

    .

    ออกนอกเมืองกันบ้าง

    กัวลาลัมเปอร์ไม่ได้มีเเค่ความทันสมัยในเมือง ด้านนอกเมืองก็นับว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเราจะได้ใกล้ชิดความเป็นมาเลเซียมากขึ้นไปอีกนิด ได้เข้าใกล้วิถีชาวบ้านข้างทางและเเนบชิดความหลากหลายทางศาสนา เอาล่ะ ไปลุยกันเลยครับ
    Batu Cave 

    เปลี่ยนบรรยากาศมานอกเมืองกันบ้าง เพียงแค่คุณนั่งรถไฟฟ้าสายสีฟ้า (ถ้าจำไม่ผิด) ออกนอกเมืองมาประมาณครึ่งชั่วโมง คุณก็จะได้พับกบ (พบกับ!) บาตูเคฟ (Batu Cave) จุดเด่นก็คือรูปปั้นขนาดใหญ่ของเทพอะไรสักองค์นี่แหละ และบันไดสามร้อยกว่าขั้น นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่วันที่ผมไป มันดันปิด! 

    ปัดโถ๊ ..

     เอาไปแค่ทางเข้าก็พอ

    ด้วยความเซ็ง เราเลยบึ่งกลับไปที่ KL Sentral และซื้อตั๋ว KL Transit เพื่อไปยังเป้าหมายต่อไป ปุตรา จายา (Putra Jaya) เมืองใหม่ของมาเลเซีย เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการใหญ่ๆทั้งหมด เช่น รัฐสภา และตึกของผู้นำสูงสุดของประเทศ 

    "Welcome to Putrajaya"

    เมืองใหม่กับอากาศสุดอบอ้าว

    จากสถานีปุตราจายา ให้มองหารถเมล์ที่วิ่งผ่าน Masjid Putra มัสยิดสีชมพูอันโดดเด่น เราลงตรงมัสยิด และใช้ที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นในการเดิน เดิน เดิน และเดิน! สำรวจเมืองปุตรา จายา

    มโหฬาลรโหฐานมาก

    เนื่องจากชาวพุทธผู้ใส่กางเกงเตะบอลไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมในมัสยิดได้ จึงต้องหายืมผ้าถุงจากเจ้าหน้าที่มาใส่ ผลลัพท์จึงออกมาเป็นเช่นรูปด้านล่าง

    ผ้าถุงมาเลเซียนสไตล์

    หลังจากออกมาจากมัสยิด ก็ถึงเวลาเดินถ่ายรูปไปเรื่อยในเมืองครับ (ซึ่งมันร้อนโคตรๆ)

    ตึกอะไรไม่รู้ แปลไม่ออก
    อันนี้ก็แปลกดี
    ดูเหมือนเมืองร้างๆ โล่งๆ เหมืองกรุงโรม (แต่ผมไม่เคยไปโรม)
    .
    .
    .

    เสี่ยงโชคที่คาสิโนลอยฟ้าบน Genting Highland

    อีกหนึ่งสถานที่สุดฮิตที่ผมเชื่อว่าคนที่มากัวลาลัมเปอร์ต้องไปให้ถึง นั่นก็คือ เกนติ้ง ไฮแลนด์ หรือศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรลอยฟ้านั่นเอง เราซื้อตั๋วรถบัสจาก KL Sentral และนั่งหลับๆตื่นๆราวชั่วโมงเศษ เราก็มาถึงจุดขึ้นกระเช้าที่จะพาเราทะลุสรวงสวรรค์ (ไม่ขนาดนั้น) 
    วิวประมาณเชียงราย
    ใกล้ถึงเเล้ว
    ด้านบนจะมีโรงแรม คาสิโน ร้านอาหาร ตู้เกมส์ คาราโอเกะ อาบอบนวด (อันนี้ไม่เเน่ใจ) ครบครัน อ้อ ถ้าคุณเป็นนักเสี่ยงโชค จงใส่รองเท้าหุ้มส้นมา ไม่อย่างนั้นจะพลาดเเบบเรา เพราะเราใส่รองเท้าเเตะมา พี่ยามหน้าโหดเลยไม่ให้เข้าคาสิโน 

    โถ่ คนจะรวยก็ดันมีกรรมมาบดบัง (ร้องให้)
    บรรยากาศด้านใน
    และตอนนั่งกระเช้ากลับ สามารถเเวะลงวัดจีนกลางทางได้ บอกได้เลยว่า ถ้ามีเวลา เเนะนำให้ลงไปเดินเตร็ดเตร่ดู เพราะมันสวยมากจริงๆ ให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ที่คุนหมิง (ก็ไม่เคยไปอีกนั่นเเหละ)
    เจดีย์สุดอลังการ
    เหมือนเดินอยู่จีน
    เกือบดีถ้าไม่มีคุณพ่อลูกอ่อนคนนั้น

    เราเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ใช้เวลาให้คุ้มค่า ถึงแม้แดดจะเเรง เเต่อากาศค่อนข้างดีเพราะอยู่บนดอย ลมพัดสบายหายห่วง พักกินข้าว ดื่มน้ำ ดื่มด่ำกับความจงกั๋วเหรินให้อิ่มเอม 

    แดงแปร๊ดแบบนี้ พี่จีนแน่นอน
    .
    .
    .

    ได้เวลาปิดทริป


    สุดท้ายผมก็ได้คำตอบของคำถามที่เกริ่นไว้ตั้งแต่เเรก "มาเลเซีย มาทำไม?" กล่าวคือ นอกเหนือจากการมาช็อปปิ้งในย่านใหญ่ใจกลางเมือง เรายังได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมสวยๆ ความหลากหลายของเชื้อชาติ ทั้งจีน ฮินดู พุทธ มุสลิม เรียกได้ว่าผสมผสานกันอย่างลงตัวอยู่ในประเทศเล็กๆ แค่เดินชมเมืองก็เพลิดเพลินเเล้ว ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีอะไรให้ทำมากมายขนาดนี้ สามวันสองคืนที่พวกเราผจญภัยที่นี่ คิดว่ายังไม่พอ และต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน 

    "แล้วคุณล่ะ พร้อมจะไปหาคำตอบที่มาเลเซียเเล้วหรือยัง?"


    ขอบคุณครับ
    พัลลภ และ เฟื่องฟ้า
    .
    .
    .

    ความเดินตอนที่เเล้ว
    https://minimore.com/b/nK9QT/1
    เมื่อความฝันอยู่ใกล้ตัว เลยขอนั่งรถทัวร์ไปนครวัด!
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in