เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryTeddy_M
ความลับของบินมิน : Fan meeting ครั้งแรกของชาวเรือที่เล่นใหญ่ที่สุดในน่านน้ำ

  • ตั้งแต่มีคนโพสต์หยั่งเชิงว่า ‘ถ้าจะจัดมีทมินฮยอนบินจะมีใครสนใจไหม’ ช่วงเวลาที่โควทไปว่า ‘ขอระบุโพด้วยนะคะ’ คือช่วงเวลาที่ตัดสินใจไปว่า หัวเด็ดเท้าขาดยังไงก็ต้องไปให้ได้!!


    และก็นั่นแหละค่ะ ด้วยแต้มบุนเวลาที่มีเยอะไปไหน ก็ดึงเราให้เข้าสู่งานมีทจนได้ ฮู่เร่!


    ก่อนอื่นก็ต้องย้อนความยาวกลับไปประมาณเกือบปีที่แล้วที่ทุกคนหวีดมินฮยอนบินกันอย่างบ้าคลั่งตั้งแต่หน้าตึก แต่เรากลับเฉยๆ มาก (เพราะตอนนั้นไปช๊อกตอนเห็นจงฮยอนเกรด B มินฮยอนเกรด D แล้วมีคนเห็นว่ามินกิอยู่ F และไม่เห็นคังดงโฮเลย...ลืมสนใจทุกอย่างแม้กระทั้งวิ้งๆๆ ของพัคจีฮุนอะค่ะ) เริ่มมาสนใจขึ้นมานิดนึงตอนที่มินฮยอนเลือกฮยอนบินเข้าทีมจัสติกลีกแล้วฮยอนบินกระโดดดึ๋งๆ ไปหาพี่เขาอย่างร่าเริง แต่ก็ไม่มีอะไรอิมแพคเราได้เท่าฮยอนบินในเวลาที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้วเลือกเข้าทีมโพสิชั่นโวคัลเพลงโซนากี แล้วโดดดึ๋งๆ (อีกแล้ว) ไปชูป้ายทีมต่อหน้าพี่เขาทั้งๆ ที่พี่จีซองยืนเป็นหัวแถวตรงนั้น


    ค่ะ แค่นี้แหละ ตกเราเข้าสู่เรือเนนนยอนอย่างเป็นทางการได้แบบงงๆ 555555


    และหลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการชิปเปอร์ไปค่ะ หวีดเมื่อมีโมเมนท์ ดมกาวบ้าง เขียนฟิกบ้าง(อย่าพยายามตามหาเลยนะคะ 55555) หวีดฟิกบ้าง แต่ในใจก็เริ่มสัมผัสได้ว่า สิ่งที่พวกเขาเป็นของกันและกันนั้นกำลังขุดหลุมที่ลึกมากๆ ที่จะทำให้เราปีนขึ้นไม่ได้แน่ๆ ซึ่งก็...ตามนั้นแหละค่ะ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นประชาชนชาวเรือแห้งผากแห่งเนนนยอนแล้ว 55555


    กลับสู่ปัจจุบันค่ะ (หักโค้งไวมาก ถ้าเป็นรถก็หัวทิ่มแล้วว้อย 5555) ตั้งแต่มีทวิตแอคเคาน์งงานแฟนมีทออกมา ก็ตัดสินใจง่ายแบบคนขี้ชิปเลยค่ะว่ายังไงก็จะไป ทั้งๆ ที่ปกติแล้วคือถือไม่ใช่แบบนี้เลย เวลาชิปคู่ไหนก็จะหวีดคนเดียวเป็นเอกเทศมากๆ แต่เพราะเนนนยอนชิปเปอร์ที่ไม่เหมือนชาวบ้านเท่าไหร่ก็เลยทำให้เราสบายใจที่จะออกมาจากทวิตเพื่อหวีดกับชาวบ้านซะที


    (อ่านมาถึงตรงนี้ชาวเรือคงแบบ อห ไอ้ที่ว่าไม่เหมือนชาวบ้านนี่คือไรยะ 555555 จริงๆ ก็ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ มันก็แค่ชิปเปอร์เรือนี้(ไม่ว่าจะเป็นชาวเรือสาขาหลักแบบเกาหลีหรือว่าสาขาประเทศไทย) ปริมาณคนกับโมเมนท์สวนทางกับการเล่นใหญ่ไฟกระพริบ ทุกคนใช้ชีวิตแบบ ไม่มีโมเมนท์ก็ช่างเว้ย จะทำทุกอย่างให้มันมีเอง!!!)


    แต่อยากสารภาพก่อนว่า เพราะอารมณ์เราก่อนไปงานค่อนข้างไม่คงที่มากๆ ตอนแรกเลยคิดว่า เอ้อ จะไปทำให้เขาโนแจมไหม เพราะเราไม่แน่ใจว่าเราจะไปตีหน้าบึ้งตึงขึงขังใส่ใคร และเราช่วงนี้คือไม่ได้คุยกับมนุษย์จริงๆ เท่าไหร่ (หมายถึงคุยกันต่อหน้านะคะ เดี๋ยวจะคิดว่าเอ๊ะ มึงนี่คุยกับแอนดรอยด์มารึไงวะ 55555) เลยค่อนข้างกังวลว่าชั้นจะไปเป็นอะไรในงานไหม ฮือ 555555


    เอาล่ะ เข้าสู่การรีวิวงานอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ!! (ถ้าคร้านอ่านอะไรที่พล่ามๆ มาก็ข้ามมาที่เน้นไว้ตรงนี้นะคะ) ซึ่งในจุดนี้จะเล่าเป็นข้อๆ นะคะ เพราะถ้าเล่าเป็นเรียงความก็จะโฟ่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ผิดจุดประสงค์ไปอีก


    สถานที่


             งานมีทครั้งนี้จัดที่ Cage Room, E88 Bangkok W.District (ก๊อปงานเค้ามาเลย ) ซึ่งเป็นสถานที่ที่เรา(ที่เป็นสายออกผจญภัยมาตลอด) ไม่เคยมาเยือนสักที การมาครั้งนี้จึงเป็นการผจญภัยครั้งนึงของเรา ที่...ง่ายกว่าที่เคยลุยมามาก 55555 เพราะทีมงานไกด์ทางมาให้ชัดเจนก็เลยมาง่าย


    และสิ่งหนึ่งที่ทีมงานบอกแต่เราไม่ได้สนใจ(จนกระทั่งมางานจริง) ก็คือ สถานที่จัดงาน โคตร! แล้ง! ของ! กิน!เลย! ค่ะ! คือแทบไม่มีร้านของกินเปิดในเวลางานเลย ตอนที่ทีมงานปล่อยพักนี่คือเดินวนรอบจักรวาลเลย แต่ก็ไม่มีอะไรให้กินอยู่ดี (แล้วก็ไปได้อย่างอื่นที่ไม่ได้ของกินซะงั้น 55555)


    แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ชอบสถานที่นี้เพราะมันมาง่ายมากๆ ไม่ต้องกางแผนที่ให้ต้องเดินวนเป็นเวียนเทียน แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้ความเป็นส่วนตัวด้วย จะหวีดเป็นบ้าเป็นผียังไงก็ไม่มีคนมาเคาะว่าเบาเสียงหน่อยโว้ย 555555


    First Impression of entrance + สวัสดิการ + ของที่ระลึก


              รวบตึงมาไว้ในหมวดเดียวเลยละกัน 555 พอถึงงานก็ถูกต้อนรับด้วยความรู้สึกแบบ...เหมือนมางานแต่งของจริงเลยเว้ย 5555 มีซุ้มผูกผ้าพร้อมสแตนดี้เจ้าของงานที่แท้ทรูอย่างฮยอนบินและมินฮยอนที่ยืนต้อนรับให้เรารู้สึก ฮือ ความเหมาะสมนี้ยยยยยยยย ในซุ้มก็มีรูปคู่(ที่เราก็มีหมดแล้ว...)แปะรอบๆ ยิ่งรู้สึกว่าฮือ นี่มันงานแต่งจริงๆ แหละนะ




    เพราะสแตนดี้มีคนถ่ายก็เลยแอบมาถ่ายซุ้มแทน แต่ไม่มีถ่ายซูมรูปนะคะ เขิน 5555 แล้วเราก็ชอบมุมนี้ด้วยแหละ




              ส่วนลงทะเบียนก็ง่ายๆ เลยค่ะ ลงปุ๊ปก็ได้ป้ายชื่อพร้อมตั๋วเข้างานที่มีเลข Lucky draw เอาไว้จับสลากชิงของรางวัลจำนวนมากในงาน (ที่สุดท้ายเราก็นกมันทุกชิ้นเลย เอย เอย)



    ของที่ได้หลังลงทะเบียนค่ะ (แหม่ ทีนี้ก็รู้หมดเลยว่าอิคนเขียนมันเป็นใคร 55555)



    สวัสดิการในงานก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เราได้สแนคมาคนละชุดตอน snack time แต่ประเด็นคือสแนคดีมากกกกก ก็เห็นจากป้ายที่แปะมาก็ไม่แปลกใจเลยที่ออกมาน่ากินแบบนี้ น่ากินจนไม่กินเลย แง 5555555


    อีกอย่างที่ชอบคือ ของที่ระลึกที่มีทั้งให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนกับของที่สั่งทำสำหรับสั่งจอง (เราสั่งฟิกไป ซึ่งจะรีวิวแยกค่ะเพราะดีเทลเยอะจริง) ทีมงานแจกหลังจบงานพร้อมกับของที่ชาวเรือผู้เข้าร่วมงานเตรียมมา ซึ่งก็สะดวกเรามากเพราะไม่ต้องพะวงกับของ ไม่ได้โฟกัสกับมัน เพราะ...ของที่ระลึกมันน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก มากๆ มากจนอยากจะใส่กอไก่ให้เยอะที่สุดเลย แบบเห็นแล้วก็รู้สึกเหมือนได้ของชำร่วยงานแต่ง(อีกแล้ว)จริงๆ เลย




    ของที่ระลึกจากงานที่มีทั้งคนร่วมงานให้มาและงานให้มา รวมถึงพรีออเดอร์มาด้วย คุมโทนงานแต่งด้วยสีธีมงานชัดเจนมากๆ


    แต่สิ่งที่ทำให้เรากรี๊ดมากก็คือ กู้ดจิบิจากเนนนยอนชิปเปอร์ฝั่งเกาหลีที่ทำขึ้นมาให้งานนี้โดยเฉพาะ เป็นเซอร์ไพรซ์ที่สุดของเราเลยค่ะเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำมาให้เป็นพิเศษ ก็สมแล้วอะค่ะที่ชิปเปอร์สองฝั่งนี้จะแบบแท็กบอกรักกันไปมาทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายชงอะไรกัน 555555 (จริงๆ เขาจะมาร่วมงานด้วย แต่ติดคอนสุดท้ายของเจบีเจที่เกา ก็เลยพลาดมาพบปะกัน แง)



    เพราะเรารักงานจิบิของนิมทั้งสองคนมากๆ เลยกรี๊ดแตกมากกับกู้ดนี้ ฮือ เสียเงินเพราะงานเขาก็ทำมาแล้วค่ะ


    กิจกรรมและการรันกิจกรรมตั่งต่าง


              เอาล่ะ มาถึงหัวใจใหญ่มากที่สุดของงาน คืออีเวนท์ตั่งต่างที่เกิดขึ้นและการรันกิจกรรมภายในงาน ที่บอกเลยว่าก็...ไม่ได้แย่นะคะ แต่ก็มีอะไรที่ขัดใจส่วนตัวนิดหน่อย (แต่ไม่ได้เคืองขุ่นส่วนตัวกับทีมงานใดๆ เลยนะคะ สาบาน) เดี๋ยวขอรันตามเวลางานเลยละกัน


              เราเข้างานมาป๊ะกับคนที่เข้ามาพอสมควร และ OPV ที่เคยเห็นชาวเรือแชร์กันมานักต่อนัก ซึ่งเราก็ดูด้วยฟีลลิ่งเฉยเมยมาก (จนกระทั่ง opv ที่เปิดในงานครั้งแรกออกเท่านั้นแหละค่ะ...) พอเข้ามาได้สักพักก็ถึงเวลาเปิดงาน ซึ่งก็ง่ายๆ เลยค่ะ เปิดแล้วก็จับกลุ่มแล้วก็รันกิจกรรมแรกเลย 55555 นั่นก็คือ ‘Finding NenNyun’ ที่ให้สมาชิกในทีมหารูปที่ตรงกันที่ถูกวางกระจายทั้งงานที่มีทั้งฮยอนบิน มินฮยอน และมินฮยอนบิน ถ้าหาคู่กันได้ครบทุกคนก็ชนะทั้งทีม แค่นี้เลย แล้วก็จบด้วยความงงๆ ของเราว่าอ้าว จบและ เกมที่สองคือเกมใบ้คำ ที่การเล่นเป็นแบบปดิ้วเด๊ะเลย ก็ทีมงานจะให้คำใบ้ให้คนนึงทายแล้วทั้งทีมตอบ ทีมไหนเวลาดีสุดก็ชนะไป (ซึ่งคำก็แรนด้อมมาก ง่ายก็ง่ายจัง ยากก็ยากจัง 5555) เกมถัดมาก็เป็นเกมแห่งปดิ้วอีกเกม ก็คือเกมจับของในกล่อง ส่งตัวแทนหมู่บ้านของทีมไปจับของในกล่อง (ที่มีตั้งแต่ธรรมดาอย่างวิกผมไปจนถึงของที่...เอาจริงดิแบบไก่ดิบ 5555555) คัดเอาคนชนะคนเดียวไป


              เอาละ พูดรวมๆกับกิจกรรมที่เราไม่ค่อยได้เล่น จนมาถึงเกมที่เราใส่ใจมากสองอย่างสุดท้าย อันแรกคือตอบคำถามของเนนนยอนที่ชิงเอาโฟโต้บุ๊คคราฟต์ที่ไม่มีขายที่ไหนอีกแล้ว ที่เราตอบได้เกือบทุกข้อ แต่สตาฟไม่เห็นที่เรายกมือ ;-; แต่ก็ไม่โทษใครค่ะ เพราะสังขารเราช้าเกินกว่าจะยกให้ไวเอง 55555 กับอีกเกมนึงก็คือใบ้เพลงจากท่าที่เล่นทั้งทีม ใครใช้เวลาน้อยสุดก็ชนะไป คราวนี้เราว่าเราคงเพี้ยนไปแล้ว จากที่จะนั่งนิ่งๆ เซฟพลังชีวิตไว้ กลายเป็นว่าอยากไปเล่นเป็นคนใบ้คนแรกซะงั้น 5555555555 แต่เอาจริงเรากังวลเพราะว่าถึงจะชอบเต้น แต่เราก็รู้จักแต่เพลงของเจบีเจ แต่! ไม่! เคย! ฟัง! เพลง1 วอนนาวัน! เลย! (พูดตรงๆ นะคะว่าเคยฟังแค่เพลงเดบิวท์ ส่วนเพลงอื่นคือขนาดเพลงยังไม่ฟัง โชว์ก็อย่าไปคาดหวังเลย 5555) แล้วสตาฟก็บิวท์ว่ามีเพลงยากก็เลยรู้สึก-ิบหายแล้ว จะได้ยากไหมเนี่ย


             ตอนนั้นที่ทีมอื่นแข่งไป (ซึ่งตลกมากกกกกกก คือต้นทางเต้นมาดีมาก แต่พอต้องสื่อสารกันยาวแบบทั้งกลุ่มเลยสื่อสารผิดทาง แต่ที่ตลกคือใบ้ถูกกันเป็นส่วนมากด้วย ฮือ ความติ่งนี่ก็คือความติ่งจริงๆ) ก็นั่งทวนท่ากันรัวๆ จนทีมก่อนหน้าเราได้เพลงที่ทีมงานบอกว่าเพลงง่ายกว่าอีกเพลงที่เราได้ก็รู้สึกคำเดียวเลยค่ะ


    ฟ้ากกกกกกกกกกกกกกก


             ก็เลยออกมาด้วยความเหี่ยวใจเล็กน้อย จนกระทั่งเห็นว่าได้เพลงอะไรนี่แหละ ฮู่เร่!!! เพลงง่ายที่สุดที่แข่งมาเลยเว้ยยยยย เลยเต้นนำแบบเซลฟ์มาก และลูกทีมก็รันงานไวมาก ชนะไปเลยค่ะ ภูมิใจมาก 5555555555555


             หลังจากนั้นตลอดเวลาหลังจบเกม ก็จะมี lucky draw ที่เอาเลขจากหางบัตรมาจับรางวัลที่...เยอะมาก แต่เรานกทุกอย่างเลยค่ะ 555555555 แต่ของหลายอย่างคือเรามีแล้ว ซื้อแล้ว ก็เลยรู้สึกแบบเฉยๆ แต่อิจฉานิดนึงถ้าเป็นของที่เราไม่มี 55555 ซึ่งของในงานคือแจกกันแบบสะบั้นหั่นแหลกมากจริงๆ ค่ะ แม้แต่สแตนดี้ในงานยังแจกเลย ฮือ 55555


             แล้วก็มาถึงกิจกรรมสองอันที่ไม่ใช่เกมแต่เราชอบมาก ก็คือการเปิด OPV ใหม่ที่พรีเมียร์ในงานเป็นครั้งแรก ทั้งๆที่เราไม่ค่อยนิยมสายนี้เท่าไหร่ โมเมนท์ก็คืออันเดิมที่ชาวเรือเห็นกันจนจะจำได้แล้ว แต่พอมีคนเยอะๆ มาหวีดฉากเดิมๆ นั่นพร้อมกันก็แบบ เอ้อ มันทำให้เรายิ้มเขินออกมาได้ กรี๊ดตามได้ว่ะ ถถถถถถ และเราก็เข้าใจว่าการหวีดอะไรเป็นกลุ่มนี่มันดีเพราะมีคนที่ชอบเหมือนกันมาหวีดพร้อมกันเนี่ยแหละ (ชอบการหวีดฮยอนบินในฐานะผัววิแรก ก่อนวิถัดมาจะหวีดมินฮยอนว่า น้องงงงงงงง แบบทันที)


             กับอีกอันที่เราชอบมากแต่ไม่มีในตารางงานคือ การรำลึกความหลัง (ฟังดูเหมือนชิปกันมาสามสิบปี เปล่า ปีเดียวเอง 555) ของโมเมนท์ และนี่แหละค่ะคือช่วงที่เราพูดมากที่สุดยังกับไปพี้ยามา 55555555 มันพรั่งพรูมากจริงๆ ค่ะเพราะว่าในชีวิตจริงไม่มีคนมาฟังเราหวีดเป็นบ้าเป็นผีแบบนี้ พอมีที่ที่เราสามารถพูดในสิ่งที่ทุกคนเข้าใจรวมกันแล้วมันแบบ ฮือ เพราะแบบนี้ไงเราถึงต้องรวมตัวกัน แล้วหลังจากนั้นก็ย้อนความหลังทุกอย่างที่มี ปริศนาธรรม คลิปเดิมๆถูกเปิด ทั้งๆ ที่มันก็อันเดิมๆ ที่เราก็มี แต่ดูทีไรก็เขินยังกับดูครั้งแรกอยู่ดี ฮือ นี่สินะพลังความขี้ชิป 55555


            มาถึงเรื่องการรันงานของทีมงานค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า(น่าจะ)เป็นงานแรกของใครหลายคน เลยเต็มไปด้วยเดดแอร์ที่ช่วงแรกเราก็งงๆ ว่าเขาไม่มีเวลารันทรูงานแน่ๆ เลย แต่พอหลังๆ ไปก็ไม่ได้อะไรแล้วละค่ะ ก็งานแรกละเนาะ แต่ต้องขอบคุณความขี้ชิปแหละที่ทำให้มันโฟลวไปได้โดยเฉพาะช่วงย้อนความหลัง พิธีกรชงเก่งมากกกก ถ้าไปร้านเหล้านี่แก้วแตกยกบาร์แล้วค่า 55555


    ปิดงานด้วยพิธีแต่งงานไปเลย!


    และนี่ก็คือพิธีแต่งงานโดยสแตนดี้และทีมงานชาวเรือค่ะ


              จริงๆ มันก็คือชักภาพหมูปิดงานนั่นแหละค่ะ แต่ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นพิธีแต่งงานของสแตนดี้ซะงั้น 5555555 เป็นช่วงเวลาที่ตลกมาก (ตรงที่ทุกคนทำเหมือนว่าเราไปชักภาพกับเจ้าตัวจริงๆ 55555) น่ารักและอบอุ่นใจมากสำหรับเราเหมือนกับได้มีเวลาที่ได้อยู่กับคนที่รักที่เชื่อในความสัมพันธ์เดียวกัน มันเป็นอะไรที่น่ารักจริงๆ และทำให้เรารู้สึกว่าเราตกลงเรือที่ใช่สำหรับเราแล้วจริงๆ ขอบใจที่ให้เราลงเรือนี้นะเว้ย // ตบบ่ากัปตัน



    แค่วางคู่กันก็คู่สร้างคู่สมแล้ว บ้าจริง // ทุบโต๊ะ


    ฟิกชั่นซะหน่อยไหม


           ในบรรดาของที่ทางงานทำขึ้นมาขายเป็นที่ระลึก บอกตรงๆ ว่านี่คือสิ่งเดียวที่เราอยากได้ ก็คือฟิกชั่นโปรเจคในธีมงาน ‘S E C R E T’ ที่เป็นฟิกชั่นใหม่ที่ไม่มีอ่านที่ไหนนอกจากในเล่ม กับนักเขียน 6 คนที่เราชอบงานเขามากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยซื้อแบบตั้งอกตั้งใจ พร้อมกับทำมิชชั่นขอลายเซ็นคนเขียนไปด้วยเลย เพราะไม่ง่ายที่จะเจอเกือบทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็นั่นแหละค่ะ มิชชั่นคอมพลีต!



    ตั้งใจขอแต่ไม่ให้เขาเขียนชื่อจริง เอาแอคทวิตมาเล่นกันเลยดีกว่า!


              และเพราะเราอ่านจบทุกเรื่องแล้วรอบนึง (ใช้เวลารอบีทีเอส - นั่งบีทีเอส - รอข้าวมา) ก็เลยอยากมารีวิวแบบสั้นมาก เพราะถ้ายาวก็สปอยแน่ๆ ตามประสา 55555555


    1. SUGAR - DADDY by yangqing

    เจ้าของฟิกไขว้นิ้วที่ขึ้นชื่อเรื่องความกามในเนื้องาน(จริงๆนะ) กับความลับของแด๊ดดี้และลูกชายวัย 17 ที่อ่านจบแล้วก็อยากจะร้องว่าศีลธรรมมมมมมมมมมม เป็นความลับสีเทาแดงที่แบบ ฮือ ขอมินฮยอนมาเรียกตัวเองว่าหนูต่อหน้าสักครั้งแล้วจะตั้งใจเรียนค่า! (ชีวิตจริงทำไม่ได้อะ ตัวจริงแก่กว่าเรา 5555) 


    2. Encaged Moon by DIMLIGHT

    เจ้าของเรื่องสั้น #ทรมฮบ กับเรื่องของกีแซงหนุ่มและไต้เท้าปริศนา อ่านช่วงแรกอาจจะต้องลูบหน้านิดนึง แต่หลังๆ กลับเป็นความเศร้าหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มู้ดโทนเรื่องกลายเป็นศาลาคนเศร้าไป เป็นรักที่ทำให้เรายิ้มออกมาเมื่ออ่านถึงตอนจบค่ะ ยังไงท้องฟ้าก็ยังต้องหาพื้นที่สบายใจของตัวเองอะเนาะ :)


    3. Class 12 - A by Buttheknee

    คุณนัตที่เราอ่านงานเขามาตั้งแต่ซูนฮุน(คู่ชิปในเซเว่นทีน) ลามไปถึงคู่อื่นที่ไม่ได้ชิป ซึ่งดีใจมากที่เขาก็ชิปบินมิน 55555 เรื่องของเด็กปีนเกลียวกับติวเตอร์คนเก่ง อ่านจบแล้วก็รู้สึกว่านี่มันงานคุณนัตจริงๆ นะเนี่ย สำนวนขี้เล่นน่ารักแบบนี้น่ะ 5555 เป็นเรื่องรักที่หวานแบบปั๊ปปี้เลิฟฉบับเด็กม.ปลายจริงๆ เลย


    4. Red lips and Rosy Cheeks by daisieelady

    เจ้าของ #HwangandtheKwon ที่บอกไว้ว่า เรื่องนี้คือหนังโป๊ ซึ่งเราไม่ปฏิเสธนิยามนี้เลยค่ะ  55555 แบบอ่านไปก็หน้าร้อนวูบวาบไป ลิปแดง ขาหยั่งเฟรมวาดรูป เหล้า บุหรี่ เสื้อคลุม ก็คิดดูละกันว่ารักลับๆ ของจิตรกรสองคนมันจะโป๊ไปถึงไหน 5555 แต่ก็ยังคงรักษาซิกเนเจอร์คนเขียนได้แบบ อ่า นี่แหละงานเขาละ


    5. Escaping reality by pitApat_MHB

    เจ้าของฟิกลิลลี่แห่งหุบเขาหนึ่งเดียวคนนี้ กับฟิกที่คนเขียนบอกว่าฝืนจริงๆ กับคาแรคเตอร์หนุ่มหล่อสุดทื่อกับหนุ่มเอาแต่ใจแถมกากระดับท๊อปที่แบบอยากบอกว่า ฝ่าบาทของใครหลายคนมีเมียได้ก็จริง แต่มีเมียแบบฮยอนบินในเรื่องนี้ได้คนเดียวนะจ๊ะ :)


    6. Tie A Red Ribbon by babyfhk

    เจ้าของบินมินสตอรี่ที่เราชอบ กับเรื่องของบก.และนักเขียนหนุ่ม คนเขียนออกตัวว่าไม่เคยเขียนแนวนี้ แต่อยากบอกว่าเราชอบแนวนี้มากเลยค่ะ! แบบมันกร๊าวใจเบาๆ กับปริศนาที่คนนึงซ่อนไว้และความกลัวของคนอีกคน แบบ ฮื้อ ออกมาน่าพอใจมากเลยนะคะสำหรับเรา


    ส่วนเรื่องเล่ม รูปสวยมาก แต่คำผิดก็มีพอสมควรและทำให้สะดุดเวลาอ่านเหมือนกันนะ




    และนี่ก็คือภาพรวมที่เรารู้สึกกับงานนี้ค่ะ บอกได้ว่าไม่ผิดหวังที่หลุดออกจากถ้ำมาหวีดร่วมกับชาวบ้านที่ชอบอะไรแบบเรา ได้เพื่อนใหม่ ได้สนุกสนานแม้ว่าเรือจริงเราจะแห้งแล้ง (มีคนบอกเราว่า แห้งที่ไหนละ พายด้วยน้ำตาชิปเปอร์เถอะ 5555) ทำให้รู้ว่าหวีดคนเดียวไม่สนุกเท่าหวีดกันเยอะๆ และเรือเรามันแล่นได้ด้วยพลังชิปเปอร์จริงๆ ด้วย 55555 ขอบคุณสำหรับของแจกที่แฟนๆเตรียมมานะคะ น่ารักทุกอันเลย แม้ว่าจะมีเดดแอร์ให้งงๆ แต่โดยรวมคือทีมงานเก่งมากค่ะ // พักซูแรงๆ ขอบคุณที่จัดงานที่รวมตัวชาวเรือที่เล่นใหญ่ที่สุดในน่านน้ำครั้งนี้ขึ้นมานะคะ


    จนกว่าโกมุโรล่าจะอัพไอจีจีบออฟติมัสฮวังได้อีกครั้ง ก็หวังว่าเราจะได้สนุกกันอีกหนนะคะ


    จากคุณป้าหมายเลข 28 ทีม A









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in