ปิดเทอมนี้โคตรน่าเบื่อ!!
เป็นความคิดของอีกีกวังที่คิดมาประมาณไม่ต่ำกว่า10รอบของวัน น่าเบื่อมากๆ
เบื่อกับการตื่นเช้ามาช่วยที่บ้านขายของ
เบื่อกับการไม่ได้ไปเที่ยว
เบื่อที่เพื่อนติดผู้กันหมด
เบื่อกับการที่แฟนตัวเองต้องฝึกงานแล้วไม่ได้เจอกัน ไลน์ไปก็ไม่ค่อยตอบ โทรไปก็เกรงใจ
เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ เบื่อ
"ทำหน้าเป็นตูดอีกละ"
เบื่อไอ้พี่ข้างบ้านนี้ด้วย ชอบจังเลยเนี่ยมายุให้โมโหเขาทุกเช้า พอเห็นเขาโมโหแล้วบอกว่าอารมณ์ดีไปทำงานได้แล้ว แบบโรคจิตแน่ๆ ถ้าไม่ติดว่ารู้จักกันตั้งแต่เด็กก็จะหาว่าบ้า แต่เห็นแก่ความที่เด็กๆเคยเล่นด้วยกันมาเอาแค่สมองกลับก็แล้วกัน
"เอ้า พูดด้วยไม่พูดด้วย คนเราอะหยิ่งก็งี้"
"โอ้ยยย พี่ดูจุนนนน ไปทำงานไป๊!"
"5555555555 พี่ไปละ อารมณ์ดี~"
แฟนก็ไม่ได้เจอ ยังได้เจอคนบ้าอีก
"กีกวั๊งงงงงงงงง~"
"โอ้ยพี่ เบา ลูกค้าตกใจไหม มาทำไมได้ทุกเช้าเย็นเนี่ย"
"ป่าววววว แค่มาบอกว่าฝากดูแลบ้านด้วยวันนี้จะไปกินข้าวกับแฟน"
"เอิ่ม ไปไหนก็ไป รำคาญ"
"ว้ายๆ คนแฟนไม่ว่าง"
"ไอ้พี่ดูจุน!"
เบื่อหน้ามัน เบื่อหน้าไอ้พี่ดูจุน
"ดูจุน"
"ครับคุณน้า"
"เห็นกีกวังไหม?"
"???"
งงเลยสิ คนเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานอยู่ๆคุณน้าหรือแม่ของกีกวังก็เรียกเขาไปถามว่าเห็นกีกวังไหม บอกว่าเมื่อกี้หายไปคุยโทรศัพท์ในบ้านพักใหญ่ๆ เหมือนทะเลาะกับแฟนเสียงดังไป5บ้าน8บ้าน พอเสร็จก็วิ่งออกจากบ้านไป นึกว่าสวนทางกัน เดือดร้อนให้เขาหาอีกแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต
"ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ" ว่าให้แล้วก็นั่งลงข้างๆคนที่อยู่ๆก็หายออกมา
"..."
"พอมีเรื่องอะไรก็ชอบวิ่งมาหลบที่นี้"
"..."
"คนอื่นเขาเป็นห่วงนะรู้ไหม"
"..."
"พ่อแม่เราเอ่ย น้องชายเราเอ่ย เขาหาเราให้วุ่นเลย"
"แล้วพี่หมาเป็นห่วงน้องไหมละ" สรรพนามที่เรียกกันมาตั้งแต่ที่กีกวังบอกว่าชื่อเขามันเรียกยากเลยเปลี่ยนชื่อให้แทน ได้ถูกยกมาใช้อีกครั้งเมื่อเจ้าตัวมีเรื่องไม่สบายใจ
"..." เงียบ ไม่ใช่ไม่มีคำตอบให้กับน้องมัน แต่น้องมันคงไม่ต้องคำตอบหรอก ทำได้เพียงจับหัวทุยซบลงที่บ่า เพื่อเป็นการบอกว่าเขาอยู่ตรงนี้แล้ว
ไม่มีเสียงพูดคุยหรือแม้สะอื้นใดๆ มีเพียงความเงียบและความเปียกชื้นที่ไหล่ของคนพี่เป็นเท่านั้น
เขาไม่รู้หรอกว่าคนน้องกำลังเจอเรื่องอะไร แต่มันคงเป็นเรื่องที่ไม่สบายใจเอามากๆแน่ เพราะคนที่ยิ้มง่ายอย่างกีกวังน้อยนักที่จะร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ถึงว่าเขาเป็นผู้โชคดีดีไหมนะ ที่มักจะอยู่กับเจ้าตัวเวลาร้องไห้
"ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้หรอพี่ดูจุน ทั้งๆที่เราก็ใจตรงกัน"
คำถามที่อยู่ๆก็ขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยได้ถูกถามให้กลับคนเป็นพี่ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่เขาร้องไห้ไปเมื่อกี้เลย เอ๊ะ หรือเกี่ยวกัน
"เพราะเรามีแฟนกันทั้งคู่ไง" ไม่ว่าเปล่าเอามือลูบหัวคนน้องอย่างเอ็นดูและแบบที่ชอบทำ
"ไม่ใช่สิ ตอนนั้นเราก็ยังไม่มีไง"
"กีกวังควรไปเจอคนที่ดีกว่าพี่ไง"
"แล้วพี่ไม่ดีตรงไหนละ พี่ไม่เคยทำให้กวังเสียใจเลยนะ"
"?"
"อีก2เดือนนะ"
"..."
"สัญญาของเราอ่ะ อีก2เดือนนะ จะถึงแล้ว ตอนนี้กวังเลิกกับแฟนแล้ว เหลือแต่พี่อ่ะ"
"พี่นึกว่าเราลืมไปแล้วซะอีก"
"อีก2เดือนเราจะรักกันอย่างเปิดเผยได้แล้วใช่ไหม"
"ไม่รู้สิ"
"เบื่อ อืมมมมมมม" อีกแล้ว เป็นแบบนี้อีกแล้ว พอเขาพูดว่าเบื่อทีไรอีกคนชอบปิดปากของเขาด้วยปากตัวเองอยู่เรื่อยเลย ตั้งแต่ตอนนั้นก่อนที่สัญญาของเราจะเกิดขึ้น
'พี่หมา น้องชอบพี่อ่ะ'
'ครับ'
'ไม่ตอบอะไรหน่อยหรอ'
'พี่ก็ชอบเราเหมือนกัน'
'งั้นเราก็คบกันได้สิ'
'ไม่ได้หรอก น้องควรไปเจอคนที่ดีกว่าพี่รู้ไหม'
ใช่ ตอนนั้นคือไม่เข้าใจ ทำไมล่ะในเมื่อเราก็ใจตรงกัน ทำไมเราถึงคบกันไม่ได้ ไม่เข้าใจพี่ดูจุนเลย หรือเหตุผลของผู้ใหญ่มันซับซ้อนขนาดนี้เลยหรอ
'งั้นเรามาทำสัญญากัน อีก3ปีถ้าเรายังมีความรู้สึกให้กันเหมือนเดิมเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันใหม่'
'ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่จะรอให้ถึง3ปีนั้นละกัน'
จูบแบบที่ไม่ใช่ปากแตะปาก
จูบแบบไม่ได้รีบร้อน
จูบแบบไม่ได้ร้องแรงที่บดขยี้กันและกัน
ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาเป็นจูบที่ไม่มีความหวือหวาใดๆ แต่อบอุ่นไปทั่วหัวใจ
"นี้ถือว่ามัดจำละกัน พี่ไม่ลืมหรอก สัญญาอ่ะ"
"แล้วพี่ก็เลิกแล้วเหมือนกัน"
ใช่ว่าตอนนั้นเขาไม่อยากคบกับคนตัวเล็กนี้เพียงแต่เขากลัว กลัวว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่เคยชินของกันและกันเพราะเราอยู่บ้านใกล้กัน กลัวว่าจะไม่ใช่ความรัก แล้วอีกอย่างตอนนั้นน้องกำลังเข้ามหา'ลัย ชีวิตมหา'ลัยมีไรเยอะแยะ มากกว่าจะมาติดกับพี่ชายข้างบ้านอย่างเขา
แต่ผ่านไปจะครบ2ปี ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in