เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โรงเรียนประถมฯ ผมกับวรรณ และส่วนสูงของเราเปลวเพลิง ปะทัพพิรุณ
ป.6 (6)
  • เก๋คือเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่ผมมีเริ่มความสนิทสนมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ

    สถิติการวัดส่วนสูงสองครั้งแรกสมัย ป.6 ช่วยยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่าผมกับเก๋ตัวสูงเท่ากันแล้ว หลังจากเธอเตี้ยกว่าผมมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นอนุบาล-ป.5 

    ปรากฏการณ์ที่เพื่อนซึ่งเคยเตี้ยกว่าตนเองหลายเซนติเมตร สามารถพลิกเกมกลับมาตัวสูงพอๆ กับเราได้ ภายในเวลาไม่นาน สร้างความหวั่นใจให้แก่ผมอยู่ไม่น้อย

    ทว่า อีกแง่หนึ่ง ความสูงที่ทัดเทียมกันก็ส่งผลให้ผมเริ่มสนใจในตัวเก๋

    แม้ตอน ป.6 ผมกับเก๋จะเรียนอยู่คนละห้อง แต่เวลาพบหน้ากันช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน ผมมักทักทายเธอว่า “เป็นยังไง? ยัยเปรต” ก่อนที่เก๋จะชอบตอบโต้กลับมาเป็นสูตรสำเร็จว่า “ถ้าชั้นเปรต แกก็เปรตเหมือนกันแหละวะ เพราะเราสูงเท่ากัน”

    ผมชักมีความเห็นคล้อยตามเจ้าพล ว่าเก๋ที่ตัวสูงขึ้น ก็จัดเป็นผู้หญิงสวยสง่าคนหนึ่งของรุ่น ผมจึงพยายามสร้างบทสนทนาเชิงต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่อย่างสม่ำเสมอ หรือบางทีก็หาโอกาสร้องเพลงรักหวานๆ ให้เธอฟัง

    เมื่อเปิดเทอมสองของ ป.6 ผมและเก๋ก็ยังตัวสูงระดับเดียวกันอยู่ กระทั่งช่วงปลายเทอมนั่นแหละ ที่ผมเริ่มได้ยินข่าวคราวแปลกใหม่บางประการ

    วันหนึ่ง ระหว่างต่อคิวรับอาหารเที่ยง หลังวัดส่วนสูงครั้งสุดท้ายประจำปีการศึกษาเพียงไม่กี่วัน ผมมีโอกาสได้ยืนอยู่ข้างหลังแจน

    ตั้งแต่เปิดเรียนชั้น ป.6 เป็นต้นมา แจนตัวสูงกว่าผม 2 เซนติเมตรโดยตลอด

    ตอนผมสูง 151 ซม. เธอก็สูง 153 ซม. พอผมสูง 153 ซม. เธอก็สูง 155 ซม. ครั้นผมสูง 155 ซม. เธอก็สูง 157 ซม.

    อย่างไรก็ตาม ตอนเที่ยงวันนั้น ผมกลับรู้สึกว่าตนเองคล้ายจะตัวสูงสูสีกับแจนอีกครั้งหนึ่ง

    “ไง แจน ล่าสุดสูงเท่าไหร่แล้ว?” ผมไม่อยากนึกเดาเอาเองอยู่ในใจ จึงลองตั้งคำถามออกไป

    “158 ว่ะ แกล่ะ?” แจนตอบและถามกลับมา

    “157” ผมตอบและพูดคุยต่อกับแจนอีกหลายประโยค แต่ใจกลับไม่ได้อยู่ที่บทสนทนาเหล่านั้นแล้ว เพราะความนึกคิดของผมกำลังลิงโลดเหลือประมาณ เมื่อพลันพบว่าตนเองเตี้ยกว่าแจนแค่ 1 เซนติเมตร!

    หมายความว่าพัฒนาการด้านการเจริญเติบโตของผมย้อนกลับมามีประสิทธิภาพเหนือกว่า แจน อีกหน

    บนโต๊ะอาหาร ผมจึงกินข้าวไปร้องเพลงไป และมีอารมณ์ดีต่อเนื่องนานนับชั่วโมง

    จนได้มายืนต่อคิวรับอาหารว่างตอนบ่ายสามโมงใกล้ๆ ก้อย

    “ไง สูงเท่าไหร่แล้วก้อย?” ผมถามคำถามเดิมกับเพื่อนอีกคน

    “156 แกล่ะสูงเท่าไหร่แล้ว?” ก้อยตอบและถามกลับมาเหมือนแจนเช่นกัน

    “157” ผมตอบคำตอบเดิมๆ พร้อมนึกกระหยิ่มใจ

    “วันนี้วันดีว่ะ แจนก็สูงกว่าเราแค่เซนต์เดียว ส่วนก้อยก็ยังสูงไม่เท่าเราซะที” ผมสนทนากับตัวเองโดยไม่เปล่งเสียง แต่จู่ๆ ข้อมูลใหม่จากปากก้อย ก็ทำให้ฝันหวานดังกล่าวสูญสลายลง

    “เออ นี่เมื่อก่อนแกสูงเท่าเก๋ใช่มั้ย? รู้มั้ย ล่าสุด พวกเพื่อนห้อง 3 เล่าให้เราฟังว่าเก๋มันวัดส่วนสูงที่โรงยิมได้ 158 แล้วนะ สูงเท่าแจนเลย สูงกว่าแกด้วย เรายังสงสัยว่ามันโม้รึเปล่าวะ? อย่างเก๋เนี่ยนะจะสูงถึง 158?” ก้อยแจ้งข่าวพร้อมตั้งข้อสงสัย

    พอรู้ว่าตนเองอาจตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้แก่เก๋ ตลอดสัปดาห์นั้น ผมก็พยายามหาทางไปยืนคุยกับเธอ 2-3 หน และได้ข้อสรุปว่าเก๋น่าจะตัวสูงกว่าผมอยู่นิดหน่อยจริงๆ

    ซึ่งนั่นส่งผลให้ผมรู้สึกหลงใหลเธอเพิ่มมากขึ้น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in