เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ห้องตรวจหมายเลข 5นักเล่าเรื่อง
สาย (ไม่) ด่วนสุขภาพจิต
  • ในยุคที่คนไทยเผชิญกับภาวะซึมเศร้ามากขึ้นอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้น และคนต้องการความรวดเร็วมากขึ้นตอนนี้จึงมีสายด่วนสุขภาพจิตที่รับปรึกษาปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ใช่แค่ปัญหาการฆ่าตัวตายเท่านั้นแต่พวกเขารับฟังปัญหาทั่ว ๆ ไปที่คนเราต้องเผชิญและอาจนำไปสู่ปัญหาทางจิตได้ในที่สุดหมายเลขที่จะโทรไปปรึกษาปัญหาพวกนี้ได้ฉันรู้จักแค่ 2 หมายเลขคือ 1323 สายด่วนสุขภาพจิตคนที่ให้คำปรึกษาเป็นนักจิตวิทยาที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์และหมายเลข 02-713-6793 ของสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทยผู้ที่ให้คำปรึกษาจะเป็นอาสาสมัครที่ถูกฝึกมาเพื่อรับปรึกษาปัญหาด้านจิตใจโดยเฉพาะ

    จากการที่ฉันโทรไปปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต1323มาหลายครั้ง คู่สายของเขาจะไม่ค่อยว่าง ต้องรอนานสักหน่อยและยังเคยประสบปัญหามีคนโทรป่วนมากมาย ทำให้ล่าสุดที่ฉันโทรไป (เดือนมีนาคม 2562) จะมีคนรับสายก่อนแล้วถามถึงปัญหาที่ต้องการปรึกษาเบื้องต้นก่อนจะโอนสายให้นักจิตวิทยาต่อไปซึ่งคู่สายก็จะไม่ว่างอีกเช่นกัน ต้องใช้เวลารอนานพอสมควร เพราะฉะนั้นจะเห็นแล้วว่ามีผู้ที่ต้องการปรึกษาปัญหาทางด้านจิตใจมากมายใครที่จะโทรป่วนสายด่วนประเภทนี้ (รวมถึงสายด่วนสุขภาพอื่น ๆ)ขอให้ตระหนักไว้เสมอว่าสักวันหนึ่งมันอาจจะเป็นคุณที่กระวนกระวายใจต้องการปรึกษาหรือพูดคุยกับใครสักคนเพื่อแก้ปัญหาที่คุณเจอ

    สำหรับคนที่ต้องการโทรหาสายด่วนสุขภาพจิตหรือสมาคมสะมาริตันส์ขอบอกไว้เลยว่าอย่าเพิ่งไปเสิร์ชหารีวิวต่างๆ ในเว็บไซต์ เพราะจะทำให้คุณเสียความมั่นใจ และรู้สึกอคติกับพวกเขาได้เมื่อคนเราอคติกับคนที่จะคุยด้วยแล้วต่อให้วิธีแก้ปัญหาที่พวกเขาแนะนำมาจะดีและมีเปอร์เซ็นต์ได้ผลสักเท่าไหร่ก็ตามคุณก็จะไม่ต้องการทำตามคำแนะนำอยู่ดี ถ้าหากกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวแล้วล่ะก็ขอให้ตัดความกังวลนั้นทิ้งไปได้เลยอย่างมากที่เขาถามก็จะเป็นอายุและอาชีพที่ทำอยู่ก็เท่านั้นเนื่องจากข้อมูลเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ในการให้คำแนะนำของเหล่านักจิตวิทยาหรืออาสาสมัครได้

    ฉันได้ยินเรื่องสายด่วนสุขภาพมานานหลายปีแล้วถ้าจำไม่ผิดน่าจะตอนเรียนมหาวิทยาลัยครั้งแรกที่ฉันโทรไปหาสายด่วนสุขภาพจิตคือตอนที่ฉันหาของไม่เจอ! เห็นไหมว่าสายด่วนสุขภาพจิตปรึกษาปัญหาได้ทุกเรื่องจริงๆ ตอนนั้นของที่ฉันหาไม่เจอคือสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาพาสปอร์ตที่มีลายเซ็นของฉันอยู่ครบถ้วน ซึ่งถือว่าสำคัญมากรวมทั้งตอนนั้นมีข่าวที่มีหญิงสาวคนหนึ่งทำสำเนาบัตรประชาชนหายและโดนผู้ไม่หวังดีเอาสำเนานั้นไปใช้ทำธุรกรรมผิดกฎหมายจนหญิงสาวคนนั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมากมาย

    ในตอนนั้นทะเลความคิดของฉันมันเริ่มแปรปรวนฉันคิดไปต่าง ๆ นานาว่าใครสักคนอาจหยิบสำเนาพวกนั้นของฉันไปและเอาไปกู้หนี้ยืมสินเป็นสิบล้านหรือร้อยล้านจนฉันตายก็ตามใช้หนี้ให้ไม่หมดฉันรู้สึกกระวนกระวายและเริ่มร้องไห้ สิ่งที่อยู่ในมือตอนนั้นคือมือถือปุ่มกดเก่า ๆสีแดง 1เครื่อง ฉันตัดสินใจกดหมายเลข 1323 และรอไม่นานก็มีคนมารับสาย

    สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ยินดีให้บริการค่ะ

    พี่คะ หนูมีปัญหา หนูหาของไม่เจอ และของนั้นสำคัญมาก

    ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่คะ เรียนอยู่ใช่ไหม

    เรียนมหาลัยอยู่ค่ะ อายุ 22 ปีค่ะ

    ใจเย็น ๆ นะคะ หายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกช้า ๆ ตามจังหวะที่พี่บอกนะคะ

    ฉันหายใจตามจังหวะที่นักจิตวิทยาบอก

    ทีนี้ลองนึกดูให้ดี ๆ ว่าที่สุดท้ายที่หนูเห็นของสิ่งนั้นคือที่ไหน

    ฉันและนักจิตวิทยาพูดกันไปกันมาอีก2-3 ประโยค สุดท้ายแล้วฉันหาไม่เจอหรอก แต่เขาทำให้ฉันหายกังวลไปได้ระยะหนึ่งถึงแม้ฉันจะกังวลเรื่องสำเนานี้อยู่นานประมาณ 2 อาทิตย์หลังจากนั้นแต่เขาก็ช่วยให้ฉันกังวลได้อย่างใจเย็นไม่ได้กระวนกระวายเหมือนก่อนโทรไปหาสายด่วนฯแล้ว

    ครั้งที่สองที่ฉันโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตคือหลังจากหาหมอครั้งที่2 ฉันมีเรื่องร้อนใจและคำถามมากมายเกี่ยวกับโรค OCD และไม่สามารถรอจนถึงวันนัดหมอครั้งที่3 ได้ (หมอนัดฉันทุก ๆ 5 สัปดาห์) ฉันจึงโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323คราวนี้ต้องรอนานเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะช่วงนี้คนฮิตโทรกันเข้าไปปรึกษาแล้ว

    หมอวินิจฉัยว่าฉันเป็นโรค OCD ค่ะแต่ฉันกำลังสงสัยอะไรหลาย ๆ อย่างว่าฉันอาจจะไม่ได้เป็นจริง ๆ ก็ได้ฉันบอกสายด่วนฯไปหลังจากซักประวัติกันแล้วเรียบร้อย

    คุณมีอาการยังไงคะแล้วฉันก็เล่าเรื่องที่สมองฉันจมอยู่ในจินตนาภาพและความคิดด้านลบทั้งหมด

    เรื่องของตัวโรคดิฉันไม่สามารถยืนยันได้ว่าคุณหมอวินิจฉัยผิดหรือถูกแต่ถ้าคุณหมอวินิจฉัยมาอย่างนั้นคุณควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้และเข้าใจโรคนี้

    ฉันไม่เข้าใจคำว่าเข้าใจโรคเลย ฉันรู้ว่า OCD คืออะไรมีกี่ประเภท นี่เรียกว่าฉันเข้าใจโรคนี้รึยังคะ

    คุณรู้จักโรค OCD แต่ยังไม่เข้าใจโรค OCD”

    หืม?!”

    ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคุณเป็นโรคนี้ คุณรู้จักมันแล้วสิ่งที่คุณควรทำต่อไปคือ กินยาตามที่หมอบอก ออกกำลังกายทำทุกอย่างที่หมอแนะนำและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของภาพที่เข้ามาทำร้ายคุณ

    แต่ฉันกำจัดมันออกไปไม่ได้ ฉันถึงต้องไปพบจิตแพทย์ไงคะ

    หลังจากนั้นสายด่วนก็ถามคำถามฉันหลายอย่างเช่น มาทำงานยังไง,รถติดไหม, มีสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า, ชอบสัตว์อะไร ฯลฯ ฉันตอบได้ทุกคำถามเพราะมันไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวที่ต้องปกปิด

    ตอนที่คุณกำลังตอบคำถามดิฉันอยู่ ภาพมันเข้ามาทำร้ายคุณไหมคะ

    เอ่อ...ไม่ค่ะเออนั่นน่ะสิ

    เห็นไหม คุณเบี่ยงเบนความสนใจจากภาพพวกนั้นได้ ไม่ใช่ว่าคุณทำไม่ได้เพียงแค่คุณต้องอยู่กับปัจจุบัน คุณทานมื้อเที่ยงรึยังคะ?”

    ยังค่ะฉันใช้เวลาพักเที่ยงมาโทรหาสายด่วนสุขภาพจิตและมีอาการเบื่ออาหารเนื่องจากยา Serlift

    ตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว มื้อเที่ยงที่คุณควรจะทานคุณยังไม่ทานเลย สิ่งที่คุณควรทำคือกินอาหารให้ปกติและออกกำลังกายตามที่หมอบอกไม่ใช่เหรอคะ

    ค่ะเออ...จริงด้วย

    ตอนไหนที่คุณอยู่คนเดียวแล้วภาพร้าย ๆ มันเข้ามาในหัวคุณอีก เอาอย่างนี้ไหมคะคุณเขียนมันออกมาให้เห็นภาพมากขึ้น แล้วคิดถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับมันสิ่งที่ตรงความกับความร้ายคือความดีใช่ไหมล่ะคะ

    จะลองดูค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ดิฉันเป็นกำลังใจให้นะคะ สวัสดีค่ะ

    เนี่ยวิธีบำบัดของโรคพวกนี้มันก็ง่าย ๆ อย่างนี้นี่เองเพียงแต่คนที่เป็นโรคทางจิตเวชหลายคนไม่ใช่แค่ OCD มักจะจมอยู่กับคำว่าฉันทำไม่ได้หรอก จนไม่ได้ลงมือทำอะไรเพื่อแก้ไขในสิ่งที่เป็นคนที่เป็นโรคทางจิตเวชถึงแม้จะมีระดับสารเคมีในสมองไม่สมดุลแต่สิ่งที่คนทุกคนทำได้คือ เลือกที่จะควบคุมโรคหรือปล่อยให้โรคมาควบคุมสมองของคุณก็เท่านั้นเอง มันอาจจะยาก แต่อย่างที่ได้อ่านไปแล้วข้างบน ยากแต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เพียงแค่เรายังไม่ลงมือทำ

    ในส่วนของสมาคมสะมาริตันส์ความรู้สึกที่โทรไปก็จะต่างกันออกไปเพราะคนที่มาคุยด้วยคืออาสาสมัครที่เทรนมาอย่างดี ไม่ใช่คนที่จบจิตวิทยาโดยตรงเวลาที่ตอบคำถามของฉันก็จะให้ความรู้สึกว่าเขาต้องใช้ความคิดเยอะกว่าสายด่วนสุขภาพจิตนิดหน่อยต้องใช้เวลาและอาจจะมีความคิดความเชื่อของตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในคำแนะนำด้วย

    สวัสดีค่ะสะมาริตันส์ค่ะ ต้องการปรึกษาเรื่องอะไรคะเจ้าหน้าที่พูดช้าๆ เนิบ ๆ น้ำเสียงคล้ายคุณป้า

    คือช่วงนี้ฉันมีความคิดว่าไม่อยากอยู่แล้วพอแล้ว เหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่แล้วน่ะค่ะหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องโรคทางจิตเวชที่ฉันเป็นจบแล้วฉันก็เริ่มเข้าเรื่องที่คิดอยู่ในใจ

    ทำไมคุณถึงคิดว่าชีวิตที่คุณใช้มาจนถึงทุกวันนี้มันถึงพอแล้วล่ะคะ

    คือฉันมีคอนโดมีงานดี ๆ ทำ มีเงินเดือน มีประสบการณ์ชีวิตมากมายและฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้วค่ะ

    คุณเป็นคนที่โชคดีมากเลยนะคะเน้นเสียงคำว่ามากเป็นพิเศษ

    คุณลองคิดดูสิคะว่าในโลกใบนี้ยังมีอีกกี่ล้านคนที่ไม่ได้มีอย่างคุณความจริงนี่คือคำที่ฉันไม่อยากได้ยิน

    มันเหมือนกับว่าฉันไม่สนใจว่าใครจะมีรึไม่มีอะไรแต่ฉันสนแค่ฉันมีทุกอย่างแล้ว แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีคือความสุขค่ะคนที่มีทุกอย่างมันก็ควรจะมีความสุขใช่ไหมล่ะคะ

    คุณเป็นคนที่โชคดีแล้วที่มีชีวิตที่มีทุกอย่างแต่คุณยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต คุณลองถามตัวเองดูนะคะว่าคุณเกิดมาเพื่ออะไร

    มันเป็นคำถามที่ฉันไม่รู้คำตอบค่ะ

    เอาอย่างนี้ไหมคะดิฉันว่าที่คุณมีทุกอย่างในวันนี้ให้คุณคิดว่าคุณเป็นผู้รับมาตลอดคราวนี้ลองมาเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ให้ดูบ้าง ตั้งเป้าหมายของชีวิตในแต่ละวันเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน เช่น วันนี้คุณยิ้มให้เพื่อนร่วมงานแล้วหรือยังการยิ้มให้ผู้อื่นมันคือความสุขเล็ก ๆ อย่างหนึ่งนะคะ

    อ๋อ...ค่ะ”

    คุณอาจจะออกไปหามูลนิธิหรือสมาคมที่ต้องการความช่วยเหลือลองค้นหาว่าคุณช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง เมื่อคุณได้รอยยิ้มกลับมาคุณจะพบกับความสุขในชีวิตค่ะ

    จะลองดูค่ะ

    ดิฉันเป็นกำลังใจให้คุณนะคะถ้ามีอะไรจะปรึกษาสามารถโทรหาสะมาริตันส์ได้เสมอนะคะ

    แล้วฉันก็วางหูไปการสนทนานี้ไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างที่เอามาเขียนคุณป้าใช้เวลาคิดวิเคราะห์คำพูดนานพอสมควร อาจมีพูดวกไปวนมาบ้างเพราะไม่ได้มืออาชีพเท่านักจิตวิทยาของสายด่วนสุขภาพจิตนอกจากนี้ยังมีการถามชื่อของผู้โทร ตรงนี้ฉันคิดว่าสามารถโกหกได้ถ้าไม่อยากให้รู้ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปหรือจะบอกชื่อเล่นไปเฉยๆก็ได้ยังไงเสียชื่อเล่นของฉันมันก็เชยจนซ้ำกับคนครึ่งค่อนประเทศอยู่แล้ว

    นอกจากพวกสายด่วนสุขภาพจิตที่ให้โทรกันได้ฟรีๆ แล้วยังมีพวกแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ต้องเสียเงินเพื่อปรึกษากับจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดด้วยเช่น Oocaเป็นเว็บและแอพพลิเคชั่นภาษาไทยที่ให้บริการให้คำปรึกษาทางใจโดยคิดค่าใช้จ่าย1,000 – 1,500 บาทแล้วแต่ว่าเราจะปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ อันนี้ฉันเองก็ไม่เคยลองเพราะไม่อยากเสียเงินรึไม่อย่างนั้นสำหรับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ ก็ลองเว็บไซต์ Betterhelp ที่สามารถแชท, วิดีโอคอลระบายความในใจขอคำปรึกษากับนักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์ได้ โดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นดอลล่าสหรัฐรายละเอียดค่าใช้จ่ายสามารถเข้าไปดูได้ใน https://www.betterhelp.com/faq/เชื่อฉันเถอะกว่าจะคิดคำภาษาอังกฤษออกให้ตรงกับความรู้สึกที่ยากจะอธิบายแค่นี้ก็เบี่ยงเบนความสนใจไปจากความหมกมุ่นของคนเป็นโรค OCD ได้มากแล้ว

    อีกวิธีหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็คือโทรเข้าไปทางรายการรับปรึกษาปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพี่อ้อยพี่ฉอด หรือพุธทอล์ค พุธโทรแต่พึงระวังไว้ว่าเรื่องราวของคุณอาจจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไปเพราะจะมีเพื่อนหรือญาติที่บังเอิญได้ฟังจะจำเสียงคุณได้หรืออาจมีการแสดงความคิดเห็นจากคนในสังคมออนไลน์ที่อาจจะทำร้ายจิตใจคุณยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับคนที่มีปัญหาด้านจิตเวชแล้ววิธีนี้ไม่แนะนำแต่ถ้าเป็นแนวทางที่คุณคิดว่าทำแล้วสบายใจ ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งก็แล้วกัน

                สายด่วนสุขภาพจิตอย่างสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงอันนี้จะด่วนไม่ด่วนขึ้นอยู่กับตัวบุคคลของทั้งผู้โทรเองและผู้รับสายนั่นคือโทรหาเพื่อนสนิทเอาเพื่อนสนิทที่ไว้ใจให้รู้ว่าฉันกำลังเป็นโรคทางจิตเวชซึ่งนอกจากเพื่อนเก่าที่ฉันตัดขาดไปแล้วก็มีอยู่คนเดียวที่บังเอิญว่าเรียนอยู่ต่างประเทศการจะกลายเป็นสายด่วนรึไม่นั้นมันดันขึ้นอยู่กับ Time Zone และอินเทอร์เน็ตจากการที่ฉันลองโทร (แบบฟรีๆ) ไปหาแล้วการโทรและระบายความรู้สึกกับเพื่อนสนิทนั้นมันรู้สึกโล่งใจแต่ในขณะเดียวกันจะมีความกังวลแปลก ๆ ขึ้นมาในสมองอีก

                ฉันแผ่รังสีความคิดด้านลบไปให้เขาอีกหรือเปล่านะ

              ฉันกำลังทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงอยู่ใช่ไหม

                จากประสบการณ์ชีวิตจากเพื่อนเก่าทำให้ฉันระแวงกังวล สับสน จึงไม่กล้าพูดอะไรมากนอกจากจะพูดเป็นเชิงบ่นถึงชีวิตทั่ว ๆ ไป เช่นการทำงาน, รถติด, เครื่องสำอางขึ้นราคา หรือเรื่องอาหารไม่อร่อยเสียมากกว่าและเช่นเดียวกันเพื่อนสนิทของฉันไม่ได้เรียนจบโดยตรงมาจากจิตเวชศาสตร์หรือจิตวิทยาเพราะฉะนั้นคำแนะนำของเขาก็คล้ายคำแนะนำของคุณป้าสะมาริตันส์คือพยายามทำความเข้าใจตัวฉัน และแนะนำสิ่งที่สอดแทรกความคิดเห็นหรือความเชื่อของตัวเองเข้ามาในบางครั้งความคิดเห็นหรือความเชื่อนั้นมันอาจไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากได้ยินก็ได้

                มีคนอื่นรักแกตั้งมากมายแต่แกมันไม่รักตัวเอง!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in