เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#30daymarknodiaryofmyboys
DAY - 29 Intervenor : Special [A Lost Key]
  • Title: Intervenor : Special [A Lost Key]

    Author: DiaryOfMyboys

    Warning: ตอนพิเศษจาก Day24-26 นะคะ





    ปัง !!!

     



    เสียงบานหน้าต่างที่ไม่สามารถปิดให้สนิทได้ถูกลมพัดมากระแทกเข้ากับกรอบหน้าต่างทำให้คนที่กำลังนอนซุกตัวอยู่บนฟูกเก่า ๆ ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน

     

    ความฝันน่ากลัวที่มาร์คฝันมันซ้ำ ๆ มาตลอดชีวิต25 ปีนี้

     

    มือหนาคว้าหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหมอนขึ้นมาเพื่อกดดูเวลาและพบว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาที่เค้าตั้งปลุกไว้แล้วจึงตัดสินใจลุกจากที่นอนไปอาบน้ำเพื่อออกไปให้ทันเวลาเข้างานระหว่างที่น้ำรินรดบนใบหน้าภาพความฝันนั้นก็ฉายเข้ามาในหัวของมาร์คอีกครั้ง

    ใครคนหนึ่งที่เค้าไม่เคยพบตัวจริงมาก่อนแต่กลับฝันเห็นซ้ำ ๆ ผู้ชายตัวเล็ก ๆบอบบางใบหน้าน่ารักนั้นจะส่งยิ้มตาปิดมาให้มาร์คเสมอแต่แล้วภาพทุกอย่างก็กลายเป็นสีแดงฉานของเลือดเมื่อเสียงดังกัมปนาทลั่นขึ้นมันคือฝันที่มาร์คพบเจอจนจำภาพต่าง ๆได้ขึ้นใจ

    อาบน้ำเสร็จชายหนุ่มเดินออกจากห้องน้ำมาแต่งตัวด้านนอกมองไปตามผนังห้องเช่าเก่า ๆโทรม ๆที่เค้าใช้อาศัยอยู่ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยภาพวาดใบหน้ายิ้มแย้มนั้นที่อยู่ในความฝัน มาร์คก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงวาดรูปคนคนนั้นขึ้นมาทั้งที่จริงแล้วเค้าค้นพบว่าฝันนั้นเป็นลางบอกเหตุร้าย ทุกครั้งที่ฝันถึง ในวันนั้นมาร์คจะต้องสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป

    เสียพ่อแม่ไปกับอุบัตเหตุ

    เสียทรัพย์สมบัติจากการโกงของญาติ

    เสียคนรักไปให้กับคนอื่น

    ซึ่งอย่างหลังสุดนั้นมาร์คชินกับมันเสียแล้วไม่ว่าจะคบกับใครจะต้องมีมือที่สามมาแย่งคนรักไปตลอดจนเค้าคิดว่าหัวใจดวงนี้คงต้องปิดตายมันสักที

     

    “เฮ้อ คุณคนน่ารัก วันนี้จะเอาอะไรไปจากผมกันอีกนะแค่นี้ก็ไม่มีอะไรเหลือแล้วนะครับ อย่าให้ถึงกับตกงานอีกเลย” เอ่ยกับภาพวาดที่อยู่ข้างประตูก่อนจะก้าวเท้าออกไปสู่โลกแห่งการแข่งขันในที่ทำงาน

    มาร์คจบสถาปัตย์มาและได้งานเป็นสถาปนิกในบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพราะเป็นบริษัทที่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรนักงานจึงมีเข้ามาไม่ค่อยเยอะนั่นรวมไปถึงเงินเดือนก็น้อยตามไปด้วย เค้าก็ไม่ได้เครียดอะไรเพราะรู้สึกอยากจะทำงานอย่างสบายใจมากกว่า ถึงบริษัทจะเล็กก็ตามพนักงานที่มีอยู่ก็ต้องต่อสู้กันด้วยผลงานอยู่ดี นั่นทำให้เค้ากังวลอยู่ลึก ๆเพราะงานของเค้าค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้โดนตีงานกลับมาแก้บ่อย ๆ

     

    “มาร์คงานที่ส่งไปคราวก่อนผ่านมั้ยวะ ต้องแก้ไรอีกป่าว”พี่แทยงเพื่อนร่วมงานที่นั่งติดกันเอ่ยถามขึ้น

    “ไม่มีแก้ไรนะพี่ คราวนี้ลูกค้าดูพูดง่ายอ่ะเห็นว่าเปลี่ยนคนมาดูงาน”

    “เออ ก็ดีละในที่สุดก็มีคนชอบใจงานมึงซะที ทำทีไรออกเทพนิยายซะโดนกลับมาแก้ให้เป็นโมเดิร์นหมด สงสัยคราวนี้เป็นสาวน้อยช่างฝันแหง นี่เค้าไม่ได้เห็นหน้าหล่อ ๆมึงจนไม่ดูงานหรอกใช่มั้ย”

    “บ้าเหรอพี่ ยังไม่เคยเจอเลยเถอะ แต่เห็นบอสบอกว่าวันนี้เค้าจะเข้ามาคุยที่นี่อยู่นะ”

    “มึงก็ไปแนะนำตัวกับเค้าหน่อย เผลอๆได้ตกถังข้าวสารใครจะรู้ ฮ่าๆๆๆๆ”

    มาร์คได้แต่ส่ายหัวให้กับคำแนะนำของพี่ชายคนสนิท ที่เชื่อไปสนิทใจแล้วว่าคนที่มาจ้างงานคราวนี้เป็นหญิงสาว

    วันนี้มาร์คทำงานไปแต่ในใจก็ยังกังวลไปด้วยว่าจะมีอะไรที่เค้าต้องเสียไปอีกนะในเมื่อตอนนี้งานก็ดูจะเรียบร้อยดี อย่างอื่นก็ไม่ได้มีค่าอะไร

    พักกลางวันหลังจากทานอาหารเสร็จยังเหลือเวลาอีกมากชายหนุ่มจึงตัดสินใจหยิบสมุดเสก็ตภาพตั้งใจว่าจะขึ้นไปนั่งวาดรูปเล่นบนดาดฟ้าที่จัดไว้เป็นสวนหย่อมสักพักให้จิตใจสงบลงบ้าง

     


    ปึก !!

     


    ไม่ทันได้ระวังตัวตอนที่จะเดินเลี้ยวตรงมุมห้องก็เกิดชนเข้ากับใครอีกคนเข้าอย่างจัง ข้าวของในมือของมาร์คหล่นกระจายแต่อีกคนที่ดูตัวเล็กกว่าเค้าล้มลงไปบนพื้น


    “ขอโทษครับ ขอโทษ ผมไม่ทันระวังเอง”คนที่นั่งอยู่บนพื้นก้มหน้าก้มตาขอโทษมาร์คเสียยกใหญ่มือขาวพยายามเก็บของที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา

    “ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ได้มองเหมือนกันคุณเจ็บรึป่าว” มาร์คย่อตัวลงไปตรงหน้า

    แต่คนที่ลนลานเก็บของให้เค้า อยู่ๆก็นิ่งค้าง เมื่อสมุดเสก็ตภาพของมาร์คในมือนั้นเปิดค้างอยู่ที่หน้าที่เค้าได้วาดภาพไปแล้ว ซึ่งมันเป็นภาพใบหน้าน่ารักที่กำลังส่งยิ้มอยู่นั่นเอง

    และเมื่อใบหน้าของคนที่ก้มหน้านิ่งอยู่เงยขึ้นมา คนที่ต้องเปลี่ยนเป็นนิ่งค้างกลับกลายเป็นมาร์คแทน


    ใบหน้านั้นที่มันไม่มีอะไรแตกต่างจากภาพวาดของเค้าและภาพในฝันนั้นเลย

    รวมถึงรอยยิ้มกว้างจนตาหยีที่มาร์คได้เห็นมันกับตาจริง ๆวันนี้ก็ด้วย

     

    “พี่มาร์ค !!”


    เสียงใสที่เอ่ยเรียกนั้นเป็นดั่งกุญแจที่ขาดหายไปมาปลดล็อคทุกความสงสัย เติมเต็มทุกภาพที่เคยสับสน และทำให้มั่นใจว่าโชคร้ายต่าง ๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

     

    มาร์คได้ชดใช้จนหมดแล้ว

     

    “เจโน่ !!”

    ชื่อของกันและกันที่ถูกเอ่ยออกมาอย่างถูกต้องกลั่นกรองมาจากภาพอดีตทุกภาพที่วิ่งเข้ามาในหัวของทั้งสอง โผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึงทั้งหมดที่มี และต่อไปนี้มาร์คสัญญากับตัวเองว่าจะรักษาคนตรงหน้านี้ไว้ไม่ให้ต้องพลัดพรากกันอีก

    มือของเราทั้งคู่จะมีแค่กันและกันตลอดไป

     

     

     

     

    ปัง !!!

     

     

     

     



    เสียงเปิดประตูกระทบผนังดังสนั่นพร้อมกับเสียงของพี่แทยงตะโกนลั่น

    “เฮ้ย มาร์ค!!!!!! มึงกอดคุณลูกค้าทำไม !!!!!”

     

     

     

    -The End-

    #inmarkno

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
baejuhyeol (@baejuhyeol)
พี่แทยงงงงงง เค้ากำลังจะซึ้งงงงงกันนนน 555555555555