เคยไหม? ทุกๆ วันหยุดหลังจากทำงานมาทั้งอาทิตย์ ร่างก็เหนื่อย ใจก็หน่าย อยากจะออกไปเที่ยวอยู่หรอก แต่ไม่รู้จะไปไหน ยิ่งเสาร์นี้เป็นวันเด็กด้วยคนต้องล้นทะลัก แถมรถติดเป็นหางว่าวแหงๆ (เราเข้าใจ) หรือถึงจะไปร่วมกิจกรรมวันเด็กกับเขาก็อาจจะโดนมองว่า แหม ก็ไม่เด็กแล้วนี่นะ ได้อีก (ช้ำใจก็ตรงนี้) ก็เพราะแบบนี้แหละ มินิมอร์เลยสรรหารวบรวมสถานที่เที่ยวทั้งในเขตกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงมาให้เลือกกัน จะไปในวันหยุดก็ได้ หรือจะไปวันธรรมดาก็ยิ่งดี แล้วบอกก่อนเลยนะว่า แต่ละที่สามารถปล่อยแก่ เอ้ย! ปลดปล่อยความเป็นเด็กออกมาได้อย่างไม่ต้องกั๊ก เอาล่ะ ไม่พูดเยอะละ เลื่อนลงไปดูเลย

1.      Snow Town Bangkok

ประเดิมที่แรกกับเมืองหิมะ Snow Town Bangkok ที่พิกัดอยู่ไม่ไกล แค่เดินทางไปเอกมัย ขึ้นไปที่ชั้น 5 ปุ๊บ! ก็เจอปั๊บ! นอกจากลานหิมะที่มีไว้ให้ได้เล่นอย่างจุใจแล้ว ยังมีการปล่อย “เกล็ดหิมะจำลอง” ออกมาให้ได้ฟิน><กันอีกด้วยนะ  โดยจะมีเวลาปล่อยเกล็ดหิมะจำลองวันละสามครั้ง ช่วงเวลา 12.00น. , 18.00 น.  และ20.00 น. พ่วงมาด้วยมาสคอตคุณหมีสีขาวสุดน่ารัก ร้านอาหาร และ ร้านค้า ที่เหมือนยกจากญี่ปุ่นมาตั้งไว้ยังไงยังงั้น

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ

2.      Dinosaur Planet

ย้อนเวลาไปยุคไดโนเสาร์ครองเมือง กับ Dinosaur Planet สวนสนุกในกรุงเทพที่รวบรวมเอาเหล่าสิ่งมีชีวิตล้านปีให้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง เสมือนคุณเข้าไปอยู่ในเรื่องจูราสสิคพาร์ค! จะว่าเป็นสวนสนุกเพียวๆเลยก็ไม่ใช่ เพราะนอกจากเครื่องเล่นแล้ว ที่นี่ยังรวบรวมข้อมูลของไดโนเสาร์ไว้ให้ความรู้ด้วยแถมด้วยโชว์ของเหล่าไดโน(เสาร์) ที่เขาบอกกันมาว่า ยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวงเลยเชียวล่ะ! ใครอยากลองไปเที่ยวดูสวยๆ คนเดียวหรือจะขนกันไปทั้งบ้าน  เชื่อเลยว่างานนี้มีร้องโอ้โห!

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ 

3.      Batcat Museum&Toy Thailand

แหล่งเที่ยวเอาใจแฟนคลับซูเปอร์ฮีโร่ยอดมนุษย์ค้างคาวแห่งเมืองก๊อตแธมอย่างแบตแมน(แต๊น แต่น) อยู่ใกล้ๆ แถวบางกะปินี่เองกับ Batcat Museum&Toy Thailand ว่ากันว่า ที่นี่มีของเล่นของสะสมของแบตแมนมากที่สุดในเอเชียเลยเชียวนะ  นอกจากคุณจะได้พบสุดหล่อยอดค้างคาวแล้ว ยังพ่วงมาด้วยฮีโร่อื่นๆ เช่น ซูเปอร์แมน สไปเดอร์แมน สตาร์วอร์ เอเลี่ยนส์ ทอยส์สตอรี่และผองเพื่อนอีกมากจากทุกมุมโลก เจอที่นี่เข้าไป แฟนบอยซูเปอร์ฮีโร่ได้ตาวาวร้องว้าวกันถ้วนหน้าเลยล่ะ!

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ

4.      พิพิธภัณฑ์สัมผัส

อาจจะเคยได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับร้านอาหารที่ให้ประสบการณ์แปลกใหม่ โดยการจำลองให้ลูกค้ารับประทานอาหารในความมืด เพื่อสื่อถึงความรู้สึกของผู้พิการทางสายตา  แต่ที่พิพิธภัณฑ์สัมผัสในอาคารโรงพยาบาลศิริราชแห่งนี้ เปิดโอกาสกับประสบการณ์ใหม่ ให้ผู้ที่มีสายตาปกติและผู้พิการทางสายตาได้เข้าร่วมชมพร้อมกัน เพื่อเรียนรู้เรื่องราวทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพในความมืด โดยการสัมผัสอวัยวะจำลองไปพร้อมกับการฟังเสียงจากเครื่องเล่นหูฟังเคลื่อนที่ ที่มีเสียงบรรยาย งานนี้การมองเห็นไม่ต้อง เราสื่อสารกันได้ด้วยใจ

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ 

5.      Tooney Toy Museum

เมื่อตะกี้พาไปเยือนเมืองของเล่นของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ละ ทีนี้ เราลองมาเที่ยวเมืองของเล่นอีกที่บ้างกับ Tooney Toy Museum อีกหนึ่งสถานที่ที่รวบรวมของเล่นจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว สะสมตั้งแต่โมเดลชิ้นเล็กไปจนถึงตุ๊กตาตัวโต แล้วก็ไม่ใช่แค่ของเล่นของสะสมของเด็กผู้ชายนะจ้ะ ของเด็กผู้หญิงก็มี แถมยังจัดเรียงวางเป็นหมวดหมู่ไว้ซะเก๋ไก๋  มินิมอร์เห็นแล้วอยากยกกลับไปวางไว้ที่บ้านเลยอะ!

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ 

6.      Teddy Bear Museum

สมัยที่ซีรีส์เกาหลี “เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา” ฮิตติดชาร์ตครองกระแสในบ้านเรา (ย้อนกลับไปหลายปีมากก) ต้องมีใครหลายคนคิดเหมือนที่มินิมอร์คิดมั่งล่ะว่า อยากจะไปพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบบในหนังมั่งสักครั้ง (ยอมรับมาซะดีๆ ) ซึ่งที่ Teddy Bear Museum พัทยาแห่งนี้ ก็ยกเอาน้องหมีจากในซีรีส์มาเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้ให้แฟนๆ ได้เข้าชม โดยได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์โดยชาวเกาหลี แบ่งได้ถึง 14 โซนด้วยกัน รวมตุ๊กตาหมีมากกว่า 2,000ตัว ทั้งไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่ มีทั้งในอาคารและกลางแจ้ง เรียกได้ว่าขนมาเพื่อให้ชมความน่ารักอย่างจุใจเลยทีเดียว อ๊ะ! หรือใครอยากได้น้องหมีกลับไปนอนกอดที่บ้าน ที่นี่ก็มี gift shop น่ารักๆให้เลือกช้อปด้วยนะ

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ 

7.      เมืองมัลลิกา

ปิดท้ายด้วยการพาย้อนเวลากลับไปในปี ร.ศ. 124 กับเมืองมัลลิกา เมืองโบราณจำลอง  น้องใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับใครที่ใฝ่ฝันอยากเป็นแม่หญิงสยามยุคห่มสไบ เดินเฉิดฉาย จับจ่ายเงินพดด้วงที่นี่เขามีให้หมดตั้งแต่บริการเช่าชุดโบราณทั้งชายทั้งหญิง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ (มาทั้งทีต้องจัดเต็ม!) บ้านเรือน อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ แม้แต่ภาษาพูด ที่นี่เขาอยู่กันในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 นะคุณ ภายในนอกจากมีที่ให้ถ่ายรูปสวยๆ เดินดูวิถีชีวิตและโชว์แสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยแล้ว ยังมีอาหารคาวหวาน ขนมนมเนย สูตรจากในวังที่เขาทำออกมาจำหน่ายให้ลองซื้อหามาชิม แถมจะซื้อได้ต้องแลกเงินจากธนบัตรไปเป็นเงินพดด้วงก่อนนะ ไม่งั้นไม่ขาย แหมเก๋ไก๋ขนาดนี้ก็จัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบเจ้าค่ะ!

พิกัดและรายละเอียดดูได้ที่นี่ นะ 

เป็นยังไงล่ะ รู้สึกอยากออกจากบ้านไปเที่ยวกันเลยใช่ไหม? (มินิมอร์ ก็อยากไป อิอิ) แนะนำเป็นตัวเลือก สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกไปต่างจังหวัดไกลๆ หรือคนที่เข้ามาเที่ยวในกรุงเทพแล้วไม่อยากเดินแต่ห้าง ใครไปเที่ยวแล้วได้รูปสวยๆหรือมีอะไรเด็ดๆ ก็กลับมาเล่าให้ฟังบ้าง มินิมอร์ รอฟังรีวิวอยู่นะเอ้อ