เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#แอบจดจากแอ๊บแจ๊บpleech x appjpling
6. 災害地名:คุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่!
  • อีกหนึ่งเรื่องที่อยากเขียนมาก ๆ เพราะเป็นเรื่องที่คาใจมาสักพักใหญ่ ๆ นั่นก็คือ ชื่อสถานที่ นั่นเองค่ะ 


    ใช่ค่ะ เรายังไม่จบสิ้นกับเรื่องชื่อ555555


    ตอนอยู่ญี่ปุ่น มีหลายครั้งที่เราอ่านป้ายชื่อสถานีรถไฟแล้วคิดว่าทำไมถึงต้องชื่อนี้นะ? ถ้าลองมองจากตัวคันจิที่ใช้ บางที่จะมีตัวคันจิแม่น้ำ (川) สะพาน (橋) เนิน (台) อยู่ในชื่อสถานที่ด้วย ก็ทำให้เราคิดถึงชื่อสถานที่ในไทยอย่างพวก สะพาน___ , บาง___ , ทุ่ง___ ต่าง ๆ ซึ่งชื่อพวกนี้มันจะมีความเป็นมาซ่อนอยู่ใช่ไหมคะ เราเลยเกิดคำถามว่า แล้วชื่อสถานที่ของญี่ปุ่นจะมีความเป็นมาอะไรซ่อนอยู่ด้วยรึเปล่า?


    หลังจากลองหาข้อมูลดู เราก็พบสิ่งที่น่าสนใจมาก นั่นก็คือ 


    ชื่อสถานที่ของญี่ปุ่นบอกความเสี่ยงในการเกิดภัยพิบัติได้ด้วย!!!


    เอาล่ะ ฟังก์ชั่นของชื่อสถานที่มันดันมีมากกว่าที่เราคิดไว้ เราจึงไม่รอช้า รีบหาข้อมูลต่อทันที



    ปิ๊บ ๆ คุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยงรึเปล่า?

    จากการที่คนสมัยก่อนตั้งข้อสังเกตว่า เวลาเกิดภัยพิบัติ/ภัยธรรมชาติก็มักจะเกิดบริเวณเดิมซ้ำ ๆ เพราะงั้นเพื่อเป็นการบอกความเสี่ยงและบอกคุณสมบัติของพื้นที่ จึงนำมาตั้งเป็นชื่อเอาซะเลย โดยภัยพิบัติเหล่านี้ได้แก่ สึนามิ, ดินถล่ม และอุทกภัยค่ะ


    แปลกใจใช่ไหมว่าทำไมไม่มีแผ่นดินไหว ทั้ง ๆ ที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าอย่างอื่น นั่นเป็นเพราะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะกินพื้นที่วงกว้าง เทคโนโลยีในสมัยก่อนไม่ล้ำพอที่จะสามารถระบุจุดกำเนิดที่แน่ชัดได้นั่นเองค่ะ


    พื้นที่เสี่ยงสึนามิ

    หากสังเกตในภูมิภาคโทโฮคุ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ของญี่ปุ่น จะพบสถาน ที่ที่ประกอบด้วยคำว่า คะมะ อยู่พอสมควร คำว่า คะมะ มาจาก 噛マ = กัดเซาะ ซึ่งคำนี้จะแสดงถึงภูมิประเทศที่ถูกกัดกร่อนให้มีลักษณะคดเคี้ยวจากภัยสึนามิ อย่างเช่น เมืองชิโอคามะ จ.มิยางิ, เมืองคามาอิชิ จ.อิวาเตะ, เขตคามายะ จ.มิยางิ, เขตฮาเซกามะ จ.มิยางิ ฯลฯ เมืองหรือพื้นที่พวกนี้ล้วนเป็นพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิในโทโฮคุปี 2011 ทั้งสิ้น


    เช่นเดียวกับ เมืองคามาคุระ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมไม่ไกลจากโตเกียวก็เคยเป็นพื้นที่ที่โดนสึนามิลูกใหญ่เข้าโจมตีเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ปี 1923 ด้วย


    นอกจากนี้ยังมีคำว่า สุกะ แสดงภูมิประเทศที่เกิดจากการทับถมของดินทรายเมื่อน้ำท่วม หรือหากเป็นบริเวณชายฝั่งก็มีที่มาจากสึนามิเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น พื้นที่นากาสุกะ จ.มิยางิ, สุกะโจ จ.อิวาเตะ, สุกาฮาตะ จ.มิยางิ เป็นต้น ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ก็เป็นพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ปี 2011


    ไม่ใช่แค่นี้นะคะ ถ้าเป็นพื้นที่ริมชายฝั่งที่มีคำว่า อะกะ อะเกะ อะกุ ที่เป็นคำโบราณมีความหมายว่า น้ำ หรือมีคำว่า คุระ คุเระ ที่หมายถึงพื้นที่ถูกเซาะ ถูกทำให้เป็นโพรง ก็ควรจะระวังเอาไว้เช่นกัน

    ปัจจุบัน สถานที่เสี่ยงภัยสึนามิที่มีชื่อ คุระ บางที่ เปลี่ยนไปเป็น ซากุระ ก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะดูความเสี่ยงให้ดูที่เสียงอ่านมากกว่าตัวคันจิของชื่อ


    เมืองชิโอคามะ จ.มิยางิ ครั้งเหตุการณ์สึนามิโทโฮคุ 2011
    (ภาพจาก: https://www.jiji.com/jc/d4?p=sgc311-jlp10645199&d=d4_quake)
    คามาคุระเมื่อปี 1923 หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต
    (ภาพจาก: http://www.kcn-net.org/oldnew/sinsai01.html)

    พื้นที่เสี่ยงดินถล่ม

    ด้วยการรวมพื้นที่ใหม่ ทำให้บางที่ก็มีการตั้งชื่อใหม่เช่นกัน อย่างพวกเขตที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะมีชื่อว่า ___กะโอกะ หรือ ___ได ให้รู้เอาไว้ว่ามีสิทธิเป็นชื่อที่ตั้งใหม่เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ค่ะ

    ตัวอย่างก็คือ พื้นที่ประสบภัยดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวโทโฮคุ ปี 2011 มิโดริกะโอกะ จ.มิยางิ, มัตสึกะโอกะ จ.จิบะ, ฟุตาบะกะโอกะ จ.มิยางิ, อาซาฮีได จ.ฟุคุชิมะ, ซากุระได จ.จิบะ ฯลฯ


    สถานที่ที่มีคำว่า มิโดริ ในชื่อก็มีความเสี่ยงไม่น้อยเลย เพราะมักจะเป็นพื้นที่ที่ถมดิน (เดิมทีเป็นหุบเขา แต่มีการถมที่เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น) เมื่อเกิดภัยพิบัติจึงเสี่ยงต่อการถล่มหรือยวบลงเช่นกัน




    เฮวะได บ้านเก่าที่ญี่ปุ่นของเราเองค่ะ ต แต่มีคำว่า 'ได' ด้วยนี่นา..

    พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย

    ประเทศญี่ปุ่นมีทั้งหน้าฝนและพายุไต้ฝุ่น แม่น้ำมีระยะระหว่างต้นน้ำและปากแม่น้ำที่สั้น รองรับน้ำฝนได้ไม่มากนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำมีโอกาสเอ่อล้นสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนโดยรอบได้


    บริเวณที่มีคำว่า ไอ (อาอิ) จะแสดงจุดที่แม่น้ำไหลมาบรรจบกันค่ะ หากเกิดฝนตกหนักก็จะมีความเสี่ยงน้ำขังหรือท่วมได้

    ยังมีคำว่า อินะ - แสดงพื้นที่ริมตลิ่งที่เป็นดินทราย, อุคิ - พื้นที่น้ำท่วมขัง มีช่องดินจำนวนมาก, คุโบะ - พื้นที่เป็นหลุมบ่อ น้ำขังง่าย ด้วยค่ะ ชื่อเหล่านี้มีไม่น้อยเลยในประเทศญี่ปุ่น น่าสังเกตจริง ๆ


    คันจิก็อันตรายเหมือนกัน!

    ไม่ใช่แค่คำแต่ต้องดูที่คันจิด้วย! อีกตำราหนึ่งก็กล่าวไว้ว่าให้สังเกตที่ตัวคันจิค่ะ หากสถานที่ไหนประกอบด้วยตัวคันจิเหล่านี้แสดงว่าต้องระมัดระวังให้ดี! คันจิที่ว่านี้มี 9 ตัว ได้แก่


    • (ริว) - มักเกิดสึนามิหรือฝนตกหนัก ราวกับมังกร เทพแห่งน้ำดิ้นครวญคราง (โห.. ล้ำลึก555)
    • (อะยุ) - มาจาก 揺く อะยุคุ ที่แปลว่าโยกค่ะ บอกพื้นที่ว่าดินเป็นดินอ่อน อาจเกิดความเสียหายจากแผ่นดินไหวได้
    • (จะ) - เสี่ยงต่อดินทรายถล่ม (ไหลลงมา) *มีเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อเกี่ยวข้องด้วย
    • (โอะนะ) - มาจากคำว่า 男波 โอนามิ = คลื่นกระทบฝั่งอย่างแรง อาจเป็นพื้นที่ที่เคยประสบภัยสึนามิในอดีต
    • (คาเมะ) - จากคำว่า 噛ま คามะ = กัดเซาะนั่นเองค่ะ
    • (โคมะ) - มาจากตัว 転 โคโระ กับ 間 มะ รวมกัน หมายถึงบริเวณที่โอบล้อมด้วยแม่น้ำ เกิดน้ำท่วมได้
    • 椿 (ทสึบากิ) - เหมือนชื่อดอกไม้ แต่จริง ๆ แล้วหมายถึงบริเวณที่ถูกกัดเซาะค่ะ มาจาก 戯ゆ (ทสึบะ/โซบะ)
    • (อุเมะ) - คันจิ 埋め อุเมะ = ทับถม นั่นเอง เป็นพื้นที่ที่ทรายทับถมกัน หรืออาจเป็นพื้นที่ที่คนสร้างขึ้นก็ได้
    • (คะคิ) - มาจากคำว่า 欠く หรือ 掻くที่อ่านว่า คาคุ ค่ะ เป็นพื้นที่ที่มักจะโดนภัยสึนามิหรือน้ำท่วม



    หลังจากอ่านบทความนี้ ความสงสัยของเราก็หายไปทันที แถมยังได้ความว้าวเพิ่มมาด้วยค่ะ5555 ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชื่อสถานที่จะสอดคล้องกับภูมิประเทศ แล้วยังบอกความเสี่ยงของการเกิดภัยต่าง ๆ ได้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะตัดสินกันที่ชื่ออย่างเดียวก็อาจจะไม่ถูกต้อง 100% ต้องดูผังเมืองประกอบถึงจะชัวร์ที่สุดค่ะ


    นางสาวพลีช ณ เนินแห่งสันติสุข

    pleech.


    ?




    ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก:

    https://www.rakumachi.jp/news/column/121013

    https://www.juken-net.com/main/jisinindex/placename/

    https://edmm.jp/24491/

    http://www2.dpsol.co.jp/archives/51951831.html

    https://zatsuneta.com/category/origin_tokyo.html






เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Narawit Eammanussakul (@fb2743206355966)
สุดยอดมากกก ไม่เคยสังเกตุมาก่อนเลยว่าชื่อสถานที่ของญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์กับการเกิดภัยธรรมชาติด้วย !
8dashslash (@eightdashslash)
สุดยอดมากค่ะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันต้องซับซ้อนขนาดนี้
Sorawit Jeenanurak (@sorawit.jeenanu)
ปังมากพี่สาววว ไม่เคยคิดมาก่อนเลย อยากเห็นพี่สาวเปรียบเทียบกับภาษาไทยและภาษาอังกฤษจัง
Fern Sirachainan (@fb3235073729845)
โห น่าสนใจมากๆเลยค่ะ ไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยว่าที่มาของชื่อสถานที่ต่างๆในญี่ปุ่นมาจากอะไรบ้าง และไม่เคยรู้ว่าจริงๆแล้วชื่อพวกนี้บอกภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้นด้วย อ่านแล้วสนุกมากๆเลยค่า
kai (@katekantika)
โห ไม่เคยรู้เลยค่ะ ชอบมาก มีหลายที่ที่รู้จัก แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันอันตราย เป็นประโยชน์มาก ๆ
Pat Saori (@fb2815664221854)
คุณพี่ช่างสังเกตมาก ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะมีความสัมพันธ์กันแบบนี้
ต่อจากนี้เวลาไปญี่ปุ่นแล้วเห็นชื่อสถานที่คงจะคอยคิดว่า เอ๊ะ มันจะมีอะไรเกิดขึ้นไหมนะ 555555
Kanokwan Katagiri (@fb3408029972557)
สนุกจังเลย เป็นการสังเกตที่ดีมาก ชื่อสถานที่ในเมืองไทยก็มีแบบเดียวกันนะคะ แต่ตัวคันจิในภาษาญี่ปุ่นบอกเราได้เยอะเชียว
nisitparttime (@nisitparttime)
ว้าว ไม่รู้มาก่อนเลยค่ะ สมัยอยู่ญี่ปุ่นเราอยู่ 府中市 เท่าที่อ่านดูก็เหมือนจะไม่มีนะคะ

ไม่มีทั้งภัยพิบัติ ไม่มีทั้งสถานบันเทิง ไม่มีอะไรเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ TT