เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MOVIEจุดเชื่อมต่อ
The Secret Life of Walter Mitty-2013
  • The Secret Life of Walter Mitty-2013 (แต่มาดูเอาต้นปี 2014)

    Director:Ben Stiller

    สะดุดตากับโปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และรู้สึกดีที่ได้ดูเรื่องนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ได้รับพลังบางอย่างจากหนังเรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูก

    (มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์)
    หนังว่าด้วยตัวเอกของเรื่องคือ วอลเตอร์ มิตตี้ ทำงานให้กับหนังสือท่องเที่ยวที่ชื่อว่า life เป็นหัวหน้าแผนกฟิล์มเนก โดยนิตยสารกำลังจะปิดตัวลงและหน้าปกสำหรับการปิดตัวนิตยสารเล่มนี้เป็นภาพถ่ายของตากล้องฝีมือดีอย่าง ฌอน แต่แล้วฟิล์มม้วนที่25 ที่ ฌอนได้บอกไว้ว่าเป็นรูปที่ดีที่สุด เหมาะกับการใช้เป็นปกเล่มสุดท้ายได้หายไป และเป็นการเริ่มต้นการพจญภัยของวอลเตอร์ มิตตี้ เพื่อตามหาฟิล์มม้วนนี้
    หลายคนดูเรื่องนี้จบแล้วเกิดอารมณ์คล้ายๆกันคือ ดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจที่จะไปเที่ยว ใช้ชีวิตนอกกรอบของพนักงานออฟฟิสให้สุดเหวี่ยง แต่เรื่องนี้เรากลับมองในมุมเล็กกว่านั้น และคิดว่าหลายช่วงของหนังพยายามสื่อว่า จริงๆแล้วความสุข หรือสิ่งที่เราอยากให้มาเติมเต็มชีวิตของวัยทำงานที่หลายคนอาจมองว่าน่าเบื่อ มันอาจอยู่รอบๆตัวเรา รึป่าว..อยู่ที่ว่าเราจะมองมันเห็นไหม หลายฉากที่ประทับใจในเรื่องนี้

    - ฉากเล่นสเก็ตลงจากเขา ฉากนี้พีคมาก ทุกอย่างลงตัวหมด เพลง dirty paws ที่ขึ้นมาอย่างถูกจังหวะ ฉากนี้กระชากอารมณ์เรามาก ดูแล้วแบบ...อยากตะโกนคำว่า Freedommmmmmm อย่างบอกไม่ถูก

    - ฉากถ่ายรูปเสือ ชอบคำพูดของฌอน เพนน์ ในหนังมาก ที่ประมาณว่า "อย่าให้กล้องถ่ายรูปมากั้นเราเลย" เหตุการณ์สำคัญบางอย่างมองมันด้วยตาเปล่าดีกว่า เก็บไว้เป็นประสบการณ์ แล้วเราจะมีความสุขเมื่อนึกถึงมัน 

    -หน้าปกนิตยสารเล่มสุดท้าย ไม่ต้องรู้เรื่องรู้ราวอะไรอีกแล้วจ้า พอเห็นหน้าปกแล้วน้ำตาแตกเลย คือมันทำให้คิดอ่า ว่าบางครั้งจะทำอะไรก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ เราทำหน้าที่ของเราไป แต่ทำให้มันดีที่สุด เหมือนเสือที่นานๆจะออกมาให้เห็นที ไม่ต้องโจ่งแจ้ง ก็เหมือนกับพระเอกของเรื่อง ที่เป็นคนดูแลรูปทุกรูปในนิตยสารเล่มนี้ แต่ก็เหมือนทำงานเบื้องหลังที่ไม่มีใครนึกถึง ทั้งที่หน้าที่นี้สำคัญมากสำหรับนิตยสารเล่มนึง

    จริงๆคือมีดีเทลเล็กๆน้อยๆให้คิดเยอะมากกก อีกส่วนที่ประทับใจมากๆคือเพลงประกอบ folk ได้ใจมากจริงๆ เข้ากับบรรยากาศของหนังมาก เพลงวางได้ถูกที่ถูกตำแหน่ง ส่งเสิรมกันได้ดีจริงๆ เพราะหมดทุกเพลง

    ประทับใจเรื่องนี้มากๆ ไม่ค่อยได้ดูหนังฮอลลีวู้ดสมัยนี้ที่กลมกล่อมมากเท่าไหร่เป็นการเริ่มต้นปีในการดูหนังได้ดีมากๆ มีพลังขึ้นมาเยอะในการทำงานวันพรุ่งนี้ ฮึบๆ

    ปล.อันนี้เคยเขียนไว้ในBloggang เมื่อนานมาละ ได้ฤกษ์ย้ายบ้านใหม่มาที่นี่ เริ่มต้นด้วยฟีลกู้ดละกัน ฮี่ๆ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in