อาทิตย์ (อง ซองอู)
เขากดส่งข้อความเหล่านั้นไปแล้วจ้องมองหน้าต่างแชทด้วยใจที่เต้นระรัวประหนึ่งเหมือนใจของตนนั้นเป็นกลองแล้วถูกกระหน่ำตีอย่างบ้าคลั่งจนเขารู้สึกเจ็บในอกไปหมด ไอจันทร์พยายามควบคุมการหายใจเข้าออกให้ช้าลงเพื่อช่วยลดอาการใจสั่นรุนแรงนี้แต่กลับไม่เป็นผลเมื่อข้อความของคนที่ตนรออยู่เด้งขึ้นด้วยการตอบว่า
และเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาบานประตูที่แสนคุ้นตาถูกเปิดออกด้วยคนที่ตนนั้นสนทนาผ่านกล่องแชทก่อนหน้านี้ ใบหน้าที่แสนเรียบเฉยที่ปกติก็ดูน่าเกรงขามอยู่แล้วแต่วันนี้มันช่างดูน่ากลัวจนทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูดอะไร คำขอโทษที่ตนตระเตรียมและซักซ้อมมาอย่างดีกลับอันตรธารหายไปจากสมองของเขาสิ้น
“เข้ามาข้างในก่อน”
“ครับ??”
“เข้ามาข้างในก่อนไง แล้วก็ปิดประตูด้วย” ผู้เป็นอาว่าก่อนเดินหันหลัง ไอจันทร์งงงวยเล็กน้อยแต่ก็ก้าวเดินตามคำสั่งของอีกคนเข้ามาก่อนปิดงับประตูด้วยความเบามือ
“คือ...” อีกคนเลิกคิ้วเฝ้ารอในคำพูดที่เด็กน้อยจะเอ่ย ไอจันทร์แลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความประหม่าเขาไม่เข้าใจตัวเองนักว่าทำไมคำง่ายๆถึงได้ดูหนักอึ้งเกินกว่าจะเปล่งออกมา โดยปกติตนไม่ใช่คนแบบนี้เสียด้วยซ้ำ
“เธอกำลังรบกวนเวลาทำงานอาอยู่นะ”ผู้เป็นอาว่าก่อนหยิบหนังสือจากตู้ชั้นและกำลังจะเดินผ่านเขาไป
“ผมขอโทษครับ”
ผู้เป็นอาชะงักหยุด ชายเสื้อของชุดนอนเรียบๆถูกจับด้วยมือของผู้เป็นหลานที่ดึงรั้งไว้แค่เบาๆ
อาทิตย์นิ่งงัน
ไอจันทร์ย่างก้าวเข้าใกล้
ใกล้เข้าไป
ใกล้...จนหน้าผากมนของตนถูกวางทาบบนแผ่นหลังแกร่งนั้น
“ผมขอโทษคุณอาจริงๆนะครับ” ไอจันทร์เอื้อนเอ่ยประโยคนั้นจากหัวใจ เขาเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงเพราะความอยากรู้อยากลองของตน และเขาคงไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้หากเขาเอ่ยบอกคุณอา ไอจันทร์รู้ดีสาเหตุที่คุณอาโกรธตนคือสิ่งใด
“เด็กไม่ดี”
“ผมขอโทษ”
จบประโยคผู้เป็นอาถอนหายใจออกมาก่อนพลิกตัวหันหน้ามาทางด้านเด็กน้อย โยนหนังสือไปที่เตียงอย่างส่งๆก่อนจะยื่นมืออันแสนอบอุ่นในความรู้สึกของไอจันทร์วางทาบทับลงไปบนหัวทุ่ยนั้น
“ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆนะครับ” เด็กน้อยว่าก่อนเอียงคอเข้าหามืออุ่นของผู้เป็นอาอย่างออดอ้อนด้วยความเคยชิน
“คุณอาไม่ต้องยกโทษให้ผมก็ได้ คุณอาจะทำโทษผมยังไงก็ได้จะกัดผมเหมือนที่คุณอาทำก็ได้ครับ แต่ได้โปรดอย่าเมินกันแบบนี้เลยนะครับ”
“...”
“ผมเสียใจ...”
“อาก็เสียใจ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นอา นัยน์ตาที่สะท้อนความรู้สึกมากมายในแววตาคู่นั้นมันกำลังทำให้เขา....
“ผมขอโทษ”
“อาบอกแล้วไงว่าอาเบื่อที่จะฟังคำขอโทษของเราแล้ว” เด็กน้อยหน้าง่ำงอคนเป็นอาอดไม่ได้จนต้องยืดแก้มพ่องๆนั้นเสีย
“แต่อาก็ดีใจที่เรายังแคร์อาบ้าง”
“ผมแคร์คุณอาเสมอนะครับ” เด็กน้อยโผล่งขึ้น รีบแก้ไขในความเข้าใจผิดนั้น
“หรอ...” อาทิตย์พูดเสียงยาน เด็กน้อยหน้าง่ำงอเสียกว่าเดิม
“ถ้าแคร์กันเราควรจะบอกอาบ้างนะ”
“ผมขอ--” อาทิตย์ทาบนิ้วเรียวเพื่อปิดทับปากอิ่มนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อนเอ่ยประโยคซ้ำๆที่ตนได้ยินเป็นร้อยเป็นพันได้ตั้งแต่รู้จักเด็กคนนี้มา
“ก็บอกว่าไม่อยากได้ยินแล้วน่ะ” อาทิตย์ผละมือออกก่อนวางมือลงบนหัวไหล่มนสองข้างของเด็กน้อยที่ดูจะกว้างขึ้นนับจากวันแรกที่เจอกัน
เด็กน้อยของเขาคงโตขึ้นอีกแล้วสินะ
“อารู้ว่ามันออกจะงี่เง่าที่อาเป็นห่วงเราเกินเหตุ” ผู้เป็นอาว่า เด็กน้อยได้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็สั่นหน้าเป็นพลัน
“ไม่นะครับ”
“แต่ในใจของเธอก็คงมีคำว่าทำไมจริงมั้ยล่ะ?” ไอจันทร์นิ่งงันไปชั่วครู่ก่อนพยักหน้าหงึกหงัก แน่นอนว่าเขาก็เป็นเด็กที่อยากลองอยากรู้ไปเสียหมด อยากมีประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งว่าชีวิตเขาเคยได้รับรู้ลิ้มลอง และสัมผัสประสบการณ์กับสิ่งเหล่านั้นมาแล้วแต่เมื่อเขาลองคิดและมองในอีกมุมของคนที่เป็นผู้ดูแลเขามา
อ่า....เขามันเด็กมากจริงๆนั้นแหละ
“อาไม่ว่าถ้าเราอยากลองหรือทำอะไรแต่อย่างน้อยควรจะบอกให้อารับรู้หรือให้อาได้เห็น หากสิ่งที่เธอทำลงไปส่งผลเสียกับตัวเธอล่ะหากเธอเป็นอะไรไป แล้วอาจะทำยังไง” สายตาของคุณอาที่ส่งออกมาทั้งติเตียน ทั้งความเป็นห่วงที่เขาสัมผัสได้นั้นยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดถาโถม ไอจันทร์ก้มหน้านิ่งงัน สำนึกผิดในการกระทำของตนเอง
“เธอมีอยู่คนเดียวนะไอจันทร์เมฆเป็นห่วงเธอ เจตเป็นห่วงเธอพี่ใหญ่หรือพี่แสงดาวเขาไม่อยู่แล้วแต่เขาก็เป็นห่วงเธอนะ”เพียงชั่วอึดใจความเงียบปกคลุม ผู้เป็นอาหลุบตาต่ำก่อนเอ่ยประโยคแสนเบาแตกลับชัดเจนในความรู้สึกของผู้ได้ยิน
“อาก็ด้วย...”
“คุณอา...”
อาทิตย์รู้ดีว่าตนเองนั้นอาจจะจำกัดสิทธิของหลานมากเกินไป เลี้ยงเหมือนไข่ในหินที่ไม่อยากให้รับรู้หรือมีประสบการณ์เช่นนั้น อาทิตย์รู้ดีว่าไอจันทร์อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่แต่ในสายตาไอจันทร์ก็ยังคงเป็นเพียงเด็กน้อย
....ของเขา
แต่อาทิตย์รู้ดีว่าไม่มีทางที่ไอจันทร์จะเป็นเด็กแบบนี้ไปตลอด
สักวันปีกน้อยๆนั้นจะแข็งแรงและโบยบินหนีจากเขาไป
อาทิตย์จับจ้องไปยังใบหน้าของเด็กน้อยไล่ปลายนิ้วบนแก้มเนียนแผ่วเบาดุจราวแก้วบางที่หากเผลอสัมผัสหรือกระทำรุนแรงเสียคงแตกละเอียดย่อยยับ สายตาคมจับจ้องปากอิ่มที่เผยออ้าหายใจจนเห็นเขี้ยวเล็กนั้นโผล่พ้นออกมา จับสัมผัสปากอิ่มนู้นด้วยปลายนิ้วที่เย็นเฉียบแต่กลับรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตในความรู้สึกของไอจันทร์
เด็กน้อยใจเต้นแรงมันแรงเสียจนทำให้หูสองข้างนั้นอืออึงไร้ซึ่งเสียงใดนอกจากเสียงเต้นของใจตนที่กระหน่ำรัวเหมือนฝนห่าในฤดูฝนที่ผ่านมา ไอจันทร์กำมือตัวเองแน่นยามสายตาของผู้เป็นอาจดจ้องมาที่ปากของตนยิ่งความรู้สึกที่เหมือนถูกกระแสไฟช็อตเมื่อปลายนิ้วลากผ่านแผ่วเบาแต่กลับสร้างความวาบหวามเสียจนทำให้สมองของเขาไม่สามารถประมวลสิ่งใดได้อีก
และทั้งคู่ก็สบตากัน
จ้องลึก
โอนถ่ายหลากหลายมากมายความรู้สึก
และดูเหมือนเด็กน้อยกำลังจะสูญเสียความเป็นตัวเอง
“ไอจันทร์...” มืออุ่นนั้นผละออกห่าง ใบหน้าของผู้เป็นอามีแววตื่นตระหนกแต่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นก่อนก้มลงหยิบหนังสือบนเตียงและตรงดิ่งไปยังโต๊ะทำงานอีกฟากห้อง เด็กน้อยเลิกลั่กและเลียปากตัวเองก่อนจะหอบหายใจเบาๆราวกับเมื่อครู่ตนนั้นถูกช่วงชิงอากาศหายใจไปหลายนับร้อยนาที
อ่า... อีกแล้วความรู้สึกแปลกๆแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว
ความรู้สึกเมื่อครู่ที่แว่บขึ้นในใจ
เขาไม่อยากเข้าใจและพยายามที่จะไม่เข้าใจ
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านั้นมันทำให้ตนรู้สึก....ดี
เหมือนที่รู้สึกกับ
มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยคิดหาคำตอบ
บรรยากาศที่เริ่มเงียบลงอีกครั้งจนได้ยินเสียงของเครื่องปรับอากาศกับเสียงของกรุกกรักจากการจับนู้นนี้ของผู้เป็นอาจึงทำให้ตนคิดว่าควรออกจากตรงนี้เสีย
“คุณอาไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ยครับ” เด็กน้อยเอ่ยถามอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ขอให้แน่ใจว่าคุณอาจะไม่โกรธตนแล้วก่อนที่เขานั้นจะขอตัวไปนอนเพื่อที่อะไรบางอย่างมันจะไม่แย่ไปกว่านี้น่ะนะ
“ก็อยากจะโกรธอีกอยู่หรอกแต่เห็นเด็กแถวนี้ทำหน้าหมาหงอยแล้วสงสาร” ไอจันทร์ขมวดคิ้วและก็ได้รับเสียงหัวเราะเล็กๆนั้นมาด้วยความเอ็นดู
“ขอบคุณนะครับผมสัญญาว่าต่อไปจะเป็นเด็กดี และไม่ทำให้คุณอาเป็นห่วงแบบนี้อีก”เด็กน้อยว่าด้วยสีหน้าที่จริงจังจนคนเป็นอาอดที่จะเอ็นดูเสียไม่ได้
“คำสัญญาไม่มีผลอะไรเลยถ้าเธอไม่ทำมันแค่ทำให้อาเห็นก็พอ” คนเป็นอาว่ายิ้มๆก่อนจะฉีกยิ้มกว้างกับน้ำเสียงและท่าทางของเด็กน้อยที่ดูจริงจังยิ่งกว่าเดิมนั้น
“ครับ
เฮ้อ ก็ชอบทำตัวน่ารักแบบนี้แหละนะ จะไม่ให้ห่วงได้ไงถ้าไปอยู่กับใครที่ไม่ใช่ตน
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ” อาทิตย์พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนไอจันทร์จะหมุนตัวหันตรงดิ่งไปยังบานประตูห้องนอน มือแตะสัมผัสลูกบิดเย็นเฉียบออกแรงหมุนเพียงนิดก็ปลดล็อค แต่มือกลับหยุดค้างชะงักด้วยเสียงเรียกของเจ้าห้องเสียก่อน
“ไอจันทร์ เดี๋ยวก่อน”
“ครับ??” เขาหันหน้ามาอีกครั้ง มองไปยังบุคคลที่กำลังก้าวเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดยืนที่กลางห้อง
“คืนนี้...” อาทิตย์เอ่ยแผ่ว และเงียบเหมือนกำลังชั่งใจกับตนเอง เพียงแค่ชั่วอึดใจประโยคขอแสนธรรมดาที่เคยได้ยินมาไม่รู้ต่อกี่ครั้งต่กี่ครั้งแต่ในวันนี้มันกลับสร้างความรู้สึกที่ต่างออกไป
“นอนกับอาหน่อยได้มั้ย”
“คือช่วงนี้อามีปัญหานอนไม่ค่อยหลับน่ะถ้ามีคนนอนด้วยอาจจะช่วยได้”
“มั้งนะ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร” ผู้เป็นอาว่าเช่นนั้น ก่อนจะเฉมองไปทางอื่น
ไอจันทร์อ้าปากค้างความคิดตีกันยุ่งอยู่ในหัว ทั้งอยากปฏิเสธแต่อีกใจก็...
“ครับ คืนนี้ผมจะนอนกับคุณอาเอง”
นั้นแหละ รู้ตัวอีกทีเขาก็ตอบตกลงไปเสียแล้ว
ให้ตายเถอะ แล้วคืนนี้เขาจะหลับลงได้ยังไงกัน
.
.
.
คุณอาคะเหตุผลฟังไม่ขึ้นเลยค่ะ คิดว่าน้องไอจะเชื่อคุณหรอคะ
และใช่ค่ะลูกเราไม่เชื่อแต่ลูกเราก็อยู่ ทำไมน้องไอเป็นแบบนี้แงงงงงงง
ปล.อย่าลืมกลับไปอ่านที่จอยต่อด้วยนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in