เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SIAM SPORTS NERDSคนมองหนัง ทัศนทรรศน์
"ออสการ์ ตาบาเรซ" ผู้ทลาย "มายาคติประจำชาติ" ของอุรุกวัย
  • ออสการ์ ตาบาเรซ กุนซืออุรุกวัย วัย 71 ปี (เป็นเฮดโค้ชที่แก่สุดในบอลโลกหนนี้) ต้องใช้ไม้เท้าช่วยประคองร่างกาย เพราะมีอาการป่วยเกี่ยวกับเส้นประสาท

    สมัยคุมทีมลงแข่งรายการโคปา อเมริกา เซนเตนาริโอ เมื่อสองปีก่อน ลุงแกถึงกับต้องพึ่งพารถเข็นไฟฟ้าเลยทีเดียว

    ตอนอายุน้อยกว่านี้ ตาบาเรซเป็นผู้จัดการทีมนักบู๊ที่มีประวัติโชกโชนคนหนึ่ง ตามวัฒนธรรมฟุตบอลแบบดิบ ๆ ของทวีปอเมริกาใต้


    ด้านหนึ่ง ตาบาเรซก็ดูเหมือนจะเจริญรอยตาม "มายาคติประจำชาติ" ของประเทศอุรุกวัย ผ่านแนวคิดที่ว่าฮีโร่ควรจะเป็น "นักสู้" มากกว่า "นักเทคนิค" และควรจะ "ห้าวหาญแข็งแกร่ง" มากกว่า "สง่างาม"

    บนกำแพงบ้านตาบาเรซเองก็มีข้อความวรรคทองของเช เกบารา ปรากฏอยู่ วรรคทองที่ว่า "คุณต้องหมั่นเคี่ยวกรำตนเองให้กล้าแกร่ง โดยปราศจากอารมณ์อ่อนโยนขี้แพ้"

    วิธีคิดเหล่านั้นสอดคล้องกับฉายา "จอมโหด" ของทีมชาติอุรุกวัย ที่ติดตลาดในโลกลูกหนังตลอดมา นับแต่พวกเขาคว้าแชมป์โลก ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพบราซิล 2-1 เมื่อปี 1950

    ชัยชนะคราวนั้นของอุรุกวัย มักถูกเข้าใจว่าได้มาด้วย "ความห้าว" มากกว่า "ความสามารถ" ของนักเตะ

    อย่างไรก็ตาม มายาคติที่ว่าได้ถูกโต้แย้งตั้งคำถาม จากข้อมูลใหม่ ๆ ในระยะหลัง

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บันทึกบทสนทนาเมื่อยุคปลาย 80 ระหว่างออสการ์ ตาบาเรซ กับนักเตะบางคนจากทีมชุดแชมป์โลกปี 1950 ซึ่งมีคำยืนยันว่าปัจจัยสำคัญในการคว้าแชมป์โลกสมัยที่สองของอุรุกวัย คือ การรักษาสมดุลระหว่างความเป็น "นักสู้" และ "นักเทคนิค"

    การแสวงหาและประคับประคองดุลยภาพดังกล่าวดูจะเป็นโปรเจ็คท์ใหญ่ที่ตาบาเรซพยายามทำอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา

    รวมถึงในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่อาจเป็นการคุมทีมครั้งท้าย ๆ ของเขา


    ภาพประกอบ By Agencia de Noticias ANDES (SELECCIÓN URUGUAY) [CC BY-SA 2.0], via Wikimedia Commons

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in