06.55
now playing : 我要飞
"ฉันจะใช้พลังที่มีโผบิน ไม่ว่าหนทางจะไกลแค่ไหน
ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัด ท้าทายความอันตราย
ใช้ความกล้าที่มีวิ่งผ่าฟันไปจนถึงจุดหมาย
น้ำตาจากความเจ็บปวด สุดท้ายแล้วจะกลายเป็นสิ่งหอมหวาน
ฉันอยากจะบิน.."
เฮ้ย นี่จะไปฝึกงานหรือจะไปรบ..
เพราะความว้าวุ่นใจเมื่อคืนอย่างที่ระบายลงไปในบันทึกการฝึกงานแรก เช้าวันนี้เลยเลือกฟังเพลงปลุกใจประจำตัวแห่งปี 2562 อย่างเพลง "我要飞" มาฟังเอาฤกษ์เอาชัยตั้งแต่เดินออกจากบ้าน
我要飞 แปลว่า ฉันอยากจะบิน เรารู้จักเพลงนี้ในภารกิจแรกของรายการ Produce Camp 2019 เป็นรายการแข่งขันตามหาบอยแบนด์หน้าใหม่วงถัดไปของประเทศจีน เนื้อหาเพลงกล่าวถึงการไล่ล่าตามหาความฝัน ข้ามผ่านอุปสรรค และริเริ่มลงมือทำสิ่งใหม่ โผบินไปได้อย่างอิสระตามที่ใจต้องการ อันที่จริงฟังดูยิ่งใหญ่ ท้าทายมากเกินกว่าการไปฝึกงาน 10 สัปดาห์ของเราเยอะ 5555555555 แต่ก็นั่นแหละ เพราะแบบนั้นเลยคิดได้ว่าการเริ่มต้นใหม่ที่เรากลัวแสนกลัว อันที่จริงมันก็คงไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรขนาดนั้น อย่าคิดมากจนเกินไป ท่องไว้ เราทำได้ เราทำได้!
พูดทำเท่ไปงั้น
เพราะเพลงต่อไปที่ดังขึ้นมาคือ 你,好不好
ในใจก็ตะโกนไปแล้วว่า "不好!!!”
หัวใจจะลุกมาเต้นระบำอยู่แล้ว ตื่นเต้นยิ่งกว่าตื่นเต้นซะอีก!!
_
วันนี้เราลุกขึ้นจากที่นอนตอน 06.20 น. อาบน้ำแต่งชุดนิสิต เลือกถุงเท้าที่สีเรียบร้อยที่สุดในรอบสามปี ก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน เข้าไปยืนเบียดกับคนเป็นร้อยที่ก็น่าจะไปทำงานเหมือนกัน มุ่งหน้าไปที่สถานีอโศก ต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสไปที่สถานีอ่อนนุชอีกที เพื่อที่จะไปรอขึ้นรถตู้ของบริษัทที่นั่น ตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมง แต่คำนวณคร่าวๆ ก็ประมาณ 45 นาทีเท่านั้นเอง เวลาผ่านไปไวมาก เดาว่าคงเพราะยิ่งตื่นเต้นนี่แหละ เผลอแปบเดียวยังไม่ทันรู้ตัวก็ถึงที่หมายแล้ว
เมื่อถึงสถานีอ่อนนุช เราก็เดินไปที่ลานจอดรถของโลตัสตามที่พี่ๆ เคยแจ้งเอาไว้ สำหรับพนักงานจะสามารถแตะบัตรขึ้นรถไปได้เลย แต่เด็กฝึกงานวันแรกอย่างเราต้องเซ็นชื่อ เขียนแผนกในใบลงเวลาที่พี่ ๆ คนขับรถเตรียมเอาไว้ รถรอบแรกจะออกตอน 7.30 น. รอบสอง 8.00 น. และรอบที่เรานั่งวันนี้คือรอบที่สาม 8.20 น. รถตู้ช่วงเช้าจะมีถึง 9.00 น.เท่านั้น!
ฉะนั้น ห้ามมาสายเด็ดขาด
เพราะจากที่สังเกตที่ทางตลอดนั่งรถไปบริษัทครั้งแรก เดินทางยากอยู่เหมือนกัน
ทะลุซอยผ่านไปทางนู้นทีทางนี้ทีจนได้แต่คิดว่ามาเองไม่มีทางมาถูกได้แน่ๆ
และแล้วในที่สุด ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราก็มาถึงตึกทรูทาวเวอร์2 ที่ทำงานของเราจนได้!
มาถึงหน้าตึกแล้ว รอสักพักก็มี 'พี่เนียร์' ลงมารับ ซึ่งพี่เนียร์เป็นผู้คอยประสานงานเรื่องการส่งเรื่องฝึกงานให้เรามาตลอด ไหนจะคอยบอกรายละเอียดต่างๆ สงสัยอะไรเรื่องฝึกงานก็ถามพี่เนียร์ จนกระทั่งได้เข้ามาฝึกงานที่นี่ (ต้องขอบคุณพี่เนียร์มากๆ จริงๆ ค่ะ) พี่เนียร์พาเราไปแลกบัตรแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3 มุ่งหน้าไปยัง "ฝ่ายทรูปลูกปัญญามีเดีย" แผนกที่เราจะมาฝึกงานตลอดสิบสัปดาห์
ที่ชั้น 3 พี่เนียร์พาเราไปเจอกับ "พี่หนูแดง" ซึ่งพี่หนูแดงจะเป็นคนที่ดูแลเราตลอดทั้งการฝึกงานนี้ พี่หนูแดงให้เราเอา portfolio ไปด้วย ความรู้สึกเหมือนสัมภาษณ์งานอีกรอบหนึ่ง 55555555 เพราะว่าเอกวรรณกรรมสำหรับเด็กไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก เป็นเอกหายากหนึ่งเดียวในประเทศเชียวนะ! พี่หนูแดงยังไม่แน่ใจว่าจะมอบหมายงานอะไรให้เราได้บ้าง เลยต้องมานั่งพูดคุยกันยกใหญ่ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดงานที่เราต้องทำคร่าวๆ ก่อนจะให้เราศึกษางาน และนั่งเล่นไปพลางๆ ในห้องประชุมเล็กก่อน (ติดตามอ่านรายละเอียดงานของเราได้ในบันทึกต่อไป!)
อ้อ จริงที่นี่มีเพื่อนฝึกงานด้วย 1 คน ชื่อว่า "ฟิล์ม" เรียนนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อนมาฝึกอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่เดือนเมษา ใกล้จะฝึกจบภายในเดือนมิถุนายนนี้แล้ว วันนี้พี่หนูแดงให้ฟิล์มมาช่วยอธิบายเกี่ยวกับทรูปลูกปัญญามีเดีย และงานในส่วนของฟิล์ม เผื่อว่าจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำได้ นั่งคุยกับฟิล์มนานมากกก จากเรื่องงานก็เตลิดไปเรื่อย เรื่องเพื่อน และเรื่องอื่นๆ ที่สนใจ ถึงแม้ว่าเร็วๆ นี้ฟิล์มจะฝึกงานจบไปก่อน แต่ก็หวังว่าภายในเวลาสั้นๆ ประมาณ 15 วันที่จะได้นั่งโต๊ะทำงานข้างกัน เราจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันนะ
ขึ้นรถตู้ออกจากออฟฟิศตอนหกโมง ถึงเอมอาร์ทีศูนย์วัฒนธรรมทุ่มครึ่ง รถติดมากถึงมากที่สุด
แต่กลับบ้านก็ได้ไก่บอนชอนที่แม่ซื้อไว้ให้เยียวยาจิตใจ
เอาละ การเริ่มต้นผ่านไปได้ด้วยดี
จากนี้ก็พยายามเข้านะตัวเรา!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in