เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
A Part Time Wanderermaycndp
สวัสดีลมหนาว ณ คันไซ (2)


  •                    และแล้วก็มาถึงวันที่สามของการท่องเที่ยวในคันไซ

              เนื่องจากวันนี้เราและเพื่อนตื่นสาย และไม่ได้มีแพลนอะไรมาก จึงตัดสินใจไปเที่ยวแค่สองที่เท่านั้น สถานที่แรกของวันคือ Osaka Castle นั่นเอง จากที่พักจนถึงสถานีปลายทางนั้นใช้เวลาไม่มากนัก แต่ระยะทางจากสถานีถึงปราสาทนั้นค่อนข้างไกล เพราะอากาศที่เย็นสบาย ไม่หนาวเกินไป บวกกับบรรยากาศที่สวยจนเกินบรรยายเลยทำให้เราลืมความไกลนั้นไปหมด เรียกได้ว่าเราเรากับเพื่อนนั้นแวะถ่ายรูปกันทุก ๆ สิบเมตรเลยทีเดียว
                  มีสิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเห็นคือที่มีมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่มากนักต่างจากสถานที่อื่นที่นักท่องเที่ยวล้นหลามโดนเฉพาะตามวัดต่าง ๆ ส่วนมากที่พบคือเป็นครอบครัวผู้ใหญ่พาลูกเล็กมาเดินเล่นกันเสียมากกว่า 

    ADVERTISEMENT


                ตอนแรกเราคิดว่ามาถึงทั้งทีแล้วก็ต้องแวะชมด้านในเสียหน่อย แต่เพราะมากันสายและคิวต่อแถวเข้าชมนั้นยาวมาก ๆ เรากับเพื่อนจึงตัดสินใจเดิเล่นแถวนักสักพักแทน นอกจากธรรมชาติและสถาปัตยกรรมโบราณแล้วเราประทับใจแม่น้ำที่นี่มาก มีความใสแบบที่ว่ามองเห็นถึงพื้นเลยทีเดียว



                      เดินเล่นได้สักพักเราก็ตัดสินใจไปที่ Tenryuji Temple ที่เกียวโตกันต่อ หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงไป ๆ มา ๆ ระหว่างจังหวัดแบบนี้ เหตุผลแรกเป็นเพราะว่าการเดินทางข้ามจังหวัดที่ญี่ปุ่นนั้นสะดวกมาก ๆ แค่นั่นรถไฟไม่นานก็ถึงที่หมายแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือที่โตเกียว ทั้งร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้นปิดค่อนข้างเร็ว ถ้าไปถึงที่หมายประมาณเที่ยงถึงบ่ายโมง เที่ยวสถานที่หนึ่งก็กินเวลาเกือบหมด เพราะสถานที่เที่ยวมีขนาดใหญ่และจุดพักค่อนข้างเยอะเลยกินเวลามาก แต่ก็คุ้มค่ามาก ๆ เช่นกัน เพราะเราชอบเก็บบรรยากาศเลยใช้เวลาไปหลายชั่วโมงเลยค่ะ (ฮา) แต่ถ้าใครอยากรีบไปภายในหนึ่งวันก็ทำได้เช่นกันค่ะ 

                      ที่วัน Tenryuji มีความสงบมาก ถือว่าเป็นสถานที่ที่สงบที่สุดตั้งแต่เที่ยวมาเลยก็ว่าได้ ทั้ง ๆ ที่คนเยอะ แต่กลับไม่รู้สึกว่าโดนรบกวนแต่อย่างใด ใครสายธรรมชาติต้องมาที่นี่เลยค่ะ



                 อากาศที่นี่ค่อนข้างอึมครึม ฟ้าไม่ใสเหมือนเมื่อเช้า และยิ่งอยู่ในป่าเขายิ่งทำให้อากาศเย็นเข้าไปใหญ่ หนาวจนถุงร้อนก็ไม่สามารถช่วยอะไรเราได้เลย เราอยู่ตรงนั้นได้ไม่นานนัก พอเริ่มเย็น เรากับเพื่อนจึงตัดสินใจกลับโตเกียวและไปหาอาหารกินแถวที่พักแทน

                      นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เราอยากแนะนำทุกคนให้ได้กิน เป็นเครปที่อร่อยมาก จนแทบจะต้องซื้อกินทุกมื้อเลยทีเดียว เป็นสิ่งที่เมื่อเราเห็นคนมาญี่ปุ่นจะต้องแนะนำทุกครั้งเลยค่ะ ติดใจมาก ๆ จนอยากกลับไปอีกเพื่อสิ่งนี้เลย ไม่แน่ใจว่ามีขายแถวไหนบ้าง แต่ว่าถ้าเจอก็ห้ามพลาดเลยค่ะ จะต้องชอบมากแน่ ๆ มีหลายไส้ให้เลือกเลย แต่บอกเลยว่าญี่ปุ่นหาของกินง่ายไม่ต่างอะไรกับประเทศไทยเลยค่ะ กลางคืนก็มีร้านให้เลือกหลากหลาย สบายมาก ๆ 


                      จริง ๆ แล้ววันนี้เราไม่ได้ทำอะไรมาก เดินเยอะนิดหน่อยเพราะแต่ละสถานที่ค่อนข้างไกลจากตัวสถานี แต่กลับไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องเก็บแรงไว้เผื่อสำหรับทริปวันพรุ่งนี้ เพราะเป็นทริปสำคัญ พูดเลยว่าเราอยากมาโอซาก้าเพราะที่นี่เลย รอแทบไม่ไหว :))))

    .
    .
    .
    .
    .
    .

                     วันที่รอคอยก็มาถึง วันนี้เราจะไป Universal Studios Osaka, Japan กันค่ะ! คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะต้องอยากมามาก ๆ แน่ ๆ และแน่นอนว่าสาวก Harry Potter อย่างเราก็ต้องไปพลาดแน่นอน
                   วันนี้เราตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะกังวลว่าคนจะเยอะ เมื่อมาถึงก็สามารถเข้าไปด้านในได้เลย แนะนำสำหรับคนที่อยากมาให้ซื้อตั๋วมาก่อนนะคะ เพราะถ้ามาทำตรงอาจจะยุ่งยากนิดหน่อย และอาจจะต้องรอนานกว่าจะได้เข้า โดนเฉพาะวันหยุดและวันเทศกาล อีกทั้งยังต้องมาเช้ามาก ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องต่อคิวนานค่ะ หรือถ้าใครสะดวกจ่ายแบบไม่ต้องต่อคิวก็จัดเลย
                        
                    พื้นที่ด้านในมีขนาดใหญ่มากจนเราลังเลว่าจะไปส่วนไหนก่อนดี แต่สุดท้ายเราก็ไปโซน Harry Potter กันก่อนเพราะกลัวว่าคนจะเยอะ แต่ถึงแม้ว่าเราจะไปเช้ามาก ๆ แล้วก็ยังต้องตกใจกับจำนวนคนรอคิวอยู่ดี แต่ไม่ต้องกังวลเลยเพราะเขารันคิวกันเร็วจริง ๆ ค่ะ ยืนรอต่อคิวและถ่ายรูปไปพลาง ๆ ก็ได้เข้าไปด้านในแล้ว 



    รสชาติพอใช้ได้ แต่สำหรับคนไม่กินหวานอย่างเราขอผ่าน

                   ด้านในปราสาทฮอกวอตส์ก็สวยไม่แพ้กัน แต่เพราะมืดมากจนไม่สามารถถ่ายรูปเก็บไว้ได้ ไม่นานนักเราก็ได้เข้าไปเล่นเครื่องเล่นซึ่งเป็นเครื่องเล่น Flight of the Hippogriff ซึ่งเป็นรถไฟเหาะที่มีความหวาดเสียวกำลังพอดี คนที่กลัวรถไฟเหาะน่าจะสามารถเล่นกันได้หมือนกัน และอีกครึ่งเล่นหนึ่งที่เราประทับใจมาก ๆ ซึ่งก็คือ Harry Potter and the Forbidden Journey  ที่เป็นเหมือนยานให้เรานั่งพร้อมดูภาพ 4D ไปด้วย ที่ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ 
                      มีอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดเลยคือร้านขายของ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรัก Harry Potter เลยทีเดียว มีแต่ของน่าซื้อเต็มไปหมด ทั้ง เกม ไม้กายสิทธิ์ เสื้อคลุม และอื่น ๆ อีกมากมาย เราได้ผ้าพันคอกลับมาด้วย เลยถือโอกาสใส่เดินเล่นใน Universal Studios ไปเลย และสิ่งที่ประทับใจมาก ๆ เลยคือทุกครั้งที่พนักงานเห็นผ้าพันคอเราจะเข้ามาทักเล่นทุกครั้งเลยค่ะ ประทับใจสุด ๆ 

                     นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสไปเล่นอีกหลายโซน ซึ่งประกอบไปด้วย Hollywood, New York, San Francisco, Jurassic Park, Amity Village, Water World, Universal Wonderland และ Minion Park ถ้าใครได้ไปและมีเวลาก็อยากให้ลองไปเล่นครบทุกโซนเลยค่ะ คุ้มค่ามาก ๆ ไม่ควรพลาดแม้แต่โซนเดียว อีกทั้งอาหารและขนมก็ยังอร่อยมาก ๆ อีกด้วย อย่างเช่น ไก่ทอด ชูโรส ป็อปคอร์น และอ่ื่น ๆ


                   เพราะเป็นช่วงคริสมาสต์ ด้านในจึงตกแต่งด้วยไฟประดับเยอะมาก ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปอีกแบบ แถมตอนเย็นก็ครึกครื้นมากด้วย ประมาณ 5 - 6 โมงเย็นก็มีพาเหรดพิเศษให้ชมอีกต่างหาก ถ้าใครไปช่วงไหนสามารถเช็คได้เลยว่ามีพาเรดอะไรเดินหรือเปล่า จะได้ไม่เสียดายทีหลังที่ไม่ได้ดู
                      
                      วันนี้เรียกได้ว่าเต็มอิ่มสุด ๆ ไปเลย และพอเที่ยวเต็มที่แล้วเรากับเพื่อนก็เดินทางกลับไปยังย่าน Dotonbori ที่ที่มีแต่ของอร่อยกัน ซึ่งวันนี้เราไปทานเนื้อและผักชุบแป้งทอดกันที่ร้าน Ganso Kushikatsu Daruma ที่ที่เราประทับใจมาก ๆ อีกร้านหนึ่ง ร้านนี้มีพนักงานต่างชาติรองรับลูกค้าต่างชาติด้วยค่ะ มาถึงเค้าถามเลยว่าพูดญี่ปุ่นได้ไหม ถ้าไม่ได้ก็ให้พนักงานคนนั้นมารับออเดอร์เลย อาหารอร่อยทุกอย่าง แต่ที่ตกใจคือเค้าจะใช้น้ำจิ้มซ้ำ โดยมีกฎว่าเวลาทาน ทุกคนจะต้องจุ่มอาหารลงไปในน้ำจิ้มแค่ครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น ห้ามจุ่มซ้ำหรือกัดก่อนจุ่มเป็นอันขาด (แต่ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่ามีคนแอบทำมั้ยนะ) และกิมจิที่นี่อร่อยมาก ๆ ปกติเคยกินแต่กิมจิเปรี้ยว พอได้ลองกิมจิเค็มแล้วติดใจไปเลย


                   และแล้วก็หมดไปอีกวันกับการท่องเที่ยวในคันไซ วันนี้เป็นวันที่เที่ยวได้คุ้มที่สุดแล้ว (ฮา) กลับห้องไปนอนแช่น้ำ แล้วตื่นมาลุยพรุ่งนี้กันต่อ

    .
    .
    .
    .
    .
    .

                   วันนี้เรากับเพื่อนไม่มีแพลนอะไรมาก เลยลองตัดสินใจไปเดิน Dotonbori ในตอนกลางงวันที่ปกติไปแต่ตอนกลางคืนมาตลอด แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าเราชอบตอนกลางคืนมากกว่า มีช็อปปิ้งและทานนู่นทานนี่เล็กน้อย 

                   เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ประทับใจแต่จำชื่อร้านไม่ได้ ไป ๆ มา ๆ เหมือนเรามาทริปกินมากกว่าเที่ยวเสียอีก (ฮา) แต่อาหารอร่อยจริง ๆ รสชาติต่างจากอาหารญี่ปุ่นที่ไทยด้วย
                   วันนี้เรากับเพื่อนไปเที่ยวกันที่ American Village ที่เป็นเหมือนแหล่งรวมวัยรุ่น มีเสื้อผ้าแฟชั่นสวย ๆ มากมายให้เลือกซื้อ ใครสายช็อป ที่นี่คือห้ามพลาด ซื้อไม่หยุดแน่นอน เดินช็อปไม่นานก็เริ่มเย็น เลยตัดสินใจรีบไปนั่ง Ferris Wheel กันก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ถือว่าคุุ้มค่ามาก ๆ สูงจนเห็นบรรยากาศของโอซาก้าทั้งเมือง ภือว่าเป็นวันคริสมาสต์ที่ประใจสุด ๆ เลยค่ะ และตอนกลับยังได้รุปกลับมาเป็นที่ระลึกอีกด้วย

                   ตกกลางคืน เราไปเดินซื้อของที่ห้าง Donkey ซึ่งปัจจุบันมีสาขาที่ไทยแล้ว เป็นห้างญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับซื้อของฝากมาก ๆ ทั้งของเครื่องใช้ต่าง ๆ และขนม 

                     และแน่นอนว่าเราจะไม่พลาดเรื่องของกิน มาญี่ปุ่นทั้งที่แต่ยังไม่เคยลองราเมนเลย เพื่อนที่ญี่ปุ่นก็พาร้านนี้เลย (ลืมชื่ออีกแล้วววว) เป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ไกลจาก Donkey มาก แถมรสชาติพอใช้ได้ ตอนนั้นคิดถึงอาหารไทย อยากกินของเผ็ด เลยสั่งเมนูที่คาดว่าน่าจะเผ็ดที่สุด แต่ก็ยังไม่พอใจเท่าไหร่ กว่าจะกินเสร็จก็เที่ยงคืนพอดี และพรุ่งนี้ก็ได้เวลากลับบ้านแล้ว แอบใจหาย


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

                  วันสุดท้ายของการเที่ยว เนื่องจากว่าไฟลท์บินของเราคือตอนดึก ระหว่างวันเลยมีเวลาเหลือเฟือ เรากับเพื่อนแวะไปที่ นารา กันก่อนกลับ นาราคือเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องกวาง เรียกได้ว่ามีกวางเดินอยู่รอบเมืองเลย แต่เราแอบกลัวนิด ๆ เพราะน้องจ้องแต่จะมากินอาหารในมือเรา (ฮา) แถมยังเป็นเมืองธรรมชาติมาก ๆ อีกด้วย นั่งเล่นกินลมชมวิวได้สบาย ถ้าสามารถมานั่งปิคนิคได้คงดีไม่น้อย


               แค่อยู่ที่นาราก็กินเวลาเราเกือบทั้งวัน พอเริ่มเย็น เราก็นั่งรถไฟกลับมาที่โอซาก้าเพื่อมาต่อรถบัสไปที่สนามบินเตรียมตัวกลับบ้าน ทริปนี้เป็นทริปที่เราจะไม่มีวันลืม เป็นการเดินทางที่เหนื่อย สนุก และคุ้มค่า และเป็นช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่มีความสุขมาก ๆ ที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีก และในอนาคตก็หวังอีกเช่นกันว่าจะได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง :-)







                



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in