เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ALIVE : เกม ซ้อน เกมNO.W
มุ่งสู่ใจกลาง
  • ……….

     

    ตอนที่ 19 : มุ่งสู่ใจกลาง

     

    “ก้มหัวไว้”  ริกบอกให้ผมกับเอิร์นก้มหัวก่อนที่มันจะขับรถเป็นเส้นทแยงไม่ให้หน้ารถหันไปทางบ้านนั้น

    “ถึงแล้วบอกกูด้วย”  เอิร์นพูด

    “เออน่า”  ริกเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นอีกเพื่อจะได้ถึงบ้านไม้ข้างหน้าให้เร็วขึ้น

     

    เปล้ง  ! เสียงกระสุนกระทบกับข้างตัวรถฝั่งคนขับดังขึ้น

     

    “ยังเอานะเว่ย รถอ่ะ !”  ผมตะโกน เมื่อพวกมันเล่นยิงซะกะให้พรุนไปข้าง

     “เตรียมตัวๆ....  บุก  !”  ริกกระแทกประตูฝั่งคนขับออกก่อนสาดยิงเข้าไปในบ้านทันทีแบบไม่คิดชีวิต เขารีบวิ่งอ้อมเข้าไปหลบข้างบ้าน

     

                ผมหันหลังกลับมาเอิร์นก็หายไปแล้ว  ‘จะเอาไงกับตัวเองดีวะเนี่ย’ ผมคิด ก่อนวางเป้ไว้บนเบาะข้างๆพลางหยิบแม็กกระสุนปืนพกสำรองมาเหน็บไว้ที่หลังก่อนจะเช็คแล้วเก็บปืนสั้นไว้ที่ขา

     

    ฟังจากเสียงแล้วนี่มันสงครามย่อยๆ เลยนี่หว่าผมรีบฉีกชายเสื้อยืดของผมเอามารัดรอบแผลเพื่อห้ามเลือด  ออกแรงดึงจนตึงเพื่อให้มันแน่นเท่าที่ทำได้ ก่อนพยุงตัวเองออกมาจากรถตอนนี้ผมไม่เห็นแล้วว่าสองคนนั้นหายไปไหน ได้ยินแต่เสียงปืน  ผมค่อยๆ พยุงตัวเองไปข้างหน้าจนถึงข้างตัวบ้าน  ผมดึงปืนสั้นออกมาจากซองที่ขา ค่อยๆ เดินอ้อมไปยังหลังบ้าน

     

                อยู่ดีๆ ทุกอย่างก็เงียบไม่มีเสียงปืนใดๆ ทั้งสิ้น ทำเอาในหัวผมคิดอยู่สองอย่าง ‘ไม่พวกมันก็พวกเราต้องตายแน่ๆ’ ผมคิดในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงสไนจากที่ไกลๆ  ปัง !  ผมรีบหันหลังไปดูทันทีก่อนเห็นชายคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นในมือถือขวานไม้ด้ามนึง  ‘ขอบคุณมากไอเปา’  มองไปยังมินิมาร์ทเป็นเชิงขอบคุณก่อนตัดสินใจเปิดประตูหลังบ้านเข้าไปข้างใน

     

                ภายในบ้านอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเขม่าดินปืนแล้วก็กลิ่นคาวเลือด  พื้นบ้านนี้เป็นไม้เคลือบเงาสภาพยังดีทีเดียว  ตัวบ้านประดับด้วยรูปภาพที่ถูกใส่กรอบไว้อย่างดี ผมเดินเข้ามาในห้องครัวซึ่งอยู่ใกล้ขวามือผมที่สุดตอนนี้ก่อนจะชะงักหยุดเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินมาทางห้องครัว  ผมรีบหลบตรงมุมอับของห้องและกระชับปืนแน่นเงื้อมือขึ้นเตรียมยิงทันทีเมื่อมีคนเดินผ่านมา ผมกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้นปนหวาดกลัว ก่อนที่พวกมันจะเดินผ่านไปโดยที่ผมก็ยังไม่ได้ยิงอยู่ดี

    “พวกมันไปไหนกันวะ ศัตรูก็อยู่นี่”  ผมพึมพำกับตนเองก่อนค่อยๆ ชะโงกหน้าออกไปเพื่อสังเกตทางก่อนจะหยุดอยู่นิ่งๆ เพื่อฟังเสียงความเคลื่อนไหว  ปัง  !  เสียงปืนดังขึ้นทางหน้าตัวบ้านก่อนจะเห็นเจ้าคนที่ผ่านไปเมื่อตะกี้โผล่มาด้วยความตกใจ  ไม่รู้ว่าเจอผมหรือเพราะหนีการซุ่มยิงของเปามากันแน่ ผมจัดการยิงเข้าที่ลำตัวจนร่างนั้นกระตุกก่อนจะลงไปนอนกองกับพื้น

     

                ผมรีบเดินไปยังหน้าบ้าน  เห็นไอ้สองคนก่อนหน้าโดนเปายิงตายคาที่เรียบร้อย  ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้เกลื่อนไปด้วยซากศพและซอมบี้  ผมเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นสองเพื่อหวังว่าพวกมันจะอยู่ข้างบนกันก่อนจะได้ยินเสียงคนสองสามคนคุยกันอยู่ในห้องๆ หนึ่งข้างบน

    “เฮ้ย ! แกเป็นใครวะ”  ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปตามเสียงพบกับวัยรุ่นคนนึงเล็งปืนมาที่ผมที่กำลังซุ่มอยู่ตรงบันไดขึ้น ปัง !  เจ้านั่นยิงพลาดไปโดนบันไดที่ทำด้วยไม้แตกกระจุย ผมรีบวิ่งขึ้นข้างบนทันที  ผมพุ่งเข้าไปยังประตูแรกที่เห็นและรัวกระสุนใส่เป้าหมายในห้องที่มีแค่คนเดียว

     

    ปัง !  เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งผมแน่ใจว่าเป็นพวกเราแน่เพราะพวกมันคงไม่ยิงกันเองหรอกก่อนหยิบแม็กที่เหน็บไว้ข้างหลังออกมาเปลี่ยน   กึก...  ผมได้ยินฝีเท้าคนขึ้นบันไดมาจึงรีบยกปืนขึ้นเตรียมยิงแต่กลับเป็นริก

    “มึงมาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย !”  ริกตะโกนด้วยความประหลาดใจ

    “มาช่วยพวกมึงน่ะสิ ! แล้วหายไปไหนกันมา” ผมถาม

    “ข้างล่างมันมีห้องใต้ดินอีก แล้วข้างบนมึงจัดการหมดแล้วหรอ”  ริกถาม

    “ยังเลย  แล้วไอเอิร์นล่ะ”  ผมถามกลับ

    “กำลังขึ้นมา”

    “เฮ้ย ! พวกมันอยู่โน่น !” ผมได้ยินเสียงคนตะโกนก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง

    “ไปเร็ว ! ว่าแต่มึงหายแล้วหรอ”  ริกถามพลางชำเลืองมองไปยังทางเดินข้างบนซึ่งสุดทางมีพวกมันอยู่ก่อนจะหันไปมองไอเอิร์นที่ใช้บันไดเป็นที่กำบังพลางยิงตอบโต้

    “มึงเอาระเบิดมามะ”  ริกถาม

    “เอามาทำไมล่ะ ว่าแต่จะออกไปยังไงเนี่ย”  ผมรู้สึกว่าเราเหมือนติดกับ

    “เดี๋ยวกูยิงถ่วงเวลาให้ มึงรีบลงบันไดนะ”  ริกพูด

    “โอเค”  ผมลุกขึ้นมายืนอยู่หน้าประตูชำเลืองมองเอิร์นที่ส่งสายตาบอกว่าพร้อม

    “ไป !” ริกตะโกนก่อนพุ่งออกไปยิงเจ้าพวกนั้นที่หลบอยู่ตรงแยกข้างหน้า

     

                ผมรีบวิ่งเท่าที่จะวิ่งได้ออกมาจากห้องก่อนหันไปมองข้างหลังเห็นว่ากระสุนริกมันหมดแม็กแล้วเลยใช้ปืนสั้นยิงต่อเลยบอกให้มันถอยกลับ เพราะเอิร์นยิงโต้อยู่ตรงบันได

     

    ครึ่ก  ครึ่กก  ครึ่กกก... เสียงเหมือนวัตถุขนาดขนาดเล็กกลิ้งอยู่บนพื้นไม้

     

    “ระเบิด !”  ริกตะโกนก่อนหันหลังวิ่งแล้วทำไม้ทำมือบอกให้ผมกับเอิร์นรีบลงบันไดไป  ตูม !     เสียงระเบิดดังลั่นห่างจากตัวริกไม่กี่เมตร  ทำเอาริกลอยหลามาชนผมที่กำลังลงบันไดด้วยขาที่เจ็บแปลบอยู่จนพุ่งถลาลงกระแทกขั้นบันไดจนไปสุดที่พื้นไม้ชั้นล่าง

    “โอย… พวกมึงยังอยู่กันมั้ยเนี่ย”  ผมถามเสียงอ่อยพลางมองไปยังชั้นสองที่มีควันฟุ้งไปทั่ว  แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจก็ตรงที่พื้นไม่ยักจะทลายลงมา  มันเหมือนมีแค่รอบๆ บริเวณระเบิดเท่านั้นที่พังทลายแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่

    “ลุกเร็วเข้า !”  เอิร์นยกตัวริกที่ไปนอนกองอยู่กับศพให้ลุกขึ้น

    “ระเบิดขนาดย่อมน่ะยังแรงไม่เท่าที่เราเจอกันหรอกมันเอาไว้ใช้เปิดทางก่อนบุก”  ริกพูดเมื่อเห็นผมมองไปทิศที่ระเบิด

    “งั้นก็หมายความว่า...” 

    “ไปๆ ! พวกมันยังไปได้ไม่ไกลหรอก”  ไม่ทันไรผมก็ได้ยินเสียงพวกมันตะโกนขึ้น  ปัง !  ผมได้ยินเสียงปืนสองนัดก่อนที่จะเห็นผู้ชายสองคนหล่นลงมาตามบันได

    “ตอนนี้แหละรีบลุกเร็วเข้า”  เปาตะโกนออกมาจากด้านนอกของตัวบ้าน

     

                ผมรีบลุกตามสองคนข้างหน้าไปยังรถที่จอดอยู่ข้างหน้าบ้านสภาพแต่ละคนนี่ดูไม่ค่อยได้เท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนนี้ริกกับเอิร์นที่ไม่ต่างกับไปออกรบมา  เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยเปรอะทั้งเลือดตัวเองและศัตรูไหนจะซอมบี้กัดไหนจะกระสุนปืนอีก ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าพวกมันโดนยิงกันรึเปล่า

     

                เอิร์นพยุงผมจนขึ้นมาบนรถสำเร็จโดยเอิร์นรีบไปนั่งเก้าอี้คนขับเพื่อเตรียมรถทันทีโดยเปาก็นั่งข้างหลังด้วยเผื่อพวกมันยังออกมาไล่ยิงอีก

    “ดูนี่ซะก่อนว่ากูเจออะไร”  ริกถามพลางชูขวดยา

    “ไปเจอจากไหนวะ” ผมถาม

    “ซื้อมาจากชั้นใต้ดินน่ะ ข้างล่างมันมีตู้ยาที่มีแค่ของขายเท่านั้น” ริกพูดก่อนยื่นขวดนั่นมาให้

    “เท่าไหร่วะเนี่ย ว่าแต่กระสุนมันฝังนะมันจะเอาออกมาได้ไงวะ”  ผมพูดอย่างสงสัย

    “มันเกมส์นะเว่ย  คิดไรมาก” เปาพูดก่อนโดดลงไปจากกระบะไปเติมน้ำมันเนื่องจากเอิร์นมันขับมาหยุดที่ปั้มเหมือนเดิมเพื่อเติมน้ำมันอีกรอบ

    “อื้อหือ... แสบไปถึงทรวง”   ผมพูดหลังจากราดน้ำยานั่นจนหมดขวดลงไปบนแผลที่ถูกยิง ผมรู้สึกแสบไปถึงข้างในเหมือนกับว่ามันรักษาตามรอยการโดนยิงเข้าไปในเนื้อเลยทีเดียว

    “จ่ายคืนด้วย 5 พัน”  ริกถามพลางหยิบแม็กสำรองมาใส่กระสุนเตรียมไว้

    “แปะไว้ก่อนละกัน”   ผมควักแม็กกระสุนต่างๆ ออกมาวางบนกระบะเพื่อจะได้เตรียมกระสุนให้พร้อม

    “ออกเดินทางได้ !” เอิร์นตะโกนขึ้นก่อนกลับมาขึ้นนั่งฝั่งคนขับส่วนไอเปาก็กลับไปนั่งข้างหน้า

    “เออ แล้วไอเอิร์นมันไม่เห็นเป็นไรเลย”  ผมถาม

    “มันซื้อปุ้บใช้ปั้บ ส่วนหนึ่งก็ซื้อมาเก็บไว้ฉุกเฉินด้วย กูก็ซื้อไว้เหมือนกัน”ริกบอกก่อนยัดกระสุนปืนเข้าแม็ก

    “เฮ้อ ~ ไม่น่าเชื่อเนาะ ว่านี่เพิ่งเย็นวันที่ 2หลังจากเข้าเกมส์”  ผมพูดสายตาจับจ้องไปยังดวงอาทิตย์ที่อีกไม่นานก็คงลับขอบฟ้า

    “นั่นสินะ แค่สองวันแรกยังขนาดนี้ จะอยู่ครบอาทิตย์เปล่าก็ไม่รู้สิ ฮ่าฮ่า” ริกพูดจบก็หัวเราะ

     

                หลังจากเตรียมสัมภาระเสร็จเราสองคนก็นั่งกินลมชมวิวยามเย็นของเกมส์ไปตลอดทางที่พวกเรากำลังเดินทางไปยังเมืองต่อไป

     

    ก๊อง  ! ก๊อง ! ก๊อง !   เสียงเคาะกระจกทำเอาผมตื่นขึ้น ตอนนี้มืดแล้วและผมก็ไม่รู้ด้วยว่าผมกับริกหลับไปตอนไหนผมหันไปทางต้นเสียงเคาะ

    “ถึงแล้ว ปลุกไอริกด้วย”   เปาตะโกนมาจากข้างหน้า

    “อื้อ !”  ผมหันกลับมาเขย่าตัวริกที่ยังนอนแผ่หลาอยู่ให้ตื่นก่อนจะลุกขึ้นเพื่อจะได้มองข้ามห้องคนขับไปยังเมืองข้างหน้า  แต่ก็ไม่เห็นจะพบแสงสว่างของเมืองที่พวกมันบอกว่าเป็นศูนย์กลางของผู้เล่นในเกมส์นี้ ข้างหน้าผมไม่มีแม้แต้แสงไฟด้วยซ้ำ

     

                ผมเห็นแต่ภูเขาที่ตั้งตระหง่านสูงขึ้นไปหลายเมตรก่อนจะพอมองเห็นว่าใจกลางของภูเขามีทางเข้าไม่กว้างเท่าไหร่แต่ก็พอสำหรับรถที่เรานั่ง

    “มึงหลอกกูหรอ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”   ริกที่ลุกขึ้นมายืนข้างๆผมถามขึ้น

    “ไม่รู้สิ สงสัยกูคงโดนหลอกมาอีกทีมั้ง”  ผมตอบมัน พลางมองไปยังทางผ่านเข้าไปในหุบเขาข้างหน้า

     

    ..........

       

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in