เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชีวิต 1 ปีในญี่ปุ่น#8e6ab9
เจ้าหญิงแห่งสายฝนเมืองคามาคุระ
  • ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าใน1ปี จะมีอยู่ 4 ฤดู คือผลิ ร้อน ร่วง หนาว
    จริงๆแล้วญี่ปุ่นก็มีหน้าฝน(梅雨) เหมือนกัน แต่จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆประมาณ 1 เดือนราวกับว่าจะมาเตือนให้รู้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนฤดูแล้วนะ

    ช่วงฤดูฝนของญี่ปุ่นมาตอนประมาณปลายเดือน5 ถึงปลายเดือน 6 และเมื่อถึงเดือน 7 ก็จะเข้าฤดูร้อนอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ
    ถ้าพูดถึงฤดูฝน หลายๆคนคงคิดเหมือนกันว่าไม่อยากออกจากบ้าน เพราะเดินทางลำบากและเฉอะแฉะ แต่ก็ยังไม่วายมีเจ้าหญิงตัวน้อยที่ออกมาเรียกเราให้ออกจากบ้านจนได้ ถ้าไม่นับทางเหนือเช่นฮอกไกโด เมื่อเข้าหน้าฝนไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะได้เจอดอกอะจิไซ หรือที่รู้จักกันในนามว่า "ดอกไฮเดรนเยีย" นั่นเองค่ะ 

    ดอกอะจิไซ หรือที่รู้จักกันในนาม ดอกไฮเดรนเยีย


    ถึงจะพูดว่าหันไปทางไหนก็เจอ แต่ก็ไม่ใช่พุ่มใหญ่ๆสูงๆ อลังการงานสร้างแบบที่บางคนจินตนาการไว้
    วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสถานที่ชมดอกอะจิไซแบบดูให้เบื่อกันไปข้างนึง5555555
    เนื่องจากเราพักอยู่ใกล้ๆกับโตเกียว และมีเรียนในช่วงวันธรรมดา เลยจำเป็นต้องไปแบบเช้า-เย็นกลับค่ะคิดว่าทุกคนอาจจะเคยเห็นรูป หรือได้ยินชื่อเสียงของเมืองนี้กันมาบ้างแล้ว

    "คามาคุระ"

    เมืองเก่าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพระใหญ่ วัดเก่าแก่
    และยิ่งไปกว่านั้น จากบรรดาวัดต่างๆในคามาคุระนั้นก็มี "วัดอาจิไซ" อยู่ด้วยเช่นกันค่ะ

    วัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ "จำนวน" ดอกอะจิไซ ก็คงจะไม่พ้นวัด Meigetsu-in Temple (明月院)หรือที่รู้จักกันในนามว่า วัดอะจิไซ Ajisai dera (あじさい寺) ที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเองค่ะ
    ด้วยจำนวนอะจิไซที่วัดปลูกมีถึง 2,500 ต้น จึงทำให้มีผู้คนมากมายอยากมาชมดอกอะจิไซที่วัดนี้ และดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวรวมไปถึงคนญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะหน้าฝนของญี่ปุ่นที่จะมีคนมาท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษค่ะ

    มีพุ่มอะจิไซแบบนี้ทั่วทั้งทางเดินรอบวัดเลยค่ะ ปริ่มมากก

    โดยหน้าอะจิไซผลิดอกจะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน จึงทำให้วัดเก็บค่าเข้าชมแพงกว่าเดือนอื่น(?)ค่ะ 
    ถ้ามาเดือนอื่นค่าเข้าชมวัดจะอยู่ที่ประมาณ 300 เยน แต่ถ้ามาเดือนมิถุนายน ราคาจะขึ้นมาเป็น 500 เยนนั่นเองค่ะ (สำหรับเรา ที่มาวัดนี้คือตั้งใจมาดูอาจิไซเต็มที่ เลยรู้สึกว่าเป็นราคาที่รับได้เพราะดอกอะจิไซเยอะจริงๆค่ะ ปริ่มมาก ฮา)

    แค่ทางเข้าวัดก็สวยแล้วว

    รูปปั้นที่วัดนำดอกอะจิไซมาตกแต่งจนดูน่ารักไปเลย


    ตอนที่เดินออกจากวัดนึกว่าเดินหมดแล้ว แต่ก็ยังมิวายแอบมีเซอร์ไพร์สเล็กๆน้อยๆ ด้วยป่าไผ่เล็กๆ(เล็กจริงๆ) ตรงทางขาออกจากวัดค่ะ เอาไว้ถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆได้เหมือนกันค่ะ ได้ฟีลร่มรื่นไปอีกแบบเลย

    ส่วนตัวค่อนข้างแนะนำวัดนี้ให้เป็นที่แรกในทริปคามาคุระ เพราะวัดตั้งอยู่ที่สถานี (JR) Kita-Kamakura ค่ะ (ถ้ามาจากโตเกียวก็แวะตรงนี้ก่อนเข้าเมืองได้เลย จะได้ไม่ต้องนั่งวนมาๆไปๆ)

    ป่าไผ่เล็กๆก่อนถึงทางออกวัดเมย์เก็ตสึอิน

    คิดว่าหลายๆคนอาจจะเคยเห็นรูปโปรโมตเมืองนี้ด้วยรูปถ่ายสไตล์ รถไฟวิ่งผ่านพุ่มอะจิไซ
    เลยจะมาชี้เป้าเอาไว้ให้เผื่อเป็นหนึ่งในตัวเลือกเวลาจัดทริปเมืองคามาคุระค่ะ♥

    รถไฟคู่กับดอกอะจิไซก็จะประมาณนี้♥

    ที่นี่คือศาลเจ้าโกะเรียว Goryo Jinjya (御霊神社) นั่งรถไฟสาย Enoden มาลงสถานี Hase และเดินต่ออีกแค่ประมาณ 5 - 10 นาทีก็ถึงศาลเจ้าแล้วค่ะ
    แต่ถ้ามาช่วงคนเยอะอาจจะต้องแย่งที่ถ่ายรูปรถไฟกันนิดนึงนะคะ เพราะเป็นที่ฮ็อตฮิตของคนที่ชอบถ่ายภาพพอสมควร


    ------------------------------------------------

    หลังจากที่แวะถ่ายรูปรถไฟหน้าศาลเจ้ากันเสร็จแล้ว ก็ยังเข้ามาชมศาลเจ้าได้ค่ะ (ฟรีด้วย) 
    ด้วยความเป็นศาลเจ้าเล็กๆ แถมเรามาช่วงปลายเดือนมิถุนายน (ใกล้หมดซีซั่นแล้ว) บวกกับเรามาตอนช่วงเย็นๆแล้ว เลยทำให้ไม่มีคนเลย บรรยากาศดีมากกก
    ให้ฟีลเหมือนในอนิเมที่ตัวเอกเข้าไปในศาลเจ้าเล็กๆ สงบๆ  



    บรรยากาศศาลเจ้าตอนเย็นสงบมากๆฮืออ

    หากใครชอบเที่ยวแนววัดโบราณ ชอบอะจิไซ หรือสนใจอยากลองไปเยี่ยมเยียนเมืองคามาคุระก็อย่าลืมลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะคะ เพราะยังมีอีกหลายที่มากก ที่ไม่ได้หยิบยกมาพูดถึง

    รวมไปถึงเกาะเอโนชิมะที่อยู่ใกล้ๆเมือง、 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเอโนชิมะและอื่นๆก็ยังมีอีกเพียบเลยค่ะ :D

    ประตูศาลเจ้าโกะเรียว

    ดอกอะจิไซสีชมพูสดใส♥

    "พระใหญ่" ที่มีชื่อเสียงของเมืองคามาคุระ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in