เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
once rememberedployapha.j
Portland #1 | เพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน






  • ตอนนั้น... จำได้ว่า...




    เราซื้อตั๋วรถไฟสาย Coast Starlight
    ชมชายฝั่งและแสงดาวเลียบชายฝั่งแปซิฟิกอันงดงาม
    ที่ชาวบ้านชาวช่องคนอื่นเขานั่งจากแอลเอมาซีแอตเทิล
    แต่เราดั๊นนน นั่งย้อนศรคนอื่นโดยเริ่มจากซีแอตเทิลลงไป





    มาจะกล่าวบทไปถึงความงามของทางรถไฟสายแสงดาวกันซักนิดดีกว่า









    รถไฟสายนี้เป็นหนึ่งใน 36 เส้นทางรถไฟที่ควรไปสัมผัสซักครั้งในชีวิต
    และเป็น The most beautiful train ride in America
    (ซึ่งAmerica ในที่นี่เราคิดว่าน่าจะ USA นะ)
    ที่เชื่อมต่อหัวเมืองฝั่งตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน
    โดยต้นสายเริ่มตั้งแต่ลอสแองเจิลลิส แคลิฟอร์เนียมาจบที่ซีแอตเทิล วอชิงตัน



    มีเคบินพิเศษที่เป็นกระจกใส สามารถนั่งชมความงามของชายฝั่งแปซิฟิก
    รวมถึงภูมิทัศน์เขียวขจีของป่าเขาลำเนาไพร และชมความงามของแสงดาวยามค่ำคืน


    โอ้โห โรแมนติกสุดๆ







    ซึ่งแน่นอน ข้าพเจ้าผู้กูเกิลมาแล้ว อ่านพันทิปก็มาก
    เกิดความอยากจะนั่งรถไฟสายนี้เสียเหลือเกิน
    นัยว่าทรานไซบีเรียนยังไม่ได้นั่ง ก็เอาสายนี้ก่อนละกันนะ




    และไหนๆก็มาเที่ยวแต่ฝั่งตะวันตกแถมเที่ยวแถบนี้ไล่เรียงมาตั้งแต่
    แอลเอ ซานดิเอโก จนมาซีแอตเทิล
    ครั้นนั่งยิงยาวลงใต้โดยไม่แวะพอร์ตแลนด์ด้วยก็กระไรอยู่
    เหมือนมาแล้วเก็บเมืองไม่ครบยังไงก็ไม่รู้



    แวะซักนิดก็ได้











  • วันรุ่งขึ้นเราเลยนั่งรถไฟจากซีแอตเทิลมาพอร์ตแลนด์
    สัมผัสวิวป่าเขาและต้นสน ตลอดจนทะเลสาบ
    และมาถึงที่หมายในช่วงบ่ายที่อากาศแจ่มใส น่าเดินเล่น





    ----------------------------------------------------------------------



    ขอคั่นด้วยความในใจจากผู้เขียน

    เนื่องด้วยระยะเวลาที่อยู่บนรถไฟมันนิดเดียว
    เราเลยไม่ได้ไปที่เคบินชมวิวดังกล่าวที่โฆษณาไว้ข้างต้น


    ผู้อ่านก็คงสงสัย...
    แล้วพวกเอ็งจะนั่งรถไฟกันทำไมให้เสียเวลาวะ
    ในเมื่อนั่งบัสระหว่างเมืองมันเร็วและถูกกว่ามาก



    เรื่องของเรื่องคือเราซื้อตั่วแบบ multiple stop ไว้ไง
    อยากมามาแวะพอร์ตแลนด์เพื่อยืดเส้นยืดสายก่อนแล้วนั่งต่อแบบเต็มสตรีม

    เดี๋ยวจะมีเกี่ยวกับรถไฟโดยละเอียด
    ติดตามตอนหน้าๆของหน้าๆต่อไปนะจ๊ะ




    -------------------------------------------------------------------------






    โอเค ตัดภาพกลับมาที่ฟ้าใส แดดจ้า ลมปานกลางในพอร์ตแลนด์




    พอมาถึงปุ๊บ เช็คอินเข้าที่พักปั๊บ

    น้องเหา
    (หรือชื่อจริงคือไอซ์ แต่ทุกคนเรียกว่าเหา)

    น้องคณะของเราที่มาเรียนภาษาในช่วงปิดเทอมที่นี่ก็มารับพวกเราไปเดินเที่ยวในเมือง



    ด้วยความที่มีคนพาเที่ยว ฉะนั้นกิจกรรมในพอร์ตแลนด์คือการไหลตามเขาไปเรื่อยๆ
    ไม่ได้คิดแพลนใดๆไว้ทั้งสิ้น ตามใจเลย จะกินข้าวที่ไหน แวะทำอะไรก็ปล่อยจอยตามสบาย
    มีเวลาสองวันเต็มๆแบบชิวๆ กะว่าก็กุ๊กกิ๊กเดินเล่นในเมืองนั่นแหละ






    และจุดที่เที่ยวแรกในพอร์ตแลนด์คือ นั่งกระเช้าชมวิว








    เหาบอกว่าพวกพี่โครตโชคดีที่มาวันนี้
    เหมือนเอาแสงอาทิตย์ติดตัวมาจากแคลิฟอเนีย
    เพราะช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาฝนตก ฟ้าครึ้มตล๊อดดดดดด ไม่เจอแดดเล้ย




















    ระหว่างทางเดินไปขึ้นกระเช้าชมเมือง


























    พอร์ตแลนด์เป็นเมืองฮิปๆน่ารักทางฝั่งตะวันตกของประเทศ
    และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการวางผังไว้ดีที่สุดในโลก
    (ข้อมูลจากคลาสกฎหมายผังเมืองเลยนะ)
    ทำให้ที่นี่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีงาม
    ความร่มรื่นมากที่สุดของประเทศและมีผังเมืองที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ
    เรียกได้ว่ามีสวนสาธารณะทุกๆสองช่วงถนน
    เป็นเมืองที่มีสวนดอกกุหลาบอยู่เป็นจำนวนมากจนได้ชื่อเล่นว่า “เมืองดอกกุหลาบ”




    และด้วยผังเมืองที่ดี (ซึ่งตอกย้ำความเชื่อที่เราเขียนไว้ในบทก่อน)
    ทำให้ตามสถิติแล้ว ประชากรในพอร์ตแลนด์จึงมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดที่อเมริกา!




    ผู้คนนิยมใช้จักรยานกันมากจนมีทางจักรยานมากมาย
    จึงมีระบบเครือข่ายเลนส์สำหรับจักรยานที่มากสุด
    ตัวอย่างก็ในภาพด้านบนนั่นไง





    ถ้าอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับพอร์ตแลนด์แดนฮิปสเตอร์แห่งตะวันตก
    จงไปกดซื้อหนังสือ Dear Portland
    ของคุณ ธนชาติ ศิริภัทราชัย มาอ่านโดยพลันนนนน



    มีตัวอย่างให้อ่านตรงนี้ด้วยนะ >> จิ้ม





    สาบานด้วยเกียรติของเนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ว่าไม่ได้ค่าโฆษณานะ
    นี่เป็นผู้อ่านที่ไปยืนขอลายเซ็นในงานหนังสือตอนซื้อเล่มนี้จริงๆ
    ชอบมาก ชอบตั้งแต่อ่าน New York 1st time แล้ว
    ซื้อ Real Alaska มาอ่านด้วย กรี๊ดมาก

    อ่านแล้วทำให้เกิดความใฝ่ฝันลึกๆในดวงจิต
    ว่าอยากเขียนอะไรที่ออกมาเป็นชิ้นเป็นอันแล้วอ่านสนุกแบบนี้
















  • กลับมาเข้าเรื่องของเราต่อกับการขึ้นกระเช้า
    ก็นั่นแหละ ไม่มีอะไรมาก ขึ้นไปชมวิวรับลมแล้วก็ลงมา

































































    ท้องฟ้าใส เมฆขาวเหมือนปุยนุ่น















    ลงจากจุดชมวิวแล้วเราก็มาเดินกุ๊กกิ๊กในเมืองกันต่อ







    ห้องสมุดที่มีคนเข้ามาใช้บริการมากมาย
    บรรยากาศเงียบสงบ ไม่อึมครึม หนังสือก็ใหม่มาก อัพเดตตลอด




















    มีพื้นที่สาธารณะให้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจ
    เริ่มคิดแล้วว่าเพราะอากาศด้วยรึเปล่า
    ที่ทำให้คนออกมาทำกิจกรรมข้างนอกมากขึ้น



    แต่พอคิดตัดภาพไปที่สิงคโปร์...
    แล้วตัดภาพมาที่ฟุตบาท minesweeper ของบ้านเรา....



























    มาต่อกันที่ Pioneer Courthouse Square


































































































    อีกเรื่องหนึ่งที่เรามองเห็นถึงความต่างระหว่างรัฐทางตอนเหนือ
    คือวอชิงตันและโอเรกอน เทียบกับแคลิฟอเนียและเนวดาคืออาหารการกิน
    นั่นคือ...



    เราไม่เห็นร้านฟาสฟู้ด



    มากสุดคือแมคและซับเวย์ นอกนั้นเหมือนไม่มีอยู่ในโลก
    ทั้ง Chipotle, Taco bell หรือ Hungry Jack แม้กระทั่ง Wendy's


    เลยรู้สึกว่าพฤติกรรมการบริโภคของคนแถวนี้แตกต่าง
    ร้านอาหารส่วนใหญ่คือร้านอาหารแบบจริงจัง ไม่มีเฟรนไชนส์ใดๆเลย



    อ้อ! และที่เก๋สุดในพอร์ตแลนด์คือที่นี่มี Food Truck เยอะมาก
    แอลเอว่าก็เยอะแล้ว แต่ที่นี่มีเยอะกว่านั้นมาก และจัดระเบียบเป็นระบบเรียบร้อย



    รวมถึงที่นี่มี Food Cart ที่เป็นรถลากขายอาหารด้วย
    ฟิลลิ่งแบบ Street food บ้านเราอะ ที่ขายกันข้างทาง


    แต่แต่แต่!

    เขาจัดเป็นโซนเรียบร้อย
    ไม่วางโต๊ะเก้าอี้เกะกะขวางทางคนเดิน
    ไม่เทเศษอาหารลงบนพื้นถนน





    คนทำงานออฟฟิศเดินลงมาจากตึกก็มาต่อแถวซื้อ
    นั่งๆยืนๆกินไม่ก็ซื้อขึ้นตึก


    อ้าว ก็เหมือนที่ไทยอะ
    ที่ทุกคนซื้อของกินข้างถนน


    ซึ่งเรารู้สึกว่าเขาทำได้
    แล้วทำไมแผงขายไก่ทอดหาดใหญ่ริมบีทีเอส
    รถเข็นผลไม้ตามถนน
    หรือร้านหมี่เกี๊ยวและส้มตำหน้าเซเว่นจะจัดระเบียบแบบนี้ไม่ได้วะ


















































    ที่จอดจักรยานและจุด information สำหรับนักท่องเที่ยว
    กุหลายคือสัญลักษณ์ของเขาจริงๆ

















































  • ไหนๆมาที่เมืองแห่งดอกกุหลาบแล้ว
    จะไม่ไปเดินชมสวนกุหลาบก็เหมือนจะมาไม่ถึงที่



    เหาเลยพาเรานั่งบัสมาที่ Washington Park
    ที่มีทั้งสวนสัตว์และสวนกุหลาบให้เดินพักผ่อนหย่อนใจ










    สวนสัตว์ Oregon Zoo ที่เราไม่ได้ไปเดิน




















    ที่นี่มี International Rose Test Garden ที่เอาไว้ปลูกเพาะพันธุ์
    ต้นกุหลาบหลากสายพันธุ์ และมีกุหลาบที่ได้รางวัลมากมาย






    ก้าวแรกที่เดินเข้าไปเรานึกถึงหนังสือเรื่อง เจ้าชายน้อย










    สวัสดี” เขากล่าวทักบรรดาดอกกุหลาบในสวนหนึ่ง

    “สวัสดี” ดอกกุหลาบกล่าวตอบ


















    เจ้าชายน้อยมองดูดอกไม้เหล่านั้น มันช่างเหมือนกันกับดอกไม้ของเขา


    “คุณคือใคร” เขาถามดอกไม้นั้นอย่างประหลาดใจ

    “พวกเราคือดอกกุหลาบ” 

    อา...” เจ้าชายน้อยพึมพำ



















    “เธอช่างไม่เหมือนดอกกุหลาบของฉันเลย เธอยังไม่มีความหมาย

    เพราะไม่มีใครมาสร้างความสัมพันธ์กับเธอ และเธอยังไม่เป็นของใคร.....”
































































    "เธอสวยอยู่หรอก แต่เธอไม่มีความหมายเลย”
    เจ้าชายน้อยกล่าวสืบไปกับหมู่ดอกกุหลาบนั้น

    “ไม่มีใครยอมตายเพื่อเธอหรอก แต่สำหรับดอกกุหลาบของฉัน
    แน่ละ คนผ่านไปมาตามธรรมดาก็คิดว่าดอกกุหลาบนั้นเหมือนๆกับพวกเธอ

    แต่ว่าดอกกุหลาบดอกเดียวนั้นมีความสำคัญกว่าเธอทั้งหมด
    เพราะเป็นดอกกุหลาบซึ่งฉันรดน้ำ เพราะว่าฉันได้ถนอมไว้ในฝาครอบ
    และเพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน ฉันจึงหาฉากมาบังลม ฉันได้ฆ่าตัวหนอน
    (ยกเว้นบางตัวซึ่งฉันปล่อยให้เป็นผีเสื้อ)

    ฉันจึงทนฟังเขาบ่น ฟังเขาโอ้อวด แม้กระทั่งฟังเขานิ่งเงียบ
    ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน”







    (จริงๆรูปนี้ตั้งใจว่าจะเอารูปเขาที่อยู่ตรงกลางดงดอกกุหลาบมาลง แต่เห็นหน้าชัดไปเลยไม่ดีกว่า)














  • และหลังจากที่เราถ่ายรูปกุหลาบจำนวนมาก
    จนพอมาดูรูปตอนนี้ก็เริ่มอยากเอาไปขายใน shutterstock หน่อยๆ
    เราก็เดินทางกลับกัน






    ต้องเดินทะลุกป่าออกไปโบกรถเมล์
    ทุลักทุเลพอสมควร










    เย็นวันนี้เหาก็พาเราไปกินไก่ทอดที่อร่อยที่สุดในพอร์ตแลนด์
    ที่เราลืมชื่อแล้วว่าคือร้านไหน


    จากที่กูเกิลดูรูปก็คับคล้ายคับคลาว่าเป็นร้าน Screen Door
    (ถึงไม่ใช่ร้านนี้ก็ไปเถอะ มันเป็นร้านดังของที่นี่เหมือนกัน)


    ทุกอย่างอร่อยมากจริงๆ ไก่ชุบแป้งทอดนี่เด็ดมาก กรอบแบบสุดๆ
    มันดีมากจริงๆ โอ้ยเดอะเบสสสสสต์!









    ระหว่างทางกลับที่พักเราก็คุยกับเหาเรื่องแพลนเที่ยววันรุ่งขึ้น
    โดยเดิมทีเราคุยว่ายังไงก็ได้
    ไหลไปได้เรื่อยๆ เที่ยวในเมืองอีกวันก็ได้
    หาอะไรกินไปเรื่อยเปื่อย

    ถ้าเหามีเรียนก็ไม่ต้องมาอยู่กับพวกเราก็ได้
    เท่านี้ก็ดีและเกรงใจมากๆแล้ว




    เหาเลยเสนอทริปด่วนให้ฟังว่ามีเพื่อนที่เรียนภาษาอยู่ด้วยกัน
    เป็นหนุ่มใหญ่อายุประมาณ 30 กว่าๆ มาจากเมืองจีน
    (ซึ่งเราจำชื่อเขาไม่ได้แล้ว)



    เขาอยากเช่ารถไปภูเขาใกล้ๆนี้
    ถ้าเราจะไปก็แชร์ค่าเช่ารถและค่าน้ำมันไปกับเขาได้
    เหาก็จะไปด้วย แม้ว่าไปมาแล้วก็ตาม (โคตรคนดี ซึ้งใจ)

    พวกเราก็เซย์เยสกันทันที
    เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิตนะเว้ย
    (แม้ว่าก่อนนอนต้องมานั่งกดเครื่องคิดเลขคำนวณเงินกันอีกรอบ)





    เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าแล้วนั่งรถไปขึ้นภูเขากัน!






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in