เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Portugal's tale: โปรตุเก๊สสส *เสียงสูงwanderlust_tk
ฮอลลิเดย์ไง จะอะไรล่ะ...
  • " ตอนนี้ที่มหาลัยนี่เขาหยุดกัน จะเปิดอีกทีก็วันที่ 4 มกรา นู่นแหละจ้ะ" 

    โจแอนนา อาจารย์ที่น่ารักชาวโปรตุเกสกล่าวกับพวกเราขณะจิบกาแฟไปด้วย ณ โรงอาหารด้านหน้ามหาวิทยาลัยในเช้าอันแสนสดใสวันหนึ่งของเด็กไทยตาดำ ๆ ที่ดั้นด้นออกมาจากที่พักด้วยความหนาวเหน็บ เพื่อมาตามที่ได้นัดหมายกันผ่านทางแอพพลิเคชัน Hang Out ซึ่งฉันลงทุนโหลดแอพนี้มาเพื่อไว้ใช้คุยกับโจแอนนาเพียงคนเดียว ! 

    ภายใต้การแอบถ่ายบรรยากาศภายในโรงอาหาร
    ย้อนไปเมื่อ 2 วันก่อน พวกเรามีความรีบระดับ 10 เพื่อเดินทางมายังโปรตุเกส ฉันถึงกับส่งใบลากับอาจารย์ในเช้าวันศุกร์ขณะที่เพื่อน ๆ ยังคงพรีเซนต์งานอยู่ที่คณะ เพื่อที่จะรีบกลับบ้าน เก็บของ เตรียมตัวเดินทางมายังที่นี่ภายในวันเสาร์ อาทิตย์ ให้ทันกับการเริ่มฝึกงานในวันจันทร์ตามกำหนดการ

    ไม่มีผู้ใดแจ้งกับฉันและโบว์มาก่อนว่าที่นี่จะ holiday กันยาวตั้งแต่คริสต์มาสเป็นต้นไป ทำไม ถึงทำกับชั้นด้ายยย~ 

    โจแอนนาเป็นหญิงสาวชาวโปรตุเกสทางตอนเหนือโดยกำเนิด กะจากหน้าตาแล้วอายุของโจแอนนาคงไม่เกิน 40 (ฉันก็ไม่เคยถามถึงอายุจริงของเธอเลยสักครั้ง ก็แหงล่ะ อายุเป็นเพียงตัวเลข) เป็นอาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยลูโซโฟนาและยังทำงานอยู่ในโรงงานยาอีกด้วย ที่ฉันพูดถึงโจแอนนานี่ไม่ใช่อะไรนะ ฉันแค่อยากบอกว่า โจแอนนาช่างเป็นอาจารย์ที่เฟีี้ยวฟ้าวมาก ๆ คนหนึ่งที่ฉันเคยเจอมา อาจเพราะความที่เธอเป็นชาวต่างชาติ วัฒนธรรมที่นี่ทำให้เธอสามารถสวมชุดแบบแฟชันเอเบิลมาสอนยังมหาวิทยาลัยได้ ไม่นับเสื้อโค้ทตัวนอกสุดเท่ รองเท้าส้นสูง เล็บมือสีแดง ทรงผมเป็นลอนหยักศกซอยสั้น พอดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน~ พี่ป้างไม่ได้กล่าว ฉันกล่าวเอง...

    เรื่องราวของโจแอนนายังไม่จบ เธอรู้จักกับอาจารย์เดียร์ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชภัณฑ์ที่ไทยของพวกเรา เมื่อสมัยที่ทั้งคู่มาศึกษาต่อยอดทางด้านเภสัชศาสตร์ด้วยกันที่ประเทศเยอรมนี ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสทำงานวิจัยร่วมกันและติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุให้พวกเราได้มายืนทำแล็ปกันงก ๆ อยู่ที่โปรตุเกสนี่ยังไงล่ะ

    จากนั้นโจแอนนาก็พาพวกเราไปเซย์ไฮกับห้องปฏิบัติการ หรือห้องแล็ปที่พวกเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับมันตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมเป็นต้นไป พร้อมทั้งทำการส่งมอบกุญแจห้องแล็ปให้กับพวกเรา เป็นอันว่าห้องแล็ปนี้เป็นของข้า 

    ส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ประจำห้องปฏิบัติการที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
    พูดถึงห้องแล็ปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องเล่าถึงหน้าตาห้องแล็ปของที่นี่ให้ทุกคนฟัง หากดูภายนอกมองไปแล้วก็ไม่ค่อยมีความแตกต่างจากห้องแล็ปบ้านเรานัก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ โต๊ะแล็ป จะต่างอยู่อย่างเดียวก็คือ อุณหภูมิในห้องตอนนี้ ! ฉันต้องใส่เสื้อโค้ททำแล็ปเหรอ ? ทำไมมันหนาวแบบนี้ล่ะ และทั้ง ๆ ที่หนาวแบบนี้ แต่ภายในห้องแล็ปมีเพียงแอร์คอนดิชันเนอร์ตัวเดียว (ที่หลังจากนั้นเป็นต้นมามันก็ถูกพวกเราตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 28 องศาเซลเซียสตลอดมา) ไว้จะมาเล่าถึงการทำแล็ปกันให้ฟังในคราวหลัง

    ใช้เวลาอยู่ในห้องแล็ปกันประมาณ 5 นาที หลังออกจากห้องแล็ปมาแล้ว โจแอนนาก็เสนอตัวไปส่งพวกเรายัง hostel ใช้เวลาเดินขึ้นเนินไปยังลานจอดรถหลังมหาวิทยาลัยประมาณ 3 นาที พวกเราก็พบกับเจ้าซูบารุคู่ใจของโจแอนนา 

    ฉันก้าวขึ้นนั่งฝั่งข้างคนขับ โจแอนนาคงเข้าใจในความไทยแลนด์ ดินแดนร้อนชื้นของพวกเราดี พอขึ้นรถปั๊บ เธอจึงรีบเปิดฮีทเตอร์บนรถให้ปุ๊บ เพราะถึงแม้ที่นี่จะไม่มีหิมะตก แต่ ณ ตอนนี้คือช่วงฤดูหนาวของที่นี่ อุณหภูมิที่นี่จึงอยู่ที่ช่วงเลขตัวเดียวในช่วงแรกที่พวกเรามาถึง

    โจแอนนาขอเวลาค้นหาที่พักของพวกเราผ่านกูเกิลแมพบนมือถือ จากนั้นจึงทำการติดตั้งกับแท่นพลาสติกบริเวณหน้าพวงมาลัยรถยนต์ ก่อนที่จะกดปุ่ม start พร้อม ๆ กับที่มีเสียงบอก direction ดังออกมาจากมือถือ iPhone ของเธอ ก่อนที่เธอจะทะยานรถออกไปยังท้องถนนด้วยความเร็วที่ฉันตกใจเล็กน้อย

    ซูบารุน้อยแล่นไปบนท้องถนนซึ่งรถราไม่มากมายนักตามคำบอกกล่าวเส้นทางของกูเกิลแมพ ไม่นานเราก็มาถึง hostel ของเราพร้อมคำอวยพร Merry Christmas และ Happy New Year จากโจแอนนา ก่อนที่เธอจะขับรถออกไป

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in