เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ไดอารี่ความคิดihtayaf
4-3-17 ไม่รู้ใครบ้ากว่าใคร
  •      "ไร้สาระ"

         ตอนเด็กๆ  เราชอบพูดคำๆนี้ใส่คนซึ่งทำกิจกรรมที่เราไม่ชอบ  ไม่ว่าจะเป็นการพูดต่อหน้าหรือพูดในใจ

         เมื่อเวลาผ่านไป  เรากลับรู้สึกต่างออกไป  เพราะเราคิดว่า  มันก็แค่ความชอบที่ต่างกัน

         การที่เราไม่ชอบสิ่งที่เขาทำ  มันไม่ได้หมายความว่ามันคือสิ่งไร้สาระ  ในทางกลับกัน  สิ่งที่เราชอบก็ไม่ควรถูกใครหาว่า "ไร้สาระ" เช่นกัน



         มีคนๆหนึ่ง  เธอมักชอบตั้งป้อมเวลาใครชอบอะไรสักอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนเธอและปล่อยให้ตัวเองดื่มด่ำอยู่กับสิ่งๆนั้น

         "ตระเวนไปฟังเพลงที่นั่นที่นี่  บ้า"

         "เช่าพระมาอยู่ได้  ที่มีนี่ก็เยอะแยะเต็มบ้านแล้ว  บ้า" 

         "เล่นเกมได้ทั้งวัน  บ้า"

         เหมือนในสายตาเธอ  ทุกคนจะเป็นบ้ากันไปหมดเลย


         แล้วเธอชอบทำอะไรน่ะหรือ

         เธอชอบตามอ่านข่าวโน้นข่าวนี้ไปเรื่อยๆ  เธออ้างว่าเธอต้องการจะเป็นคนทันโลกทันเหตุการณ์  

         แต่หากจะแอบมองกิจกรรมของเธอ  เราจะเห็นได้ว่า  ประมาณครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เธอชอบอ่าน  คือเรื่องราวของบุคคลสำคัญ  หรือไม่ก็เรื่องของคนดังต่างๆ  ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง  กำลังคบกับใครอยู่  มีชีวิตอย่างไร  บลา บลา บลา  

         ถ้ามองแบบจับผิด  คงต้องบอกว่า  วันหนึ่งๆของเธอหมดไปกับการสอดส่องเรื่องชาวบ้าน  (คนดังก็เป็น "ชาวบ้าน" เหมือนกัน  เพราะไม่ใช่ตัวเรา)  คงไม่ผิดนัก 
         ...............เธอไม่ยักกะว่าตัวเองบ้าแฮะ  คงคิดว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มั้ง  

         แต่ถามว่า  หากจะกล่าวว่า  เธอน่ะ  "เอาแต่อ่านเรื่องอะไรก็ไม่รู้อยู่ได้  บ้า"  ผิดไหม?
         เราว่า..............ก็ไม่ผิดนะ



         ว่ากันตามตรง  เราต่างมีสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบด้วยกันทั้งนั้น

         และเมื่อชอบอะไรมากๆ  เรามักจะใช้เวลาอยู่กับสิ่งๆนั้นมากตามไปด้วย  ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไร
    ...ในสายตาเรา  และคนที่ชอบคล้ายๆกับเรา  

         เรื่องมันจะเกิดก็เมื่อความปกติของเรามันดันดูไม่ปกติในสายตาคนอื่น  ซึ่งไม่ได้ชอบในสิ่งเดียวกับเรา  

         คำว่า  "บ้า"  และ/หรือ  "ไร้สาระ"  จึงตามมา

         ทั้งๆที่คนที่ว่าเรา  "บ้า"  น่ะ  เขาก็อาจมีสิ่งที่เขา  "บ้า"  เหมือนกันก็ได้  แค่คนละอย่างเท่านั้นเอง


         ถ้าการตามกรี๊ดดาราและนั่งดูซีรีย์เกาหลีทุกวัน  คือความบ้า  มันอาจจะไม่ต่างกับ

         การยอมเสียเวลาสองสามชั่วโมงต่อสัปดาห์(หรือมากกว่า)  เพื่อนั่งดูผู้ชายยี่สิบสองคนไล่ตามลูกบอลลูกเดียว  และความบ้าตรงนี้อาจเป็นไปในทำนองเดียวกับ

         การตระเวนแบกกล้องไปถ่ายโน่นถ่ายนี่ไปวันๆ  โดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย  นอกจากรูปในกล้อง  และระดับความบ้านี้  อาจจะพอๆกับ

         การตามอ่านเรื่องชาวบ้านเป็นวันๆ....

         ...ก็เป็นได้...


         และหากเราจะว่าใครเขาว่าบ้า  เวลาเขานั่งเล่นกีตาร์แหกปากร้องเพลง เป็นชั่วโมง ได้  เขาก็มีสิทธิว่าเราว่าบ้า  
     
         ..เวลาเรานั่งทาเล็บเป็นชั่วโมงๆ ได้  เช่นกัน

         ใจเขาใจเรานะ



         จะว่าไปแล้ว  เราไม่คิดว่าคนเราเกิดมาเพื่อจะ  "ปกติ"  หรอกนะ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเราอยากจะเก่งอะไรสักอย่าง  หรือรู้ข้อมูลอะไรมากๆ  

         ดูพวกที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นป่ะไร  คิดว่าเขาปกติเหรอ  เราว่าไม่หรอก  

         เขาต้องจมตัวเองอยู่กับอะไรสักอย่างเป็นเวลานานๆ  หรือไม่ก็ทำอะไรสักอย่างซ้ำๆกัน ไม่หยุด  แน่ๆ  กว่าเขาจะเก่งและประสบความสำเร็จกับสิ่งๆนั้นได้น่ะ
         ........มันก็เริ่มจากการ  "บ้า"  อย่างที่คนเขาว่าๆกันน่ะแหละ


         ดังนั้น  มันอาจเป็นดังที่กล่าวไว้แรกๆ  ที่ว่า  ที่สุดแล้ว  ไม่มีอะไรดีหรือเลวไปกว่ากัน  ไม่มีอะไรมีประโยชน์หรือไร้ประโยชน์มากกว่ากันจนสุดขั้ว

         มันอาจเป็นแค่ความชอบที่ต่างกัน  เราชอบอย่าง  เขาชอบอีกอย่าง  

         และตราบใดที่ "บ้า" แล้วมีความสุข  และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน(รวมทั้งคนที่บ้าเองด้วย)  ทุกคนควรมีสิทธิ "บ้า"  ได้ตามที่ตัวเองต้องการ

         
         เราต่าง  "บ้า"  กันคนละอย่าง  

         เราแค่  "บ้า"  ในรูปแบบที่ต่างกันไป  ตามความถนัดของแต่ละคน  

         ไม่มีใครปกติไปกว่าใคร  เราแค่ต้องยอมรับในความ "บ้า" ของกันและกัน  และอยู่ร่วมกันให้ได้


         เราต่าง "บ้า"  ด้วยกันทั้งนั้นแหละ  เราแค่ไม่รู้ว่า  


         ใครบ้ากว่าใคร  


         ...ก็เท่านั้น...
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in