วันนั้นเป็นวันที่อากาศดีมากวันหนึ่ง...
ขาเรียวยาวก้าวไปตามทางเดินในสวนสาธารณะพร้อมกระเป๋าบรรจุสมุดวาดรูปไว้ข้างในหนึ่งเล่ม มุ่งตรงไปยังต้นไม้ริมบ่อน้ำ ทิ้งตัวลงนั่ง กางสมุดออก มือจับดินสอเตรียมลากลวดลายลงบนหน้ากระดาษ
กิจวัตรประจำวันหลังเลิกเรียนในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
ภาพผู้ชายตัวสูงในชุดสบายๆนั่งอยู่กลางสนามหญ้า ก้มหน้าเล่นกับลูกแมวจรจัดสามสีที่ตอนนี้เริ่มจะอ้วนจ้ำม่ำ ..กลายเป็นภาพที่เห็นจนชินตา หลักฐานคือเส้นร่างดินสอที่ถูกอัดแน่นอยู่เต็มสมุด
รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
นัยน์ตาสีฟ้าราบเรียบ
หากฉาบความเศร้าจางๆอยู่เสมอ
และสามสีตัวจ้อยอีกหนึ่งตัว
หลากหลายอิริยาบถ
ถูกเก็บบันทึกไว้ด้วยลายเส้นในสมุดวาดรูปเล่มโปรด เหลืออีกไม่กี่หน้าก็จะเต็ม พรุ่งนี้คงต้องไปซื้อสมุดใหม่ คิดพลางเงยหน้าขึ้นมองคนที่เป็นแบบให้ผมวาดรูปมาร่วมเดือน
ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นนายแบบให้คนแปลกหน้าใช้สเก็ตช์ภาพอยู่ทุกวัน เขาแค่ไม่สนใจ
ตรงนี้เงียบสงบเพราะไม่ใช่ทางที่คนจะมาใช้ออกกำลังกาย และการมีอยู่ของผมก็คงไม่ทำลายความสงบนั้นของเขาสักเท่าไหร่ถึงได้ยังไม่หนีไปนั่งเล่นที่อื่น ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะผมชอบการได้นั่งมองเขา เก็บบันทึกเรื่องราวในช่วงสั้นๆของวันที่เจอกันลงในหน้าสมุด วันนี้เขายิ้มกี่ครั้ง โดนเจ้าตัวแสบตะปบเล็บใส่ไปกี่ที รายละเอียดเล็กๆอย่างขี้แมลงวันที่ใต้ตาขวา ทั้งหมดถูกวาดลงไปด้วยความใส่ใจ
หลังพิจารณานายแบบกิตติมศักดิ์ของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ความสงสัยและความไม่สบายใจก็ก่อตัวขึ้นช้าๆ
ฝ่ามือหนายังคงทำหน้าที่ลูบหัวลูบหางสามสีตัวอ้วนเป็นอย่างดีเหมือนเช่นเคย
หากแต่มุมปากไร้รอยยิ้มประดับ
และดวงตาสีฟ้าคู่สวยก็ดูจะฉายแววเศร้ากว่าทุกครั้ง
ผมชะงักมือที่กำลังจับดินสอ ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าด้วยความกังวล ความรู้สึกอยากวาดรูปหายไปในพริบตา ค่อยๆปิดสมุดวางลงข้างตัว กอดเข่ามองคนตรงหน้านิ่งงัน
อะไรที่ทำให้สีฟ้าไม่เคยฉายประกายของความสุขเลยนะ
ทำไมถึงเป็นสีฟ้าที่เศร้าขนาดนั้น
แถมครั้งนี้ ดูจะเศร้าลงอีก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เอาแต่เหม่อมองอีกฝ่าย จมอยู่กับความคิดตัวเอง กว่าจะรู้ตัวอีกที..
ฝนก็ตกลงมาซะแล้ว
ไม่ใช่จากท้องฟ้า
แต่เป็นจากดวงตาสีฟ้า
เปียกปอน
เหน็บหนาว
ตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้สีฟ้าที่ผมชอบสดใสขึ้นสักนิดก็ยังดี และหวังว่าจะทำให้หัวใจที่กำลังบีบรัดด้วยความเจ็บปวดของผมกลับมาเต้นในจังหวะเดิม
สูดหายใจเข้าลึก หยิบสมุดข้างตัวขึ้นมาเปิดอีกครั้ง ฉีกกระดาษออกหน้าหนึ่งด้วยความระมัดระวัง ลุกขึ้นยืน เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าอีกคน น้ำตายังไหลอยู่ และเขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองผม
สูดหายใจเรียกกำลังใจให้ตัวเองอีกครั้ง
ก่อนเอ่ยในสิ่งที่ตั้งใจ
"คือ.."
"..."
"ผมให้ครับ"
ดวงตาสีฟ้าเงยขึ้นสบกันแวบหนึ่งก่อนก้มลงมองกระดาษในมือผม ภาพเขากำลังเอาเศษใบไม้ออกจากขนของเจ้าสามสี รอยยิ้มอบอุ่นประดับมุมปาก นัยน์ตาที่ทอดมองอย่างอ่อนโยน ทุกอย่างปรากฏอยู่ในนั้น
ภาพวันแรกที่เราเจอกัน
"ผมคิดว่าคุณคงรู้ว่าผมวาดรูปคุณ"
พูดต่อเมื่อเห็นอีกคนนิ่งไป
"ผมอยากเห็นคุณยิ้มแบบในรูป ผมชอบแบบนั้นมากกว่า"
"..."
"หวังว่าสักวัน ผมจะได้วาดรูปคุณที่ยิ้มกว้างกว่านี้นะครับ"
ยกยิ้มอย่างดีใจเมื่ออีกคนยอมรับกระดาษแผ่นนั้นไป ดวงตามองมาที่ผมเรียบนิ่งเหมือนเคย ผมยืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง หันหลังกลับเมื่อเห็นอีกคนไม่พูดอะไร เก็บของที่ตั้งทิ้งไว้ ยิ้มให้คนที่ยังมองตามมาอีกครั้งก่อนเดินออกมา
ในใจนึกภาวนาเหมือนทุกครั้ง
หวังว่าพรุ่งนี้ ความเศร้าในตาคู่นั้นจะหายไป
น่าเสียดาย...
ที่ผมไม่มีโอกาสได้รู้ว่าคำขอของตัวเองจะเป็นจริงหรือเปล่า
เพราะหลังจากวันนั้น
ผมก็ไม่เคยเจอเขาที่นั่นอีกเลย...
?
เป็นไปไม่ได้..
"ป...ช.."
"..."
"ไ...ปั......ญ์"
"..."
"ไอ้เหี้ยปัชญ์!!!"
ผัวะ!
"โอ๊ย!! เหี้ยเต้ ตบหัวกูทำไมเนี่ย"
"แล้วมึงเหม่ออะไรล่ะ ระลึกชาติอยู่หรือไง ไปจ่ายเงินได้แล้ว"
สติผมกลับเข้าร่างอีกครั้งหลังจากโดนไอ้เต้ตบหัว อยากจะบอกมันว่าผมไม่ได้ระลึกชาติ แต่กำลังรำลึกความหลังอยู่ต่างหาก สาเหตุมาจากผู้ชายตัวสูง ผมดำขลับ ตาสีฟ้า เรียบนิ่งเหมือนมหาสมุทร ยืนอยู่ตรงโซนขายของสด ถัดจากผมไปสองบล็อก
และตอนนี้ ตาคู่นั้นกำลังสบกับผมอยู่ หลังเสียงโวยวายของเต้ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมา
"มองอะไรวะ ไปจ่ายเงินโว้ย กูหิวแล้ว"
"พูดมากว่ะ มึงเอาไปจ่ายก่อนแล้วขึ้นไปรอบนห้องเลย กูจะเดินดูของต่ออีกหน่อย"
"เออๆ ใช้กูจังวะ"
บ่นแต่ก็รับกระเป๋าเงินกับคีย์การ์ดที่ยื่นให้อย่างว่าง่าย ผมส่ายหน้าหน่ายๆก่อนหันกลับมามองที่เดิมอีกครั้ง
หายไปแล้ว...
ผมสบถขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
ไม่ผิดแน่ๆ ผู้ชายคนนั้น
กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าผมหลังจากผ่านไปห้าปี
และทั้งที่นานขนาดนั้น..
หัวใจของผมก็ยังเต้นอย่างบ้าคลั่งเพียงแค่ได้สบตากับเขา
เต้นแรงจนเจ็บไปหมด
จะรักดีเกินไปแล้ว
ตกลงใครเป็นเจ้าของร่างกายนี้กันแน่
มองหาจนทั่วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอเขา ถอนหายใจอย่างเสียดาย ตัดสินใจเดินออกจากโซน
ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อกลับคอนโดฯ ก่อนที่เต้จะโมโหหิวจนกินหัวผมแทนข้าว ในหัวนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีตที่ไม่เคยลืม สาเหตุที่เขามาที่นี่ ความเป็นไปได้ที่จะเจอกันอีกครั้ง
ความคิดตีกันวุ่นวาย เหม่อจนลืมสังเกตสิ่งรอบข้าง ขาก้าวลงบนถนนเพื่อไปยังคอนโดฯฝั่งตรงข้ามตามความเคยชิน ไม่ทันเห็นรถที่วิ่งมาอย่างเร็ว
ปี๊นน!!!
หันไปมองด้วยความตกใจก่อนจะรู้สึกราวกับกำลังลอยคว้างในอากาศ
จากนั้นก็ร่วงหล่น..
เบาะรองรับไม่ได้แข็งเหมือนที่คิดไว้ทำให้ลืมตาขึ้นมอง หัวใจที่เริ่มสงบจากเหตุการณ์เมื่อครู่กลับมาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าใครกระชากแขนผมเข้ามาก่อนจะถูกรถชน
"เดินมองทางด้วย"
ขมวดคิ้วว่าอย่างตำหนิ ตาสีฟ้าดูดุขึ้นแบบที่ผมไม่เคยเห็น
"ลุกขึ้นครับ ผมหนัก"
ถอนหายใจก่อนจะดันให้ลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าผมยังนิ่งอยู่ เขาปัดฝุ่นออกจากตัวเล็กน้อย ก้มเก็บถุงใส่ของจากซูเปอร์ฯที่ทำตกก่อนทำท่าจะเดินจากไป
"คุณ...!"
"..." หันกลับมามองพลางเลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นเชิงถาม
"แขนคุณมีแผล"
"..."
"ให้ผมทำแผลให้คุณนะครับ"
?
ผ่านไปสองตอนก็ยังไม่รู้ชื่อคุณที่ตาสีฟ้า orz
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in