เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Somewhat assortedSilapa Junior
My Mandatory Monday
  • 8.36

    ผมถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงโทรศัพท์จากเพื่อนที่มักจะหนีออกมาเดินเล่นด้วยกันเวลาเป็นคาบเลกเชอร์ไม่รู้ด้านชากับเสียงนาฬิกาปลุกไปตั้งแต่ตอนไหน "อือ...อือ...อือ" ผมหลับตาฟังเพื่อนเล่าว่าเพิ่งอุดฟันชั่วคราวใหม่ให้คุณลุงแบบแอบๆไปแม่ง ไม่น่าตื่นสายเลยอยากไปอยู่ช่วยด้วย "ยังอยู่บนเตียง เดี๋ยวรีบออกไป"ผมลุกขึ้นจากเตียงพยายามจัดการทุกอย่างเพื่อให้ออกจากห้องเร็วที่สุด ยิ่งปีสูงขึ้นเวลาที่นะให้หนีออกมาเดินเรื่อยเปื่อยก็น้อยลงเรื่อยๆยังต้องมาเสียไปกับการนอนอุตุอีก

    8.55

    รีบแล้วก็ยังช้าอยู่ดีสิน่าผมรีบล็อคกุญแจห้อง เดินโหย่งเหย่งเบี่ยงเท้าไปมาให้รองเท้าเข้าที่สองมือก็ใส่เข็มขัดไปด้วย ติ๊ง! ลิฟท์โชคดี (ตัวขวา) เปิดออกอย่างช้าๆ 

    6 5 4 3 2 1

    ติ๊ง!

     ระหว่างเดินออกจากคอนโดก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่ออย่างนี้น่าจะไปถึงภายในเก้าครึ่ง หูย อากาศหนาวจริง ถ้าเป็นอย่างงี้ได้ทั้งปีเมืองไทยนี่สวรรค์เลยนะเนี่ย วันนี้น่าจะติดเสื้อกันหนาวมาแม่งช่วงนี้รถไฟฟ้าแม่งหนาวจนสั่น ต้องออกมาหาความอุ่มทุกครั้งที่ประตูเปิด พูดถึงอากาศเย็นก็นึกถึงเสื้อกันหนาว พูดถึงอากาศหนาว ก็นึกถึงเสื้อกาวน์...เชี่ยย ลืมเสื้อกาวน์ให้ตายเหอะ

    ติ๊ง!

     ไอลิฟท์โชคดีเฮงซวย ไหนว่าจะโชคดีไง

     1 2 3 4 5 6

    ติ๊ง!

     โอยๆๆ แล้วอย่างงี้เมื่อไรจะถึงคณะ คว้ากาวน์ หยิบเสื้อหนาวล็อคประตู

     ติ๊ง!

     6 5 4 3 2 1

    ติ๊ง!

     ผมเดินด้วยความเร็ว 1.5เท่าไปที่ สถานีรถไฟฟ้า

    เอี๊ยดดด

    "ขอโทษฮะ"

     ตัดหน้ามอ'ไซค์ไปคัน

    9.09

    กฎของเมอร์ฟี่บอกว่าเออๆ จะบอกอะไรก็ช่างเหอะ สรุปว่าซวยๆดวงแตกสักอย่างนี่แหละ "สถานีต่อไปกรุงธนบุรี..." บ้าบอจริงๆ ถ้าแอร์จะร้อนขนาดนี้อย่าเปิดแอร์เลยดีกว่าหรือแอร์มันเสีย?สรุปเสื้อหนาวกู ภาระซะงั้นผมสวมพูโอเวอร์ลายทางสีเขียวที่ได้เป็นของขวัญวันเดิกจากแม่ สะพายข้างกระเป๋ามือซ้ายหิ้วกระเป๋าเอกสาร นิ้วเกี่ยวไม้แขวนกาวน์และใช้ศอกกับพุงหนีบหนังสือรวมเรื่องสั้นของมูราคามิไว้เอาออกมาว่าจะอ่านแต่สุดท้ายมือขวาที่ถือโทรศัพท์ก็ขโมยความสนใจทั้งหมดไป

    9.17

    อัพทวิตอยู่ก็มีมือถือเข้าผมกดรับก่อนที่เพลงริงโทนจะดัง "เทสท์? อ๋อโอเคๆ"หมายถึงควิซสินะ "เรายังไม่ถึงเลย...อือ"  นี่ถ้าไม่ต้องกลับขึ้นไปเอากาวน์ของถึงไปแล้วติ๊ดๆๆๆๆ ผมวางสายพร้อมกับประตูรถซึ่งกำลังจะปิดที่สถานีศาลาแดงพอดี ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามายืนจับเสาอยู่ข้างๆท่าทางจะไม่ใช่หนุ่มๆ น่าจะห้าสิบเผลอหกสิบแล้ว ทำไมยังแต่งตัววัยรุ่นสวมแว่นกันแดด หิ้วโททแบคดูมีดีไซน์อยู่เลย ถ้าเราแก่ไปแล้วมาแต่งตัวแบบนี้จะไหวไม๊นะ คงจะดูน่าขันอยู่ไม่น้อย

    9.18

    ได้ข้อความจากเพื่อนเมื่อกี๊ว่าทำให้เรียบร้อยแล้วถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไงนะ ไม่เห็นต้องคิดเลยมันไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้วป่าววะเค้าตั้งใจเรียนจะตาย....ทำอะไรดีของเยอะและเบียดเกินกว่าที่จะล้วงหูฟังโซนี่ออกมาจากกระเป๋า อ่ะอ่านเรื่องสั้นก็ได้


    9.23

    "โลกที่เราอยู่นี่ช่างแปลกประหลาด ทั้งที่สิ่งที่ผมโหยหาจริงๆ คือสเต๊กแฮมเบอร์เกอร์ธรรมดาๆ แต่บางครั้งสิ่งที่ถูกนำมาเสิร์ฟกลับมีแต่สเต๊กแฮมเบอร์เกอร์ฮาวายแบบไม่ใส่สับปะรดเท่านั้น"

     ชอบประโยคนี้จัง ผมถ่ายรูปหน้านั้นในหนังสือเอาไว้ขณะลงบันไดเลื่อนเอาคางหนีบไม้แขวนไว้อีกมือก็ความหาบัตรแรบบิต

     ติ๊ด!

    อากาศไม่ได้เย็นเท่าตอยเดินออกมาจากคอนโดแล้วนี่ต้องเข้าห้องเรียนป่าวว้า ถ้าไม่เข้าเอกระเป๋าไปวางไว้ที่ไหนดียังไม่ได้กินข้าวเลยหนิ เออต้องขึ้นไปลงชื่อรับคนไข้ฉุกเฉินด้ว..ความคิดผมหยุดชะงัก ที่หน้าร้านขายน้ำพี่เอก

    นกกาสองปรกฎขึ้นต่อหน้าผมในระเอื้อถึงวินาทีนั้น เข้าใจเลยว่าทำไม คนถึงมีความรู้สึก...รุนแรงกับนกชนิดนี้ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่เกินสามัญสำนึกจะงอยบากที่โค้งงอ ดวงตาและขนที่ดำสนิทโดยเฉพาะความไม่กลัวคนของมันนี้แหละน่าจะเป็นเหตุผลที่มีเหตผลให้กับอิมเมจของนกชนิดนี้ได้ผมเลื่อนมือเปิดกระเป๋าหยิบกล้อง อย่างช้าๆ....

    9.28

    กฎของเมอร์ฟี่บอกว่าคุณคงจะเดาเหตุการณ์ต่อจากนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไรในวินาทีที่ผมกดชัตเตอร์ลงกึ่งนึงเพื่อโฟกัส นกกาทั้งสองก็กระพือปีกบินตัดหน้าผมไปต่อหน้าต่อตา อืม กูเกลียดเมอร์ฟี่ ว่าแล้วก็เก็บกล้องฟูจิเอ็กส์สาบสิบเข้ากระเป๋าและเดินเข้าคณะ

    “มาเหอะอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”

                                                               

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in