เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryYarinda Inggploy Kiratikunthana
อิฉันจะเป็นแอร์
  • เชื่อว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่หลายๆคนใฝ่ฝัน อาจจะเป็นฝันของใครหลายคนตั้งแต่เด็ก อาจจะเป็นค่านิยมหรือด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ แต่ยังไงซะทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน  เลยอยากทำรีวิวการสมัครแอร์หลายๆสายในช่วงที่ผ่านมา เผื่อจะเป็นประโยชน์เล็กๆน้อยๆให้คนที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกันกับเรา

    1.    Evaไม่ได้ invitation

    2.    Thai airways ตกไฟนอล

    3.    Air China  - medical check

    4.    Nok Scoot ตกไฟนอล

    5.    Japan Airlines ผ่านพรีสกรีนเข้ารอบสัมเดี่ยว รอผลเข้าสัมไฟนอล

     

    เรามีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นแอร์แต่ไม่เคยรู้เลยว่าแอร์ต้องทำอะไรยังไงบ้าง บวกกับไม่เคยรู้เลยว่าการสมัครแอร์จะมีรายละเอียดยิบย่อยเบอร์นี้ ตอนเรียนก้คิดแต่ว่าอ๋อ ก้คงใช้แค่ภาษา สัมภาษ แล้วจบๆไป แต่…… มันไม่ใช่อย่างที่คิดการสมัครแอร์มันมีองค์ประกอบหลายๆอย่างรวมกัน ความมั่นใจ สติ การตอบคำถามการยิ้มแย้ม บุคลิกภาพ บลาๆๆๆ และ “ดวง”+ ความเฮงที่พกไปวันสัมภาษ (อันหลังนี่คือ คหสต 555)

    1.    การเตรียมตัวด้านภาษา

    ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนไม่เก่งภาษาอังกฤษหรือเรียกได้ว่าโง่แกรมม่ามาก ถึงจะจบมออินเตอร์มาก็เถอะ  แต่ยังดีที่เรามีภาษาที่ 3 ไว้ทำมาหากิน 55555555  ด้วยความที่เราอ่อนภาษาอังกฤษฉะนั้นการสอบโทอิคให้ได้คะแนน (พอ)สมัครได้นั้นช่างเป็นเรื่องยากสำหรับเราเหลือเกิน

    บอกตรงๆว่าสอบโทอิคไปสามรอบรอบแรก ได้ 565 คะแนน (สมัคร eva ได้) ตอนนั้นการบินไทยเปิดรับสมัครพอดี แต่ต้องมี Toeic600 up เราเลยตัดสินใจไปซื้อหนังสือ มานั่งอ่านนั่งฟัง สอบรอบสองได้ 625 เย้! สมัครการบินไทยได้แล้วโว้ยยยยย however, ชีวิตไม่สิ้น ก้ดิ้นกันไป เลยขอให้เพื่อนที่เทพแกรม่ามาสอนนนจนรอบสุดท้ายได้คะแนน 690 ถึงคะแนนจะไม่มากแบบคนอื่นเขาถึงคะแนนจะยังห่างจากคะแนนเต็มอีก 300 คะแนน แต่อยากบอกว่ามันคือความภูมิใจของคนโง่แกรมม่าแบบเรามาก  ฉะนั้นก้ขอให้เพื่อนๆที่ไม่เก่งแกรมม่า อย่าท้อค่อยๆ ฝึก เราทำได้ทุกคนก้ทำได้ !

     

    2.    ชุด

    สังเกตประเทศอื่นสมัครแอร์ส่วนมากก็เห็นเค้าใส่ชุดสุภาพแต่ไม่รู้ว่าประเทศไทยเริ่มการตัดสูทสมัครแอร์กันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้หมือไร่??? เอ้ยย !!  รู้หรือไม่….ว่ามันสร้างความลำบากให้กับเงินในกระเป๋าของคนรุ่นหลังมาก55555 เราก้เริมจากการถามคนที่รู้จักบ้างถามพี่ๆที่สตูดิโอบ้างว่าแบบชุดเค้าตัดกันที่ไหน ส่วนเราไปตัดที่ซอยละลายทรัพย์  สิ่งที่อยากแนะนำเพื่อนๆ คือการเลือกแบบชุดสีชุดมันเป็นอะไรที่สำคัญมาก!!!  เพราะการที่เราจะไปสัมภาษณ์นั้นก่อนอื่นเราต้องสร้างความมั่นใจให้ตัวเองก่อนรอบแรกเราตัดชุดสีแดง สูทเป็นทรงคอปีน ตอนใส่ไปสัมภาษณ์เราขาดความมั่นใจมาก เพราะรู้สึกใส่แล้วไม่สวยอันนี้จะเป็นข้อเสียต่อการไปสัมนะค่ะ เราเลยตัดสินใจตัดอีกชุดนึง เสียเงินไปอี้กแต่เพื่อความสบายใจ ก็เลยยอม (ชุดนึงราคา2200 บาทร้านนี้ตัดค่อนข้างเร็ว ร้าน long collection 081-923-5873 นะค่ะ เผื่อมีคนสนใจ ค่ะ จริงๆ แถวสยามก้มีเยอะนะค่ะอย่าง v-sign ราคาอาจจะสูงนิดนึงแต่สูทสวย)

    3.    ว่าด้วยเรื่องถ่ายรูป

    สำหรับการถ่ายรูปสมัครแอร์ก้มีร้านหลายๆร้านให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมดลองหาดูตามความชอบเลยนะค่ะ ส่วนตัวเรา ถ่ายที่  “ impress studio “  ตรงbts สนามเป้า ถ่ายสวย  ความประทับใจที่มีต่อร้านนนี้คือพี่เค้าน่ารักมาก ไม่ว่าจะช่างแต่งหน้า พี่ทีมงานก็ใจดีคือเอาจิงๆถ้าเราเป็นทีมงานเราอาจจะรำคาญตัวเองที่เรื่องมาก55555 แต่พี่เขาแบบดีอะ โดยเฉพาะพี่ช่างกล้องเป็นพี่ที่ไม่ใช่แค่ช่างกล้อง เค้าคอยช่วยดูว่าเราใส่ชุดไหนสวย ปากควรสีอะไร  ตลอดจนเรื่องการเช่าชุดเรื่องการเลือกรูปพี่เขาให้คำปรึกษาเสมอ ตอบเร็ว ถึงสตูที่เค้าจะเป็นสตูเล็กๆแต่พี่เค้าและทีมงามมีคุณภาพมาก แนะนำเลยค่ะ ปล.เห็นเพื่อนหลายคนไปถ่ายร้านอื่นมาไหล่เอียง หน้าปลอม ไม่โอเคกับราคาที่จ่ายไปเลย (ประหนึ่งได้ค่าโฆษณา55555 )

    เบอร์ติดต่อทางร้านเผื่อคนสนใจนะค่ะ083-853-1690

    4.    อุปกรณ์ต่างๆ

    การสมัครแอร์นั้นต้องเตรียมตัวหลายๆอย่าง อย่างที่หลายๆคนรู้ว่ากรูมมิ่งการสมัครแอร์ในประเทศไทยนั้นยิ่งกว่าการคัดเลือกนางงาม5555  บางคนอาจจะไปจ้างช่างแต่ง แต่… จะบอกว่าบางสาย process หลายรอบมากดังนั้นการจ้างร้านแต่งหน้านั้นจะละลายทรัพย์พอสมควร.เลยแนะนำเพื่อนๆที่จะเดินสายนี้ควรซื้อกิ๊ฟ เนทใส่ผม สเปรย์ เจลต่างๆ นาๆเตรียมไว้เลยค่ะ ประหยัดกว่าเยอะอีกอย่างเราเคยจ้างช่างแต่งหน้าตอนไปสิงคโปรค์แอร์ไลน์เราไม่ค่อยมีความมั่นใจกับลุคที่ช่างแต่งให้สักเท่าไหร่ 5555 นี่ก้มีผลที่จะทำให้ตกรอบได้ง่ายๆ เหมือนกันนน

     

     

    ร่ายซะยาวมาเข้าเรื่องการสมัครเลยดีก่า

     

    1.    EVAสายแรก – สำหรับสายนี้บอกก่อนเลยว่า โอโหแม่เจ้าเป็นสายแรกที่สมัครออนไลน์ และเป็นสายแรกที่ เราตกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเหมือนกันเฟลมากๆ 55555  ความรู้สึกตอนนั้นคือ เฟลแบบสุด เฟลระดับ 10000 แต่ไม่เป็นไรเรายังมีเพื่อนที่ไม่ได้เหมือนกัน 55555555

    ·      สายนี้จะให้เราสมัครผ่านหน้าเว็บก่อนกรอกข้อมูลก้ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ยิบย่อยเท่าสายการบินของสิงคโปร์

    ·      โทอิค 550 up

    คร่าวๆ ประมานนี้ พอสมัครออนไลน์เสด ก้จะเปนการรอ email นัดวันสัมภาษณ์

     

    2.    การบินไทย  ( toeic 600 up / ส่วนสูง ผู้หญิง 160cm)

    Process : apply / prescreen / paper test /final interview(group+individual)

    ·     ก่อนอื่นต้องสมัคร online ก่อนจากนั้นก้จ่ายค่าธรรมเนียมการสมัครเป็นเงิน 800บาท

    ·     พรีสกรีน –  วันแรกที่ไปถึง สำนักงานหลักสี่ การบินไทย

    1.    อันดับแรก :  นั่งรอ ที่ชั้นล่างสุด (น่าจะอาคาร 2 ถ้าจำไม่ผิด)จากนั้นจะมีการเซ็นชื่อ และมีถุงให้เอาไว้เกบสัมภาระ  และจะปล่อยให้ขึ้นไปชั้นบนเป็นกลุ่ม ๆ ตามเลขพอขึ้นไปนั้น ก็จะมีการเช็คเอกสารคร่าว ๆ และให้กรอกข้อมูลเล็กน้อย `****จากนั้นพี่เค้าก้จะแจ้งว่าคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ “สี” ให้ถอด ออกและคนที่ใส่ถุงน่องก้ต้องถอดเช่นกัน  (สรุปก้คือวันพรีสกรีนห้ามใส่คอนแทคสี และ ถุงน่อง และควรใส่สูท )

    2.    อันดับสอง : ที่จะเจอคือ การชั่งนน วัด สส  ผญ น้ำหนักห้ามเกิน สส-110 เช่น เราสูง 163-110 นน เราก้ห้ามเกิน 53  พอชั่งเสดก้จะเป็นการรอเพื่อเข้าคอกสัมภาษ  อ่อ จะบอกว่าด่านชั่งนน กรรมการค่อนข้างใจดีหากเราเกินนิดๆหน่อยๆ พยายามทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนขอเค้าดีดีบางทีเค้าก้ใจดีให้ผ่าน เหมือนกัน  แต่ก้ไม่ใช่กับทุกคนนะค่ะ 

    3.    พอเข้าห้องสัมที่เป็นคอกๆ555  จะมีกรรมการสี่ท่าน จากนั้นเค้าจะให้เราเดินตามเส้นที่เป็นเทปแปะไว้ตรงพื้นและให้แนะนำตัวไปด้วยพอเสด ก้จะเป้นการถามคำถามเล็กๆน้อยๆ จากที่เราแนะนำตัวเองไป  จากนั้นกรรมการจะดูรอยแผลเป็น ให้ยกมือกางแขนคุกเข่า ดูนิ้ว ประมานนี้  สิ่งที่อยากบอกเพื่อนๆ คืออย่าตื่นเต้นมากจนทำให้เสียงาน ยิ้มเยอะๆ  กรรมการทั้งสี่ท่านค่อนข้างใจดีค่ะ ถือว่าใจดีมากแต่ใจดีมากๆก็น่ากลัวนะค่ะ เราอาจจะหลุดง่ายๆได้เหมือนกัน

    4.     พอออกจากคอกก้จะเป็นการลงสอบภาษาที่สามและยื่นเอกสาร (เกือบทุกสายการบิน ค่อนข้างต้องการเอกสารพวกใบรับรองการจบ ทรานสคริปต่างๆ ก้ควรเตรียมไว้ดีดี)  พอเสร็จก้จะได้รับใบเหลืองหรือบัตรประจำตัวผู้สอบเพื่อใช้ในการสอบข้อเขียนหรือสอบสัมภาษรอบต่อๆ ไป  ด่านสุดท้ายของวันพรีสกรีนคือถ่ายรูป เท่านั้นเป็นการเสร็จสิ้นและรอประกาศผล

     

    ·     สอบข้อเขียน – สำหรับผู้รอดชีวิตจากพรีสกรีนจะต้องเจอกับการสอบข้อเขียนจะบอกว่าเป็นด่านที่เราค่อนข้างกังวลมากกกก เราเลยอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ เพราะส่วนตัวเป็นคนความรู้รอบตัวค่อนข้างติดลบ 555555 ข้อสอบก้จะแบ่งเป็นพวก แอพติจูต จิ๊กซอรูปภาพ บลาๆส่วนที่สองก้จะเป็นความรู้เกี่ยวกับสายการบิน และความรู้ทั่วไป เช่นประธานธิบดีนี้ๆๆๆเป็นคนที่เท่าไหร่ นายกตู่เปนนายกคนที่เท่าไหร่ เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของประเทศไรประมานนี้ ( ปล.จะมีข้อสอบย้อนหลังให้ดูเป็นตัวอย่างลองถามอากู๋ ) เสียงไมค์ที่กรรมการใช้ประกาศในสนามสอบค่อนข้างก้องดังนั้นต้องใช้สติในการฟังเป็นอย่างมาก เพราะฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ 55555 (ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งหมดนะค่ะย้ำว่าทั้งหมด )พอสอบเสดก้รอประกาศผล เข้าสัมภาษณ์ไฟนอลค่า

     

    ·     ไฟนอลอินเทอวิว / ภาษาที่ 3 –รอบไฟนอลนี้จำได้ว่าเหลือประมาน 690 กว่าคน ประมานนี้ แต่รับจริงๆ ประมาน 200 รอบนี้จะแบ่งการสอบสัมภาษณ์เป็นสองส่วน คือ การทำ group discussion และ individualinterview  กรุ๊ปนึงจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 6 คนแนะนำว่าก่อนเข้าไปควรทำความรู้จักกันก่อนเพื่อลดความตื่นเต้นการทำกรุ๊ปจะมีเวลาให้ปรึกษากันประมาน 20 นาที ควรฟังคำสั่งของกรรมการให้ดีย้ำว่าให้ดีค่ะ สำหรับเราเราคิดว่าไม่ควรเป็นผู้นำมากจนเกินไป ผู้นำของเราหมายถึงการสั่งให้คนอื่นทำนี่โน่นไม่ดีเลยค่ะ  และก้ไม่ควรแบบเงียบจนเกินไปควรอยู่ในความพอดี รับฟังความคิดเห็นเพื่อน และควรออกความคิดเห็นบ้างหากเราไม่เห็นด้วย ก็ไม่ควรใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ควรใข้คำพูดที่ซอฟที่สุด เพราะกรรมการจะมองการทำงานเป็นทีมมากกว่า พอจบ 20 นาทีเค้าจะให้ไปพรีเซ้นหน้าห้องเป็นกลุ่ม

    พอเสดจากการทำกรุ๊ป 6 คนจะแบ่งเป็นสามๆ เพื่อสัมภาษเดี่ยวกรรมการจะแบ่งออกเป็นฝั่งละสองท่าน ซึ่งหมายความว่าหากเราสัมกับกรรมการสองท่านแรกเสดแล้ว เราจะต้องสัมกับกรรมการอีกสองท่านที่เหลือใช้เวลาทั้งหมดประมาน ชั่วโมง ถึง ชั่วโมงครึ่งค่ะ

    ( การสัมภาษณ์ของการบินไทยในรอบนี้ส่วนใหญ่ใช้ภาษาไทยนะค่ะคำถามที่เจอก้ แนะนำตัวเอง ทำงานอะไร ทำไมถึงต้องการบินไทยถ้าเลือกเป็นสัตว์ได้อยากเป็นอะไร ถ้าเป็นกรรมการจะถามคำถามอะไรกับผู้สมัครให้พูดอะไรก้ได้เพื่อเรียกคะแนนจากกรรมการ ยุทธศาสตร์ของการบินไทยคืออะไรจุดด้อยของตัวเองคืออะไร ประมานนี้ค่ะ )

     

    ·     ภาษาที่ 3 – ของเราสัมภาษณ์ภาษาจีน จะเจอกรรมการเป็นคนจีนค่ะสัมภาษานี้เราไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ กรรมการน่ารักค่ะ ไม่ดุ แต่หน้าดุ 5555 พอเข้าไปกรรมการก้จะให้แนะนำตัว และถามจากที่เราแนะนำตัวแหล่ะค่ะ พอเสด ก้จะให้อ่านพีเอประกาศบนเครื่อง ซึ่งหากคนที่ภาษาจีนไม่แข็ง ก้ถือว่ายากเหมือนกัน  ดังนั้นเตรียมตัวไปดีดีค่ะ (ประกาศบนเครื่องที่เราได้อ่านไม่มีตัวสะกดกำกับให้ศัพท์ค่อนข้างยาก แต่เราไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นที่ได้อ่านมี pinyin หรือตัวสะกดให้ไหม ลองถามหลายๆคนดูค่ะ )

     

    พอประกาศผลรอบนี้เป็นอันว่าเราตกค่ะ 555555คนทีไปต่อก้จะต้องเข้ารับการสอบว่ายน้ำนะค่ะ-ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ ที่ติดรอบนี้อยากบอกว่าเก่งมากกๆค่ะเก่งสุดๆ ชนะเริสสสสสสสสสสสสสสสสสสค่ะ

    จบแล้วสำหรับสายนี้

    ปล. เพื่อนๆ ค่อยๆอ่านนะค่ะอ่านวันเดียวอาจจะเบื่อตาย5555555

     

    3.    Air China (สายนี้ไม่เคยมารับในไทยเลยเป็นการมาเปิดรับสมัครครั้งแรก หลายคนอาจยังไม่คุ้นนะค่ะ จริงๆแล้วมันคือสายการบินแห่งชาติของจีน ฝูงบินค่อนข้างเยอะแต่เรื่องรางวัลค่อนข้างกริบ 5555 )

    เริ่มแรกจะเป็นการสมัครผ่านJobsDB.com ค่ะ ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นอะไรที่แบบเสี่ยงดวงมากก5555555คหสต: เราว่าสมัครผ่านเว็บของสายการบินเองเลยดีกว่าสมัครผ่านเว็บนี้อะ

    Process:  1.  apply

        2.  รอ invite

        3. first interview (group/individual)

        4. medical check in Thailand

        5. second interview

    ****สายนี้ไม่มี  require toeic / hsk  (อาจจะเป็นเพราะเปิดที่ไทยรอบแรกรอบหน้าอาจจะขออันนี้ไม่ทราบเหมือนกันน้า )

    ·     ส่วนสูงผญ 163 ขึ้นค่ะ

    พอได้ invite แล้วก้จะเป็นfirst interview เค้าจะให้เข้าไปที่ละ8-12 คนประมานนี้กรรมการในห้องสัมภาษเยอะมากกกกกกก เพราะมีห้องสัมภาษแค่ห้องเดียว กรรมการเกือบ 10คนถ้าจำไม่ผิด พอเข้าไปถึงเค้าก้จะเชิญนั่งและให้แนะนำตัวที่ละคนเรียงลำดับจากที่นั่งเลย ใครพูดจีนได้ก้แนะนำตัวเป็นภาษาจีน (แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าพูดจีนได้จะผ่านทุกคนนะค่ะ) ด้วยความที่สายนี้เป็นสายแรกที่เรา สัมภาษ ทำให้เราตื่นเต้นจนปากสั่นมือสั่นตากระตุกไปหมดที่สำคัญไม่พูดจีนออกมาสักคำ55555ดังนั้นเพื่อนๆที่ไม่ได้จีนหมดกังวลไปได้เลยค่ะ  จากนั้นกรรมการก้จะแบ่งเราออกเป็นสองกลุ่มเพื่อทำกรุ๊ปดิสกัสชั่นเราได้หัวข้อ how to be a good cabin crew และกรรมการจะเป็นการพรีเซ้น (การทำกรุ๊ปมีหัวใจสำคัญคือฟังคำสั่งกรรมการให้ดีว่าให้เลือกตัวแทนนำเสนอหรือให้นำเสนอทุกคนเพราะรอบเราฟังผิด โดนกรรมการติเหมือนกัน) ตอนนั้นในใจคิดว่ายังไงก้ไม่ผ่าน พอทำกรุ๊ปเสด ก้จะเป็นการอ่าน พีเอ ประกาศบนเครื่องต่างๆแล้วให้สรุปบ้าง คนที่ได้จีนก้อาจจะให้แปลพีเอ  (การอ่านพีเอจะสุ่มเอาค่ะ ไม่ได้ให้อ่านกันทุกคน เพราะเวลามีจำกัดค่ะ )

     

    ·     พอได้เมลล์ว่าได้ผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกแล้วนั้นความแปลกใหม่ของแอร์ไชน่าคือ ให้ไปตรวจร่างกายค่ะ และจะต้องนำผลการตรวจไปยื่นวันสัมภาษณ์ไฟนอลผู้สมัครทั้งหลายที่ผ่านเข้ารอบก้ต่างพากันพูดว่า สงสัยรับหมดแน่ๆให้ตรวจร่างกายขนาดนี้  สรุป ผ่ามมมม !!!ตัดค่ะ 5555555 ตัดไป 30 คนมั้ง อันนี้เราก้ไม่ทราบตัวลขที่ชัดเจน

     

    ·     ไฟนอล–  รอบนี้ก้เหมือนเดิมเข้าไปทีละ 6 ประมานนี้ถ้าจำไม่ผิด พอเข้าไปก้เหมือนเดิมเลยกรรมการเยอะเหมือนเดิม 555555  และจากนั้นแนะนำตัวทีละคน คนพูดจีนได้ก้โชว์ไปคล้ายรอบแรกเลย รอบนี้เรามีสติ เลยได้โชว์จีนที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ พอเสด ปุ๊ปกรรมการก้จะวนกลับมาที่คนแรก และถามจากที่เราแนะนำตัวไป  คนนึงจะโดนประมาน 2-3 คำถาม  อย่างของเราก้เจอถามว่าพูดจีนได้ใช่ไหม ถ้าถามเป็นจีนจะตอบได้ไหม เราก้ตอบไปว่าได้ค่ะ แล้วเขาก้ถามว่าทำไมถึงอยากเป็นแอร์ ให้บอกวัฒนธรรมที่ต่างกันของคนไทยกับจีน (เพราะเราบอกเค้าไปว่าเราเคยไปอยู่จีนมา) เพิ่งเรียนจบหรอ พร้อมที่จะทำงานให้เขาไหม ประมานนี้ก้เป็นอันเสดสิ้น รอเมลล์เช่นเดิม

     

     

    4 . nok scoot 

    ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าสายนี้เป็นสายที่สมัครแล้ว เมื่อยทีนนนนน สุดดดดดฤทธิ์ค่ะ  ยืนวนไปค่ะ ยืนวนไป ยิ่งเข้ารอบลึกๆยิ่งต้องยืนวนนนนน 555555

     เริ่มแรกต้องสมัครออนไลน์ก่อนค่ะพอได้อินไวท์ก้จะเป็นการทำ  assignment ซึ่งเป็นอะไรที่เยอะมาก เยอะจน ขี้เกียจจะทำ เราเลยทำแบบส่งๆแต่ไม่ควรเลียนแบบนะค่ะ 55555  พอเสด ก้จะได้เมลล์ฉบับต่อไปเป็น การสัมภาษณ์แบบ วีดีโอ อินเทอวิว โดยเป็นระบบคอมพิวเตอร์จะได้คำถามคนละสามข้อให้เวลาอ่านคำถาม 15 วิ และตอบคำถามภายใน 30 วิหรือ 1 นาทีอันนี้เราจำไม่ได้จริงๆ

    ·     คำถามที่เราได้ก้

    1.ทำไมถึงอยากเป็นแอร์และทำไมถึงต้องนกสกู๊ดดด

    2. คิดว่าอะไรคือสาเหตุหรือสิ่งที่เป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมการบินเพราะอะไร อย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร

    3.ล่าสุดได้ช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จักไหมเขาคนนั้นคือใคร และช่วยเพราะอะไร ประมานนี้ค่ะ จากนั้นถ้าใครผ่านก้จะได้เมลล์ค่ะ

    process

    1.    สมัครออนไลน์

    2.    ให้ทำassignment

    3.    วีดีโออินเทอวิว

    4.    Invite

    “เข้าสู่ขั้นตอนวันสัมภาษณ์”

     1. ตรวจเอกสารวัดส่วนสูง ชั่ง น้ำหนัก เช็คผิว ตรวจเหล็กจัดฟันค่ะ 

    2. สอบข้อเขียน  คัดออก

    3. public speaking  ไม่มีคัดออก

    4. group discussion  คัดออก

    5. ภาษาที่สาม

    6. final interview or individual interview ค่ะ ( ประกอบไปด้วย role play + สัมภาษณ์จากเรซูเม่เราค่ะ )

     

    ·     วันสัมภาษพอไปถึงรอค่ะรอ รอรอบเช้าสัมไฟนอลอีก เง้อออ รอวนไป เลยไปหากาแฟกิน ในสนบ. ดอนเมือง พอถึงเวลาปุ๊ป ก้ไปรอหน้าห้องค่ะอันดับแรกก้ตรวจเอกสาร พอเอกสารผ่านก้จะได้ป้ายชื่อค่ะ จากนั้นก้เข้าไปด้านในเพื่อทำการวัด สส ชั่ง นน ตรวจแผลเป็นที่แขน หรือเชคผิวทั่วไปตามลำคอต่างๆ นาๆพอเสดก้จะได้ไปนั่งรอในห้อง ซึ่งจะมีโต๊ะเรียงอยู่เต็มห้อง โต๊ะนึงนั่งกันสามคน จะมีกรรมการมาพูดเรื่องประวัติคร่าวๆเป็นการรอเพื่อนคนอื่นๆ ชั่ง นน วัด สส ให้เสดจนหมด เพื่อจะทำการสอบข้อเขียนค่ะรอบเรามีประมาน 60 คน ตกข้อเขียนไป20 คนข้อเขียนของสายนี้ค่อนข้างโหดค่ะ เพราะยากมากจริงๆ ให้เวลาก้น้อยยคือตัวเราเองก้ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่าน เพราะอ่านศัพท์บนกระดาษแผ่นนั้นไม่ออกเลยยย 55555พอเสด ก้ต้องออกมายืนรอด้านนอกอีกจากนั้นพี่ๆ ก้จะเรียกเข้าไปทำ public speaking ค่ะ รอบนี้จะแบ่งเป็นกลุ่มๆและทุกคนจะต้องจับสลากคำศัพท์ จะมีเวลาคิดคนละประมาน 2-3 นาที และขึ้นไปพูดประมาน 2-3 นาทีเหมือนกันค่ะ อย่างศัพท์ที่เราได้ คือคำว่า Gameเพื่อนๆในกลุ่มที่ได้ก็จะมี dictionary/movie/ flower /cartoon/ town ประมานนี้ค่ะรอบนี้ไม่มีการคัดออกนะค่ะ เหมือนแค่เป็นการวัดระดับภาษาเรา แต่มีการให้คะแนนค่ะพอเสด ทุกคนก้จะออกไปยืนหน้าห้องเหมือนเดิมค่ะ 5555 บอกแล้ววว่า ยืนทั้งวัน จากนั้นทุกคนจะได้กลุ่มใหม่ค่ะเพื่อทดสอบการทำงานเป็นทีม จะมีโจทย์ให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันแก้ไขปัญญา ค่ะไม่ยากมากค่ะ แต่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และมีส่วนร่วมกับกลุ่มของตนน้าไม่ควรเงียบจนเกินไป และไม่ควรหักหน้าเพื่อนเหมือนกัน  และสุดท้ายก้จะเป็นการพรีเซ้นข้อสรุปที่ได้จากการปรึกษาหารือ พอเสด ก้ออกไปรอผลหน้าห้องเหมือนเดิมค่ะ รอบนี้จาก40 เหลือ 14ค่ะ

    คนที่เหลือก้รอสัมภาษณ์ไฟนอลค่ะส่วนคนที่มีภาษาที่สามก้จะถูกแยกตัวออกไปสัมอีกห้องนึงค่ะ ภาษาที่ 3 คือง่ายมาก ๆๆ เพราะมี pinyin มาให้ และอีกอย่างศัพท์ก้ง่ายมากด้วย  สัมภาษไฟนอลของสายนี้ จะมีโรลเพลย์จำลองสถานการณ์บนเครื่องค่ะ และก้สัมภาษณ์ทั่วไปสำหรับเราเราว่าค่อนข้างยาก และอีกย่างตอนนั้นก้ประมานเกือบๆ สองทุ่มละด้วยร่างกายเริ่มล้า สมองเริ่มหยุดทำงาน เข้าไปสัมไฟนอลก้ตอบคำถามถูกบ้างผิดบ้าง55555 และก้เลยตกตามคาดค่ะ 

     

    5.    Japan airlines

    สายนี้ก้สมัครออนไลน์ค่ะค่อนข้างเสี่ยงดวงพอสมควร เพราะวันสัมกรรมการบอกว่า คนสมัครผ่านเวบ ประมาน 5000 แต่เค้าแจก อินไวท์ แค่ประมาน 1000 คนค่ะ

    พอไปถึงKing power Pullman ซัมติงแถวพญาไท ก็ขึ้นไปชั้น 6  ตามเวลานัดค่ะ อย่างรอบเราได้ 14.45 ก้ขึ้นไปประมาน 14.20 ค่ะ ประมาณนี้ 

    1.    พอขึ้นไปก้จะมีแผ่นเป๊ะไว้ว่าต้องเรียงเอกสารอะไรยังไงบ้างจากนั้นก้เซ็นชื่อค่ะ และกรอกใบเล็กๆ ใบนึงเพื่อเอาไปใช้ในการวัด สส ชั่ง นน

    2.    เข้าสู่ขั้นที่สองคือการชั่งนน วัด สส จุดนี้พี่ๆ ค่อนข้างใจดี เพราะบางคนแบบพี่เค้าก้ช่วยมากๆ พยายามให้เราหายใจเข้าลึกๆเพื่อวัดส่วนสูง แต่ถ้าบางคนไม่ถึงก้ต้องยอมรับจริงๆ (แนะนำให้ใส่สูทนะค่ะสายนี้เพราะเราไม่ได้ใส่ไปทีแรกกะจะไปไม่แล้วแต่ว่างๆเลยไป มีความไม่พร้อมอย่างแรงสำหรับรอบนี้ คือต่างหูก้หายเลบก้ไม่ได้ไปทำอีก)

    3.    ต่อจากวัดสส ชั่ง นน ก้จะเป็นการเช็คเอกสาร และกรอกเอกสารต่างๆ นาๆข้อมูลในเอกสารก้จะเป็นสิ่งที่เรากรอกผ่านออนไลน์ทั้งนั้น ในกรดาษนั้นจะมีอยู่สามคำถามคือ1.ทำไมถึงสายนี้ 2.จุดด้อยของตนเองคืออะไร3.อีกห้าปีข้างหน้าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรประมานนี้

    4.    จากนั้นก้นนั่งรอเข้าห้องสัมภาษทีละ 5 คนค่ะ พอเข้าไปจะเจอกรรมการสองคนเป็นคนไทยหนึ่ง ญป หนึ่ง ซึ่งเราเป็นคนแรกที่เปิดประตูเข้าไป เราก้สวัสดีทำความเคารพ ต่างๆนาๆ พอเข้าไปเค้าก้ให้แนะนำตัวจากนั้นเราบอกว่าเราจบปริญญาตรีควบคู่จาก จีน เค้าก้ให้เราโชว์จีน เราก้พูดไป บลาๆและก้เรียงไปทีละคนจนจบห้าคน พอเสดก้จะเจอคำถามว่าทำไมถึงอยากเป็นแอร์และตอบทีละคนแค่นี้เป็นอันเสดสิ้น

    5.    จากนั้นก้ออกมารอผลค่ะที่ห้องเล็กๆเค้าให้เข้าไปนั่งฟังเป็นกลุ่ม กลุ่มเราผ่านเข้ารอบสามคน อีกสองคนตกค่ะ พอเสดก้รอสัมเดี่ยวระว่างนี้สามารถไปเข้าห้องน้ำ ซับหน้าเติมหน้าได้ค่ะ รอบนี้สัมค่อนข้างใช้เวลาสัมภาษคนนึงประมาน 15 นาที

    6.     สำหรับสัมภาษณ์เดี่ยว เข้าไปเจอกรรมการสามท่านค่ะสองคนเป็นคน ญป อีกท่านเป็นคนไทยเรารู้สึกเราค่อนข้างถูกชะตากับกรรมการสายนี้เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน หรือหน้าตาหมวยคล้ายกัน55555555 กรรมการจะยิงคำถามเราคนละประมาน 2-3 คำถาม แรกๆ ก้จะให้แนะนำตัว ละก้ถามว่ารู้จักสายนี้ไหมรู้อะไรบ้าง culture ของคน ญปคืออะไร จุดเด่นจุดด้อยของตัวเองคืออะไร บลาๆ ก้ว่าไป คำถามเบสิกถัวไปค่ะแค่นี้เป็นอันเสร็จสิ้น รอผลประกาศ อีก 10 วันค่ะ คนผ่านก้จะได้เข้ารอบสัมภาษณ์ไฟนอลแต่ถึงผ่านเราก้คงไม่มีโอกาส เพราะวันสัมไฟนอลเป้นวันที่เราต้องบินไปจีนแล้ววว TTT

     

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in