เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รวมเรื่องเครียดๆNutCha_LoveGothic
#พรบการศึกษาส้นตีน มั้ง?
  • **ยาวมาก เตือนก่อนน**

              #ร่างพรบการศึกษาแห่งชาติ64 เห็นเค้าประท้วงกัน ในแท็ก #พรบการศึกษาส้นตีน เลยไปหาอ่านบ้าง คิดว่า 40 หน้าไม่น่าเยอะ อ่านไปอ่านมาก็เมาเหมือนกันนะ ภาษาราชการนี่กินพลังงานชีวิตมากๆๆๆๆๆ ที่สุดเลยค่ะ


              ....โอเค...มีประเด็นที่น่าสนใจไม่กี่อัน มาตราที่พรบ.นี้พูดถึงบ่อยๆ จะมี 3 อัน คือ มาตราที่ 6,7,8 เดี๋ยวเราใส่รูปของปี 42 กับ 64 ไว้ให้ เผื่อใครอยากเทียบนะคะ

    ---------------------------------------------------------------


    (พรบ. ปี 42)
    (ร่าง พรบ. ปี 64)

    ---------------------------------------------------------------

    มาตรา 6 ส่วนที่เพิ่มมา คือ รู้จักสิทธิหน้าที่ และความรับผิดชอบ ภูมิใจและตระหนักในความสำคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

              อันเดิมจะถูกพูดไว้ในมาตราที่ 7 แนวปลูกฝังจิตสำนึก ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองฯ ส่วนคำที่หายไปก็คือ "เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์"

    มาตรา 7 เพิ่มเรื่องให้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ และบูรณาการกัน (ทำไมขยันใช้กันจังคำนี้ จนตอนนี้ เรายังไม่เข้าใจเลยว่า หมายความยังไงกันแน่)

    มาตรา 8 แบ่งตามช่วงวัย ว่าควรจะพัฒนาอะไรบ้าง ดีเทลเดี๋ยวอ่านในรูปเอาแล้วกันนะมันยาว จากเดิมแค่ทำให้มีการศึกษาต่อไปเรื่อยๆ อันที่น่าสนใจๆ

          * ช่วง 1-3 ปี ให้เริ่มซึมซับวัฒนธรรมไทยพื้นฐาน

          * ช่วง 3-6 ปี รู้จักอักษรไทย สังคมไทย วัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเป็นไทย

          * ช่วง 6-12 ปี ภูมิใจและตะหนักในความสำคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีจิตอาสา ภาคภูมิใจในความเป็นไทย ซึบซับในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเริ่มหาลู่ทางในการประกอบอาชีพ

          * ช่วง 12-15 ปี เรียนรู้ที่จะตัดสินใจและวางแผนชีวิต ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตที่ซับซ้อน ยึดมั่นในจริยธรรม เชื่อมั่นและเข้าใจการธำรงความเป็นไทย สื่อสารภาษาไทยที่สมบูรณ์ รู้และเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจนสามารถนำไปใช้ในชีวิตได้ ซาบซึ้งในความงามของศิลปะและธรรมชาติ รู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร

          * ช่วง 15-18 ปี เข้าใจบทบาทของประเทศไทยในสังคมโลก และรู้ภาษาต่างประเทศในระดับที่สามารถเจรจาต่อรองและแสวงหาความรู้ได้อย่างคล่องแคล่ว

          * ช่วง อุดมศึกษา/ทักษะอาชีพขั้นสูง เป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง เคารพกฎกติกาอย่างเคร่งครัด เป็นปฏิปักษ์ต่อการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ มีความกล้าหาญที่จะแสดงออในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาของบ้านเมืองและสังคม

    ---------------------------------------------------------------

              ส่วนหัวข้ออื่นๆ ระบุว่าให้มีการกำหนดแผนการเรียนการสอนที่เป็นไปตามมาตรา 6 และ 8 โดยหากไม่เป็นไปตามนี้ สามารถสั่งระงับ สั่งให้แก้ไข หรือจัดการแนวทางอื่นที่เหมาะสมได้ หรือจะสั่งยุบรวมสถานศึกษาก็ได้

              การเลื่อนวิทยฐานะ หรือตำแหน่งครู ดูจากผลงานที่ปฏิบัติในมาตรา 6 และ 8มาตรา 34 มีการระบุในส่วนหนึ่งของคุณลักษณะของครูว่า

              - มีความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
              - มีความรู้พื้นฐานและใช้ประโยชน์จากเทตโนโลยีดิจิทัลอย่างรู้เท่าทันในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้

              * มาตรา 34 นี้นำมาใช้บังคับผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาด้วยโดยอนุโลม (อันนี้ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เหมือนว่าปกติ คุณสมบัติครูจะกำหนดแค่ถึงครูมัธยม แต่รอบนี้บังคับถึงครูระดับมหาลัยด้วย)


    พรบ. ฉบับนี้ เน้นที่การส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก 

                    โดยให้ความหมายไว้ว่า "การเรียนรู้เชิงรุก ได้แก่ การดำเนินการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการคิด การปฏิบัติ การได้รับคำปรึกษาชี้แนะ การนำความรู้ไปใช้ การถอดบทเรียน การสะท้อนคิด รวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ การทำงาน และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น เกิดแรงบันดาลใจ เกิดทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ค้นพบศักยภาพของตนเอง สามารถสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญได้ตามความถนัดของตน"

    มาตรา 71-72 กระทรวงฯ และรัฐจะเข้ามาส่งเสริมสถานศึกษา/อาชีวะ และสนับสนุนด้านงบประมาณ เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุมาตรา 8 และลดภาษีให้

    มาตรา 80 พรบ.อันนี้ สอดคล้องและไม่ขัดแย้งกับ
    พรบ. ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ

    (มายกแผง แปลง่ายๆ)

    *ท้ายๆเหมือนจะมีกล่าวถึงการโยกย้ายหน่วยงานกัน แต่ไม่สันทัดระบบราชการ ขอไม่กล่าวถึงแล้วกัน

    ความแตกต่างจากแผนเดิม (เท่าที่เราอ่านเอง) จะไม่มีการแยกหมวดวิชา จะกล่าวรวมๆไปหมดแล้วบอกให้บูรณาการ ไปเรียนรู้เอา เรื่องการเรียนเป็นหน้าที่หน่วยงานรัฐ ฉบับเก่าจะมีพูดถึง พ่อแม่ เอกชน และหน่วยงานท้องถิ่นบ้าง ว่าให้ร่วมกันสร้างพื้นที่การเรียนรู้

    ฉบับเก่าพูดถึงการพัฒนาสื่อการเรียนรู้แบบนอกห้องเรียน/ธรรมชาติ ปรับตามความเหมาะสม/ระดับชั้น ส่วนฉบับใหม่ไม่พูดถึง สพฐ.เลย มีเน้นเนื้อหาบางส่วนอย่างชัดเจน และเน้นด้านเทคโนโลยี ว่าครูต้องคล่องแคล่ว และนำมาใช้ในการสอนด้วย

    ---------------------------------------------------------------

    ปล. สุดท้ายอ่านจนจบ ข้าพเจ้ายังไม่เข้าใจเลยว่า พรบ.นี้จะทำให้เด็กมีประสิทธิภาพ หรือค้นหาตัวเองได้ดีขึ้นยังไง ในเมื่อ....

    ปล.2 บางอย่างที่เขียนในพรบ. ก็คือ ย้อนแย้งเกิ๊นน เขียนได้ไม่ละอายแก่ใจเอาซะเลย เขียนดูดีแค่ไหน ความจริงมันไม่ใช่ก็แค่ตัวหนังสือ

    ปล.3 คหสต. งดนำไปพาดพิงอ้างอิงใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงด้วยตัวเองทุกครั้ง หากต้องการอธิบาย เพิ่มเติม ชี้แจง นำเสนอ ติชม ปรับปรุง คอมเม้นท์ได้เลยค่ะ ด้วยความยินดี /ผู้เขียน (อันนี้อาจจะจัดเรียงไม่สวยงามนะคะงานรีบ ขออภัย..)

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in