เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกของนักเขียนการเดินทางMystixxTH
บันทึกของนักเขียนการเดินทาง Part.02
  • มีที่นั่งมากมายถูกสร้างไว้สำหรับ นั่ง... แต่เนื่องจากมันกลายเป็นที่สำหรับ...นอน...ทำให้ฉันไม่สามารถเลือกได้นัก จึงเลือกที่นั่งแห่งหนึ่งในมุมลึกๆ ซึ่งเป็นปลายเท้าของใครสักคนที่ฉันไม่รู้จัก เขาดูหลับสายกับเก้าอี้ต่อกันถึงสี่ตัว ...

    งั้น... ฉันของเพียง 1 ตัวก็พอ...

    ทันทีที่ฉันได้หย่อนก้นพักเท้าพร้อมกับนั่งโอบกอดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้แล้วนั้นฉันก็รีบส่งข้อความเป็นแชทไปหาเพื่อนร่วมทางอีกคนทันที...

    เธอนอนพักอยู่โรงแรมใกล้ๆสนามบินพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ของเธอที่ตามมาส่งด้วย ฉันยิ้มกับความน่ารักของครอบครัวเพื่อนของฉัน ก่อนจะแหงนมองเพดานอาคารผู้โดยสารและเผลอหลุดเข้าไปในภวังค์ของตัวเอง

    ...ดีจังเลยน้าาา... ฉันเองก็อยากให้ใครมาส่งแบบนี้บ้าง...

    ในช่วงตี 4 ย่างเข้าสู่ตี 5 ในโซเชียลเน็ตเวิร์คหยุดนิ่งราวกับมันได้พักผ่อนจากการทำงานอย่างหนัก ที่ต้องแบกรับสเตตัสของเจ้าของมันแทบจะทุกๆนาทีว่าทำอะไรที่ไหนอย่างไรเมื่อไหร่ มาแทบทั้งวัน...ฉันเห็นสถานะออนไลน์ ของเพื่อนบางคนที่ไม่รู้ว่าหลับหรือตื่นกันแน่ ทว่า...มีเพียงสถานะเท่านั้นทียังคงบ่งบอกว่าเธออยู่ แต่บริเวณหน้าไทม์ไลน์นั้นกลับนิ่ง ไร้ซึ่งความเคลื่อนไหว...

    อาจกลับเป็นฉันซะเองที่ยังคงใช้งานอุปกรณ์สื่อสารพร้อมกับโซเชี่ยลมิเดียตลอดเวลาในขณะที่คนอื่นหลับใหล... ฉันตื่นเต้นนี่นา... ขอโทษนะคุณโซเชียล...เมื่อไหร่ที่ฉันขึ้นไปบินอยู่บนท้องฟ้า เธอก็จะได้พักอย่างสบายใจเลย...

    อุปกรณ์สื่อสารของฉันสั่นไหวไม่หยุด...แม้ว่าจะไร้วี่แววของคนที่มาส่ง แต่เพื่อนๆ รวมถึงครอบครัวฉันต่างตื่นมาส่งฉันผ่านทางข้อความตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง...

    'เดินทางปลอดภัยนะ'
    'ส่งข่าวมาบ้าง อัพสเตตัสบ่อยๆ'
    'ไลฟ์เยอะๆด้วย'

    หลากหลายประโยคที่อ่านแล้วทำให้ยิ้มได้... ฉันก็มีนี่นา...อาจไม่ใช่ตัวตนของคนที่มาส่ง แต่เป็นตัวอักษร ข้อความ รวมถึงภาพวิดิโอคอล ที่เพื่อนๆหลายคนต่างส่งมาอวยพรอย่างคับคั่ง

    ขอบคุณนะ... แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว...

    นั่งยิ้มคนเดียวอยู่นานสองนาน เพื่อนร่วมทางก็มาถึงพร้อมกับความลุกลี้ลุกลนในการเช็คอินการเดินทาง... อ่า การเดินทางออกนอกประเทศมันต้องทำให้ร้อนรนแบบนี้เลยเหรอ? เพื่อนฉันบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนแค่ 2 คน แถมเธอยังไม่คุ้นชินกับสนามบินด้วย ทำให้เราสองคนต้องวิ่งกันอุตลุด ฉันเปลี่ยนชุดเป็นชุดที่หนาขึ้นเพราะอุณหภูมิของประเทศที่ไปเยือนนั้นเพียงแค่ 5 องศา...

    ก่อนความวุ่นวายตั้งแต่เช็คอินเริ่มต้นขึ้น... ฉันดันทำอยากกินหมากฝรั่งขึ้นมาซะงั้น

    อ่า... ปกติฉันซื้อแคไม่กี่บาท

    เมื่ออยู่ในสนามบินจึงต้องแพงขึ้นอีกเท่าตัวสินะ...

    คุณหมากฝรั่ง...คุณได้อยู่ในที่ที่ดีนะคะ... อย่างน้อยๆ คุณก็ได้ขึ้นเครื่องบินไปพร้อมๆกับฉัน... ถือซะว่าราคาของคุณ...คือค่าตั๋วที่ฉันซื้อให้คุณติดกระเป๋าฉันไปก็แล้วกัน...

    อาจไม่ใช่ที่นั่งชั้นหนึ่ง...แต่คุณจะมีสมุด ปากกา กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ผ้าเช็ดหน้า รวมถึงเศษกระดาษทิชชูเป็นเพื่อนร่วมทางนะคะ...

    นั่นไง...ฉันเห็นเพื่อนฉันกำลังวุ่นวายกับเอกสารการเดินทาง... ฉันคงต้องไปช่วยสักหน่อยแล้ว...

    ว่าแต่... ฉันจะช่วยอะไรได้นอกจากยืนเคี้ยวหมากฝรั่งนะ...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in