เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryArm Athawit Phagudom
บันทึกชีวิตของหนึ่งในผู้ประสบโรคหนึ่งหลังยุคโควิท
  • 9 มีนาคม พศ 2569


    หลังจากโควิดเริ่มกลายเป็นโลกประจำในท้องถิ่นและอันตรายของมันเริ่มลงผู้คนก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตใหม่

    เศรษฐกิจยังคงทรงๆและถดถอยลงอย่างช้าๆ เนื่องจากสงครามกลางเมืองในประเทศเมืองหนาวและวิกฤติขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดตั้งแต่ยุคของบรรพบุรุษเราๆ

    นอกเหนือจากปัญหานี้แล้วยังมีเรื่องของการเมืองการปกครองที่ไม่ว่าจะพยายามไปทางไหนก็เจอแต่ความเห็นต่างทำไมนะเราจะไม่เริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่กันในความแตกต่าง แต่ปัญหาทั้งหมดก็เริ่มต้นจากพวกเรานี้แหละที่มีความโลภความต้องการและอำนาจก็คือสิ่งที่ตอบโจทย์นี้ดีที่สุด ใช่แล้วมันเหมือนบ่อน้ำบาดาลในทะเลมีเพียงอำนาจเท่านั้นที่แก้กระหายได้หลายคนอาจจะมองว่าสิ่งนี้ตลกเรามันเป็นประเทศที่ถูกสอนปลูกฝังให้เข้าใจสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่อนุบาลว่ามันคือกิเลส แต่มันคือความจริงไม่อย่างงั้นชนชั้นปกครองหรือผู้คนมากมายจะห้ำหั่นแย่งชิงหรือปกป้องมันกันหรือ?


    ถึงเราจะมีเฟคนิวส์กันมากมายหรือข่าวที่มันชวนให้เราเกาหัวด้วยความสงสัยแต่ก็มีข่าวหนึ่งที่เป็นที่พูดถึงเขาว่ากันว่ามีโรคใหม่ที่ทำให้ผู้ที่ติดจำเป็นที่จะต้องกินเลือดในปริมาณเป็นลิตรต่อวันเพื่ออยู่รอดนอกจากน้ำ

    ข่าวสารมีแค่นี้พร้อมกับคลิปของผู้ป่วยที่แสดงให้เห็นภาพของหญิงชราชาวบ้านที่ดื่มเลือดสดจากไก่ด้วยความกระหายหรือภาพถ่ายไม่ค่อยชัดจากกล่องมือถือของเด็กน้อยวัยสิบสองที่ปากเปื้อนเลือดดูตกใจและในมือก็ถือถุงเลือดในศูนย์พยาบาลในที่กันดารแห่งหนึ่งแต่ข่าวสารที่มีแค่นี้ก็ทำให้มีหลายคนออกมาตีประเด็นพยายามถอดความหมายและยัดเหยียดทฤษฎีต่างๆตามความคิดของตนลงไปบ้างก็บอกว่ามันคือข่าวปลอมบ้างก็บอกว่าผู้คนที่เป็นนั้นโหดร้ายเหมือนผีดิบดูดเลือดในวรรณคดีของฝรั่งและรัฐบาลก็กำลังพยายามปกปิดมันสังเกตได้จากวิธีการเสนอข่าวหรือการเลี่ยงตอบและไม่นานกระแสข่าวนี้ก็ถูกแทนด้วยข่าวฉาวของดาราสาวชื่อดังที่คบเป็นชู้กับนักปกครองคราวพ่อแทน ถึงสาวน้อยจะออกมาแก้ตัวด้วยว่ามันคือรักแท้ที่เกิดขึ้นดังปาฏิหาริย์เหมือนในละครก็ตามฝ่ายชายกลับลงรูปพร้อมครอบครัวแสดงถึงความอบอุ่นและกระชับรัดเพื่อแสดงถึงจุดยื่นว่าเขาเลือกที่จะรักษาตำแหน่งเอาไว้แทนไม่ใช่ชู้รักและบอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด คนเราเข้าใจผิดกันได้จริงๆแต่จะจากมุมไหนนั้นสุดจะรู้ได้


    ตอนนี้กระแสรักร่วมเพศกำลังมาถึงจุดสูงสุดประชาชนมีการเรียกร้องขอสิทธิต่างๆ ผู้มีประโยชน์ร่วมหลายคนออกมาเรียกร้องไม่ว่าจะด้วยภาพร่วมหรือเพื่อตัวเขาเองพวกเขาต่างออกมาเรียกร้อง เขาเหล่านี้จะทะเลาะกันไหมนะในอนาคตถ้าพวกเขามาถึงตรงทางแยกของความคิด?


    อาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนชื่นเช่นนี้มั้งที่ทำให้ผมเริ่มพิมพ์พูดพล่ามไม่รู้จบ อีกไม่นานผมก็จะได้กลับบ้านแล้วระยะเวลาที่ผูกมัดเขาไว้กับระบบที่เน่าเฟะและล่มสลายนี้จะหมดลงซะที่ ผมไม่ได้เกลียดที่นี้หรอกนะถึงแม้ว่าจะห่างไกลความสุขไปบ้างแต่อย่างน้อยผู้คนก็ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตังเองและบ้างที่ก็แสดงออกมาอย่างไร้เดียงสาแม้ว่าความรู้สึกนั้นออกจะผิดศีลธรรมของคนเมืองไปบ้าง


    14 ตุลk 69’


    การเปลี่ยนแปลงกำลังมามันจะเป็นครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานและความคำจัดกัดของ คน ไปเลย

    เคสโรคขาดแคลนธาตุเหล็กเฉียบผลัน 52,056 คนเพิ่มขึ้น 52,000 8o ในทุกเมืองรองแห่งหนึ่ง

    ตอนนี้มีเพียงแต่คำถามเราหวังว่าจะมีคำตอบเร็วๆนี้


    30 ตุลา 69’


    ก่อนหน้านี้ย้อนไปช่วงก่อนเดือนสิ้นเดือนเก้ามีกลุ่มนักทำคอนเทนต์มืออาชีพกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะทำการสืบสวนเรื่องราวของโรคผีดิบที่เคยเป็นกระแสข่าวในช่วงต้นปีมา พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องของการลงไปลุยคลุกคลีกับคนในพื้นที่เพื่อเซาะหาความจริงและไม่หน้าเชื่อเลยว่าความจริงนั้นจะมาถึงมือพวกเราคนเมืองแบบที่ไม่มีใครคาดคิด อะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องลงทุนขนาดนี้หรือไม่มีใครทราบ พวกเขาได้ไปถึงหมู่บ้านหนึ่งและพบเด็กน้อยและหญิงชราจริงและพวกเขาก็ต้องการดื่มเลือดจริงแต่ที่ผิดคาดคือพวกเขาไม่มีอาการอะไรเลยที่เหมือนผีดิบแวมไพร์พวกเขาเป็นแค่คนชนบทธรรมดาและตัวหญิงชราเองก็ขาเป๋ข้างหนึ่งและเป็นเบาหวานพวกนักทำคอนเทนต์มืออาชีพพักอยู่ใกล้ๆดื่มกินกับครอบครัวคนท้องถิ่นและคอยสังเกตอาการต่างๆแต่มันไม่มีอะไรเลยที่แสดงถึงความผิดปกติพวกเขาไม่กลัวแดดหรือแม้กระทั้งไม้กลางแขนเทียมๆที่ทีมงานเตรียมมาหรือกระทั้งดื่มน้ำมนต์เก้าวัดโชว์หลังจากใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งและยอดผู้ชมเลยหดหายทางทีมงานก็เตรียมตัวที่จะกลับแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะขอนำตัวอย่างเลือดของทั้งสองคนไปตรวจตามขอข้อร้องแก้มบังคับของผู้ชมที่สนใจ พวกเขาได้ขอประสานงานกับเจ้าหน้าที่พยาบาลในท้องถิ่นเพื่อเก็บตัวอย่างไปให้แล๊ปตรวจในเมืองที่อยู่ใกล้


    หลังจากนั้นไม่นานก็พบว่าโรคนี้ระบาดเร็วและอาการนอกจากความกระหายที่อยากจะดื่มเลือดทุกวันแล้วก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ แต่จะว่ากระหายก็ไม่รุนแรงขนาดคลั่งทำร้ายผู้คนกระโดดกัดคอแต่เป็นความรู้สึกเหมือนหิวน้ำและขาดน้ำมากและทรุดป่วยลงอย่างหนักแล้วพวกเขารู้ได้อย่างไรหรือว่าการดื่มเลือดคือวิธีที่ดีที่สุดก็จากคำบอกเล่าของคนหลายคนในหมู่บ้านไง สรุปคือคนในหมู่บ้านทุกคนเป็นพวกนักทำคอนเทนต์ไปอยู่สามวันถึงจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากเนื่องจากยุ่งอยู่กับการเตรียมถ่ายทอดงานพวกเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำเมื่อมาถึงเมืองและเริ่มส่งตัวอย่างเลือดพวกเขาทุกคนคิดว่าตัวเองคงเป็นไข้ป่าจากยุงร้ายแต่เมื่ออาการไม่หายค่าเหล็กในเลือดตกต่ำและยาเสริมธาตุเหล็กไม่เป็นผลพวกเขาถึงตระหนักว่าตัวเองนั้นได้ติดโรคประหลาดนี้ไปเสียแล้ว


    วันที่ 90 หลังการระบาด


    กว่ารัฐจะรู้เรื่องและทำการการกักกันโรคก็ช้าไปสักนิดเพราะช่วงนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่เดินทางมาทำกิจกรรม CSR ในพื้นที่ทีมงานได้ริดลอดกลับออกไปเงียบๆมีทั้งผู้ติดตามและผู้ช่วยมากมายโรคได้เริ่มมาแพร่ที่เมืองหลวงและปริมณฑลในไม่กี่วันต่อมาไม่ว่าจะจากสนานที่ท่องเที่ยวกลางวันหรือกลางคืน

    ประชาชนเริ่มมีอาการมีการแจกเลือดและบริจาคเลือดและการกักกันโรคในหลายพื้นที่และผลการตรวจก็พบว่าไม่มีเชื้อโรคอะไรในเลือดของคนกลุ่มแรกๆที่เป็นโรคนี้แต่เมื่อเขาตรวจลงรายละเอียดเขากลับพบว่าโครงสร้างชีวิตของพวกเขาได้เปลี่ยนไปและหนึ่งในนั้นก็คือความต้องการของสารต่างๆที่มีในเลือดควบคู่ไปกับความต้องการของน้ำแต่ผมจะไปรู้อะไรสื่อต่างๆก็พยายามทำความเข้าใจและถอดความต่างๆนานๆเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดแต่ผมว่าสิ่งที่เราควรจะเข้าตอนนี้คือมันเกิดขึ้นจริงมันมีความเกี่ยวข้องกันในเชิงที่มันติดต่อกันแม้นักวิทยศาสตร์จะไม่สามารถหาเหตุผลความเชื่อมโยงได้


    ทุกอย่างเป็นไปตามแบบของตอนโควิดระบาดมันใช้เวลาไม่นานกระจายออกไปทั่วโลกผู้ติดโรคเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันแต่กว่ารัฐบาลหรือชนชั้นปกครองของแต่ละประเทศจะปรับตัวได้ทันมันก็สายไปแล้วหลายประเทศที่มีความสุดในแง่ของการปกครองเริ่มการกักกันคนเหล่านี้อย่างโหดร้ายบ้างก็เริ่มที่จะทำให้ผู้คนที่ติดเชื่อหายไปความพยายามในการหาเหตุผลยังดำเนินไปแต่มันก็ไม่สามารถสู้เสียงก่นด่าของประชาชนได้เมื่อที่สถานที่ทางการแพทย์เริ่มไม่พร้อมที่จะลองรับความโกรธแค้นจากเศรษฐกิจที่ถดถอย


    พวกผมและเพื่อนร่วมงานล้วนเหนื่อยล้ากับการประสานงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดไร้หนทางเมื่อไม่มีสาเหตุพวกเราก็เหมือนคนที่เดินอยู่ในถ้ำมืดๆ เดินชนล้มลุกคลุกคลานกลายเป็นการแก้ปัญหาของอีกปัญหาก็ไม่สิ้นสุดแล้วพวกเราจะทำได้อีกนานไหมและพวกเราจะได้พักไหมนะ พวกเราเป็นเพียงมดงานที่ทำงานตามการตัดสินใจของผู้ใหญ่และผู้ใหญ่ก็ควรจะต้องมีความรับผิดชอบในการตัดสินใจแต่ในตอนนี้ไม่มีสาเหตุเลยไม่มีการกล้าตัดสินใจพวกเราต่างเลือกที่จะรอและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนซึ่งมันก็เป็นทางออกที่มีตรรกะแต่มันจะใช้ได้ในสถานการณ์ที่ภัยคุกคามมันเร็วกว่าเรามากหรือพวกเราเหนื่อยล้าเกินไปที่จะคิดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีวุฒิภาวะเพราะยังไงท้ายที่สุดถึงแม้เราจะเป็นฮีโร่ในสายตาของมวลชนแต่ในกลุ่มอันคับแคบของผู้มีอำนาจเรามีจำนวนเยอะเกินไปที่จะเลือกใครขึ้นมาพวกเขาต้องเลือกคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมาก่อนเสมอ


    วันที่ 102

    เราค้นพบว่าวิธีที่ป้องกันที่ดีที่สุดตอนนี้คืออย่าให้คนที่มีเชื้อได้พบปะกับผู้คนปกติและระยะเวลาแสดงอาการคือสามถึงสิบวันไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรและทำไมโรคนี้เกิดขึ้นบ้างกลุ่มคนบอกว่ามันก็คือเชื้อโรคที่เราเพิ่งค้นพบแต่บ้างกลุ่มคนกลับบอกว่ามันคือบทลงโทษของพระผู้เป็นเจ้า อาการของผู้ติดคือกระหายดื่มเลือดและต้องได้ดื่มวันล่ะอย่างน้อยหนึ่งถึงสามลิตรมีบ้างประเทศรายงานว่าผู้ติดโรคไม่จำเป็นต้องนอนหรือพักผ่อนบ้างก็บอกว่าการดื่มเลือดทดแทนการดื่มน้ำได้ บ้างก็มีรายงานว่าผู้คนเริ่มคลั่งหากขาดเลือดมานานแต่บ้างก็บอกว่าพวกเขาเข้าโคม่าและค่อยๆเสียชีวิตไปแทน ข่าวการป้องกันแพร่เชื้อไม่ใช่ข่าวดีนักเพราะการเก็บตัวจะไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจเดินได้และนั้นก็กระทบกับหนี้สินที่สังคมนายทุนเราสร้างขึ้นมามากมายนั้นเอง ณ จุดนี้พวกเราต้องเรื่องแล้วระหว่างภัยคุกคามที่มองไม่เห็นหรือภัยจากสิ่งที่เราสร้างเอง



    วันที่ 350

    ในที่สุดเขาก็ปล่อยตัวพวกเราออกมาจากสถานกักกันผู้ป่วยโรคมันคือนรกบนดินชัดๆ พวกเราหลายร้อนหลายพันคนถูกนำมายัดให้ใช้ชีวิตร่วมใน ‘สถานพยาบาลสนาม’ เต้นในสนามกีฬาแห่งชาติ เขามีอาหารและเลือดสัตว์พออิ่มให้วันละสามมื้อไม่มีสิ่งบันเทิงนอกจากอินเตอร์เน็ตใช้อย่างน้อยในวันช่วงเดือนแรกๆ เขาก็ให้เราไลฟ์ลงโลกโซเชียลได้แต่พอเริ่มมีข่าวเท็จมากขึ้นและมีการสร้างกระแสทั้งในแง่ดีหรือร้ายมากจนเกินควบคุมจากคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบที่มาดึงความสนใจเรา ‘พวกเขา’ก็ต้องตัดสินใจเปิดกั้นไม่ให้พวกเราเล่นโซเชียลแต่อย่างน้อยเขาก็ใจดีให้เราสามารถเล่นอินเตอร์ได้แต่พวกเราถูกควบคุมการเคลื่อนไหว ผมไม่ติและเข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมพวกเขาถึงต้องทำแบบนี้กระแสไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีมันก็มากเกินไปทับโถมพวกเขาที่กำลังพยายามอย่างหนักในการรักษาอำนาจและพยายามรักษาคงรูปแบบเดิมของสังคมไว้แต่ก็มีหลายคนเรียกร้องที่จะล้มล้างมันและมันก็กลายเป็นที่เถียงกันมากมายว่าหากไม่เสี่ยงเราก็ไปหาอะไรที่มันใหม่กว่าไม่ได้แต่นั้นแหละครับบ้างคนเขาก็ไม่อยากเสี่ยง ชีวิตผมในสถานที่นี้ผ่านพ้นไปแบบไร้ความหมายเพราะในทุกวันมันแถบจะเหมือนกันหมดบ้างครั้งผมก็อยาากหนีไปแต่จะหนีไปไหนถ้าผู้คนกลัวคุณ


    วันที่ 409

    ผมได้งานใหม่พวกเขาบรรจุพวกเราให้เขาไปทำงานในโรงงานปศุสัตว์พวกเราได้หลายหน้าที่ในนั้นสำหรับผมคือทำความสะอาดลานดูดเลือดพวกเราได้รับเลือดมาเดิมกันวันล่ะหนึ่งลิตรเป็นอย่างต่ำและถ้าหากใครมีความจำเป็นที่จะต้องดื่มมากกว่านั้นทางผู้ว่าจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบและถือเป็นสวัสดิการพนักงานแต่ถึงกระนั้นฐานเงินเดือนของพวกเราที่ได้ก็ถือว่าต่ำกว่าเก่ามากสำหรับหลายๆคนที่เคยเป็นชนชั้นกลางพวกเราไม่มีทางเลือกมากนักเพราะสุดท้ายมันเป็นการเจรจาของพวกเขากับนายทุนที่จะหาทางออกให้พวกเรา ผมเข้าใจว่าเขาคงมีทั้งคู่และปลอบประโลมให้นายจ้างมีความสนใจที่จะรับพวกเรา มีหลายคนที่มีอำนาจแล้วติดเชื้อพยายามจะรักษาอำนาจแต่พวกเขาก็โดนรุมทึ้งโค่นอำนาจและถูกแท้ที่ในไม่ช้ามีหลายคนกลายเป็นผู้นำหัวรุนแรงแต่พวกเรามีหลายกลุ่มกันเกินไปทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิดและความเชื่อกันเองและสุดท้ายพวกเราส่วนมากก็เลือกที่จะรอพวกเขาให้มาจัดการปัญหานี้ให้

    งานนี้ทรหดมากแต่เพื่อแลกกับการกลับคืนพวกเรารอได้แต่เมื่อไหร่ละที่เราจะได้กลับคืนสู่สังคม


    อยู่ๆตัวเลขของผู้ติดโรคหรือผู้มีภาวะขาดธาตุเหล็กฉับพลัน (เพราะเราไม่สามารถหาเชื้อโรคได้เลย) ก็ลดลงและค่อยๆหายไปหลังจากที่มันขึ้นไปถึงจุดสูงสุดไม่มีคนติดเพิ่มเหมือนคนที่เหลือๆอยู่จะมีภูมิและสิ่งที่เหลืออยู่คือผู้ติดโรคมากมาย(มีรายงานคือ 20-30% ของประชากรทั้งหมดหรือทุกๆสองสามคนในสิบคน) ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการปฏิรูปสังคมใหม่แต่ที่แน่ๆคือมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนเหมือนที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์แต่คราวนี้เปลี่ยนจากเผ่าพันธ์หรือความเชื่อมาเท่านั้นเองและแน่นอนก็ยังมีผู้คนที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ส่วนผมได้แต่หวังลึกๆว่าจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติมีบัตรประชาชนปกติเหมือนที่ผ่านมา


    วันที่ ****

    มีการประท้วงกันแทบทุกวันเรียกร้องความเท่าเทียมของพวกเราและคนปกติและมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มคนเห็นต่างรัฐบาลพยายามอย่างสูงสุดที่จะปรับตัวเรารักษาผลประโยชน์ให้มากที่สุดท่ามกลางการทดถอยของรูปแบบสังคม ทุกหนทุกแห่งมีแต่ความหวาดกลัวความคับแค้นความรู้สึกพวกนี้พร้อมระเบิดออกมาในรูปแบบความรุนแรงตลอดเวลา

    ไม่กี่วันมานี้อดีตตัวแทนของรัฐบาลที่ขึ้นชื่อเรื่องความก้าวร้าวได้ออกมาอาสาประกาศตัวเป็นผู้แทนเพื่อเรียกร้องต่อรองสิทธิต่างๆกับรัฐบาลและองกรค์ใหญ่ ผมไม่ชอบเธอตอนก่อนที่เธอจะโดนพวกเดียวกันปลดเธอเคยออกมาจู่โจมพวกเราแต่เธอกลับมาเป็นเสียเองในระลอกสุดท้ายของการแพร่รบาดแล้วตอนนี้เธอมาบอกว่าเธอตาสว่างและพร้อมต่อสู้เคียงข้างพี่น้องเช่นพวกเราหรือ


    มีการค้นพบว่าหากคนธรรมดาได้รับเลือกของพวกเราไปในปริมาณที่เหมาะสมคนๆสามารถกลายมาเป็นพวกเราได้สิ่งนี้ได้สร้างความโกลาหลสถานะภาพของพวกเราที่ยิ่งแย่อยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีกเราโดนกีดกันจากสังคมไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมพวกเราหลายคนโดนทำร้ายกลั่นแกล้งแต่ในทางกลับกันก็มีพวกเราหลายนที่ใช้ความรู้นี้เป็นอาวุธแก้แค้นต่อโลกที่โหดร้ายมีบ้างประเทศที่ด้อยการรพัฒนาเริ่มเปิดรับพวกเราให้เขาไปอยู่อาศัยเราส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากพวกเราแต่พวกเขาก็สัญญาและแสดงภาพให้เห็นถึงชีวิตที่ดีกว่าที่เรามีอยูพวกเราเริ่มเป็นผู้อพยพย้ายไปตั้งหลักถิ่นฐานใหม่กันว่ากันว่าประเทศนี้คนเกือบทั้ง 70% เป็นพวกเราดังนั้นแรงต่อต้านหรือแบ่งแยกจึงมีน้อย

    มีหลายคนที่ย้ายไปในฐานะผู้ลี้ภัยพวกเขายอมทิ้งสัญชาติเดิมเพื่อไปเริ่มต้นไปในแดนไกล




    วันที่ 31 ธันวาคมปี 2580

    ผมได้งานใหม่ให้เป็นคล้ายกับหน่วยงานทูตของพวกเราในดินแดนนี้กับประเทศบ้นเกิดที่ผมจากมาหน้าที่หลักๆของเราก็คือการประสานงานนโยบายระหว่างประเทศต่างๆ มันมีความท้าทายผมดีใจที่จะได้กลับไปในบ้านเกิดอีกครั้งหนึ่งแม้ว่าตอนนี้ทางรัฐบาลได้ตัดสิทธิสัญชาติเดิมของผมไป ผมไม่ได้คำนึงเท่าไหร่กับคำจัดกัดความนี้ว่าผมเป็นใครผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นใครและจะไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงความเชื่อผมได้ ในดินแดนใหม่พวกเราต้องทำงานหนักแทบจะเป็นกรรมกรแรงงานในช่วงสองสามปีแรกพวกเราทำงานตั้งแต่เช้ามืดจนมืดค่ำแต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีอาหารน้ำเลือดและค่า

    ตอบแทนที่เหมาะสมพอจะให้เราตั้งตัว หลังจากที่เราย้ายมาไม่นานก็เกิดการปฎิรูปกฏหมายเกี่ยวข้องกับพวกเรางานของเรามีคุณภาพมากขึ้นตามความเหมาะสมและสายอาชีพเดิมคณะปฎิรูปล้มล้างคณะเดิมเนื่องจากเห็นว่าการปกครองของพวกเราที่เป็นชาวต่างชาตินั้นโหดร้ายและทารุณพวกเขาเห็นว่ามันเป็นแค่การหลอกใช้พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องปฎิรูปล้มล้างสำหรับพวกเราชาวต่างชาติพวกเราดีใจเพราะมันหมายความว่าเราจะได้ทำงานที่เหมาะสมกับพวกเราแต่ถึงยังไงมีหรือไม่มีการปฎิรูปมันก็ดีกว่าที่เดิมที่เราจากมาอย่างน้อยคนที่ปกครองที่นี้ก็เป็นเหมือนพวกเราอย่างน้อยความสนใจในตังพวกเราก็มีมากกว่าที่ไหนๆและนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะเขาจะได้ไปให้ความสนใจแก่งแย่งกันในเรื่องอื่น


    มันมักจะมีความแตกต่างไม่ว่าจะในสิ่งใดสิ่งหนึ่งและมันก็มักจะมีกลุ่มผู้แทนขึ้นมาจัดการและสำหรับค่าตอบแทนก็คืออำนาจ แต่พวกนี้ก็อยู่ไม่นานเมื่อคนสิ้นสุดความอดทนหรือมีการเปลี่ยนแปลงใหม่มาพวกผู้แทนเหล่านี้ก็ต้องเลือกที่จะพยายามรักษาอำนาจและวงจรก็ไปต่อไม่สิ้นสุด 

    ผมหวังว่ากลับบ้านรอบนี้ผมจะมีโอกาสได้กินกะเพราหมูกรอบกับไข่เจียวเค็มๆให้เต็มพุง


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in