เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[9 Satra Fanfiction] How much further do I have to goM_Black
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน How much further do I have to go?
  •            ผมชอบมองผมสีขาวนุ่มของพี่เวลามันโดนลม มันจะปลิวน้อยๆ และมีกลิ่นหอมเหมือนเปลือกไม้ออกมา อาจจะมาจากยาสระผมที่พี่ใช้


    ผมชอบมองเวลาพี่กำลังจะเขียนอะไรสักอย่างลงหน้ากระดาษว่างๆ พี่ติดนิสัยชอบกัดปลายดินสอหรือปากกา ปากพี่ในตอนนั้นดูเซ็กส์ซี่อย่างประหลาด


    ผมชอบมองเวลาพี่นอนหลับ มองแพขนตาของพี่ที่มันยาวจนบางทีผมก็คิดว่าพี่เป็นผู้หญิง แต่ผมรู้ว่าไม่ใช่เพราะแอบมองอกพี่ตอนกระดุมเสื้อมันเปิด


    ผมชอบมองพี่ แต่บางครั้ง ผมก็รู้สึกแย่ เวลาเห็นพี่อยู่กับพี่ชายผม พี่รักเขา ผมรู้จากดวงตา จากท่าทาง จากทุกๆอย่างของการกระทำของพี่


    ผมไม่เหมือนพี่ชาย ไม่มีสักอย่างที่เหมือนกัน

    บางครั้งหากผมเหมือนพี่ชายผมบ้าง

    พี่คงจะรักผมบ้างได้ไหม?


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


                 “ ชาด วันนี้ฉันไม่กลับบ้านนะ ไม่ต้องรอ “ ทารคาเอ่ยกับน้องชายที่กำลังเล่นอ่านหนังสือในมือ เขาเงยหน้ามอง อากัปกิริยาบอกให้รู้ว่าพี่ชายน่าจะมีนัดแน่นอน จากกลิ่นน้ำหอม และการแต่งกายที่คอนข้างเนี๊ยบ


                 “ ครับ “


                 “ หิวก็สั่งอะไรมากินแล้วกัน พี่เอาเงินวางไว้ให้ที่โต๊ะกินข้าว ซื้อเพื่อบาร์ตด้วยแล้วกัน น่าจะมา “ ชื่อของบุคคลที่สามทำให้มารตาเลิกคิ้วสีขาว


                 “ พี่บาร์ตจะมาเหรอครับ “


                 “ ใช่ มาเก็บของที่เหลืออยู่นิดหน่อย แต่ฝนมันตก ถ้าหนักมากก็ให้ค้างแล้วกัน “ คำพูดแสนเย็นชาทำให้รู้สึกแย่นิดหน่อยที่ได้ยิน แต่ป่วยการจะเถียงหรือว่าพี่ชาย ทารคาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้จะเป็นแฟนกันมาเป็นสิบปี แต่เมื่อถึงคราวสิ้นเยื่อใย ชายหนุ่มก็พร้อมเดินหน้าทิ้งอดีตแล้วเริ่มใหม่ได้เร็ว ผิดกับอีกคน…


                 “ ฝากดูด้วยนะ พี่ไปล่ะ “ เขาบอก หันมายีหัวน้องชายก่อนคว้ากุญแจรถกับกระเป๋าเงินออกไปจากบ้าน เสียงล้อรถเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว มารตาเอนหัวลงกับผนักพิง รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ พี่ชายทิ้งให้ตัวเองต้องอยู่กับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาหลายวันแล้ว ไม่รู้เป็นความใจดีที่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์มันยืดเยื้อ หรือเพราะรำคาญที่จะต้องทนเห็นสภาพพี่บาร์ตตอนนี้ก็ไม่อาจรู้ได้ มันเลยกลายเป็นว่าคนเป็นน้องต้องมารับรู้ไปเสียแทน และแน่นอนว่าสำหรับคนที่แอบรักเขามาข้างเดียว มันก็เป็นอะไรที่ยากจะทำใจเหมือนกัน


                 เสียงออดที่ดังปลุกสติของมารตาให้ตื่นขึ้นมาหลังจากเผลอหลับไปเพราะความเย็นกับเสียงของฝนที่กำลังตก บ้านนี้ไม่ค่อยมีใครมามากนัก ทำให้รู้ได้ในทันทีว่าแขกที่มาเป็นใคร ร่างสูงหนาเดินออกไปที่ประตูรั้ว และก็เป็นดังคิดที่เมื่อเปิดออกดูจึงเห็นว่าเป็นคนที่ตนเองเพิ่งจะคิดถึงไปยืนอยู่ ผมสีขาวที่เคยสั้นยาวขึ้นมาสักหน่อยจนระลู่แนบไปกับใบหน้า อีกฝ่ายเปียกปอนเหมือนเดินตากฝนมา…


                 “ พี่บาร์ต? นี่พี่เปียกมากเลย ไม่ได้เอารถมาเหรอครับ “


                 “ ...เอามา แต่พี่ยืนรออยู่หน้าบ้าน ไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาดีไหมน่ะ “ เขาตอบ ยิ้มให้ แต่ในรอยยิ้มนั้นทำให้รู้สึกแย่


                 “ พี่มาบ้านนี้ได้เสมอนะครับ “


                 “ อย่าพูดแบบนั้น พี่กับทา...ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มาไม่ได้หรอก “ บาร์ตว่า ก่อนจะขอตัวเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมเก็บของของตัวเองที่ยังพอเหลือ ซึ่งจริงๆก็เป็นของจุกจิกซะส่วนมาก ชายหนุ่มผมสีนุ่นรู้ดีอีกนั่นล่ะว่าของพวกนั้นไม่ได้จำเป็นอะไร มันแค่ข้ออ้างเพื่อที่จะมาบ้าน


                              มาเจอหน้าทารคาที่ไม่เคยอยู่รอเจอสักครั้ง


                 “ เดี๋ยวผมช่วยเก็บครับ ว่าไป พี่ต้องเช็ดผม ทำตัวให้แห้งก่อนนะ เดี๋ยวไม่สบาย “


                 “ พี่ไม่เป็นไร ขอบใจนะน้องชาย “ คำเรียกแสนอ่อนโยนเหมือนเมื่อครั้งสมัยที่ยังเด็กกว่านี้ทำให้คนฟังรู้สึกกระอักกระอ่วน อาจจะเคยชอบที่มีพี่ชายสองคน แต่เมื่อโตขึ้น โตมากพอที่จะรู้สึกว่ารักคืออะไร คำว่าน้องชายก็เหมือนเป็นของแสลงที่มารตาเกลียดที่จะได้ยินจากปากของพี่ชายผมขาวเหมือนตัวเองคนนี้ นานเป็นสิบปีในสายตาสีทองแสนสวยคู่นั้น เขาก็ไม่เคยเป็นมากกว่าน้องชายของแฟน


                 “ ยังไงก็ต้องทำตัวให้แห้งครับ ของพี่ไม่ได้เหลือเยอะ เก็บแป๊ปเดียวก็เสร็จ แต่ถ้าเป็นหวัดมันจะเรื่องใหญ่ “ ร่างสูงกว่าบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด คนฟังชะงักมือที่กำลังจะหยิบหนังสือเล่มหนาลงในลังกระดาษ เม้มปากนิดๆเหมือนลำบากใจ


                 “ ขอโทษนะที่มากวน “


                 “ พี่ไม่ได้กวน ผมแค่ห่วง “ มารตาพูดเรียบๆ มองใบหน้าของอีกฝ่ายที่มองกลับมา เวลาผ่านไป เขาสูงกว่าบาร์ต ตัวใหญ่กว่า แต่ความรู้สึกที่มีมันไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่เลยแม้สักนิด


                 “ ยังเป็นเด็กใจดีเหมือนเดิมนะ ชาด “ ชื่อเล่นที่เรียกกันเฉพาะในหมู่คนสนิททำให้เจ้าของชื่อหัวใจไหวอย่างง่ายดาย รอยยิ้มของบาร์ตไม่เปลี่ยน เขาใจดี ฉลาดเฉลียว อ่อนโยนและเป็นที่พึ่งให้ไม่ต่างจากทารคาพี่ชายแท้ๆ มารตาเคยคิดว่าสักวันคงจะตัดใจได้เมื่อทั้งคู่คบกันเป็นแฟน แต่ทุกอย่างก็ไม่เคยง่าย


                              ยิ่งไม่ง่ายเลยเมื่อพี่ชายเป็นฝ่ายบอกเลิกอย่างเย็นชา

                              เขาจำได้ว่าบาร์ตเหมือนคนใจสลาย แต่นิ่งพอจะไม่ฟูมฟายเหมือนคนทั่วไป

                              แต่ความรู้สึกปวดร้าวก็ยังฉายชัดในดวงตานั่น

                              แม้กระทั่งถึงตอนนี้


                 “ พี่ก็ยังเป็นคนที่ผมรักพอๆกับพี่ทารคาเหมือนกันครับ “


                 “ ...ทาไม่อยู่เหรอ “


                 “ ครับ ออกไปก่อนพี่มานิดเดียว “ มารตาตอบตามตรง ไม่มีประโยชน์ที่จะโกหก บาร์ตเงียบไปนิดก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาตำแหน่งที่นั่งประจำ คนอ่อนวัยกว่านั่งลงเคียงกันหลังจากไปหยิบผ้าขนหนูมาให้ ตามองชายหนุ่มที่ดูเหนื่อยล้า


                 “ เช็ดผมหน่อยครับพี่ เอาไดร์เป่าผมไหม แต่พี่น่าจะไปอาบน้ำนะ  “


                 “ อืม อาบน้ำหน่อยก็ดี พอมีสบู่ให้ยืมไหม? “


                 “ มีครับ แกะก้อนใหม่เลยก็ได้ มีชุดคลุมอาบน้ำอยู่ชุดหนึ่งของเผมเอง ส่วนชุดเดี๋ยวผมเอาไดร์เป่าให้แห้งแล้วจะเอาขึ้นไปให้...ที่ห้องเดิมพี่นะ “ ชาดว่า ลุกขึ้นไปเตรียมสบู่ บาร์ตรับมา มือทั้งคู่จับกันโดยบังเอิญ


                 “ ...พี่มือเย็นมากเลยนะ รีบไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ  “


                 “ แต่มือเธอร้อนมากเลยชาด อุ่นดี “ ปลายนิ้วเย็นบีบเบาๆที่อุ้งมือของน้องชายอดีตแฟน มารตาเงียบไปก่อนคว้าจับมือนั้นเอาไว้แน่นจนบาร์ตแปลกใจ


                 “ ชาด? “


                 “ ถ้าพี่รู้สึกดี ผมจะให้พี่จับไปตลอดเลย “


                 “ อืม ขอบใจนะ แต่ตอนนี้เธอจับมือพี่อยู่มากกว่า “ เขาว่าหัวเราะนิดๆ


                 “ ผมอยากจับมือพี่ไว้ตลอดไปเลยรู้ไหมครับ “


                 “ พูดเหมือนจะขอพี่แต่งงาน “ บาร์ตแซวน้องชาย เงยหน้ามอง คิดว่าจะได้เห็นมารตาโวยวายเหมือนตอนเด็กแต่เปล่าเลย ใบหน้าอ่อนโยนใจดีนั่นกลับดูจริงจัง หัวใจของเขาเต้นตุบขึ้นมา


                 “ ชาด? “


                 “ ...อาบน้ำก่อนนะครับ ผมจะชงชาร้อนๆให้ หรือโกโก้ดี “


                 “ ขอโกโก้ก็ได้ ขอบคุณนะ “ ชายหนุ่มเอ่ย และค่อยๆละมือตนเองออกจากการเกาะกุมของมารตา เดินเลี่ยงไปห้องน้ำที่อยู่ชั้นบน ชายหนุ่มยกมือลูบหน้าลูบตาตนเอง ชั่วขณะนึงเกิดความกลัว กลัวว่าจะเผลออดใจตัวเองไม่ได้


    คนที่แอบรักมาตลอดอยู่ตรงหน้า

    มือจับกันไว้ใกล้กันมากขนาดนี้

    แต่ทำไมมันดูห่างไกลนัก…


                 บาร์ตเปิดเข้าไปในห้องที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของตัวเอง ด้านในแทบไม่มีอะไรเลยนอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ของส่วนตัวอื่นเก็บไปเกือบหมดแล้ว มีบ้างที่ยังหลงเหลือ เก็บไปในวันนี้ก็คงจะหมด และก็คงไม่มีความจำเป็นที่จำต้องมาอีกต่อไป ชายหนุ่มฝืนตัวเองให้เข้าไปอาบน้ำได้อย่างยากเย็น ทุกภาพความทรงจำยังติดอยู่ในสมองเหมือนกันกับว่าเมื่อเดินออกไปจากประตูห้องน้ำ ก็จะเห็นทารคานอนอยู่บนเตียงรอให้เดินไปหา ไปจูบ ไปร่วมรักกันเหมือนที่เคยเป็นมา แต่มันไม่มีวันเป็นเช่นนั้น เป็นปีมาแล้วที่พยายามจะลืม พยายามจะมองหาหนทางให้ตัวเอง แต่ไม่เคยจะใกล้กับคำว่าสำเร็จ ทุกๆคืนทำได้เพียงร้องไห้ ทุกข์ทรมานกับความใจสลายจากความรักครั้งนี้ ระยะเวลาสิบกว่าปีที่อยู่ด้วยกันมันมากเกินกว่าจะตัดใจลืมได้เวลาแค่ไม่นาน แต่ไม่ใช่กับทารคา อีกฝ่ายลืมได้เร็วกว่ามากนัก…


                 น้ำร้อนจากฝักบัวทำให้รู้สึกว่าร่างกายที่หนาวเหน็บอุ่นขึ้น มันไหล่ผ่านจากเส้นผมลงไปยังต้นคอและระเรื่อยไปตามทุกส่วนของร่างกาย มือผอมยาวยกขึ้นแตะกำแพงปูกระเบื้องสีอ่อน หลายต่อหลายครั้งที่เวลาอาบน้ำ ทารคาจะตามเข้ามาด้วย ผู้ชายคนนั้นชอบที่จะลูบไล้ไปทุกส่วของร่างกายนี้ จูบ และสัมผัสอย่างต้องการ ทำรอยแสดงความเป็นเจ้าของอย่างไม่ใส่ใจว่าใครจะเห็น ความร้อนที่แทรกเข้ามาด้านในปลุกเร้าทุกสันชาตญาณดิบในกายให้ตื่นทุกครั้ง บาร์ตไม่เคยจำได้ว่าร้องขอไปมากแค่ไหน แต่ทุกอย่างก็ไม่มีความหมาย เมื่อทารคาจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว บาร์ตเอื้อมมือไปแตะตนเอง หลับตาลงนึกถึงตอนที่ถูกร่วมรัก รอยยิ้ม ริมฝีปาก ลมหายใจและกลิ่นน้ำหอมของอีกฝ่าย ยังติดตรึงราวกับเชือกพันธนาการไม่ให้ทิ้งอดีตได้ ร่างผอมก้าวเข้าไปในอ่างอาบน้ำ สอดนิ้วเข้าไปในกายตนเองขยับเข้าออกอย่างเปี่ยมอารมณ์ แม้จะรู้ดีว่าไม่ควรทำ แต่ความโหยไห้ในอารมณ์มันมากล้นจนะเกินกว่าจะห้ามได้ ยิ่งขยับนิ้วและคิดว่าเป็นอดีตคนรักที่กำลังร่วมรักอยู่ กายก็ยิ่งตอบสนอง อารมณ์พัดพากระเจิดเจิง ไม่แม้แต่จะห้ามเสียงน่าอายไม่ให้ลอดออกจากปากไปได้ กว่าจะรู้ตัวอีกทีน้ำรักสีขาวก็เปรอะเต็มฝ่ามือดวงตาสีอ่อนหลับตาลงพร้อมกับที่น้ำตาไหลลงมา


                 เกลียดตัวเองที่ไม่เคยลืม

                 เกลียดที่อีกฝ่ายลืมเขาได้ง่ายดาย

                 เกลียดที่ยังหวังว่าเขาจะกลับมา


                 ใบหน้าที่ผอมจนแก้มเริ่มตอบเพราะกินอะไรไม่ลงมานานหลายเดือนซบลงกับเข่า สะอึกสะอื้นเหมือนเด็ก และหวังให้เสียงร้องมันกลืนไปกับเสียงน้ำ โดยไม่รู้เลยว่าทุกเสียงที่ตนเองทำ อีกคนในบ้านได้ยินจนหมดแล้ว มารตากัดปากอย่างโกรธเคือง ข่มใจตัวเองไว้ไม่ให้เข้าไปในนั้น ทำในสิ่งที่อยากจะทำ แต่สุดท้ายเขาเลือกจะวางชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้แล้วเดินออกไปโดยปิดประตูให้เงียบที่สุด


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    กลิ่นหอมของโกโก้ร้อนที่ชงวางเอาไว้ตรงโต๊ะกลางเรียกความสนใจของคนที่เดินลงมาจากชั้นบนได้เป็นอย่างดี แผ่นหลังใหญ่โตที่ง่วนเก็บล้างจานตรงครัวเปิดเป็นภาพที่ทั้งคุ้นและแปลกตาในคราวเดียวกัน แต่ก่อน ตอนที่มารตายังเด็กและตัวเองเป็นวัยรุ่น ล้างจานเป็นหน้าที่เขา และแน่นอนว่าการชงโกโก้ร้อนให้เด็กชายตัวอ้วนกลมผิวสีแทนอ่อนๆนั่นก็เป็นหน้าที่ประจำเหมือนกัน เมื่อคิดถึงตรงนี้รอยยิ้มก็พอจะมีได้บ้าง


    “ ให้พี่ช่วยไหม? “ บาร์ตเอ่ยทัก


    “ ไม่ต้องหรอกครับ จะเสร็จแล้ว พี่เพิ่งอาบน้ำจะมาล้างทำไม ไปนั่งที่โซฟาไปครับ รีบดื่มนะเดี๋ยวจะเย็นหมด ฝนตกหนักลงมาอีกแล้ว “ คนมากวัยกว่ามองตามไปที่หน้าต่าง ฝนตกหนักมากกว่าตอนขามาจริงๆด้วย


    “ จริงด้วย หนักจริงๆด้วยสิ “ ชายหนุ่มเดินมานั่งที่โซฟา หยิบแก้วโกโก้ร้อนมาจิบ ความร้อน หอมหวานติดปนขมช่วยให้รู้สึกสบายใจขึ้นมา มารตาเดินมานั่งด้วยพร้อมกับแก้วโกโกร้อนของตัวเองเหมือนกันหลังจากเช็ดมือจนแห้งแล้ว มีความเงียบที่น่าอึดอัดสักหน่อยอยู่พักนึง ก่อนที่พี่ชายผมขาวจะเอ่ยออกมาก่อน


    “ พี่เปลี่ยนใจแล้ว ของที่พี่จะมาเอา พี่วานชาดทิ้งไปเถอะ มันไม่ได้สำคัญอะไรมากขนาดที่จะเก็บกลับไป “


    “ ทำไมจู่ๆพี่ถึงคิดแบบนั้นครับ  “


    “ ไม่รู้สิ พี่คิดแบบคอนมาริละมั้ง “ เขาว่า มารตาพยักหน้า ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะสนใจเรื่องการจัดบ้านแบบคอนมาริด้วย แต่ก็ดี การทิ้งของที่ไม่จำเป็นออกไปอาจช่วยชำระจิตใจได้บ้าง หรือมันเป็นแค่การหนีปัญหาก็ไม่รู้ได้


    “ ครับ ผมจะทิ้งให้ “


    “ รบกวนหน่อยนะ น้องชาย “


    “ ผมโตแล้วนะพี่ “


    “ ก็ยังเป็นน้องพี่อยู่ดี หรือเป็นไม่ได้แล้ว “ น้ำเสียงเหมือนประชดนิดๆในตอนท้ายทำให้มารตาเกิดหงุดหงิดขึ้นมา จนต้องหันมามองหน้า


    “ พี่บาร์ต ผมไม่ใช่พี่ทารคา ที่พอเลิกกับพี่แล้วก็ทิ้งพี่ไปดื้อๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็คือผม ผมยังเป็นมารตาคนเดิมที่พี่รู้จักมาตั้งแต่เราเจอกัน ชงโกโก้ให้พี่ได้ ทำทุกอย่างเหมือนที่คนโตๆเขาทำกันได้แล้ว ผมอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะครับ “ บาร์ตนิ่งไปก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ


    “ ขอโทษที พี่พูดไม่คิด ขอโทษนะชาด พี่… “ เขาว่าก่อนจะเงียบไปไม่พูดต่ออีก ชาดถอนใจจิบเครื่อมดื่มของตนเองแล้ววางลงกับโต๊ะ


    “ พี่ไม่ต้องขอโทษ “


    “ พี่ทำให้เธอโกรธ “ มารตาถอนใจ


    “ ไม่ได้โกรธ พี่เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว ผมแค่อยากให้พี่รู้ว่าผมโตแล้ว แต่ผมก็ยังเป็นน้องพี่ แค่ผมเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ใช่เด็กตัวอ้วนๆให้พี่แกล้งหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อน ผมเป็นน้องให้พี่เสมอ ผม… “ มารตาหันไปมองหน้าบาร์ตตรงๆ แววตาสื่อความนัย คนมองชะงักไปหน่อย


    “ ชาด? “


    “ ผมโตพอจะรู้จักความรักแล้วนะพี่บาร์ต พี่เข้าใจไหม? “


    “ ...ก็ดีแล้ว… “ อีกฝ่ายว่า หันหน้าไปอีกทางก่อนจะพูดด้วยเสียงเครือสักหน่อย


    “ หาคนดีๆนะ แล้วรักเขามากๆ ...พี่อยากให้เรามีความสุข “


    “ ผมเจอแล้ว… “ เขาตอบ


    “ เหรอ ดีนะ น่าอิจฉา คนที่เราชอบต้องเป็นคนโชคดีมาก  “ บาร์ตบอก หันมาหาน้องชายของอดีตคนรัก ดวงตาสีทองนั้นแดงช้ำเพราะร้องไห้ ชาดถอนใจก่อนจะยกมือจับหน้าของคนมากวัยกว่า


                 “ แต่โชคร้ายที่เขาไม่รู้ว่าผมรักเขา “


                 “ ชาด? เธอพูดอะไร… “


                 “ จนป่านนี้เขายังร้องไห้คนเดียวอยู่เลย ร้องไห้เสียใจให้กับความรักที่ไม่สมหวัง และผม..ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากชงโกโก้ร้อนให้ “ ดวงตาสีทองเหลือกลืม แก้วโกโก้ในมือสั่นหลังจากได้ยิน ดวงตาสีฟ้าอ่อนใสราวกับมีน้ำทะเลอยู่ในนั้นมองตอบมาอย่างจริงจัง ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ คำกล่าวนี้ไม่เกินเลยแม้สักนิด มารตาสูดลมหายใจก่อนจะพูดต่อ


                 “ ผมชอบ...ไม่สิ ผมรักพี่ “


                 “ ชาด...เธอไม่ควรล้อเล่นกับพี่ ของแบบนี้เอามาพูดเล่นไม่ได้ “ อีกฝ่ายดึงแก้วออกจากมือของบาร์ต กว่าที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรก็หลังจากที่ชายหนุ่มดึงตัวเข้าไปกอดแน่นราวกับไม่อยากจะปล่อยไป…


                 “ ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมรักพี่ รัก..มาตั้งนานแล้ว “ ใบหน้าคมซบลงกับไหล่ คนถูกกอดอ้าปากจะพูดแต่ก็แทบไม่มีเสียงอะไรลอดออกมา มารตาค่อยๆคลายกอดมองใบหน้าที่ยังตกใจอยู่


                 “ พี่บาร์ต ผมรักพี่ “ เขาบอกซ้ำ


                 “ ...ไม่ชาด...ปล่อยพี่ “ บาร์ตหันหน้าหนี แต่มือกลับถูกล็อคเอาไว้ ตั้งแต่ตอนไหนกันนะที่มือของเด็กคนนี้ใหญ่โตและแข็งแรงจนสลัดไม่หลุดเลย


                 “ ไม่ ฟังผมก่อน หันมาฟังผมหน่อย “


                 “ ไม่!!! ปล่อย ชาด… “


                 “ ผมรักพี่ ฟังผมบ้างสิ!! ผมรักพี่ “ เสียงของชายหนุ่มดังลั่นฝ่าเสียงฝน บาร์ตสะดุ้งมองใบหน้า เขาเม้มปากก่อนจะพยายามเอ่ยออกมา


                 “ ...แต่พี่ไม่ได้รักเธอ ไม่เคยรัก … “


                 “ พี่รักพี่ชายผม ผมรู้ แต่พี่ทาทิ้งพี่ไปแล้ว เขาไม่กลับมาแล้ว พี่จะรอเขาทำไม!! “ บาร์ตสะบัดมืออกมา และยกขึ้นหมายจะตบคนพูดแต่ก็ชะงัก ลดมือลง มองอดีตเด็กชายที่รักเหมือนน้องอีกคนอย่างปวดร้าว


                 “ ใช่ เธอพูดถูก ทารคาไม่กลับมา แต่มันไม่ได้หมายความว่าพี่จะรักเธอ เห็นพี่เป็นตัวตลกหรือไงถึงมาพูดเรื่องนี้ในวันนี้ “


                 “ ที่ผมพูดเพราะอยากให้พี่เลิกทำตัวแบบนี้สักที!!! ดูสภาพตัวเองบ้างไหม ผอมจนเหมือนกระดูกเดินได้แล้ว!! ให้พี่เป็นยังไงพี่ทาเขาก็ไม่คิดจะกลับมาหาพี่  ให้พี่ตายวันนี้พรุ่งนี้พี่เค้าก็ไม่มา!!! ไม่มีวัน!!! “ คนอ่อนวัยกว่าตะโกนใส่หน้า บาร์ตชะงักเงียบไป สักพักมารตาจึงรู้ตัวว่าตนเองพูดเกินไป


                 “ …พี่บาร์ต ผมขอโทษ..ผม “


                 “ พี่คงต้องกลับแล้ว ขอโทษที่มากวนนะ เสื้อที่เธอวางไว้ให้น่าจะแห้งมากพอแล้ว “ บาร์ตตัดบทลุกขึ้นยืน มารตาตกใจรีบลุกตาม รีบเดินไปดึงมือเอาไว้


                 “ พี่ ผมขอโทษ ผมไม่ตั้งใจ! “


                 “ ปล่อย… ฉันจะกลับแล้ว “ คนตัวผอมว่า ก้มหน้าต่ำไม่มองสบตา


                 “ ผมขอโทษ ฝนยังตกหนักอยู่ อย่าเพิ่งไปเลย “


                 “ ...ช่างหัวมันสิ… “


                 “ พี่บาร์ต ได้โปรด ผมขอโทษ ผมไม่อยากให้พี่เป็นแบบนี้ ไม่อยากให้พี่เสียใจเพราะพี่ชายผม ผมรักพี่ “


                 “ เลิกพูดได้แล้ว ปล่อยมือ ฉันจะกลับ “ น้ำเสียงเย็นชาและกิริยาของชายหนุ่มผมขาวทำให้ชาดหน้าเสีย


                 “ พี่บาร์ต ฟังผมก่อน “


                 “ ลาก่อนชาด...ฉันจะไม่มากวนใจเธอกับทารคาอีก “ เขาบอก เงยหน้าขึ้นมามอง ขอบแดงช้ำมีน้ำตาไหลออกมา น้ำใสๆเหล่าบีบคั้นหัวใจของมารตาจนเผลอปล่อยมือ


                 “ ขอบคุณสำหรับโกโก้ กับชุดคลุม ฝนซาแล้วจะออกไปเลย “ บาร์ตบอกแค่นั้น ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เพื่อเอาเสื้อตัวเองมาเปลี่ยน ชายหนุ่มยืนนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายเดินออกไป พลางกัดฟันอย่างโมโหตัวเอง เสียงฝนยังคงตกอยู่อย่างต่อเนื่อง…


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    บาร์ตเปิดประตูห้องเดิมที่เพิ่งออกมาเมื่อครู่ ตรงดิ่งไปเปิดไฟโคมหัวเตียงเตรียมหยิบเสื้อผ้าที่น่าจะแห้งมาสวม สายตาพลันเหลือบไปเห็นรูปถ่ายของตัวเองกับคนที่เพิ่งทะเลาะด้วยอยู่ตรงหัวเตียง ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงหยิบขึ้นมาดู ตอนนั้นเขาคงราวๆสิบหกสิบเจ็ด และมารตาก็จะเก้าขวบได้เพราะในรูปยังเป็นเด็กชายตัวอ้วนกลมแก้มอิ่ม บาร์ตไม่เคยเบื่อเลยที่จะหอมแก้มนุ่มน่ารักของน้องชายตัวน้อย รักมารตาในฐานะน้องชายมาตลอด และไม่เคยรับรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับตนเอง ในเมื่อคนที่อยู่ในสายตาเสมอคือทารคา แม้จนถึงตอนนี้… มือผอมวางกรอบรูปลง และเลือกจะพับมันลงไม่ให้เห็นอีก ฟ้าผ่าลงมาดังลั่นจนกระแสไฟฟ้าในบ้านดับ บาร์ตจิ๊ปากขัดใจเพราะยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ  ตอนนั้นเองที่เสียงประตูเปิดเรียกความสนใจ


                 “ พี่บาร์ต… “


                 “ ...พี่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปก่อน อีกเดี๋ยวไฟคงมา “ เขาว่า หลังจากได้ยินเสียงของมารตา แต่แล้วจู่ๆร่างสูงใหญ่กว่าตัวก็โผเข้าหา กอดเอาไว้แน่น กลิ่นจางๆของเหล้าทำให้บาร์ตขมวดคิ้ว


                 “ ชาด ปล่อยพี่ เหม็นเหล้า เธอกินเหล้าเหรอ?  “


                 “ เป็นผมไม่ได้เหรอ? “


                 “ ชาด? “


                 “ แค่คืนเดียวก็ได้ รักผมแทนพี่ทารคา ให้ผมแทนที่เขาก็ได้ รักผมได้ไหม “ ร่างสูงทรุดตัวลง ซุกหน้าลงกับท้องอ้อมแขนใหญ่กอดรั้งเอวเอาไว้ไม่ปล่อย เหมือนตอนเด็กๆ ที่เมื่อจะอ้อนขออะไรก็มักจะทำแบบนี้


                 “..เธอเมาแล้ว “


                 “ รักผมนะ ผมขอ...รักผมสักวันได้ไหม “


                 “ ชาด ปล่อย...“


                 “ ไม่!! ผมรักพี่ รัก… “ ชายหนุ่มเงยหน้าแล้วลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับบาร์ตตรงๆ ไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรต่อ มือใหญ่ผลักบาร์ตลงนอนก่อนจะขึ้นคร่อม คนมากวัยกว่าตกใจ อากาศเย็นไหลเข้ามาจากบานหน้าต่างที่เผลอเปิดเอาไว้ระบายอากาศ ผิวขาวเย็นและสั่นเมื่อปลายนิ้วของมารตาลูบไล้มันเบาๆ


                 “ ชาด พี่ไม่เล่น ออกไปจากห้องนี่นะ “


                 “ นี่บ้านผม ผมจะเข้าห้องไหนก็ได้ “


                 “ งั้นฉันไปเอง “ บาร์ตพูด พยายามตั้งสติคว้าเสื้อคลุมเอาไว้ แต่กลับกลายเป็นว่าถูกกระชากกลับมานอนอีกครั้ง และคราวนี้ปากก็หมดโอกาสที่จะประท้วงเมื่อมารตาปิดมันด้วยปากของตนเอง รสฝาดขมของเหล้าเด่นชัด แต่ไหนแต่ไรบาร์ตก็ไม่เคยชอบมันแม้สักครั้ง กายหนากว่าใหญ่กว่าเป็นเหมือนกำแพงกั้นไม่ให้ลุกออกไปโดยง่าย


                 “ อย่าไปจากผม ผมรักพี่นะ จะให้ผมทำยังไงพี่ถึงจะรักผม “


                 “ ...ไม่มีวันชาด พี่ไม่มีวันรักเธอ ปล่อย “


                 “ ไม่ ผมจะไม่ปล่อยพี่ไป ผมรักพี่ ผมไม่ให้พี่ไปจากผม พี่ต้องอยู่กับผม “ อ้อมแขนใหญ่รัดเข้ามาแน่นขึ้น ตัวของมารตาอุ่นจนบาร์ตรู้สึกได้ เขาตัวสั่น


                 “ ชาด พี่ขอ ปล่อย…. เราเป็นพี่น้องกันนะ พี่รักเธอเหมือนน้อง “


                 “ แต่ผมไม่รักพี่แบบพี่ชาย “ ชาดสวนกลับ จ้องมองใบหน้าตื่นตระหนก จะด้วยฤทธิ์สุราหรือความรักที่เก็บมานานในใจก็ตาม ร่างสูงก้มลงจูบอีกครั้ง ทำสิ่งที่ตนเองอยากจะทำมาตลอด จูบบาร์ตให้มากขึ้นกว่านี้ สัมผัสให้มากกว่านี้


                 “ ชาด...อย่า “ ฝ่ายที่โดนคุกคามเอ่ยขอ รู้แน่แก่ใจว่าสู้แรงไม่ได้แน่ๆ


                 “ ผมรักพี่...ผมรักพี่นะ “ มือของชายหนุ่มถอดเสื้อยืดออก และจังหวะที่กำลังจะปลดซิปกางเกงบาร์ตก็ออกแรงทั้งหมดถีบที่ท้อง แล้วลุกพรวดจะวิ่งหนีออกไป แต่เพราะตัวเองผอมลงมากนับแต่วันที่เลิกกับทารคา ยังไม่ทันจะพ้นรัศมีของเตียง กลับถูกกระชากกลับมา ข้อมือถูกจับเอาไว้แน่น


                 “ ผมไม่ให้พี่ไป พี่จะด่าจะว่าอะไรผมก็ได้ แต่ผมไม่ให้พี่ไปจากผมคืนนี้ “ อีกฝ่ายหน้าซีดเผือด ตัวสั่น


                 “ ชาด ได้โปรด อย่าทำแบบนี้ ทารคาต้องไม่พอใจแน่ “


                 “ พี่ทาไม่เกี่ยว พี่เลิกกับเขาแล้ว เขาไม่สนหรอกว่าพี่จะนอนกับใคร “ คำพูดนั้นเหมือนมีดที่แทงลงกลางใจของคนฟัง


                 “ แต่ต้องไม่ใช่เธอชาด ปล่อย!!! “


                 “ ไม่ครับ “ มารตาปฏิเสธ รวบข้อมือผอม มัดจนแน่นด้วยเสื้อยืด ดวงตาสีฟ้าที่พร่าสักหน่อยจดจ้องมองภาพของบาร์ตราวจะบันทึกเอาไว้ในความทรงจำ ชายหนุ่มก้มลงจูบหน้าผาก ไล่มาจนถึงพวงแก้ม ใบหน้านั่นบ่ายเบี่ยงอย่างตื่นกลัว


                 “ ชาด.. “ เสียงเรียกด้วยลมหายใจที่ขาดช่วง เมื่อมารตาเลื่อนริมฝีปากมาตรงช่วงอก สอดมือเข้าไปด้านใน สาบเสื้อถูกดึงออก ก่อนที่ปลายลิ้นจะเลียลงบนผิวกายเย็น ระเรื่อยไปจนถึงปลายยอดไหวสัมผัส ดูดเม้มอย่างกระหายราวเด็กน้อยทีหิวโหยน้ำนมมารดา บาร์ตพยายามจะดิ้นเพื่อขืนตัวไม่ไห้อารมณ์กระเจิงไปกับการเล้าโลมนี้


                 “ ผมรักพี่… “ มารตากระซิบอีกครั้ง เบาแต่ก็ชัดในทุกคำ


                 “ พี่ไม่ได้รักเธอ ไม่ได้รัก...ชาด “


                 “ ผมรู้...แต่ขอให้ผมรักพี่นะ ขอให้ผมได้รัก “ เขาว่า เขยิบตัวถอยลงมาจูบหน้าท้อง ก่อนจะมาหยุดที่หน้าขา ความเป็นชายที่ยังไม่ได้ตื่นตัวถูกปลุกเร้าด้วยปลายลิ้น และมือใหญ่ที่เพียงจับสัมผัส บาร์ตก็แทบคลั่ง ขาทั้งสองส่ายเปะปะอย่างทรมาน โพรงปากนุ่มกลืนเอามันเข้าไป ถอดถอดและเล็มส่วนปลายอย่างเอาใจ ไม่มีความรุนแรงใดๆในสัมผัสนั้นแม้สักน้อย


                    และมันทำให้บาร์ตกลัว

                    กลัวยิ่งกว่าถูกขืนใจ

                    กลัวว่าตัวเองจะโหยไห้หา…


                 “ ดีไหมครับ? “ ชาดถาม ยังคงไม่เลิกเล้าโลม พอใจมากเหลือเกินที่มันเริ่มแข็งขันและมีน้ำซึมออกมา คนถูกพันธนาการน้ำตาไหลส่ายหน้า


                 “ ชาด พอแล้ว อย่าทำแบบนี้ พี่ขอเถอะ “


                 “ ผมก็ขอเหมือนกัน ขอให้พี่รักผม “ ร่างสูงกว่าผละจากปลายยอดที่ยังไม่สุขสม ปลดกางเกงตัวเองออก ส่วนแข็งแรงที่ยังไม่ตื่นตัวถูกเผยออกมา ดวงตาสีทองตกใจทั้งในความใหญ่โตและกิริยาอาการ ขาทั้งสอบหุบแน่น


                 “ อย่า…. “ มารตาไม่เอ่ยอะไร เพียงแค่แนบกายลงชิดกับชายที่แอบรักมาทั้งชีวิต จับให้ส่วนที่เปี่ยมล้นความต้องการของตนเองกับอีกฝ่ายแนบชิดกันในอุ้งมือ รูดรั้งเบาๆ มองใบหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างพอใจ


                 “ ชะ..ชาด...อือ “


                 “ รัก...ผมรักพี่ ผมจะไม่ล่วงเกินพี่ไปกว่านี้ ผมไม่เหมือนพี่ทารคา ผมจะรักพี่ในแบบที่ผมรักได้ “ เขาว่า ก้มลงจูบอีกครั้ง บาร์ตหลับตาลง สัมผัสได้ถึงน้ำตาของน้องชายตัวน้อยในอดีตหล่นต้องหน้าตนเอง มันเย็น และเป็นแค่น้ำตา แต่มันทำให้หัวใจเจ็บปวดอย่างไม่น่าเชื่อ



                 “ พี่บาร์ต รักพี่นะครับ ผมรักพี่ “ ร่างหนากว่ากระซิบบอก ขยับมือเร็วขึ้น กอบกุมแนบแน่น เร่งเร้าอย่างเป็นจังหวะ บาร์ตหอบหายใจ แม้ว่าเขาจะช่วยตัวเองมาหลายต่อหลายครั้งหลังจากเลิกกับทารคา แต่ไม่มีครั้งใดที่จะสุขสมได้มากพอ ครั้งนี้ไม่ใช่การช่วยตัวเอง มันแค่การเล้าโลม หัวสมองขาวโพลน และเมื่อมือใหญ่นั้นขยับจนถึงจังหวะสุดท้าย ภาพตรงหน้าก็ราวกับพลุ แตกกระซ่านเป็นสายระยิบระยับไปทั่ว ขณะหอบหายใจมือที่ถูกมัดเอาไว้ก็คลายออก พร้อมๆกับที่มารตาผละออกไป


                 “ ชาด? “ บาร์ตเรียก มองชายหนุ่มที่น้ำตายังคงไม่หยุดไหล ก่อนจะสวมกอดเอวผอม ซุกหน้าลงร้องไห้เหมือนเด็กน้อยอีกครั้ง


                 “ ขอโทษ ผมขอโทษ ผม...รักพี่พี่ ผมขอโทษ “


                 “ ชาด…. “  แขนที่เล็กกว่าค่อยๆสวมกอดประคองศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมสีเดียวกันเอาไว้ น้ำตาของบาร์ตไหลเฉกเช่นเดียวกัน


                 “ ทำไมไม่เป็นผม ทำไมไม่เป็นผมที่พี่รัก “ เขาถาม


                 “ เราเลือกไม่ได้นะชาด เหมือนที่เธอเลือกที่จะรักพี่ แต่พี่เลือกที่จะรักทารคา “


                 “ ผมรู้ ผมรู้ แต่ผมก็รักพี่ “ คนมากวัยกว่าถอนใจ มารตาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป ยังเป็นเด็กชายตัวน้อยขี้แยเสมอ และเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองอย่างยิ่งยวด เสียงสะอื้นยังดังก้องในห้องผสานเสียงฝน บาร์ตมองออกไป ใจครุ่นคิดว่าคืนนี้คนที่เขารักไปอยู่ที่ไหน และมีใครในอ้อมกอด ทารคาก็คือทารคา เย็นชาไม่สนใจใจใคร ทิ้งให้คนสองคนที่เกี่ยวพันกับตนเองอยู่ตรงนี้


                                น้องชายที่ร้องไห้ด้วยรักคนของพี่

                                และอดีตคนรักที่ถูกสลัดทิ้งอย่างไม่ใยดี

                                มันจะผิดไหม ถ้า…


                 “ ชาด... “


                 “ ครับ? “ มารตาเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมอง ตอนนั้นเองที่บาร์ตเป็นฝ่ายก้มลงมาจูบ เป็นจูบที่ไม่เหมือนเมื่อครู่ ไม่ใช่การขืนใจจูบ แต่เป็นจูบที่เหมือนจูบจริงๆ เขาสอดลิ้นเข้าไปปากของน้องชายผมขาว ตวัดปลายลิ้นยั่วเย้าให้ตอบสนอง แค่เพียงไม่กี่วินาทีก็ได้การตอบรับ ลมหายใจขาดเป็นห้วงแต่ก็ไม่มีใครยอมผละออกมาก่อน


                 “ ชาด… “ น้ำเสียงทุ้มปนหอบเรียกชื่อของชายหนุ่มในอ้อมกอด


                 “ พี่บาร์ต? ทำไม พี่จูบ...ผม “


                 “ สัญญากับพี่ “


                 “ สัญญาอะไรครับ “ ดวงตาสีทองมองสบดวงตาสีฟ้า เขาไม่แน่ใจนักว่ามารตามีสติมากพอไหมที่จะรับฟังจากฤทธิ์ของเหล้าที่ดื่มมา แต่ก็เชื่อว่ามันยังพอมี จากการที่ไม่ได้ถูกเด็กคนนี้ล่วงเกินเมื่อครู่


                 “ สัญญาว่าเมื่อพ้นคืนนี้ไป เธอกับพี่จะกลับไปเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าทารคาจะรักพี่ต่อไปหรือไม่ เราจะเป็นพี่ชายน้องชายเหมือนเดิมที่เคยเป็นมา ได้ไหม สัญญากับพี่ “


                 “ พี่บาร์ต? ผมไม่เข้าใจ ทำไม? “


                 “ พี่จะให้เธอรักพี่ แค่คืนนี้ คืนนี้พี่จะให้เธอรักพี่ได้เท่าที่ที่อยากจะรัก “ มารตาปากสั่นขณะมองใบหน้าของคนมากวัยกว่า


                 “ แค่คืนนี้เหรอ แค่คืนเดียวเหรอที่ผมจะรักพี่ได้ “


                 “ เธอจะรักพี่ไปอีกนานแค่ไหนก็ได้ แต่แค่คืนนี้ที่เราจะไม่ใช่พี่ชายน้องชายกัน และเมื่อพ้นคืนนี้ไป ทารคาจะกลับมารักพี่หรือไม่ เราก็ต้องกลับมาเป็นพี่น้องกัน ทำได้ไหม “ มารตายกตัวกอดบาร์ต


                 “ ทำไมการที่ผมรักพี่ต้องทรมานขนาดนี้ “


                 “ พี่ก็ทรมานไม่ต่างจากเธอ “ เสียงที่ตอบกลับสั่นเครือ อ้อมแขนใหญ่โอบรัดร่างที่ผอมกว่าตัวให้แน่นขึ้น จูบไหล่เปลือยเปล่าอย่างแสนรัก ก่อนมาที่ใบหน้า จูบที่ริมฝีปากล่างบางเฉียบ แล้วไล่มาเลียน้ำตาให้


                 “ พี่จะไม่เสียใจใช่ไหมครับ? “


                 “ ไม่ พี่เสียใจมามากพอแล้ว “ บาร์ตเอ่ย ทั้งคู่ค่อยๆเอนกายลงนอนทาบทับกัน ไฟฟ้าติดแล้ว และโคมไฟตรงหัวเตียงก็ส่องแสงสีนวลตาลงบนร่างเปลือยเปล่าขาวจัด มารตามองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกมากมายเหลือเกินที่อัดแน่นในหัวใจ คนที่รักอยู่ตรงหน้า แต่สามารถที่จะรักได้เพียงคืนนี้ คืนเดียวเท่านั้นที่จะได้ใกล้อีกฝ่ายมากกว่าทุกคืน มากกว่าทุกครั้ง


                              เส้นทางต่อจากนี้ จะยิ่งห่างออกไป….


                 “ ผมรักพี่ “ มารตากระซิบย้ำ บาร์ตจับใบหน้าที่ไม่ได้หล่อเหล่าคมคายเท่าพี่ชาย แต่ก็น่ามองไม่ต่างกันแม้สักน้อย


                 “ พี่รู้แล้ว รักพี่สิ “


                 “ ผมกลัวจะทำพี่เจ็บ ผมไม่เคย “ ชายหนุ่มบอกตามตรง เแม้เคยผ่านการมีประสบการณ์กับผู้หญิงมาบ้าง แต่กับผู้ชายนั้นไม่เคยเลยสักครั้ง อาจไม่ได้เดียงสาจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่เพราะนี่คือคนที่เฝ้ารักมาตลอด หากทำอะไรให้อีกฝ่ายเจ็บ มันคงไม่ดีแน่ๆ


                 “ ไม่เป็นไร เรามี...เวลาทั้งคืน “ บาร์ตตอบ


                 “ ถ้าพี่รู้สึกแย่ พี่ต้องบอกผมนะ “


                 ไม่แย่หรอก มานี่สิ “ มือผอมกว่าค่อยๆจับให้คนอายุน้อยกว่าลงนอน และตัวเองเป็นฝ่ายขึ้นคร่อม หัวใจของชาดเต้นตุบแทบไม่เป็นจังหวะขณะมองภาพตรงหน้า เขายอมรับว่าเคยเห็นเซ็กส์ของบาร์ตกับพี่ชาย แต่ไม่เคยนึกว่าจะได้รับมันบ้างในตอนนี้ ที่ผ่านมาเคยได้แต่จินตนาการ แต่นี่คือความจริง


    ความจริงที่มีเวลาได้รับมันเอาไว้แค่หนึ่งคืน


                 “ พะ พี่บาร์ต… “ มารตาหอบมองอีกฝ่ายที่แก้มแดงมองส่วนความเป็นชาย บาร์ตกลืนน้ำลาย ด้วยนอกจากทารคาก็ไม่เคยมีเซ็กส์กับใครมาก่อนเลย กายร้อนที่อยู่ตรงหน้าใหญ่โตเสียจนคิดว่าไม่น่าจะใช้ปากรับเอาไว้ได้หมด แต่แค่มือก็คงจะไม่สุขสมเท่าไหร่นัก เขาจึงเริ่มจากมือเสียก่อน ค่อยๆลูบจากโคนจรดขึ้นมาส่วนปลายที่ยังมีคราบน้ำรักเปรอะเปื้อน เมื่อเร่งเร้าจนถึงจังหวะนึงก็ก้มลงใช้ปากรับเอาส่วนปลายยอดชุ่มน้ำเข้าไป  มือใหญ่สีแทนอ่อนเลื่อนมาเกลี่ยเส้นผมสีขาวที่ระหน้าออกเพราะอยากจะเห็นใบหน้าที่กำลังทำให้


                 “ พี่ครับ มัน...ดี “ คำชมเหมือนปลุกให้บาร์ตเร่งจังหวะอีก แม้ส่วนนึงในใจจะรู้สึกผิดว่ากำลังทำสิ่งที่ไม่ควร แต่เสียงหอบจนเหมือนคำรามในคอปลุกเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ส่วนอ่อนไหวของตนจึงเริ่มตื่นตัวบ้าง และดูเหมือนมารตาจะรู้ จึงผุดลุกขึ้นจนบาร์ตชะงัก


                 “ ชาด? “


                 “ ผมอยากทำให้พี่ด้วย มาสิครับ “ คนฟังหน้าแดงเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ไม่ทันจะตอบตกลงก็ถูกจับให้นอนคร่อมอยู่บนตัว โดยที่เอวผอมคร่อมอยู่เหนือใบหน้าของมารตา และหน้าของเขาก็ชิดแนบอยู่กับความเป็นชายที่ยังตระหง่านอย่างไม่ยอมล้มง่ายๆ


                 “ ชาด มันน่าอาย “


                 “ ไม่ครับ ไม่น่าอายเลย … “ มือใหญ่กดสะโพกสอบลงมาหา กลืนส่วนอ่อนไหวของบาร์ตจนต้องเอนตัวซบลงกับหน้าขาแข็งแรง มันรู้สึกดีจนแทบจะเสร็จเสียเดี๋ยวนั้น แต่ความแข็งแรงที่แนบอยู่ไม่ใกลเรียกร้องให้ต้องเป็นฝ่ายเริ่มทำบ้าง เขาอ้าปากกลืนกินตัวของมารตาเข้าไป พยายามเร่งจังหวะ ใช้มือและลิ้นช่วย ชายหนุ่มขยำต้นขาขาวจนขึ้นรอยมืออย่างอดกลั้น นิ้วมือเริ่มซุกซนไล่ไปยังช่องทางที่ปิดสนิท แต่เพราะเมื่อครู่ได้ยินว่าบาร์ตช่วยตัวเอง จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เมื่อแค่แตะปลายนิ้ว มันก็ตอดรัดทันที บาร์ตสะดุ้ง


                 “ ชะ ชาด อือ… “ เสียงครางยิ่งปลุกให้มารตาสอดนิ้วเข้าไปเพิ่มอีก มันอุ่นและแน่นเสียจนไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าถ้าสิ่งที่เข้าไปไม่ใช่นิ้ว มันจะดีสักแค่ไหนกัน บาร์ตไม่อาจทนไหวจนต้องกลับไปใช้ปากอีกครั้ง เพื่อกลบเสียงร้องครางน่าอาย มารตาหอบและขยับปากกับนิ้วให้ประสานกันกระทั่งรู้สึกถึงน้ำร้อนๆที่หลั่งไหลในปาก เช่นเดียวกับที่อีกคนกำลังได้รับจากเขา


                 มารตามองใบหน้าที่กำลังถอนปากออกมา ปากบางนั่นอ้าเผยอน้อยจนเห็นน้ำกามสีขาวขุ่นไหลที่มากล้นภายใน ก่อนที่จะกลืนเข้าไปด้วยกิริยาที่เย้ายวนมากเสียจนคนมองแทบทนไม่ไหว  บาร์ตหันมามองก่อนจะขยับตัวขึ้นคร่อม ถูไถบั้นท้ายกับความแข็งแรงที่เบียดดันไม่ยอมสงบง่ายๆ


                 “ ชาด ในลิ้นชักตรงหัวนอน... พี่ว่าน่าจะยังมีเจลหล่อลื่นอยู่ หยิบมาที “ ชาดพยักหน้า หยิบเอาออกมาแต่ไม่ได้ส่งให้ เขาเทมันลงปลายนิ้ว ก่อนดันตัวบาร์ตให้ซบกับอก แล้วเป็นฝ่ายสอดนิ้วที่ชุ่มเจลเข้าไปเตรียมพร้อมให้แน่ใจว่าสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วจะผ่านเข้าไปได้โดยไม่เจ็บ


                 “ อึ่ก ชาด… ค่อยๆ “ แม้จะเพิ่งช่วยตัวเองมา แต่เจ้าของร่างกายย่อมรู้จักตัวเองดี และนิ้วเขาก็ไม่ได้ใหญ่กว่ามารตามากนัก  ร่างกายที่ไม่ได้มีเซ็กส์จริงๆมานาน จำเป็นต้องได้รับการเตรียมพร้อมจนแน่ใจว่าจะพร้อม เมื่อสอดผ่านเข้าไปได้ถึงสามนิ้วและเกือบจะสี่นิ้วแล้ว บาร์ตก็ครางประท้วง หน้าแดงเห่อร้อนด้วยความต้องการเปี่ยมล้น น้ำเสียงที่กระซิบสั่นพร่า


                 “ ชาด พอแล้ว พี่ไหวแล้วล่ะ “ ชาดถอนปลายนิ้วออกไป รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการเป็นคนเริ่ม จึงปล่อยให้ทำ บาร์ตกลับไปนั่งคร่อมเหนือความเป็นชาย ความเรียบลื่นส่วนปลายจากเจลและตัวของมันเองค่อยๆสอดผ่านเข้าไปด้านในที่พร้อมรออยู่แล้ว ชายหนุ่มกัดปากกลั้นเสียง ผ่อนลมหายใจอย่างเชื่องช้าเพราะขนาดนั้นไม่ใช่น้อยที่จะยอมรับได้ในทันที และคนรุกรานก็รู้ จึงพยายามข่มใจไม่เร่งรีบเท่าที่ควร เพ่งสมาธิมองร่างที่ผิวขาวจนเหมือนจะสว่างได้ในความมืด เหงื่อซึมพร่างพรายตามตัวแม้อากาศจะเย็น ช่วงเองโยกไหวอย่างเปี่ยมล้มความต้องการ สองมือนั่นทาบทับลงท้อง รับรู้ความปั่นป่วนภายในที่อดกลั้นอย่างมาก ยิ่งบาร์ตขยับ ความเป็นชายก็สอดลึกเข้าไป แต่มันไม่มากพอ


                 “ พี่ครับ? ไหวไหม หยุดก่อนไหม? “ มารตาถาม มองคนที่หอบหายใจ


                 “ พี่ไหว แต่...มันยังไม่ดีพอ… อือ “ บาร์ตผวาเมื่อถูกจับลงมานอน ขาทั้งสองถูกแยกออกและมีชายหนุ่มสอดอยู่กลาง มารตาเพิ่มเจลอีก ใช้อุ้งมือถูไถความเป็นชายให้แข็งตึง มองช่องทางที่ยังคงต้องการ ชื้นแฉะจากเจลและน้ำรักบางส่วนที่ไหลออกมาตอนทำเมื่อครู่ มือผอมเลื่อนมาแยกขาตัวเองออกให้กว้างขึ้นอย่างเชิญชวน


                 “ ค่อยๆนะชาด..  “ มารตาพยักหน้า เขยิบตัวเข้าหา สอดตัวเข้าไปเชื่องช้าไม่รีบร้อน พยายามจะประคองสติที่ยังมึนนิดหน่อยจากเหล้าให้ยังคงทำไปได้โดยไม่ฝากบาดแผลใดๆทั้งบนร่างกายและจิตใจของคนที่หลงรักมาตลอดหลายปี กายเนื้อแนบเนื้อ ไอร้อนที่แนบย้ำบอกให้รู้ว่าทั้งคู่กำลังร่วมรักด้วยร่างกายที่ต่างต้องการ


                              แม้ว่าจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ได้รักก็ตามที


                 “ ผมรักพี่ “ คนพูดประโยคนี้ยังคงกระซิบ มือเอื้อมคว้าจับมือของชายที่มากวัยกว่าตน สอดประสานเกี่ยวรัดเอาไว้ราวย้ำเตือนให้รู้ว่าตัวเองยังมีตัวตน แนบแน่นไม่ปล่อยเป็นนัยว่าเอื้อมถึงคนที่วิ่งตามมาตลอดชีวิต


                 “ แค่คืนนี้เท่านั้นนะ ชาด “


                 “ ผมจะรักพี่ไปตลอดไม่ใช่แค่คืนนี้ ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร “ ชาดยังมั่นคงในคำพูด หัวใจคนฟังหวิวไหวอย่างประหลาดจนยอมรับกับตัวเองว่าตอนแรกเพียงอยากประชดอดีตคนรัก แต่เมื่อถึงตอนนี้รู้ดีว่ามันไม่ใช่สักนิด มันเป็นเซ็กส์ที่เกิดจากคามต้องการของตนเองแน่แท้ อ้อมแขนนี้เหงาและต้องการใครสักคน แต่ไม่มีสักคนที่เขายอมโอนอ่อนให้ หากคืนนี้มีเพียงชาด เด็กชายตัวน้อยแก้มกมในอดีตที่เคยอุ้มกอด นอนเล่นดูหนังด้วยกันมา บัดนี้เด็กคนนั้นเติบใหญ่จนโอบกอดเขาไว้ได้จนหมด ร่างจมอยู่ในวงแขนสีน้ำผึงอ่อน


    สัมผัสทั้งความเป็นชายที่รุกลื่นไหลในกาย

    รับรู้ถึงลมหายใจร้อนที่เป่ารดผิวหนัง

    เสียงหัวใจเต้นรัวดังเหมือนกลองศึก

    และความรักที่แสนขมปนหวานเหมือนโกโก้แก้วนััน


    “ พี่ไม่อยากให้เธอรักพี่ ชาด “


    “ ผมจะรักพี่ แม้พี่ไม่รักผม “ เขาตอบ จูบอีกครั้ง เนิ่นนาน นุ่มนวลกว่าเก่า ไม่มีการสอดลิ้น เป็นเพียงจูบที่เน้นย้ำเตือนถึงความรู้สึกของตนเองให้คนที่แอบรักได้รับรู้


    “ แค่คืนนี้เท่านั้น ชาด “


    “ ผมรู้ครับ ผมเอื้อมมือมาจับพี่ไว้ได้ไกลสุดแค่นี้ “ มารตาพูดอย่างปวดใจ มองใบหน้าที่เห่อร้อนจากแรงอารมณ์ที่ยังคงพัดพา ดวงตาสีทองปรือต่ำน่าค้นหา ปากที่อ้าน้อยๆน่าประทับจูบ


    “ ชะ...ชาด ช้าหน่อย “ มือดันอกที่หนากว่าเตือน เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายขยับตัวแรงขึ้นทุกที


    “ อีกนิดนะครับ ทนผมหน่อยนะ “ เอวแข็งแรงขยับต่ออย่างไม่สนคำเตือน แต่ก็ไม่มากพอสร้างความเจ็บปวด หากจะสร้างก็มีเพียงสิ่งเดียวคือความปรารถนาที่เอ่อล้นในกาย ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวในตัวของบาร์ต มารตารู้ดีว่าว่ากำลังสร้างระยะทางแห่งความเจ็บปวดให้ตนเอง หลังจากวันนี้จะโหยหาอีกฝ่ายมากเพียงใด จะรักเพิ่มมากอีกแค่ไหนกัน หรือจะสิ้นรักเพราะได้สมปรารถนา…ก็ไม่อาจรู้ได้


                ความรักของเขายังไปไม่ถึง

                อีกไกลไหมกว่าจะใกล้

               ใกล้กับหัวใจที่วิ่งหนีอยู่แบบนี้

              กายแนบชิดหากใจไม่เคยเป็นเช่นนั้น


    “ ชาด...อึ่ก “ ร่างที่รองรับการรุกรานสะดุ้ง หัวก่ายเกยหมอนแล้วจำต้องร้องออกมาสุดเสียง เมื่อถูกพาไปถึงฝั่งอย่างสุขสม ธารสีน้ำนมไหลรินจากยอดปลายเต็มหน้าท้องราบเรียบ บางส่วนไหลซึมจากช่องทางที่ยังคงรัดรึงแม้ความเป็นชายใหญ่โตจะถอนออกมาแล้ว คนถูกรุกรานหมดแรงเสียจนยังทำไม่ได้แต่หุบขาเข้าหากัน ภาพตรงหน้าจึงทำให้ฝ่ายจ้องมองยิ่งต้องการ ทั้งคู่ไร้คำพูด มารตาโถมหาบาร์ตอีกครั้ง และอีกฝ่ายก็ตอบรับ ชายหนุ่มตอบรับจูบที่คราวนี้รุนแรงขึ้น เผ็ดร้อนขึ้น ช่องทางอ่อนนุ่มรับรู้ถึงความเป็นชายที่สอดกลับเข้ามาอีกครั้ง น้ำตาไหลลงมาต้องหมอน ไม่ต่างจากคนที่ถูกกอด


                 “ ผมรักพี่ “ ชาดยังคงกระซิบย้ำ


                 “ พี่รู้ “ บาร์ตตอบรับเสียงกระซิบแผ่วเบาแสนเจ็บปวดนั่น พลางหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้น ใจนั้นเพียงขอให้คืนนี้เป็นเพียงคืนหนึ่งคืนที่ได้รู้ว่าในห้วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง มีคนที่ยังรักตนเองอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆกันเพียงชั่วเวลาที่พระจันทร์อยู่บนฟ้า เสียงคราญในลำคอยังคงดังต่อเนื่อง เฉกเช่นเสียงของเนื้อกายที่เสียดสีและกระทบกัน  มือสอดประสานเอาไว้ คนนึงกระซิบบอกรักเท่าที่ตนอยากจะบอกมาตลอด อีกคนทำได้เพียงรับรู้ แต่หัวใจเจ็บและไม่แกร่งพอตอบรับ


            กลางคืนอาจยาวนานได้มากพอสำหรับบางคน

                      แต่สำหรับทั้งสองคนแล้ว

                      มันแสนสั้นนัก...

                                ราวกับสายฝนที่ตกลงมา จะโหมแรงกระหน่ำแค่ไหน

                                เมื่อถึงเวลา มันก็จะซาและหายไป

                                เหมือนไม่มีสิ่งใด้กิดขึ้นเลยแม้สักน้อย…



    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::



    ฝนซาเม็ดลงไปตั้งแต่เช้ามืด และมารตาก็ตื่นขึ้นมาพบเพียงเตียงนอนที่ว่างเปล่า ไออุ่นที่ได้โอบกอดเอาไว้ในแขนหายไป เหมือนกับว่าเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นพิงผนักเตียง เงียบอยู่นานแล้วจึงตัดสินใจอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ดึงผ้าปูที่นอนออกมาเพื่อเอาไปซัก ภายในบ้านเงียบ แก้วโกโก้สองแก้วที่ชงไว้เมื่อคืนถูกล้างจนสะอาดคว่ำตรงที่อ่างล้างจาน กล่องกระดาษที่ใส่ข้าวของหายไป เขาเดินไปหลังบ้าน กวาดน้ำที่ขังจากฝนออกจนพื้นหมาด แล้วเอาผ้าปูที่นอนลงซัก แสงแดดเริ่มทอเต็มผืนฟ้า ไอชื้นระเหยไป วันใหม่มาเยือนอย่างเช่นเดิม


                 “ ซักผ้าแต่เช้าเลยนะ ชาด “ ทารคาเอ่ยทักหลังลงมาจากชั้นสอง มองน้องชาย


                 “ พี่กลับมาตอนไหนครับ “ เขาถาม แปลกใจที่พี่ชายกลับบ้านอยู่สักหน่อย


                 “ เมื่อคืน ตอนตีสองมั้ง “ ชายหนุ่มว่าขณะเดินออกมายืนข้างๆ มารตาไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่อ


                 “ เจอบาร์ตเมื่อเช้า ก่อนแกตื่นสักชั่วโมงได้มั้ง “


                 “ เหรอครับ “ ชาดว่าแค่นั้น


                 “ โกรธพี่ไหมชาด? “


                 “ เรื่องอะไรครับ “


                 “ เรื่องที่เลิกกับบาร์ต “


                 “ มันเป็นเรื่องของพี่สองคน ผมแค่คนนอก …. “ น้องชายตอบ เตรียมจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน ทารคาถอนใจมองต้นไม้ในสวน นึกถึงการสนทนาของตัวเองกับอดีตแฟน


                 “ อืม ก็จริงนะ แกเป็นคนนอก อ๋อ บาร์ตมันฝากขอบคุณเรื่องโกโก้มา “


                 “ ครับ พี่จะกินอะไรตอนเช้าไหม? “


                 “ กิน เอาขนมปังปิ้งทาเนยง่ายๆก็ได้ แล้วก็ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกหลายเรื่องเลย ยาวหน่อย วันนี้แกว่างไหม “ ทารคาถาม เดินมานั่งตรงโซฟามองน้องชายที่กำลังหยิบของในตู้เย็นออกมาเตรียมทำให้


                 “ ชาด… “


                 “ ครับ “


                 “ พยายามเข้านะ “


                 “ เรื่องอะไรครับ “ ทารคายิ้ม ไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน ท่าทางดูเพลียๆจนคนเกิดหลังไม่กี่ปีแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรต่อเพราะไม่อยากจะพูดอะไรกับพี่ชายตอนนี้เลยสักนิด ชายหนุ่มจัดการมื้อเช้าจนเสร็จ ขณะที่กำลังเดินมาที่ห้องโถงเพื่อเปิดทีวี แสงสะท้อนจากกระจกกรอบรูปที่ไม่เคยตั้งมาก่อนเรียกความสนใจจนต้องเดินมาหยิบดู


                 ภาพของบาร์ตในช่วงวัยรุ่นกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะที่กอดคอเขาในวัยราวๆเจ็ดขวบเอาไว้ ภาพนี้ทารคาน่าจะเป็นคนถ่าย ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวจะมาถึงจุดนี้ เด็กชายผมขาววัยเจ็ดขวบยังเดียงสาเกินกว่าจะเรียนรู้คำว่ารัก และชายอีกคนในภาพก็ยังไม่ได้มีความรักที่เจ็บปวดเช่นวันนี้ ทารคาเองในตอนนั้นก็ยังเป็นคนที่ใจดีกว่านี้


                 “ ดูอะไรอยู่? “ คนไม่ได้อยู่ในรูปถาม มารตาชะงักเมื่อนึกได้ว่าตัวเองมองภาพนานจนอีกฝ่ายอาบน้ำเสร็จออกมาแล้ว


                 “ แค่รูปเก่าๆน่ะพี่ “


                 “ อืม รูปนี้ฉันถ่ายมั้ง จำไม่ได้แล้ว มาเถอะ หิวแล้ว ฉันมียาเช้าที่ต้องกิน “ น้องชายขมวดคิ้วมองหน้าพี่ชายที่ส่งยิ้มให้


                 “ ยาอะไรพี่ “


                 “ ก็ถึงบอกนี่ไง ว่าเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันยาวมากเช้านี้ ชาด “ เขาว่า และมารตาก็ไม่นึกเลยว่าเรื่องที่เขาจะฟังต่อไปในเช้าวันนั้นจะทำให้ชีวิตตัวเองเปลี่ยนไป…


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


                 ร้านดอกไม้ริมถนนที่ตกแต่งแนววินเทจเด่นสะดุดตาในย่านที่กำลังรีโนเวทเป็นแหล่งท่องเที่ยว เจ้าของร้านที่ยังสาววุ่นวายอยู่กับการจัดช่อดอกไม้สีม่วงอ่อนอยู่ ช่อลิลลี่สีขาวแซมดอกสแตติสสีม่วงอ่อนแปลกตา ผูกด้วยโบว์สีดำเรียบๆ นัยบอกถึงว่านี่ไม่ใช่ดอกไม้ที่จะนำไปมอบให้กับงานมงคลใดๆ เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านทำให้รู้ว่ามีแขกมา หล่อนทักทายอย่างสุภาพ


                 “ สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ? “ อีกฝ่ายถอดแว่นกันแดดสีเขียวเข้มของลาคอสต์ออก ผมสีขาวสั้นดูดีรับกับใบหน้า เขายิ้มบางๆให้


                 “ ผมมารับช่อดอกไม้ที่สั่งไว้ครับ “


                 “ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายชื่ออะไรคะ? “


                 “ บาร์ตครับ ผมสั่งลิลลี่กับสแตติสเอาไว้ “ เจ้าของร้านยิ้มให้ ผายมือไปทางช่อดอกไม้ที่จัดตกแต่งเสร็จแล้ว


                 “ เสร็จแล้วค่ะ ทางร้านได้รับเงินที่คุณผู้ชายโอนเข้าบัญชีแล้ว รับไปได้เลยค่ะ “ เขายิ้มบาง


                 “ ขอบคุณครับ “ ชายหนุ่มว่า ก่อนจะเดินออกจากร้านไปขึ้นรถจากัวร๋สีดำแล้วขับตรงไปยังสถานที่ที่ตั้งใจมาหลังจากกลับจากต่างประเทศ  ผ่านไปห้าปี ถนนหนทางเปลี่ยนไปพอสมควร แต่ก็ยังไปถูกเสมอ เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปในซอยถนนส่วนบุคคล ภาพตรงหน้าก็ทำเอาอดทึ่งไม่ได้ บ้านใหญ่หลังคาปูกระเบื้องหลังสีแดงอิฐยังเหมือนเดิม หน้าบ้านที่เป็นรั้วไม้ก็ยังเหมือนเดิม แค่เก่าบ้างไปตามกาลเวลาเท่านั้น รถหรูจอดที่หน้าบ้าน แนวรั้วดอกพุดแคระยังอยู่ และมันก็บานสวยเช่นครั้งสุดท้ายที่เห็น นานสักพักหลังจากดับเครื่องยนต์จึงยอมลงจากรถเพื่อกดออดหน้าบ้าน ไม่นานนักเงาร่างนึงก็เดินมาเปิด ร่างสูงตัวหนาผมสีขาวในชุดสบายๆ


                 “ ครับ ใครครับ…. “ สีหน้าที่ดูตกใจระคนแปลกใจระบายอยู่อย่างเห็นได้ชัด


                 “ ไม่เจอกันนายเลยนะ...ชาด “ บาร์ตทัก


                 “ พี่บาร์ต? “ มารตาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างสับสน ด้วยไม่เคยได้ข่าวชายตรงหน้าเลยนับตั้งแต่คืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน แค่พอรู้ว่าไปอยู่อังกฤษและสบายดีแค่นั้น บาร์ตไม่เคยติดต่อกลับมา ราวกับพยายามจะหายไปจากชีวิตของตนเองและทารคา…


                 “ ขอพี่เข้าไปได้ไหม? “


                 “ ดะ ได้ครับ ...พี่มา… “ คำถามหายไปเมื่อช่อดอกไม้ผูกโบว์สีดำทดแทนคำตอบทั้งหมด ร่างสูงผอมก้าวเข้าไปด้านในโดยมีมารตาตามไปติดๆ ถอดรองเท้าออกวางในที่เดิม ดูเหมือนแม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่แขกคนนี้ก็ยังจำรายละเอียดในบ้านได้แม่นยำ


                 “ ….ทาอยู่ไหนเหรอ ชาด “


                 “ ที่ห้องพระชั้นบนครับ ผมพาไป “ มารตาบอก ปิดประตูให้เรียบร้อยก่อนจะเดินพาคนคุ้นเคยขึ้นไปชั้นบน ผ่านห้องรับรองแขกที่ปิดอยู่ ห้องที่ครั้งนึงบาร์ตเคยอาศัยอยู่ และเป็นห้องที่ทิ้งอดีตเอาไว้ในนั้น กลิ่นธูปหอมลอยออกมาจากด้านในห้อง เมื่อเปิดเข้าไปบาร์ตกวาดสายตามองจนพบภาพของใครคนหนึ่งแขวนอยู่เหนือโกศสีทอง ธูปยังติดไฟ วันเสียชีวิตที่ระบุบนรูปคือวันนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน มือที่ยังคงเรียวผอมแม้มากเท่าในอดีตวางช่อดอกไม้ลงข้างๆโกศ


                 “ พี่จะจุดธูปไหมครับ? “


                 “ ก็ดีนะ “ บาร์ตว่า ยืนรอคนอ่อนวัยกว่าตัวที่ตอนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เขาส่งธูปให้ชายหนุ่มรับไปไหว้หน้ารูปของคนที่ครั้งหนึ่งกล้าพูดได้เต็มปากว่าเคยรักเสียจนหมดหัวใจ


                 “ ขอโทษที่ไม่ได้มามาหาตั้งเป็นปีเลยนะ...ทา “ ชายหนุ่มเอ่ย มีรอยยิ้มบางบนใบหน้า ก่อนจะปักธูปลงไปบนกระถางแล้วยืนมองเงียบๆอยู่พัก


                 “ ผม...จะลงไปรอข้างล่างนะครับ “ มารตาเอ่ยด้วยเสียงเบาอย่างกลัวจะไปรบกวน


                 “ พี่ลงไปด้วยสิ อยู่นานกลัวเหมือนกัน “ บาร์ตเอ่ยติดตลก ร่างผอมสูงดูสดชื่นขึ้นจากผ่านไปหลายปี ชายหนุ่มพยักหน้าเดินลงมาข้างล่าง ก่อนไปจัดแจงเตรียมน้ำดื่มเย็นๆให้


                 “ พี่ขอสูบบุหรี่ได้ชาด? “ คนฟังเลิกคิ้ว


                 “ ได้ครับ ว่าแต่พี่สูบด้วยเหรอ? “


                 “ นานทีๆน่ะ แค่รู้สึกอยากสูบขึ้นมา “ เขาบอก เดินไปเปิดประตูกระจกบานใหญ่ที่ติดสวน นั่งลงริมชานไม้ หยิบบุหรี่มวนเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จุดสูบอย่างสบายใจพอดีกับที่มารตาเอาน้ำมาให้ ตาเขาดีพอจะสังเกตเห็นว่าบุหรี่ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อเดียวกับที่ทารคาสูบก่อนจะเลิกไปเพราะอาการป่วย…


                 “ ขอบใจนะชาด นั่งลงข้างๆหน่อยสิ มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะเลย “


                 “ ครับ “ ร่างสูงใหญ่ทำตามอย่างว่าง่าย


                 “ สบายดีไหม? “ ชาดพยักหน้า


                 “ สบายดีครับ พี่ล่ะ พี่ดู...สดชื่นขึ้นนะ “ บาร์ตเลิกคิ้วนิดๆ


                 “ อืม พี่ก็สบายดี อยู่ทางโน้นอากาศดีด้วยละมั้ง แม่อยู่เป็นเพื่อนพี่จนย้ายกลับมาเพราะเจ้าเบลแต่งงานกับคุณพันธ์กลับมาอยู่ไทย อ๋อ...ซื้อของมาฝากด้วย อยู่เบาะหลัง เมื่อกี้ลืมหยิบมาให้ “


                 “ ขอบคุณครับ “


                 “ บ้านนี้เหมือนเดิมเลยนะ.... แทบไม่มีอะไรเปลี่ยน ดอกพุดซ้อนก็ยังอยู่ รั้วบ้านก็สีเดิม มีเปลี่ยนบ้างแต่น้อยมาก “ มารตามองออกไปที่สวน


                 “ พี่ทาเขาอยากให้มันเหมือนเดิมครับ เขาบอกว่าเขาชอบแบบนี้ “


                 “ เหรอ...จริงสิ...แล้วหลานล่ะ อยู่กับแม่เขาเหรอ? “ ชายหนุ่มหันมามอง


                 “ พี่รู้เรื่องหลานด้วยเหรอครับ  “


                 “ ทาส่งเมล์มาบอกพี่ แนบรูปมาด้วย น่าเกลียดน่าชังเชียว “ มารตาเงียบไป


                 “ ครับ อยู่กับแม่ เพิ่งกลับไปเมื่อวานซืน “ ถึงตรงนี้บาร์ตที่กำลังพ่นควันบุหรี่แปลกใจ


                 “ อ้าว ไม่ได้อยู่กับเราที่นี่เหรอ? “


                 “ ไม่ครับ จริงๆคือผมหย่ากับบุหงามาได้สองปีแล้วครับ “


                 “ ขอโทษที พี่ไม่รู้เลยถามไป “


                 “ ไม่เป็นไรครับ แต่ทั้งผมทั้งบุหงาเราจบกันด้วยดี ยัยหนูก็แบ่งมาอยู่กับผมบ้าง กับแม่เขาบ้าง แกเป็นเด็กร่าเริง แล้วก็เข้าใจอะไรได้ดีครับ วันนี้แม่เขาก็คงมาส่งตอนช่วงเย็นๆ “ บาร์ตมองน้องชายอดีตคนรัก


                 “ อืม ก็ยังดีนะ ทาคงจะรักหลานนะ ว่าไปเหมือนเขามากกว่าเธออีก “


                 “ หลานรักเลยล่ะครับ พี่เชื่อไหม พินัยกรรมของพี่ทาน่ะ ยกให้ยัยหนูเกือบหมด “ มารตาว่าพลางหัวเราะ บาร์ตหัวเราะบ้าง


                 “ สมเป็นทารคา “


                 “ พี่บาร์ต “


                 “ ว่าไง? “


                 “ พี่ติดต่อกับพี่ทานานหรือยังครับ “ คนโดนถามเงียบไปนิดนึง ก่อนจะเอ่ยตอบ


                 “ เขาติดต่อมาหาพี่ก่อนที่จะเสียสักราวๆปีนึงละมั้ง บอกเรื่องอาการป่วย บอกทุกเรื่องที่ไม่ได้บอกพี่ตอนเราเลิกกัน แล้วก็เล่าหลายๆเรื่องทั้งเรื่องของเขา กับเรื่องของเธอให้พี่ฟัง “


                 “ พี่โกรธพี่ทาไหมที่เขาปิดพี่ “ มารตาถามตรงๆ


                 “ เสียใจมากกว่าโกรธ แต่มันก็สายไปแล้ว  พี่ใช้เวลาทำใจเรื่องที่เลิกกันนานพอตัว... พอทำใจได้ก็มาบอกว่าทำไมถึงขอเลิก พี่ตัวชาเลยตอนนั้น คิดมาตลอดว่าโดนนอกใจ คิดว่าเบื่อกันแล้วถึงได้เดินจากไป แต่แล้วไงล่ะ มันแก้ไขอะไรไม่ได้ พี่บินกลับมาหาเขาอยู่สองสามวัน เพื่อเคลียร์เรื่องคาใจกันจนจบ แล้วพอพี่กลับไป เบลก็บอกพี่ว่าทาเสียแล้ว “ ถึงตรงนี้คนอ่อนวัยกว่าจับความขมขื่นในน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเหมือนเล่าเรื่องอะไรต่างๆธรรมดาได้ แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่ความสัมพันธ์ที่ยาวนาวนานเป็นสิบปีของทั้งสองก็ยังไม่ได้ลบล้างออกไปจากใจ...


                 “ ผมไม่ยักรู้นะว่าพี่มา “


                 “ พี่มาแค่แป๊ปเดียว ทาไม่ได้บอกสินะ “


                 “ ไม่ได้บอกครับ “


                 “ โกรธเธอกับพี่มั้ง “


                 “ เรื่องอะไรครับ “ บาร์ตมองใบหน้าของอดีตน้องชายคนรัก


                 “ เธอถามจริงๆหรือเธอแกล้งถาม ชาด? “


                 “ ผมถามจริงๆ “


                 “ ทาบอกไหมว่าวันนั้นเขาเจอพี่ตอนเช้า จำได้ใช่ไหมว่าวันไหน? “ ชายหนุ่มเงียบไปก่อนจะสบตาดวงตาสีทองคู่ที่ไม่เคยลืมได้เลยแม้สักวัน


                 “ ไม่เคยลืมครับ “


                 “  เช้านั้นพี่ลงมาจากห้อง เก็บของล้างแก้วแล้วกะจะออกไป เจอทาลงมาจากชั้นบนพอดี เราก็แค่คุยกันนิดหน่อย พี่ถามเขา ถามสิ่งคาใจพี่ว่าพี่ผิดตรงไหนถึงขอเลิกกับพี่  ถ้าพี่รู้พี่จะได้ไปโดยไม่กลับมาอีก เชื่อไหมหมอนั่นไม่ตอบคำถามพี่ แต่กลับถามพี่กลับมา.. “


                 “ พี่ทาถามอะไร? “


                 “ ถามพี่ว่าเซ็กส์ของพี่กับน้องชายอดีตแฟนดีไหม? ทาเขารู้ชาด รู้ว่าคืนนั้นเธอกับพี่ทำอะไรกัน…  “ บาร์ตว่าเรียบๆ สูบควันเข้าไปอีก มารตาชะงัก ไม่รู้เลยว่าทารคารู้เรื่องในคืนนั้น


                 “ พี่ตอบไปว่าไง… “


                 “ พี่ถามทาว่า มีเรื่องจะพูดกับพี่แค่นี้ใช่ไหม… เขาเงียบ พี่เลยบอกไปว่า พี่จะนอนกับใครก็เรื่องของพี่ ในเมื่อแฟนพี่มันเฮงซวย แค่เหตุในการเลิกกันมันยังไม่มีให้ ก็ไม่มีเรื่องจะพูดกันแล้ว จะไปตายที่ไหนก็ไป แล้วพี่ก็ออกมา ย้ายไปอยู่อังกฤษนั่นล่ะ  “


                 “ พี่ทาไม่เคยเล่าเลย...บอกแค่ว่าเขาพูดอะไรกับพี่นิดหน่อย “


                 “ นิสัยเสีย….เอาแต่เก็บไว้ไม่พูด ถ้าพี่รู้ว่าตอนนั้นทาป่วย พี่จะไม่พูดแบบนั้น แต่เขาไม่เคยพูดไงชาด เอาแต่เก็บเอาไว้ “


                 “ แต่พี่ทาห่วงพี่ รู้ใช่ไหมครับ “ มารตาบอก


                 “ ทาบอกชาดเหรอ? “


                 “ ก่อนพี่ทาจะเสีย พี่เขาบอกผมน่ะครับ เขาบอกผม...ว่าเขารู้ผมรักพี่ “ คนฟังเงียบไป


                 “ ...บอกว่ารู้มานานแล้ว แต่เรื่องคืนนั้นพี่ทาไม่เคยเอ่ยถึงครับ ผมไม่รู้ว่าทำไม “


                 “ พี่ก็ไม่รู้ อาจจะโกรธมั้งที่พี่นอนกับเธอ ให้ตายสิ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายบอกเลิกเองแท้ๆนะ “


                 “ ยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้พี่ทาก็ไม่อยู่แล้ว เราจะมานั่งถกกันไปก็ไม่ก่ออะไรเลยครับ “


                 “ ก็จริง พี่เองก็เลิกติดใจเรื่องตอนนั้นแล้ว คิดแล้วก็ตลก นั่งฟูมฟายร้องไห้เป็นครึ่งปีเพราะโดนบอกเลิก มาย้อนคิดแล้วสมเพชตัวเองที่เป็นแบบนั้น “


                 “ แล้วเรื่องคืนนั้นพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่แย่ด้วยไหม? “


                 “ ...ไม่รู้สิชาด… “ มือของน้องชายเลื่อนมาจับมือของฝ่ายมากวัยกว่า


                 “ สำหรับผม...มันเป็นความทรงจำที่ดีและ...เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน “


                 “ เธอควรลืมมัน... “


                 “ ผมพยายามแล้วไงพี่ ผมแต่งงาน มีครอบครัว มีลูก….แต่สุดท้ายผมก็ยัง...ลืมพี่ไม่ได้ “ เขาบอก เขยิบตัวมาใกล้อีก บาร์ตนิ่ง...ไม่ได้ขยับถอยห่าง แต่ก็ไม่ได้ปล่อยตัวให้ใกล้ไปกว่าที่เป็นอยู่ เหมือนยังมีระยะห่างบางๆกั้นทั้งคู่เอาไว้


                 “ พี่ล่ะ ลืมผมไปบ้างไหม? “


                 “ ...เธอเป็นน้องชายพี่เสมอชาด พี่ไม่เคยลืม...แต่พี่ไม่ได้รักเธอ “ บาร์ตพูด นัยน์ตาสีทองสบกับสีฟ้าใสแสนซื่อสัตย์ รู้สึกเจ็บเมื่อเห็นมันไหววูบเพราะประโยคสุดท้ายของตัวเอง


                 “ แต่ผมรักพี่ ความรู้สึกผมเหมือนเดิม “


                 “ พอเถอะชาด มันผ่านมาห้าปีแล้ว ตอนนี้พี่อายุสามสิบเจ็ด เรื่องความรักไม่ได้อยู่ในหัวพี่แล้ว “


                 “ แต่ความรักของผมที่มีต่อพี่มันอยู่กับผมเสมอ “ มารตาย้ำเตือน อีกฝ่ายดับบุหรี่ในมือก่อนจะลุกขึ้น


                 “ พี่คงต้องกลับแล้ว….ขอโทษนะ  “


                 “ พี่บาร์ต ฟังผม…. “


                 “ ชาด...พี่จะกลับแล้ว “ บาร์ตย้ำด้วยเสียงที่ราบเรียบ เป็นการตัดพ้อที่เย็นชาที่สุดที่มารตาเคยรับรู้มา เขาสูดลมหายใจก่อนจะพยักหน้า


                 “ ….ครับ ผมจะเดินไปส่ง “


    เจ้าของบ้านคนปัจจุบันเดินออกมาส่งคนเคยอยู่บ้านแห่งนี้มาเป็นสิบปีที่ยังคงตัวเล็กกว่าตนเองอยู่เหมือนเดิม แม้จะไม่ผอมเท่าครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ตาม เส้นผมสีขาวหอมกลิ่นแชมพูเดิมที่เคยใช้ หลังคอขาวที่โผล่พ้นเสื้อเชิ๊ตสีครีมอ่อนพอดีตัวทำให้จำได้ว่าครั้งนึงเคยได้ฝากรอยจูบเอาไว้…


                 “ พี่ไปนะ… “ บาร์ตเอ่ย หันมาจะบอกคำลาให้เป็นทางการแต่กลายเป็นกลับถูกรวบตัวเข้าไปกอด และจูบที่เคยสัมผัสมาแล้วครั้งนึงก็ตามมา มือใหญ่ข้างนึงโออบเอวให้แนบชิด และอีกข้างจับหน้าของเขาเอาไว้ เนิ่นนาน เชื่องช้า อ้อยอิ่งราวกับว่าชาดไม่อยากได้ยินคำลาจากปากนี้


                 “ ...ผมยังรักพี่ได้ไหม? “ อดีตน้องชายในวัยเด็กเอ่ยถาม คนโดนถามไม่ตอบและสะบัดตัวออกมาขึ้นรถขับออกไปให้เร็วที่สุด มารตามองตามจนลับตา น้ำตาไหลด้วยความเสียใจที่ไม่ว่าเมื่อไหร…


                                เขาก็ไม่เคยได้ใกล้อีกฝ่ายเลย….

                                ไม่มีหวังอีกแล้วใช่ไหม….

                                ทุกครั้งที่ผมใกล้…

                                พี่ก็จะไกลผมออกไปอีก...


    บาร์ตขับรถห้อตะบึ่งแบบไม่สนใจรถอื่นที่บีบแตรว่าเลยแม้แต่น้อย กระทั่งถึงจุดนึงที่ไม่อาจทนกับอารมณ์ที่หวั่นไหวในตัว ชายหนุ่มปาดออกเข้าข้างทาง จอดรถนิ่งเอาไว้แล้วยกมือทุบพวงมาลัยเสียจนแขนเป็นจ้ำ นเขวี้ยงแว่นกันแดดลงกับพื้นรถอย่างไม่แย่ใส น้ำตาไหลจากดวงตาสีทองจนคิดว่ามันคงไม่ทางจะหยุดได้ง่ายดาย


                 “ ไอ้บ้าเอ๊ย!! แม่ง… “ ชายหนุ่มสบถ ก่อนจะซบหน้าลงกับท่อนแขนสะอื้นไห้เพียงคนเดียว รสจูบนั่นยังคงเหมือนเดิม เหมือนเสียจนคิดว่าชาดน่าจะดื่มโกโก้ร้อนไว้ก่อนที่เขาจะมา รสชาติหวานปนขมนั่นทำให้อดีตที่พยายามกลบฝัง หวนนึกถึงวันที่ตัวเองกลับมาที่นี่ กลับมาพบทารคา


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    “ ชอบชาดมันบ้างไหม? บาร์ต “ ทารคาถาม ขณะที่มองอดีตคนรักจัดช่อดอกไม้ลงแจกัน บาร์ตหรี่ตามอง


    “ อย่าชวนทะเลาะทา “


    “ ไม่ได้ชวนทะเลาะ...ฉันถามจริงๆ “ คนป่วยที่มีเครื่องช่วยหายใจยิ้มให้ อีกฝ่ายถอนใจเดินมายืนข้างๆ ยกมือลูบผมสีแดงสวยนั่นอย่างอ่อนโยน


    “ นอนด้วยกันครั้งเดียวไม่ทำให้รักกันหรอกนะ ทา “


    “ ถ้าไม่รัก แล้วทำไมไม่อยู่รอเจอชาดมันล่ะ? “ คนฟังชะงักมือที่ลูบผมอยู่ มองใบหน้าที่เคยหล่อเหลา บัดนี้ซูบเซียวป่วยไข้จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม


    “ ฉันมีเหตุผลของฉัน ไม่ต้องยุ่ง คนป่วยน่ะนอนไป “


    “ อีกเดี๋ยวก็ไม่ยุ่งแล้ว แถมนอนยาวเลยด้วย “ ชายหนุ่มผมสีเพลิงบอกพลางหัวเราะเบาๆ บาร์ตถอนใจยกมือจับมือที่มีแต่เข็มน้ำเกลือเอาไว้ บีบเบาๆ


    “ เดี๋ยวนายก็หาย เชื่อฉันสิ “


    “ อืม หวังว่างั้นนะ ….บาร์ต “


    “ ว่าไง? “


    “ มีแฟนใหม่รึยัง? “ คนมาเยี่ยมไข้ถอนใจ ก่อนยิ้มตอบ


    “ มีแล้ว หล่อกว่านายเยอะเลยด้วย “


    “ นายโกหกไม่เก่งเลยนะ บาร์ต เหมือนเดิมเลย “


    “ พูดจริงๆ ไม่ได้โกหก “ ทารคามองหน้าอดีตคนรัก


    “ ถ้ามี นายพามาเยาะเย้ยฉันแล้ว นิสัยนายฉันรู้ดี นายยังไม่มีใครใช่ไหม บอกมาตามตรงเถอะ...โกหกว่ามีก็ไม่ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดี หรืออะไรๆมันดีขึ้นหรอกนะ “


    “ …...อืม...ขอโทษที...ยังไม่มีหรอก ฉันยังไม่พร้อมมี “


    “ ไม่พร้อมมี...หรือนายลืมใครไม่ได้ “ บาร์ตแยกเขี้ยว


    “ อย่าสำคัญตัวผิดสิ ทารคา ฉันลืมนายไปหมดแล้ว “


    “ ฉันไม่ได้หมายถึงตัวเอง “ คนป่วยว่า มองใบหน้าที่ชะงักอย่างขบขัน


    “ ถ้ายังไม่มีแฟน ก็พิจารณาชาดมันหน่อยได้ไหม...ถือว่าฉันขอ “


    “ ทารคา ชาดแต่งงานแล้ว และฉันก็ไม่ได้รักชาดแบบนั้น “


    “ เหรอ น่าเสียดายนะ เพราะฉันมองไม่ออกเลยว่าจะมีใครเหมาะกับนายมากกว่าไอ้เด็กอ้วนน้องชายฉัน...แค่ก! “ อาการไอทำให้บาร์ตผวาหา ประคองเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง มือของทารคาจับแขนของคนมาเยี่ยมจากแดนไกลเอาไว้


    “ ...นายต้องพัก ตามหมอมาดูอาการไหม? “


    “ ไม่เป็นไร...บาร์ต ฉันขอได้ไหม? “


    “ ว่ามาสิ “


    “ ...ถ้าอนาคตนายไม่มีใครเลือกชาดมันนะ “


    “ หัวใจบังคับกันได้เหรอ ทา… “ บาร์ตถาม คนฟังยิ้ม ยกนิ้วจิ้มที่อกอดีตแฟนที่เคยฝันว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาหายเกิดขึ้น จึงเลือกปล่อยอีกฝ่ายไป แม้มันจะสร้างบาดแผลให้มากแค่ไหนก็ตามที เขาก็เลือกหนทางนี้แล้ว


    “ บังคับไม่ได้ แต่มันเปลี่ยนได้  อย่าลืมนะ กับฉันนายยังลืมได้เลย แค่เริ่มต้นใหม่นายก็ทำได้ ถ้าวันนั้นมาถึง เลือกชาดมันนะ สัญญาสิ “


    “ ...สัญญา... นายนอนพักก่อนเถอะ “ บาร์ตประคองทารคาให้นอนลง ยกมือเกลี่ยผมที่ปรกหน้าให้ มองใบหน้าที่ยอมรับว่าคิดถึงมากมายเหลือเกิน แม้ไม่ใช่ความรักแล้วแต่มันก็คือความอาวรณ์  คือความห่วงหาในฐานะคนเคยรักอย่างสุดชีวิต คนที่เคยสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต


    “ ได้ เดินทางดีๆนะ จะกลับอังกฤษแล้วใช่ไหม? “


    “ เดินทางคืนนี้ล่ะ มาครั้งหน้า...จะพาแม่มาหาด้วยนะ แม่บ่นคิดถึง “


    “ ฝากบอกรักแม่ด้วยนะ “


    “ รู้แล้วๆ ให้ตายสินายหักอกฉันจนยับเยินแต่แม่ก็ยังเอ็นดูนายเหมือนลูกชายอยู่เลย ไอ้คนโชคดี นอนพักซะนะ ถึงนู้นแล้วจะเมล์หา เจอกันครั้งหน้าจะเอาขนมมาฝากด้วย “


    “ ...ขอบใจ รักนายนะ… “ ถ้าเป็นสักสองสามปีก่อน บาร์ตคงเลือกจะยอมตกเครื่องเพื่ออยู่ข้างๆทารคา แต่ทั้งคู่ก็มาไกลจากอดีตแล้ว ชายหนุ่มผมขาวก้มลงจูบหน้าผากอีกฝ่าย


    “ รักนายเหมือนกัน รักษาตัวดีๆนะ แล้วเจอกัน  “ เขาว่า หยิบผ้าห่มห่มให้ก่อนจะโบกมือแล้วเดินจากมา อีกฝ่ายส่งอดีตคนรักด้วยรอยยิ้ม ...รอยยิ้มสุดท้ายก่อนที่การเจอกันอีกครั้งคือตอนที่ร่างของทารคาเหลือเพียงร่างไร้ลมหายใจในวันงานเผาที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะมาปรากฏตัวเพื่อส่งชายที่ครั้งหนึ่งเขารักอย่างสุดหัวใจ ทำได้เพียงยืนมองร่างนั้นมอดไหม้ไปในกองเพลิง


                      ร่างกลายเป็นเถ้าถ่าน

                      ความคำนึงกลายเป็นควันลอยสู่ท้องฟ้า

                                แต่ความรักยังคงอยู่ในความทรงจำของเขาเสมอ…

                                ฉันเคยอาจโกรธที่โดนบอกเลิกอย่างไร้เหตุผล

                                แต่ให้เกลียดนายมันไม่มีทางเลยนะทา…


                 “ ทา...บอกทีได้ไหมว่าฉันควรทำยังไง...ฉันไปต่อไม่ถูกแล้ว “ บาร์ตพูดกับตัวเอง ตลอดห้าปีมานี่ใช้เวลาแค่สองปีในการลืมทารคา แต่เวลาอีกสามปีที่เหลือเขาพยายามพยายามอย่างมากที่จะลืมชาด อยากให้เรื่องคืนนั้นเป็นแค่ความฝัน ท้ายสุดสิ่งที่ตัวเองกลัวเป็นความจริง


                                เข้าโหยไห้หาอ้อมแขนใหญ่นั่น

                                ทั้งๆที่รู้ดีว่าชาดแต่งงานแล้ว

                                พยายามแข็งใจให้ลืม

                                แต่ทันทีที่ได้เจอหน้า…

                                ได้ย้ำเตือนจูบนั้นอีกครั้ง

                                เวลาสามปีเหมือนจะไร้ประโยชน์ที่สุด


                 “ ฉันรักชาดไม่ได้ทา ฉันสัญญากับตัวเองว่าจบคืนนั้นเราจะเป็นพี่น้องกัน ทา...นายบอกฉันทีว่าฉันควรทำยังไง บอกฉันทีได้ไหม ไอ้คนเฮงซวย ก่อปัญหาไว้แล้วตายหนีคนอื่นไป ….ทา...ฉันสับสน บอกฉันทีทา…. “


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


    มารตายืนอยู่ในครัวเพียงลำพังมีเพียงเสียงเพลงในมือถือเป็นเพื่อน เขาหยิบกระป๋องสแตนเลสเก็บห่อโกโก้ผงออกมา ห่อนี้โชคดีกว่าห่อเก่าหน่อยที่ยังจะพอเปิดมาชงดื่มบ้าง จากที่ปกติมักจะซื้อมาเก็บเอาไว้ แล้วสุดท้ายมันก็หมดอายุก่อนทุกที มือใหญ่เปิดตู้เย็นหยิบขวดนมสดมาเทใส่หม้อเคลือบอีนาเมลสีเขียวพาสเทล ปกติถ้าจะใช้นมชงโกโก้ก็มักใช้ไมโครเวฟ แต่เพราะวันนี้มีเวลาเหลืออยู่มากพอ ชายหนุ่มจึงเลือกต้มนมในหม้อแทน หม้อสีสวยถูกตั้งไฟอ่อนๆเอาไว้กันเดือด ไม่นานนักเขาก็เทมันลงในแก้วมักสีขาวเพนท์ลายคำพูดเก๋ๆว่า How Far Is Near บนนั้น ตักผงโกโก้และน้ำตาลใส่ลงไป ดูเหมือนจะใจลอยจนเผลอต้มนมเยอะเกินไปสักหน่อย…


                 “ ...รอเย็นแล้วค่อยเทเก็บแล้วกัน “ ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง ก่อนจะถือแก้วไปนั่งที่โซฟา อากาศเย็นและมีฟ้าครึ้มสักหน่อย ฝนคงจะตกอีกละมั้ง ศีรษะที่มีผมสีขาวปกคลุมเอนลงกับผนักพิงอย่างเหนื่อยล้า รู้สึกเหมือนตนเองเพิ่งจะออกแรงวิ่งเพื่อคว้าอะไรสักอย่าง….แต่คว้าไว้ไม่ได้ และระยะทางก็...ห่างไกลไปอีกแล้ว…


    มารตาจิบของเหลวสีน้ำตาลเข้มของตัวเองเอีกเพียงแค่อึกเดียว ก่อนจะวางมันลง รสชาตินี้เหมือนเมื่อห้าปีก่อนไม่ผิดเพี้ยน ขมและหวานเพียงนิด ซึ่งมันไม่ใช่รสที่ชอบเลยสักนิด แต่เป็นรสชาติที่บาร์ตชอบ ชายหนุ่มนึกสมเพชตัวเองในใจ เคยคิดว่าอีกฝ่ายโง่มากที่ไม่ยอมลืมพี่ชายตนเอง สุดท้ายคนที่โง่กลับเป็นเขาเองต่างหาก ด้วยไม่เคยลืมเส้นผมสีขาวนุ่มหอม ไม่เคยลืมรอยยิ้ม ไม่เคยลืมความทรงจำในคืนวันฝนกระหน่ำวันนั้น


    ‘ สัญญากับพี่นะว่าเธอจะลืม สัญญานะว่าเมื่อพ้นคืนนี้ไปเราจะเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ‘


                 “ ผมจะลืมพี่ได้ยังไง…. ผมทำไม่ได้ “ เขาบอกกับตัวเอง ห้าปีมานี่ไม่มีสักวันที่จะลืม เคยพยายามลองเริ่มเส้นทางใหม่แล้วแต่ไม่เคยทำได้ พยายามที่จะรักคนอื่น พยายามที่จะก้าวข้าวออกไปจากเส้นทางที่ตัวเองเอื้อมไปไม่ถึง เส้นทางที่ให้วิ่งยังไงก็ไม่เคยไปถึงปลายทาง


                 ผมไปไม่ถึง…ผมไปไม่ถึงพี่

                 ให้ผมพยายามแค่ไหน…ผมก็ไม่เคยเข้าใกล้พี่เลย


    ชายหนุ่มเอนกายลงนอน หูได้ยินเสียงฝนที่เริ่มลงเม็ด แต่ไม่ได้สนใจจะเดินไปปิดบานประตูกระจกตรงสวน อากาศเริ่มเย็นแม้จะเป็นเพียงฝนเม็ดเล็กๆ แต่ก็ตกหนาและสม่ำเสมอ มารตาคิดว่าหลังจากพรุ่งนี้ไป อาจจะขายบ้านหลังนี้เสียที ยื้อเก็บเอาไว้ห้าปีมันไม่มีประโยชน์เลยสักนิด ทารคาก็ไม่อยู่แล้ว เขาเองก็มีบ้านอื่น แต่ที่ยังเอามันไว้ก็เพราะใจคาดหวังว่าจะได้มีช่วงเวลาที่ใช้มันกับอีกคนที่เคยอยู่ อีกทั้งความความทรงจำในคืนนั้นก็ไม่เคยทำให้ตัดใจขายลงได้สักที แต่คราวนี้...มันคงไม่เป็นแบบนั้นอีก ดวงตาสีฟ้าหลับสนิทใจคิดนอนสักพักก็คงดี ปล่อยให้เพลงในมือถือยังคงเปิดต่อไป….


    พยายามจะทำวิธีต่างๆ ให้เธอนั้นรักฉัน

    พยายามทุกวัน มอบให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ

    เหมือนเดินบนสะพานที่มีปลายทางคือใจของเธอ

    ยังคงคิดและหวังจะนำเอารักแท้นี้ไปให้

    แต่ทำไม เดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที

    แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป

    อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร


    อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้ บอกที

    อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉัน เสียที

    มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ ได้โปรด

    บอกกับฉันให้รู้ที ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย….


    ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


                 “ ชาด ถ้าบาร์ตกลับมาเป็นแฟนฉัน แกจะทำไง “ ทารคาถามน้องชายที่มาเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาล หลังเพิ่งเสร็จเรื่องหย่าที่สำนักงานเขตมาเมื่อเช้า เขาขมวดคิ้ว…


                 “ พี่พูดจาเลอะเทอะ จะห้าปีมาแล้วที่พี่บาร์ตไปอยู่อังกฤษ ติดต่อก็ไม่เคยติดต่อมา จะกลับมาได้ไง “


                 “ ถ้าไง ก็พูดอยู่ ถ้าเขากลับมาเป็นแฟนฉัน แกจะทำไง แกชอบเขานี่ “ คนเป็นน้องเงียบไปก่อนจะพูดบอก


                 “ ผมก็ยังชอบต่อไป ต่อให้พี่บาร์ตรักพี่เหมือนเดิมก็ตาม “


                 “ แล้วถ้าเขากลับมา แต่ไม่รักฉันล่ะ “


                 “ เขาก็ไม่รักผมอยู่ดี …. “ ชาดตอบ มองออกไปด้านนอกท้องฟ้า ทารคามองน้องชาย ก่อนจะยกมือเรียกให้เดินมานั่งใกล้ๆ


                 “ ชาด.. “


                 “ ว่าไงครับ? “ พี่ชายผมแดงยิ้มก่อนจะกระซิบบอกบางอย่างให้มารตาฟัง...

                 

                              .

                              .

                              .


    เสียงออดดังขึ้นปลุกให้มารตาที่นอนอยู่ตรงโซฟาสะดุ้ง เขางัวเงียตื่นขึ้นมามองนาฬิกามันจะสี่โมงเย็นแล้ว และฝนยังตกอยู่ เป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วสินะที่เผลอหลับไป ชายหนุ่มลูบหน้าลูบตาลุกขึ้นมาเดินตรงไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านโดยไม่ลืมกางร่มไปด้วย สงสัยบุหงาจะพาลูกกลับมาบ้านหลังจากที่ตกลงกันว่าเสาร์อาทิตย์นี้เขาจะเป็นคนดูแลลูกเอง…


                 “ ..ผมนึกว่าคุณจะโทรมาก่อน… “ คำพูดของกลืนหายเงียบไป เมื่อคนตรงหน้าบ้านไม่ใช่อดีตภรรยา แต่เป็นพี่ชายผมขาวที่ยืนตัวเปียกในมือมีถุงกระดาษสีน้ำตาลอยู่ กายที่บางกว่าสั่นน้อยๆ


                 “ พี่บาร์ต? “


                 “ ….พี่ลืมไปว่า...ยังไม่ได้เอาของฝากมาให้ “ เขาว่า ยื่นถุงกระดาษที่เปียกให้


                 “ ...ขอบคุณครับ “ ชาดว่าแค่นั้น


                 “ ช็อคโกแลตน่ะ แล้วก็พวกชา...มีชาของยี่ห้อที่ทาเค้าชอบด้วย วานชาดชงวางหน้ารูปให้เขาหน่อยนะ “


                 “ ได้ครับ ขอบคุณมาก “


                 “ ชาด… “


                 “ ครับพี่บาร์ต “


                 “ ชง...โกโก้ร้อนให้พี่สักแก้วได้ไหม “ บาร์ตถาม เงยหน้าที่ก้มอยู่มองคนอ่อนวัยกว่า ในดวงตาสีทองสะท้อนทุกความรู้สึกส่งออกไปให้ มารตาทิ้งร่มและถุงของลงกับพื้นก่อนจะดึงตัวอีกฝ่ายมาจูบท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอีก ทั้งคู่เปียกปอน ไร้คำพูดใดเอ่ยต่อกัน คำพูดของพี่ชายที่เสียไปแว่บเข้ามาในสมองของชายหนุ่มที่เฝ้ารอเวลานี้มาตลอดชีวิต…



                        ‘ ต่อให้มันไกลแค่ไหน...ต่อให้วิ่งจนเหนื่อยยังไง แล้วยังไม่ไปไม่ถึงก็ไม่เป็นไร...เพราะถึงวันนั้น ฉันเชื่อว่าคนที่อยู่ปลายทางของแกจะรู้ว่ามีคนวิ่งตามเขาอยู่ แล้วเขาจะหันหลังวิ่งมาหาคนที่เป็นปลายทางของเขา..ซึ่งก็คือแกเหมือนกัน ‘



    H   O   W         F    A   R       IS        N   E   A   R       ? 


    :::::::::: END ::::::::::





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in