เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storynightsky9241
[Fic:MDZS] Lure Part 2{END}

  • Fic: 魔道祖师 Lure

    Rate: 18+(นิดๆ)

    Paring: วั่งเซี่ยน

     

    คดีมือปีศาจที่เริ่มจากคฤหาสน์สกุลโม่กลายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ทุกศพมีสภาพถูกสูบเลือดเนื้อจนแห้งและแขนซ้ายขาดเหมือนกันหมด แต่เมื่อจู่ๆเรื่องก็เงียบหายไปทำให้ผู้คนเริ่มวางใจจนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเสียที

     

    แต่สำหรับเว่ยอู๋เซี่ยน มันคือการซุ่มรอจังหวะลงมือครั้งต่อไป

     

    คุณชายเว่ย... เวินหนิงมองนายท่านของตนเองแล้วเกิดอาการพูดไม่ออกเสียดื้อๆ ที่แน่ๆคือไม่รู้ว่าควรทักเรื่องไหนก่อนดี

     

    ฉันไปไม่นานหรอก เฝ้าบ้านดีๆล่ะเวินหนิง ถ้ามีอะไรเดี๋ยวจะเรียกนะ

     

    เวินหนิงทราบแล้ว คุณชายเว่ยระวังตัวด้วย” เวินหนิงก้มศีรษะรับคำสั่งอย่างนอบน้อม จากนั้นก็คิดบางอย่างและไว้อาลัยหลานวั่งจีในใจ

     

    หวังว่าคุณจะไม่ถูกนายท่านของผมป่วนจนยุ่งเสียก่อนนะ คุณชายรองหลาน...

     

    ในขณะเดียวกัน ที่สถานีตำรวจยามนี้กำลังยุ่งหัวหมุนได้ที่เนื่องจากคดีแขนซ้ายที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ แม้จะโชคดีที่จำนวนเหยื่อไม่เพิ่มขึ้นมาเดือนกว่าแล้วแต่พวกเขาก็ยังต้องทำหน้าที่เพื่อหาคนร้ายออกมาอยู่ดี ต่อให้ตอนนี้จะยุ่งจนไม่ได้กินข้าวก็ห้ามบ่น!

     

    หิวจะตายแล้ว... เพื่อร่วมงานคนหนึ่งของหลานวั่งจีพึมพำเบาๆซึ่งเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย จนเมื่อได้รับคำอนุญาตให้พักและพวกเขาตั้งท่าจะเฮโลกันออกไปหาอะไรกินแต่สายตากลับหันไปเห็นสาวสวยคนหนึ่งเข้าเสียก่อน

     

    เส้นผมสีดำของเธอยาวจรดบั้นเอว รวบเป็นมวยครึ่งศีรษะประดับด้วยปิ่นดอกบัวสีชมพูหวานอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นคนสมัยนี้ใช้งานมากนัก ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มสีสันน้อยๆตามสมัยนิยม ชุดเดรสสีชมพูหวานน่ารักยาวเหนือเข่าอวดขาขาวเรียวยาวกับเท้าคู่น้อยที่สวมรองเท้าส้นสูงสีขาวประดับโบว์น่ารักที่พร้อมจะเหยียบขยี้ใจหนุ่มๆให้แหลกเป็นผุยผง เธอหันมามองพวกเขาพร้อมคลี่ยิ้มหวานก่อนจะเดินตรงมาทันทีชวนใจหัวใจของพวกเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ

     

    พี่รองหลาน พอดีฉันเห็นว่าช่วงนี้พี่งานยุ่งเลยทำมื้อเที่ยงมาให้พี่ ฉัน...มากวนพี่รึเปล่าคะ?

     

    เหมือนดั่งสายฟ้าฟาดเปรี้ยงกลางวันแสกๆ แต่ละคนทำหน้าเหมือนเห็นผีเมื่อ แฟนสาว ของหลานวั่งจีพูดพร้อมแก้มแดงเรื่อ ขนาดก้อนน้ำแข็งเดินได้ลากแฟนสาวของตนเองออกไปแล้วพวกเขายังไม่ได้สติ

     

    มาทำไม หลานวั่งจีถามเว่ยอู๋เซี่ยนเสียงเขียว ไม่รู้ว่าเจ้าตัวนึกครึ้มอะไรขึ้นมาถึงได้แต่งตัวแบบนี้มาหาเขาได้ เขามองสาวสวยม้วนผมเล่นด้วยสายตาดุๆ

     

    เอามื้อเที่ยงมาให้พี่ไงคะ พี่จะดุฉันเหรอ จอมแสบทำท่าน่าสงสาร ดวงตากลมโตเพราะบิ๊กอายมีน้ำตาคลอเล็กน้อยทำให้เหล่าภู่ภมรรอบด้านต่างมองหลานวั่งจีด้วยสายตาตำหนิติเตียนในทันที

     

    ... คนโดนประณามด้วยสายตาถอนหายใจและเลือกเล่นตามน้ำ โอบอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมอกแล้วจูบหน้าผากเบาๆ อย่าซนนักได้ไหม ตกลงมาทำไม

     

    มาเยี่ยม ไม่ได้ยินเสียงประตูห้องนายหลายวันแล้วเลยเป็นห่วงมาดูว่านายตายรึยัง ถ้าตายแล้วฉันจะได้เอาศพนายไปใช้งานต่อ แน่นอนว่าประโยคหลังเขาไม่ได้พูดออกไปแน่นอน

     

    เว่ยอู๋เซี่ยนจัดสินใจไม่ก่อกวนหลานวั่งจีต่อ เขาส่งถุงใส่กล่องข้าวให้หลานวั่งจีทันที ซึ่งปรากฎว่าการ เอามื้อเที่ยงมาให้’ ไม่ใช่แค่ข้ออ้าง มันเป็นกล่องข้าวสองชั้นแบบญี่ปุ่นหน้าตาน่ารักสีสันสดใส ชั้นแรกเป็นอินาริซูชิหน้าตาน่ารักที่ถูกปั้นเป็นก้อนสามก้อน แต่งหน้าด้วยสาหร่ายไปรูปหมีริลัคคุมะอัดแน่นอยู่ภายใน ชั้นที่สองมีไข่หวานสองชิ้น อกไก่ชุบเกล็ดขนมปังไส้ชีสราดซอสเทอริยากิ ผักต้มเป็นเครื่องเคียงและผลไม้อย่างสตรอวเบอร์รี่และองุ่นไว้ล้างปาก

     

    ...ขอบคุณ หลานวั่งจีพึมพำเบาๆ เดิมเขาคิดว่าอย่างมากก็คงเป็นอาหารที่ซื้อมาจากร้านข้างทางแต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นอาหารทำมือทั้งกล่องแบบนี้ ชายหนุ่มก้มหน้าก้มตากินโดยมีเว่ยอู๋เซี่ยนนั่งยิ้ม มองติ่งหูแดงก่ำเงียบๆพร้อมหัวเราะในลำคออดพูดจาหยอกล้อสักคำสองคำไม่ได้

     

    ถ้าอร่อยก็ชมกันหน่อยก็ดีนะพี่รอง~”

     

    อืม อร่อยมาก หลานวั่งจีชม เดิมทีนึกว่ามันจะเผ็ดจนโลกลืมแต่รสชาติกลับค่อนไปทางจืดและไม่ได้เข้มข้นมากนัก เรียกได้ว่าถูกปากเขาเป็นอย่างยิ่ง

     

    ถ้าพี่ชอบก็ดีแล้ว เว่ยอู๋เซี่ยนรับกล่องขาวที่โดนจัดการจนหมดไม่เหลือแม้แต่ผักสดที่ใช้ประดับมาเก็บใส่ถุง ชายหนุ่มในคราบสาวงามลุกขึ้น ปัดกระโปรงตนเองเล็กน้อยพร้อมทั้งหันมาคลี่ยิ้มหวาน ในขณะที่หลานวั่งจีไม่ทันตั้งตัวนั่นเองก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่แก้มเสียก่อน

     

    หลานวั่งจีนิ่งอึ้ง ได้แต่มองเว่ยอู๋เซี่ยนที่ยิ้มจนดวงตาเป็นเส้นโค้งทั้งๆที่พึ่งฉวยโอกาสหอมแก้มเขาไปแบบสดๆร้อนๆ ส่วนตัวเขาเองกลับไม่ได้รังเกียจแต่ตัวเขานั้น...

     

    พี่รอง ฉันรู้นะว่าพี่ไม่คิดจะสนใจจดหมายจาก เบื้องบน ไม่คิดจะแกะอ่านเลยด้วยซ้ำ” ดวงตาสีเทาหม่นเปล่งประกายแปลกประหลาด อย่าเข้ามายุ่งให้มากนักก็แล้วกันไม่งั้นฉันฆ่าพี่แน่

     

    นายไม่ทำหรอก

     

    สามีเชื่อในตัวเค้าขนาดนี้เลยเหรอ เค้าเขิ๊นเขิน คนแรดบิดตัวไปมา พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันแค่เลือกว่าจะสนใจมันหรือไม่สนใจเท่านั้นเอง

     

    ...ฉันเชื่อในตัวนาย

     

    ปากดี อย่ามาเสียใจตอนจะโดนฉันฆ่าก็แล้วกัน” เว่ยอู๋เซี่ยนเชิดหน้าส่งเสียงหึอย่างเย่อหยิ่ง เรียกได้ว่าเลียนแบบมาดราชินีของอวี๋ฟูเหรินมาได้ครบถ้วนจากนั้นเจ้าตัวก็สะบัดหน้าจากไปทันที

     

    ทิ้งให้หลานวั่งจีนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับหัวใจที่เต้นถี่รัวจนแทบจะทะลุอกของตนเองออกมา

     

    -----------------------------------------------------------

     

    เว่ยอู๋เซี่ยนยืนอยู่บนหลังคาของคฤหาสน์สกุลโม่ บริเวณโดยรอบเองก็ถูกกางข่ายอาคมไว้เรียบร้อยเรียกได้ว่ายามนี้ที่นี่เสมือนถูกครอบไว้ด้วยกรงขังล่องหนที่คนนอกเข้าได้แต่คนในไม่อาจออก ในมือของชายหนุ่มคือเฉินฉิงที่ถูกควงเล่นไปมาไม่หยุดส่วนด้านหลังนั้นคือเวินหนิงที่ยืนอยู่เงียบๆในเงามืด

     

    โว่ว มาจริงๆด้วยแฮะ สมแล้วที่เป็นพี่รองหลาน” ชายหนุ่มมองภาพของหลานวั่งจีที่ถูกซากศพในชุดสตรีคนหนึ่งไล่ล่ามาแบบกระชั้นชิด ที่น่าแปลกคือการที่คนธรรมดาอย่างเขากลับสามารถหลบมือผีนั้นได้แบบฉิวเฉียดทุกครั้งไป

     

    สิ่งที่เว่ยอู๋เซี่ยนทำคือการใช้ยันต์เรียกพลังหยินแอบซ่อนไว้ในชุดของหลานวั่งจีตอนที่เขาจูบแก้มอีกฝ่าย ทำให้มือผีนั้นถูกดึงดูดด้วยยันต์จากนั้นเขาก็ทำตัวเป็นผู้ชักใยจากเบื้องหลัง ตัดสินใจช่วยเหลือหลานวั่งจีด้วยการบอกให้อีกฝ่ายมาที่คฤหาสน์สกุลโม่โดยจะบอกว่าฆาตกรมือซ้ายนั้นเป็นใคร แต่จากภาพที่เห็นนี่เห็นทีว่าหลานวั่งจีคงจะเจอกับมือผีนี่กลางทางและไล่ฆ่ากันมาตลอดทางเลยกระมัง

     

    ช่างเถอะ เดี๋ยวทางหน่วยก็เก็บกวาดให้ทีหลังเองมั้ง เว่ยอู๋เซี่ยนคิดแบบโนสนโนแคร์และมองหลานวั่งจี่ต่อกรกับมือผีนั่นต่อไป

     

    เวินหนิง เตรียมตัว เว่ยอู๋เซี่ยนออกคำสั่ง และทันทีที่เสียงปืนของหลานวั่งจีดังขึ้น นั่นคือสัญญาณเริ่มต้นของการประลองระหว่างผู้วายชนม์

     

    หลานวั่งจีได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึงเมื่อจู่ๆซากศพแห้งกรังที่มีแขนซ้ายขนาดใหญ่โตผิดกับตัวศพกระเด็นไปกระแทกกำแพงเสียงดังสนั่นแต่กำแพงนั้นกลับไร้ร่องรอยบุบสลายอีกทั้งยังปรากฎวงน้ำคล้ายยามก้อนหินตกลงกระทบผืนน้ำ เมื่อมองดูดีๆอีกทีเขาก็พบว่าผู้ที่ซัดผีดิบนั่นจนกระเด็นเป็นชายสวมโค้ทสีเข้มคนหนึ่ง แต่เมื่อเขาถอดโค้ทออกหลานวั่งจีก็ได้แต่นิ่งอึ้งเหมือนคนบื้อใบ้

     

    ชายผิวซีดเหมือนกระดาษคำรามเหมือนสัตว์ป่าและพุ่งเข้าต่อกรกับมือผีนั่น น่าแปลกที่เสียงดังถึงขนาดนี้แต่บ้านเรือนโดยรอบคล้ายไม่ได้ยินสิ่งใด สารวัตหนุ่มเห็นแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วและพยายามพยุงร่างของตนเองให้ถอยห่างจากการต่อสู้ของสัตว์ประหลาดทั้งสอง จากนั้นร่างกายของเขาก็ต้องแข็งทื่อเมื่อใครบางคนสวมกอดตนเองจากด้านหลัง

     

    เวินหนิงของฉันยอดเยี่ยมมากเลยใช่ไหมพี่รอง นั่นน่ะผลงานชิ้นโบว์แดงของฉันเลยนะ” เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยพร้อมหัวเราะคิกคัก มือที่เขารู้สึกว่ามันร้อนจนแทบลวกลูบคลำแถวๆสะโพกของเขาช้าๆ อีกฝ่ายไม่วายจุ๊ปากชื่นชม ก้นแน่นมากอ่ะสามี เค้าอิจฉาจัง

     

    หลานวั่งจีหน้ามืดทะมึนทันที นึกอยากจำคนข้างหลังมาพาดตักแล้วฟาดก้นแรงๆสักยกสองยก

     

    ได้ละ ขอบคุณพี่รองมากน้าที่ล่อมือผีมาให้เค้าจัดการ” เว่ยอู๋เซี่ยนยิ้มแล้วหอมแก้มหลานวั่งจีหลายฟอด ในมือของเขาคือกระดาษสีเหลืองแผ่นเล็กที่ถูกวาดด้วยลายเส้นมากมายแปลกตา แต่เมื่อกระพริบตาอีกทียันต์กระดาษนั่นก็กลายเป็นแค่เศษฝุ่นกองนึงเท่านั้น

     

    นายใช้ฉันเป็นตัวล่อ? หลานวั่งจีขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใช้เขาเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากเขาถูกผีดิบนั่นจัดการระหว่างทางที่จะมาที่นี่เว่ยอู๋เซี่ยนจะรู้สึกยังไงหรือเพียงแค่ถอนหายใจแล้วพูดว่า น่าเสียดายนะ แล้วก็จบกัน

     

    ช่ายยย เว่ยอู๋เซี่ยนมองเวินหนิงต่อกรกับมือผีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูเหมือนมือผีนั่นจะแกร่งกว่าที่คิดถึงกับสามารถต่อกรกับเวินหนิงของเขาได้อย่างสูสีเลยนะ เค้าไล่ตามมือผีนั่นไปทั่วเมืองแต่มันดันหนีเร็วกว่าที่เค้าคิดซะอีก ดีนะที่มีพี่รองคอยช่วย

     

    หลานวั่งจีเห็นเว่ยอู๋เซี่ยนก้าวไปข้างหน้าช้าๆ มือดึงปิ่นปักผมรูปกระบี่แสนประหลาดออกมาจากมวยผมจนทำให้เส้นผมที่เหลือร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงเหมือนม่านน้ำตก สารวัตหนุ่มใจเต้นถี่รัวและรู้สึกว่าเจ้าตัวแสบที่ชอบกวนประสาทเขาคนนี้เท่จนใจเต้น ฝักกระบี่ถูกโซ่เส้นเล็กโยงเข้ากับด้ามกระบี่ที่ประดับพู่สีแดงสดเผยให้เห็นใบมีสีเงินยวงสลักนามชัดเจน

     

    เขาเห็นเว่ยอู๋เซี่ยนย่อกายลงเล็กน้อยเหมือนนักกรีฑาที่กำลังออกตัว แต่พริบตาเดียวร่างโปร่งของชายหนุ่มพลันปรากฎอยู่เหนือร่างของผีดิบประหลาด มือของเขาที่ถือกระบี่เล็กอยู่ฟาดลงมาทันทีแต่กลับถูกมือผีนั่นสกัดไว้ได้เขาจึงต้องดีดตัวออกมาอย่างจนใจและสะบัดมือใส่สร้างรังสีกระบี่พุ่งเข้าจู่โจมมือผีนั่นอย่างรุนแรงจนพื้นหญ้ากลายเป็นร่องลึก

     

    เว่ยอู๋เซี่ยนประสานการโจมตีกับเวินหนิงอย่างคล่องแคล่วว่องไวและดูรู้ใจกันและกันดีจนหลานวั่งจีนึกอิจฉา ในขณะที่เขากำลังเหม่ออยู่นั่นเอง รังสีกระบี่จากเว่ยอู๋เซี่ยนพลันพุ่งเข้าโจมตีที่โคนแขนของมือผีเข้าเต็มเปาและเวินหนิงก็ฉีกกระชากมือข้างนั้นออกทันทีและเหวี่ยงมันออกไปจนชนเข้ากับม่านอาคมอย่างรุนแรง

     

    เวินหนิง!” ชายหนุ่มออกคำสั่งทันทีเมื่อมือผีที่ถูกสะบั้นจนขาดยังไม่หมดฤทธิ์และขยับนิ้วมือทั้งห้าหมายพุ่งเป้าไปยังผู้เฝ้ามองเพียงหนึ่งเดียวในสถานที่แห่งนี้

     

    ขอรับ!” ขุนพลผีรับคำและพุ่งปราดเข้าหามือผีที่ยังไม่ไม่คิดจะยอมแพ้ จับยึดมันไว้กับพื้นจนมันได้แต่ดิ้นรนไปมาเหมือนปลาขาดน้ำ

     

    หลานวั่งจีเห็นเว่ยอู๋เซี่ยนหยิบขลุ่ยสีดำเลาหนึ่งออกมาจรดริมฝีปาก พู่สีแดงสดประดับหยกสีเขียวเข้มพริ้วไหวไปตามลมในขณะที่เสียงขลุ่ยพลันดังขึ้น ดวงตาของชายหนุ่มกลายเป็นสีแดงก่ำดั่งโลหิตพร้อมกับท่วงทำนองเร่งร้อนบาดหูที่เริงร่าอยู่กลางอากาศ มือผีนั้นพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้หลุดพ้นจากการจับกุมแต่สุดท้ายมันก็แหลกสลายกลายเป็นผุยผง

     

    ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่เลย คดีผีน้ำตอนนั้นยังสนุกกว่าอีก เว่ยอู๋เซี่ยนถอนหายใจ เท้าเหยียบขยี้ลงบนฝุ่นผงกองนั้นด้วยท่าทางหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปยังซากศพแห้งกรังที่ไร้แขนซ้าย ในขณะที่เวินหนิงจำต้องกอบเศษผงที่เหลืออยู่ใส่ถุงหลักฐานเพื่อนำกลับไปแจ้งยังกองกำลังลับที่ผู้เป็นนายประจำอยู่

     

    หลานวั่งจีก้มลงตรวจสอบศพนั้นและเหลือบมองดวงตาสีแดงสดคู่นั้นก่อนจะละสายตากลับมา ยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นทำอะไรก็เห็นยันต์กระดาษลอยแปะลงบนศพและเกิดเพลิงฟ้าลุกไหม้จนไม่เหลือแม้แต่กระดูก สารวัตหนุ่มขมวดคิ้วไม่พอใจทันที

     

    นั่นมันเหยื่อของฉัน

     

    นั่นก็งานทางนี้เหมือนกันนะพี่รอง ชายหนุ่มยิ้มยียวนและส่งสัญญาณให้เวินหนิงหลบไปก่อน เอาคืนป่ะล่ะ แต่คงเอาไปได้แค่ฝุ่นกองนั้นนะจ๊ะ

     

    คำพูดแสนกวนประสานนั้นทำให้หลานวั่งจีได้แต่มองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน ดวงตาสีแดงสดระยิบระยับนั้นไม่น่าไว้ใจอย่างน่าประหลาดและแฝงแววคุกคามจนสารวัตหนุ่มจำต้องก้าวถอยหลัง เว่ยอู๋เซี่ยนคลี่ยิ้มหวานหยด ขลุ่ยในมือถูกเก็บไปนานแล้วแต่สิ่งที่อยู่ในมือของเขาตอนนี้กลับเป็นกระบี่เล็กคมกริบที่สามารถเรียกเลือดคนได้เพียงแค่กรีดบางๆ

     

    พี่รองหลานรู้อะไรไหม? ตั้งแต่วันที่เค้าเจอพี่ครั้งแรกตอนคดีผีน้ำเค้าก็คิดมาตลอดเลยล่ะว่าเค้าอยากได้พี่มาเป็นของเค้าม๊ากมาก เว่ยอู๋เซี่ยนยิ้ม โผเข้าหาหลานวั่งจีและผลักอีกฝ่ายจนล้ม นั่งคร่อมเอวโดยใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบแขนของสารวัตหนุ่มเอาไว้คมกระบี่ที่ถูกเงื้อขึ้นเหนือศีรษะของหลานสั่งจีสะท้อนแสงแวววาว แต่สิ่งที่งดงามที่สุดในยามนี้ในสายตาเขากลับเป็นดวงตาสีแดงสดของคนที่หมายจะเอาชีวิตเขาคู่นั้น

     

    มาเป็นของเค้าไปตลอดกาลเถอะนะ สามี

     

    หลานวั่งจีคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเว่ยอู๋เซี่ยนทันทีจนอีกฝ่ายแปลกใจเล็กน้อย เมื่อลองเดินลมปราเสริมกำลังดูก็รู้สึกว่าตอนนี้ตนเองคล้ายจะกลายเป็นคนธรรมดาผู้หนึ่ง บางทีหลานวั่งจีคนนี้อาจจะมีของวิเศษบางสิ่งติดตัวหรือไม่ก็เป็นความสามารถเฉพาะ ทำให้คนที่อีกฝ่ายแตะต้องไม่อาจใช้ปราณที่ไหลเวียนอยู่ในร่างได้ แม้จะน่าหงุดหงิดไปบ้างแต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะยอมแพ้เพราะสิ่งที่เขาโปรดปราณที่สุดคือการต่อสู้เอาชนะ แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้จึงพูดจาหยอกล้อไปสักคำสองคำ

     

    ไม่เอาน่าพี่รองหลานทำตัวว่าง่ายๆหน่อยซี่ เว่ยอู๋เซี่ยนบีบเสียงเล็กเสียงน้อยงุ้งงิ้งใส่หลานวั่งจีที่ตนนั่งคร่อมอยู่ ในมือถือกระบี่เล็กสุยเปี้ยนที่ถึงจะไม่ได้อัดปราณเข้าไปภายในก็ยังคงคมกริบและพร้อมจะเสียบทะลุคอหอยของสารวัตหนุ่มตลอดเวลาถ้าไม่ติดที่ว่าสารวัตหนุ่มเอาแรงเข้าสู้จนแขนสั่น

     

    ไม่

     

    สามีเชื่อเค้าสิ เจ็บนิดเดียวเองแล้วหลังจากสามีตายสามีจะเป็นของเค้าคนเดียวเลยนะ เจ้าตัวแสบกล่อมเสียงอ่อนเสียงหวาน ยอมเป็นของเค้านะ

     

    แบบนี้ไม่ดีแน่... หลานวั่งจีใคร่ครวญก่อนจะตัดสินใจเพิ่มพันชีวิตในชั่วเสี้ยววินาที

     

    เขากระชากมือของเว่ยอู๋เซี่ยนเข้าหาตัวแต่เบี่ยงกระบี่เล็กในมือให้มันปักลงที่พื้นหญ้า อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายยังตะลึงจับคนบนร่างเหวี่ยงลงกับพื้นและจับขาข้างที่อีกฝ่ายใช้เหยียบแขนตนยกขึ้นพาดบ่า มือควานหาขลุ่ยในโค้ทของอีกฝ่ายแล้วโยนมันออกไปไกล หลานวั่งจี่หรี่ตาลงก่อนจะรูดเนคไทออกและยัดมันเข้าไปปากของอีกฝ่ายทันที

     

    สารวัตหนุ่มไม่สนใจท่าทางตื่นตะลึงนั่นและดึงเอาเข็มขัดของเว่ยอู๋เซี่ยนออกมารัดข้อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไว้แน่น ดวงตาสีอ่อนมองท่าทางนั้นด้วยแววตาเร่าร้อนดุดันคล้ายอยากจะกลืนคนตรงหน้าลงท้องเสียให้ได้

     

    อื้อ!” ซวย เขาไม่น่าประมาทเลย! เว่ยอู๋เซี่ยนคิดแล้วพยายามหาทางหนีแต่น่าเสียดายที่สุยเปี้ยนของเขาที่ถูกปักอยู่กับพื้นนั้นโดนโยนกระเด็นไปไกลไม่ต่างกับเฉินฉิง ตัวเขาเองก็ถูกหลานวั่งจีจับตัวไว้จนทำให้ไม่สามารถใช้ปราณหรืออาคมได้

     

    ยังไม่ทันจะได้หาทางออกจากสถานการณ์ตรงหน้า เขาก็เห็นว่ายีนส์ของตัวเองถูกดึงทึ้งออกอย่างโหดเหี้ยมและมันถูกใช้แทนผ้ารองบั้นท้าย เช่นเดียวกับบูทของเขาที่โดนโยนไปด้านหลัง

     

    เว่ยอิง ฉันจะเป็นของนาย หลานวั่งจีพูดช้าๆ เริ่มปลุกเร้าราคะของคนใต้ร่างด้วยช้าๆ ริมฝีปากขบกัดขาเรียวงามไปตามปลีน่องจนขึ้นเป็นรอยฟันเต็มไปหมด ในภายหลังเว่ยอู๋เซี่ยนจึงรู้สึกตัวว่าสารวัตหนุ่มจงใจกัดแต่บริเวณที่พ้นรอยขาดออกมาโดยเฉพาะ

     

    มันเป็นแฟชั่นนะ!

     

    --------------------------------------------------------

     

    เว่ยอู๋เซี่ยนไม่รู้ว่าเวลาผ่าไปนานเท่าไหร่กันแน่แต่ตอนนี้เขาได้แต่นอนครวญครางอยู่ใต้ร่างของหลานวั่งจี คนที่น่ารำคาญแต่เขาอยากจะได้อีกฝ่ายมาทำเป็นขุนพลผีของตัวเองใจจะขาด แต่พอโดนจับแล้วก็โดนใส่ไม่ยั้งเหมือนสารวัตหนุ่มเขาอัดอั้นมานาน

     

    รอบแรกที่สนามหญ้าหน้าคฤหาสน์สกุลโม่ รอบต่อมาเขาถูกลากกลับมาที่คอนโดทั้งๆที่ยังกรึ่มๆและเริ่มรอบใหม่ตั้งแต่อยู่หน้าประตูทางเข้า จากนั้นก็ลามไปทั่วห้อง

     

    พี่ พี่รองหลาน เมตตา เมตตาเค้าด้วย ฮึก เค้าจะตายแล้ว เค้าไม่มีอะไรให้ออกแล้ว!” เว่ยอู๋เซี่ยนโวยวายเสียงดัง ตอนนี้เขาเปลือยทั้งร่างแถมยังข้อมือทั้งสองข้างยังถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือสีเงินแวววาว

     

    ใช้ของหลวงแบบนี้ขี้โกงนี่นา!

     

    ไม่ หลานวั่งจีพูดเสียงเรียบ ฟาดฝ่ามือลงไปยังบั้นท้ายกลมกลึงอย่างรุนแรงจนผิวเห่อแดง อย่างนายต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง

     

    เว่ยอู๋เซี่ยนครางฮือในลำคอ สภาพตอนนี้ของเขาเรียกได้ว่าดูไม่จืดเลยสักนิด

     

    สามี เค้าขอโทษ ฮึก เค้ายอมแพ้แล้วจริงๆ!” ชายหนุ่มงอแงก่อนจะเปลี่ยนจากโวยวายเป็นครางในลำคอเมื่อช่องทางด้านหลังถูกนิ้วเรียวแทรกเข้ามาภายใน หลานวั่งจีไม่ปราณีเขาเลยสักนิด เห็นทีว่าที่เคยกวนๆเอาไว้ก่อนหน้านี้คงจะโดนคิดดอกเบี้ยทบต้นทบดอกจนตัวซีดแน่ๆ

     

    สารวัตหนุ่มกดเจ้าตัวแสบลงคว่ำหน้าบนเตียง มือรั้งบั้นท้ายนุ่มนิ่มและขยำมันแรงๆจนกลายเป็นรอยมือและแบะก้อนเนื้มนิ่มออกจนเห็นช่องทางที่มีของเหลวสีขุ่นไหลซึมออกมา เขาจับแกนกายร้อนผ่าวของตนเองเสียดสีกับปากทางที่ขมิบรัดผิวเนื้ออ่อนถี่รัวก่อนจะกระแทกเข้าไปภายในอย่างแรง

     

    หลานวั่งจีทำรักกับเว่ยอู๋เซี่ยนจนเช้า เขาโทรไปลาหยุดที่สถานีด้วยน้ำเสียงแหบพร่าทั้งๆที่ยังจับยึดเส้นผมที่ท้ายทอยของอีกฝ่ายไว้แน่น บังคับให้เจ้าตัวกลืนกินแท่งร้อนเข้าไปในริมฝีปากอย่างว่าง่าย หลังจากได้รับคำอนุญาตมือถือก็ถูกโยนไปที่พื้น เขาจับแก้มนวลและบังคับให้อีกฝ่ายกลืนตัวตนของเขาเข้าไปลึกถึงคอหอย กระแทกไปอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยให้เว่ยอู๋เซี่ยนกลืนน้ำรักของเขาลงคอเป็นการปลดปล่อยครั้งสุดท้ายของ วันนี้

     

    ชายหนุ่มมองสภาพของเจ้าตัวแสบที่นอนพังพาบอยู่บนเตียงด้วยสายตาเรียบนิ่ง เว่ยอู๋เซี่ยนเนื้อตัวเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยกัดและรอยรักมากมาย ช่องทางมีของเหลวสีขุ่นที่คั่งค้างอยู่ภายในไหลซึมออกมาเช่นดียวกับใบหน้าที่เลอะคราบคราวเป็นบางส่วน

     

    เขาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดร่างกายของเว่ยอิงจนสะอาด เอาผ้ามาห่อตัวอีกฝ่ายและใช้การ์ดห้องที่ตัวเองแอบปั้มไว้เข้าไปในห้องฝั่งตรงข้าม หลังจากโทรเรียกแม่บ้านให้ไปทำความสะอาดแล้วเขาก็เอนตัวลงนอนกอดคนที่โดนผ้าห่มห่อตัวเป็นก้อนเหมือนดักแด้ไว้โดยมีผ้านวมคลุมสะโพกไว้แค่หมิ่นเหม่

     

    กว่าเว่ยอู๋เซี่ยนจะตื่นอีกทีก็เข้าช่วงบ่ายแล้ว ข้างตัวยังมีหลานวั่งจีกอดเอวไม่ห่างแต่พอเข้าจะยันตัวลุกขึ้นก็ต้องร้องไห้กระซิกแล้วกลับไปนอนตามเดิม

     

    สามีเร่าร้อนรุนแรงเหลือเกิน! เขากลายเป็นอัมพาตท่อนล่างไปแล้ว!!!

     

    หิวไหม? หลานวั่งจีที่ตื่นเพราะเสียงร้องของเว่ยอู๋เซี่ยนลูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ เมื่อได้รับคำตอบเขาก็ลุกไปทำอาหารง่ายๆในครัวให้คนของตัวเอง

     

    หลังจากมื้อเที่ยงค่อนบ่ายจบลง เว่ยอิงก็ได้แต่มองสารวัตหนุ่มด้วยสายตาหวาดระแวง เขาโคจรลมปราณฟื้นฟูตัวเองช้าๆจนตอนนี้สามารถลุกขึ้นยืนและเดินได้จนเกือบจะเป็นปกติ ท่ามกลางสายตาจับจ้องของหลานวั่งจีเขามองคุณตำรวจสุดหล่อที่ยุ่งง่วนกับการจัดการงานบ้านแทนเขาเงียบๆและถามขึ้นเมื่ออีกฝ่ายพักมือด้วยการเอนตัวลงบนเตียงและดึงเขาเข้าไปกอดหลวมๆ

     

    สามี วันแรกมาก็เล่นงานเค้าซะเละแบบนี้ไม่กลัวเค้าเครื่องพังบ้างเหรอ?

     

    ขอโทษครั้งหน้าไม่ทำแล้ว เพราะวันนี้กินจนอิ่มแล้ว หลานวั่งจีพูดต่อในใจขณะกดริมฝีปากบนขมับของอีกฝ่าย นายเป็นของฉัน

     

    ฮื่อ โมเมเอาแบบนี้ก็ได้เหรอ แล้วเด็กๆของเค้าล่ะจะเอาไปไว้ที่ไหน” คราวนี้เจ้าตัวแสบหยอกเล่นๆ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงไอเย็นทิ่มแทงมาก็ตัวสั่นระริกและรีบส่ายหน้าทันที ค เค้าล้อเล่น สามีอย่าโกรธสิ

     

    โกรธ หลานวั่งจีเอ่ยเสียงเรียบ จูบริมฝีปากสีพีชแรงๆทีหนึ่ง จากนี้ไปทุกคืนของนายเป็นของฉัน เป็นการคุมความประพฤติ”

     

    เว่ยอู๋เซี่ยนหน้าเผือดสีทันที

     

    ทุกคืนหรือ?! เขาต้องตัวแห้งตายแน่ๆ! ชายหนุ่มกรีดร้องไร้เสียงแต่ก็ไม่อาจต้านทานอำนาจเผด็จการของคนรัก(?)หมาดๆได้จึงได้แต่ก้มหัวยอมจำนน

     

    เอาเถอะ ไม่ได้ขุนพลผีแต่ได้สามีมาแบบนี้ก็คิดเสียว่าคุ้มก็แล้วกัน!

     

    END

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in