เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึก(ไม่)ลับฉบับตุรกีนี้ดีเด็ดonewayticket
ชีวิตหลัง airplane mode

  • บันทึก(ไม่)ลับฉบับตุรกีนี้ดีเด็ด 




    คือ ..... 








    คืออะไรวะ ???



    ชื่อเรื่องของทุกตอนละกัน เอาเเบบนี้เเหละ
    เออง่ายดี. 





    เอาล่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า
    เราได้ไปเที่ยวประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่า
    "ดินเเดนสองทวีป" มาเมื่อช่วงปีใหม่
    หรือประมาณต้นปีนั่นเอง มีเรื่องมากมาย
    เกิดขึ้นที่นั่น จนเรารู้สึกว่า ........


    กูควรต้องเล่าให้คนอื่นได้รับรู้อ่ะ !!!!
    ก็เลยขอหยิบยกเรื่องพีคๆเด็ดๆมาเล่ากันฟัง 
    เรื่องที่เกิดกับเรานับว่าเป็นช่วงที่
    ไม่รู้จะเรียกว่าโชคชะตา พร้อมใจ
    กันส่งเรื่องราวมาเทโครม ใส่เราหรือเปล่า
    เเต่ต้องบอกว่า นี่คือเรื่องที่คิดว่า





     มันพีค !!! 
    เราจึงเอามาเล่า 



    ขอเริ่มด้วยเรื่อง 




    .





    .




    .







    .






    --  ชีวิตหลัง airplane mode -- 










    chapter 1 





    การขึ้นเครื่องบินเป็นเหมือนกิจกรรมยอดนิยมเเละเป็นสิ่งที่ชอบมากตั้งเเต่เด็กยันโต เเม้ตอนเด็กๆ จะเคยเกิดเหตุการณ์หูอื้อตอนขึ้นเครื่องเเละเเหกปากลั่นจนเเอร์ต้องเอาเครื่องบินลมยางมาให้เป็นการปลอบขวัญ (ซึ่งกูก็ไม่หยุด เอ้า !! ) เเต่หลังจากนั้นเมื่อโตขึ้นเรื่อยๆน่ะหรอ กูร้องไห้เเหกปากก็ไม่ได้อะไรละเเละคนยังมองกันอีก หลังจากนั้นมันก็เลิกร้องไปเอง เออง่ายดีเนอะ  5555555   


    เเละครั้งนี้ก็เป็นเหมือนครั้งก่อนๆ เเต่นี่เป็นขากลับจากเที่ยวตุรกีจนอิ่มหนำสำราญเป็นที่เรียบร้อย เเละใช่ละ กลับบบบบบบบ ไปยังสนามบิน สุวันนนนาพูมิิิิ เเละ กรุงเทพมหานครบ้านรักของเรานั่นเอง !!!   




    .





    .







    คือถ้าขึ้นเครื่องไป ขึ้นเครื่องขากลับปกติเราก็คงไม่เล่า
    เเต่อันนี้มันย่อมมีเรื่องราวเเน่นอน เราจึงขอเหล้า เอ้ยเล่า 
    หลังจากเราสับเปลี่ยนมือถือเป็น airplane mode คาดเข็มขัด
    เตรียมหูอื้อขึ้นฟ้า ทึ้ง ดึ้ง ดึ้ง อยู่นั้น มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น



    เเล้วมึงจะพูดทำไมวะ 







    .






    เรานั่งดูหนังฟังเพลงจบเป็นสิบเพลง กินข้าวไปรอบ ก็ไม่มีอะไร
    จนกระทั่งซักพักหนึ่ง ผู้หญิงกับผู้ชายข้างหน้าเราก็คุยกัน 
    โดยเหตุการณ์มีอยู่ว่า ผู้ชายคนดังกล่าวทำไวน์หกใส่ผู้หญิงคนดังกล่าว
    รอบนึงเเละทีนี้ทุกอย่างก็ดำเนินไปจนปกติ จนกระทั่งซักพัก ...... 




    เฮ้ย มันทำไวน์หกใส่เก้าอี้ผู้โดยสารผู้หญิงคนนั้นเลยว่ะเฮ้ย...... 


    คืออะไร มึงเป็นอะไรเนี่ย.... 







    ผู้ชายคนนั้นมีท่าทางเมาเเอลกฮอล์ เอออเเม่งเมา เเละมันก็เริ่มกริ้วกราด 
    มันจะไม่อะไรเลยถ้าเเกไม่ทำไวน์หกใส่เก้าอี้ผู้โดยสาร เอออ มึงงอะมึงงงง 
    ทีนี้ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ไปเเจ้งเเอร์ เเละขอให้เเอร์จัดการ ซึ่งเมื่อเเอร์มาถึง
    ผู้หญิงคนดังกล่าวเหมือนจะร้องขอให้เเอร์ช่วยย้ายที่นั่งเค้าได้ไหม ?? 
    ซึ่งทางผู้ชายก็เมา เออคนเมาอ่ะมึง มันก็ขอโทษขอโพยเเต่เเบบไม่ได้สติ




    ซักพักหนึ่งเหมือนกับว่า ทางเเอร์จะไม่สามารถเปลี่ยนที่นั่งได้ เนื่องจาก สาเหตุบลาๆ 
    ผู้หญิงคนนั้นก็นั่งไปซักพัก เเละทันใดนั้นเอง เราเริ่มเห็นว่าผู้ชายมันก็ยังเมาเเบบเมา
    เมาเเล้วทำตัวน่ากลัว ผู้หญิงคนดังกล่าวจึงหันไปพูดกับคุณป้าที่ไปกับเราว่า 
    เธอไม่ไหวเเล้ว ซึ่งกูคิดมาโดยตลอดว่าเค้าเป็นคนชาติอื่น เเต่ เค้าพูดไทย
    เอ้าเค้าพูดไทย เค้าบอกไม่ไหวเเล้วกลิ่นเเอลกฮอลล์มันเเรงมาก
    เค้าจะเเย่เเล้ว อยากย้ายที่ เเละซักพักเค้าก็ร้องไห้เห้ย เค้าร้องไห้ ร้องหนักด้วย ....


     ซึ่งผช. คนนั้นคนที่เมาอ่ะ
    ก็มองมาเเบบบ มรึงงงคุยยยอารายยยยยกันนนนนนนนนนนนนน 






    เเละทันใดนั้น 









    ตึ้บ 





    ตึบบบบบบบบบบ !!!!  






    เหี้ยยยยยยยยยยยยยย





    "เฮ้ยยยยยยยยยยย มึงงงงงง เค้าล้มลงไปกองกับพื้น" 




    โอเอ็มจี .........​




    ตั้งเเต่เราขึ้นเครื่องบินมา เจอพีคสุดคือ การนั่งเครื่องบินสายการบินนึง
    ที่ตกบ่อยๆเเละพอเครื่องจอดก็ต่างปรบมือให้กำลังใจกัน
    ไม่ก็ไปสนามบินนึงที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ เเละมีรถถังวิ่งในสนามบิน
    อันนี้เรื่องจริงนะ เเม่งเอารถถังมาวิ่งข้างในเกตสนามบิน
      เเละกรณี ปรับเอนเก้าอี้มากไป เลยทะเลาะกันเเต่ไม่ต่อยกันเองเเกรรรรร 


    เเต่

    อันนี้

     คือ 



    โอ เอม จี  !!!!!!!!!! 


    ซึ่งเหตุการณ์ต่อมาคือ การที่ "เรา" เอออเรา เอออกูนั่นเเหละ วิ่งไปตามเเอร์ 
    ความรู้สึกตอนนั้นรู้สึกว่า นี่มันไม่ใช่ซีรี่ย์เกาหลี
    นี่มันไม่ใช่หนัง เเม่งไม่มีใครมาซ่อนกล้องหรอกมึง 
    เเต่นี่มันเหตุการณ์จริง  !!!!! หลังจากเราไปตามเเอร์มา 
    เเอร์ก็ทำการปฐมพยาบาล คนในเครื่องเริ่มอยู่ไม่สุข ทุกคนตกใจ
    เเละทุกคนก็งงเช่นกัน ว่าเกิดอะไรขึ้น  ..... 


    เอาตรงๆนะ ตอนนั้นคือไม่มีใครมีสติ 
    เเละไม่มีใครคิดหรอก ว่าผู้หญิงคนนั้นจะล้มลง
    ไปกองที่พื้น เเละเมื่อจับชีพจรก็พบว่าต่ำมาก
    เพราะผู้หญิงคนนั้นชักด้วย ........
    เเละสิ่งที่เหมือนในละครเเละซีรี่ย์ก็ลอยเข้าหัว...



    ลงฉุกเฉิน ... 

    ตามหาหมอ ..... 

    เครื่องช่วยหายใจ .....







    ซึ่งใช่เเล้ว เเอร์ตามหาคนเป็นหมอ !!!! 
    เเอร์ได้ถามว่าใครเป็นหมอบนเครื่องบ้าง


    ซึ่ง !!!!!! 



    มีหมอบนเครื่อง อันนี้หล่อมากคือใจหมอหล่อมาก
    คุณหมอท่านหนึ่งที่โดยสารมาบนเครื่องยกมือ
    พร้อมทั้งโชว์บัตรเเสดงตนว่าเป็นหมอ  !!!!! 
    เเละเข้าช่วยผู้หญิงคนนั้น เเละคุณหมอก็เอาเครื่องตรวจหัวใจ
    เเละต่างๆ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมความลุ้นระทึกของทุกคน
    บนเครื่อง ย้ำ ทุกคน !!!! (ตอนนั้นเราเอาพัดโบกสะบัดให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่) 
    คือนี่มันไม่ใช่หนัง มันไม่ใช่ละคร
    มันไม่ใช่เรื่องเเต่ง เเต่มันคือเรื่องจริง
    เหตุการณ์ที่ว่ายังไงก็ลืมไม่ลง
    เเละที่สำคัญคือ ทุกคนพร้อมใจกันช่วยมาก
    เเอร์ก็น่ารักมาก พยายามมาก 
    เอาเป็นว่าเเม้มันจะโหดๆหน่อย
    เเต่รวมๆเเล้ว ประทับใจ :) 


    เเละเป็นครั้งเเรกที่รู้สึกว่า
    การเข้าสู่ airplane mode
    ในระยะเวลาเป็นสิบกว่าชั่วโมง
    บนนกยักษ์ที่มีเพียงจอทีวีฟังเพลงดูหนัง นั้น .... 

    มันก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นเเละน่าค้นหา
    มากกกกกกขึ้นไปอีก : D 



    จบ 1 เรื่อง !!!! 


    ซึ่งความพีค มันไม่ได้มีเเค่นี้ !!! 



    ขอบคุณทุกคนนะคะที่มาอ่าน ถ้าคิดเห็นยังไง
    สามารถบอกกันได้เลยนะคะ ขอบคุณค่าาาาาาาาาา /ลากยาวเเบบนางงาม 









เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in