เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
to be continue |つづくployapha.j
นั่งรถไฟไปแช่ออนเซ็น | Kinosakionsen








  • เช้านี้เรารีบตื่นเพื่อจะไปหาของอร่อยกินกันที่ ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) แหล่งขายอาหารสด วัตถุดิบต่างๆ อุปกรณ์ทำครัว มีด ผักผลไม้ ของกินราคาถูก จนถูกขนานนามว่าตลาดแห่งนี้นั้นเปรียบเสมือน ครัวแห่งเกียวโต เลยทีเดียว




    สายกินอย่างเราสองที่สบตากันแล้วรู้ว่าจะกินอะไรมีหรือจะพลาดกับการไปเยี่ยมเยือนตลาดแห่งนี้เพื่อเป็นการอำลาเมืองเกียวโตอย่างงดงามมมมมม



    และเป็นโชคดีที่พอเราขนของมาเช็คเอาท์ก็เจอกับคุณเจ้าของเรียวกังพอดิบพอดี๊ เขาก็อาสาจะขับรถไปส่งพวกเราแบบฟรีๆเพราะจะต้องพาภรรยาไปเรียนโยคะแถวนั้น (ช่างเป็นคุณพ่อบ้านญี่ปุ่นที่แสนดีมากๆ) ระหว่างทางก็เลยคุยกันเกี่ยวกับประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ตอนเราจะลงจากรถก็อวยพรให้พวกเราเดินทางปลอดภัย ยังไงก็แวะมาได้เสมอนะและโบกมือบ๊ายบายให้กันด้วยความประทับใจ






















  • ถึงแล้วจ้าาาาา พร้อมกินนนนนน!














    ตัวตลาดนิชิกิเป็นบล็อกยาวๆประมาณ 5 ช่วงตึกที่อัดแน่นเต็มเอียดไปด้วยร้านขายของกินนานาชนิด สุดฝั่งด้านหนึ่งจะเจอกับ ศาลเจ้านิชิกิ เท็นมังกู (Nishiki Tenmangu Jinja Shrine) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษา! เหมาะกับข้าพเจ้าที่จะต้องสอบเนติในปีหน้ามากๆ แปะไว้ก่อนแล้วเดี๋ยวก่อนสอบจะมาไหว้ขอพรใหม่ อิอิ








    หน้าตาของตลาดก็ประมาณนี้ มีทั้งของสด ของแห้ง และของที่ซื้อแล้วกินได้เลย ฮูเร่








































    เป้าหมายหลักที่เราดั้นด้นมาจนถึงครัวแห่งเกียวโตนี้คือร้านที่ขายเทมปุระกับไข่หวาน ซึ่งเป็นร้านที่เตยแนะนำมากกว่าต้องมานะเว้ย ไม่มากินที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงเกียวโต อร่อยมาก ดีมาก ไข่หวานประเสริฐมาก เราก็เดินวนไปหนึ่งรอบ ไม่เจอ เดินวนมารอบที่สองถึงจะเจอร้าน


    แต่ทว่า... เขาติดป้ายกว่า Close ต่อหน้าต่อตาอะแก๊ ไม่ขาย เราก็ตกใจน้ำตาจะร่วงอยู่หน้าร้าน ฮืออออ ปิดจริงๆหรอ เลยเดินไปด้อมๆมองๆหน้าร้าน เขาก็มีขายเป็นเบนโตะพร้อมกินไรงี้ ก็เอาวะ ซื้อเป็นกล่องๆแบบนี้กินก็ได้โว้ยยยย







    ไข่หวานคืออื้อหืออออออออ อื้อหือๆๆๆๆๆๆๆๆ ดี ดีงาม สมคำแนะนำมากกกกก
    มิตรรักผู้อ่านโปรดไปลอง มันดีดี๊ดี ดี๊ย์ดีย์จริงๆนะจ๊ะ






    เรายืนโซ้ยกันอยู่หน้าร้านจนหมดเกลี้ยง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ป้าเขาเดินไปแขวนป้าย Open ใหม่... อ้าววว สรุปคือหยุดพักขายตอนเช้า เริ่มขายเมนูกลางวันต่อซะงั้นอะ แล้วทำไมป้าไม่บอกกกกกกก อยากกินอีก อยากกินข้าวเซตพร้อมเทมปุระกุ้งทอดกรอบๆและไข่หวานอีก แต่ ณ ตอนนั้นเราอิ่มมาก จุกเหลือเกินเลยขอทดร้านนี้ไว้ในใจว่ารอบหน้าจะมากินอีก!






















  • เมื่ออิ่มหน่ำสำราญ เดินย่อยกันเรียบร้อยแล้ว (แต่ไม่ได้ลองกินซอฟครีมเพราะจุกยันคอหอยละเด้อ) เราก็กลับมาเอากระเป๋าที่เรียวกังและเดินทางไปที่ คิโนซากิออนเซ็น (Kinosakionsen) เมืองออนเซ็นชื่อดังในภูมิภาคนี้ที่ได้รับรางวัลจาก Lonely Planet ว่าเป็น เมืองออนเซ็นที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นนนน

    เมืองนี้คือเมืองที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อบัตร JR Wide Area Pass เลยแหละ อยากไปมาก อยากไปมานานแล้วววววว อยากไปก่อนที่เพจท่องเที่ยวต่างๆจะลงรูปรีวิวรัวๆเสียอีกกกก








    วิวระหว่างทางสวยงามมาก เป็นเมือง สลับกับผู้เขา และบ้านเรือนเล็กๆ ทุ่งหญ้า
    แถบชนบทที่นี่น่ารักมาก นั่งมองวิวได้เรื่อยๆไม่เบื่อเลย :)
















    เราว่าเราชอบการเดินทางโดยรถไฟมากที่สุดแล้วนะ
    มันค่อยๆไปเรื่อยๆ มีอะไรให้ดูระหว่างทาง 
    นั่งฟังเสียงรถไฟแล่นฉึกฉัก รู้สึกว่าเป็นเวลาที่ได้ตกตะกอนความคิดดี















    ถึงแล้วจ้าาาาาาา นั่งมาจนเกือบสุดสาย ถึงเวลาบ่ายสองนิดๆ


































  • คิโนซากิออนเซ็น เป็นเมืองเล็กๆที่น่ารัก มีของดีของเด็ดคือเนื้อปูที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง ที่นี่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและมีอากาศเย็นๆเกือบตลอดทั้งปี ด้านหลังของเมืองที่ต้องขึ้นเคเบิลคาร์ไปเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยและมี วัดออนเซ็นจิ ซึ่งเป็นวัดที่เวลาใครมาแช่ออนเซ็นที่นี่จะต้องไปไหว้ขอพรก่อนที่จะแช่ออนเซ็นเพื่อความเป็นสิริมงคลและเชื่อว่าจะทำให้สุขภาพดีตลอดปี








    ออกมาจากสถานี JR ก็จะเจอกับศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอยู่ตรงด้านซ้ายมือ เรา
    สามารถไปขอโบรชัวร์เกี่ยวกับเมืองคิโนซากิได้จ้ะ















    เป็นอาคารห้างร้านแบบเก่าๆ น่ารักมากเลย



































    มีคุณลุงคุณป้าเดินต๊อกแต๊กใส่ชุดยูคาตะไปแช่ออนเซ็นด้วยล่ะ
















  • และแล้วเราก็เดินมาถึงที่พักของเราในค่ำคืนนี้ Mikuniya Ryokan (สามารถคลิกเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์และจองที่พักได้เลย)


























    ห้องพักญี่ปุ๊นญี่ปุ่นมาก สะดวกสบายครบครัน
    ตอนกลางคืนจะมีคุณแม่บ้านมาจัดห้องและกางฟุตงอุ่นๆให้นอน














    จิบชาเขียวร้อนๆและกินขนมกุ๊บกิ๊บ















    มียูคาตะสีเรียบๆของทางเรียวกังไว้ค่อยให้บริการเวลาออกไปแช่ออนเซ็น
    ถ้าอยากได้แบบสีสันสดใสไว้ถ่ายรูปก็มีบริการให้เช่าแบบน่ารักๆเช่นกัน :)








    แขกที่มาพักทุกคนจะได้รับกระเป๋าใส่ผ้าขนหนูผืนเล็กและผืนใหญ่พร้อมกับบัตรเข้าใช้บ่อออนเซ็นสาธารณะทั้ง 7 แห่งในคิโนซากิที่กระจายตัวอยู่รอบเมือง มีทั้งแบบบ่อโรมัน บ่อธรรมดา และบ่อกลางแจ้งให้เลือกลองไปแช่กัน และในตัวที่พักเองก็มีบ่อออนเซ็น 3 บ่อสำหรับแขกที่อยากได้ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย ซึ่งเราจองบ่อออนเซ็นส่วนตัวไว้ช่วงดึกๆ กะว่ากินข้าวเสร็จแล้วก็ค่อยไปแช่น้ำอุ่นๆก่อนนอน




















  • พร้อมแล้วก็ฝ่าความหนาวไปกันเล้ยยยยยย
























































    ใกล้ที่พักของเรามากที่สุดก็ Jizouyu Bath แห่งนี้นี่แหละ
    ภายในเป็นบ่อแช่ออนเซ็นธรรมดาเหมือนกับสระว่ายน้ำ แยกชายหญิง


















    ตรงศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจะมีสมุดสะสมแสตมป์ของเมืองล่ะ มีคุณลุงคุณป้ามาปั๊มมากมาย
    คิดว่าถ้าใช้บริการบ่อออนเซ็นครบทุกที่คงจะได้ของที่ระลึกอะไรแบบนี้ละมั๊ง













    เอาล่ะ มาแชร์ประสบการณ์การแช่ออนเซ็นสาธารณะครั้งแรกในชีวิตน้อยๆของข้าพเจ้าดีกว่า...




    พอเราเข้าไปด้านในก็จะเจอห้องเปลี่ยนชุด ทุกคนจะเอาของมาเก็บในล็อกเกอร์ที่นี่และเดินตัวเปล่า ถือผ้าขนหนูผืนเล็กๆไปด้วย ถัดไปก็จะเป็นบ่อออนเซ็นที่ควันโขมง เราก็ต้องไปอาบน้ำล้างตัวกันก่อนด้วยน้ำอุ่น-ร้อนจัดๆ แล้วก็ค่อยๆหย่อนตัวลงไปแช่น้ำ


    ระหว่างนี้ก็พูดคุยเม้ามอย หรือกรณีเราที่มาคนเดียวก็นั่งอยู่ตรงมุมเงียบๆ แช่จนพอใจ กล้ามเนื้อผ่อนคลายแล้วก็ขึ้นมาอาบน้ำสระผม ขัดผิวนี่นั่น ถ้าจะลงไปแช่ต่อก็แช่ ถ้าไม่ลงก็เก็บของ เปลี่ยนชุด กลับออกไปด้านนอก กดเอานมอุ่นๆมาดื่มและนั่งพักผ่อนหย่อนใจ



    ถามตรงๆว่ามีอายและเคอะเขินอะไรมั๊ย ก็ไม่นะ... เพราะเราคิดว่าทุกคนมีเหมือนกันหมด เรามี เขาก็มี จะมากจะน้อยก็แล้วแต่บุญทำกรรมแต่ง เราทุกคนแตกต่างกันที่ผืนหนังที่ปกคลุมกล้ามเนื้อ เส้นเลือด ตับ ปอด ม้าม หัวใจเท่านั้นแหละ พอเอาออกไปแล้วทุกคนก็เหมือนกัน



    ระหว่างที่แช่น้ำสบายๆก็คิดขึ้นได้ว่าชีวิตคนเราก็แค่นี้แหละ ร่างกาย คือ ธาตุทั้งสี่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นไปตามกาลเวลาและวาระ สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะจิต ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลีกหนีวัฎจักรนี้ไปได้ทั้งนั้นแหละ 



    สิ่งที่ทำได้คือต้องมีสติรู้ตลอดว่าเราต้องเอาใจใส่ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง มีความสุข ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ทำใจให้สบายแล้วกายจะเป็นสุข รู้สึกว่าปลงสังเวชได้มากขึ้น ไม่รู้ว่าที่คิดได้นี่เป็นเพราะเราไปนั่งพินิจใบไม้ในวัดนิกายเซนต่างๆมากเกินไปรึเปล่าแหะ ฮาาาา



















  • เรารีบทำเวลาการแช่ออนเซ็นเพราะต้องกลับมากินอาหารเย็นที่ห้องตอนหกโมงครึ่ง จริงๆจะเลือกไปกินข้าวตามร้านอาหารต่างๆในเมืองก็ได้ แต่เราเน้นความสะดวกและอยากพักผ่อน ไม่ต้องคิดอะไรมากว่าเย็นนี้จะกินอะไรดีน้าก็สั่งเซ็ตอาหารจากทางที่พักมาเลย และก็ไม่ผิดหวังเพราะอาหารอร่อยมากกกกกก








    ผ่ามผ๊ามมมมมมม รู้สึกว่าอยากพาครอบครัวมาเที่ยวเลยอะ
    ดีมาก ดีสุดๆไปเล้ยยยย
















    ซูมไปที่ปู ของดีเมืองคิโนซากิเขาล่ะ
























    เทมปุระกร๊อบกรอบ ไม่อมน้ำมันเลย






















    เซ็ตเนื้อที่นุ่มละมุนเหลือเกิน ขอบคุณน้องวัวที่สละชีวิตเพื่อเราาาาาาา






















    น้องพลอยอีสแฮปปี้







    กินเสร็จแล้วก็รอให้อาหารย่อยนิดหน่อย เราก็ไปแช่บ่อออนเซ็นส่วนตัวที่จองเวลาไว้ก่อนนอน อาห์ กินอิ่ม แช่น้ำอุ่น หลับสบ๊ายสบายยยยยยย




















  • วันรุ่งขึ้นเราก็ตื่นแต่เช้าเพื่อจะมาแช่ออนเซ็นอีกรอบ หมายมาดว่าต้องไปลองแช่บ่อกลางแจ้งให้ได้เล้ย!













    อากาศยามเช้าช่างสดใสและหน๊าวหนาว มีหมอกลอยต่ำๆเอื่อยๆ
    มีคุณลุงคุณป้าตื่นมาแช่ออนเซ็นกันแต่เช้า






































    อยากมาช่วงซากุระบานหรือตอนที่หิมะตก คงจะสวยน่าดู๊



























    และซีนนี้เราเขินมาก เรื่องของเรื่องคือเราเจอน้องผู้หญิงคนนี้กึ่งเดินกึ่งวิ่งแต๊กๆๆๆๆๆมาแต่ไกล พอข้ามถนนมาก็เปลี่ยนเป็นเดินอย่างเรียบร้อยจนเราแปลกใจเพราะคิดว่าที่น้องวิ่งไปโรงเรียนแน่ๆ น่าจะตื่นสายหรืออะไรแบบนี้ พอถึงตรงสะพานก็อ๋อในใจ เพราะว่ามีเจอหนุ่มน้อยยืนรออยู่และทั้งสองก็เดินไปโรงเรียนด้วยกัน

    นี่มันซีนการ์ตูนตาหวานในชีวิตจริงชัดๆ กุ๊กกิ๊กมาก เขินนนนน ความรักในวัยอิ๊อ๊ะนี่มันน่ารักจริงๆ


































    ถึงแล้วจ้าาาาาาาาาาาา Ichinoyu Bath ที่เปิดตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ภายในก็มีสองโซนคือบ่อด้านในที่เหมือนสระว่ายน้ำตามปกติ กับบ่อด้านนอกที่ทำเป็นโขดหิน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้กลางแจ้งสุดๆขนาดนั้นเพราะบ่อเล็กๆนิดเดียว



















    แช่เสร็จเรียบร้อยก็ต้องรีบกลับมาที่พักเพราะถึงเวลาอาหารเช้า
    อดใจไม่กินซอฟครีมเพราะต้องกินข้าวจ้า

















































































  • พอมาถึงปุ๊บก็พุ่งตัวไปที่ห้องรับประทานอาหารเช้าด้วยความหิวโหย








    ยิ่งใหญ่จัดเต็มเช่นเคย อร่อยทุกอย่าง ปริ่มใจจจจ ข้าวเต็มได้ไม่อั้นด้วย!








    พออิ่มแล้วเราก็กลับห้องไปนั่งผึ่งพุงและแยกย้ายกันไปแช่ออนเซ็นรอบสุดท้าย เขาออกไปแช่ข้างนอก ส่วนเราแช่ในบ่อส่วนตัวห้องเล็กอีกรอบนึงก่อนกลับมาเก็บของและเตรียมตัวเช็คเอาท์














    ได้การ์ดขอบคุณจากคุณแม่บ้านด้วย♡










    เราเช็ครอบรถไฟก็พบกว่าเรามีเวลาเหลือๆให้เดินเล่นในเมืองอีกนิดหน่อย ระหว่างเดินไปที่สถานีรถไฟก็ไปนั่งจิบกาแฟรับอรุณกัน







    ร้านขายปลา





















    มีแต่ปูกล้ามโตหย๊ายหย่ายยยยย




















    ร้านขายของที่ระลึกจากเมืองคิโนซากิ

















    ส่วนร้านกาแฟที่เราไปนั่งก็น่ารักดี เปิดเพลงแจ๊ส และมีคุณปู่คุณตามานั่งสนทนาหัวเราะกันครื้นเครง























    ช็อกโกแลตร้อนของเรา ถ้วยและจานรองน่ารักสวยคลาสสิกมาก























    กาแฟของเขา



















  • ก่อนที่จะบ๊ายบายคิโนซากินั้น เราก็แวะชิมน้ำแร่ธรรมชาติที่น้ำพุตรงหน้าสถานีก่อน รสชาติปะแล่มเข้มข้นมากทีเดียว






















    แผนที่บ่อออนเซ็นสาธารณะทั้งเมือง ใจจริงอยากไปแช่ให้ครบทุกบ่อเล้ยยยยย























    และกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนที่รถไฟจะออกเราก็ไปแวะซื้อ ข้าวกล่องรถไฟ ประจำสถานี Kinosakionsen มาตุนเป็นเสบียงไว้สำหรับอาหารกลางวันจ้า











































    บ๊ายบายคิโนซากิออนเซ็น ไว้เจอกันใหม่นะ :D





















  • มาแกะ ข้าวกล่องรถไฟ หรือ เอกิเบน (Ekiben) กันดีกว่า!!!


    เอกิเบนนั้นมีขายตามสถานีรถไฟต่างๆในญี่ปุ่น เป็นข้าวกล่องที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ เพราะฉะนั้นแต่ละสถานีจะไม่เหมือนกันล่ะ เป็นหนึ่งในความใฝ่ฝันของเราที่จะชิมข้าวกล่องรถไฟไปเรื่อยๆ สัมผัสความญี่ปุ่นแต่ละภูมิภาคผ่านอาหารการกิน (อ้อออ มีหนังสือการ์ตูนเรื่องตะลอนชิมข้าวกล่องรถไฟด้วยนะ น่าอ่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจมากๆ)





    สำหรับของดีเมืองคิโนซากิออนเซ็นนั้นคือปู เราจึงเลือกสองกล่องนี้มาลิ้มลองงงงง








    อันนี้คือกล่องของเราจ้ะ
    รสชาติละมุนละไมมุ้งมิ้งสำหรับคุณผู้หญิง











    ข้าวผัดปูจัดเต็มสำหรับคุณผู้ชาย
    ซึ่งเราว่ากล่องนี้อร่อยกว่าแหะ ปูสะใจมากมากมากมากมากกกกกกกก



















    ตบท้ายด้วยกาแฟร้อนๆ



















    ถ้าหิวอีกก็เติมกระเพาะให้เต็มด้วยมันฝรั่งทอดและป็อกกี้นอกเฟรม







    โอ้ยยย อิ่มมมมมมมมมจนไปถึงโอซาก้า
    ที่พอถึงปุ๊บก็ออกไปหาของกินปั๊บ เฮ!












    つづく
    โปรดติดตามต่อต่อไป






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in