เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Sorry, I'm Ovary-Reactเนตรธิ ~
Sleep Paralysis, My New Friend
  • ขออภัยในคำหยาบ แต่เราต้องสบถคำนี้จริงๆ เพื่อแสดงปริมาณความโกรธเกรี้ยวให้โลกรู้

    เรามีปัญหาเรื่องนอน นิดๆ หน่อยๆ เล็กๆ น้อยๆ ตามประสาคนธรรมดา ตอนวัยรุ่นนอนไม่ค่อยหลับ พอเข้ามาวัยทำงานก็รู้สึกว่านอนเท่าไรไม่เคยพอ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหามาก คิดแค่ว่าร่างกายอ่อนแอ

    ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมานี้ เราฝันร้ายบ่อยขึ้น ตอนแรกก็คิดว่าเพราะเปลี่ยนที่อยู่ สังคมใหม่มีความเครียดสูง ก็เลยฝันร้ายเหมือนที่คนอื่นเป็น เพิ่มเติมเลเวลความน่ากลัวขึ้นไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นอาการหนึ่งที่เชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้าที่เผชิญ

    แต่เรื่องผีอำนี่คืออีกเรื่องใหม่สำหรับเรา ,

    เด็กๆ เราเคยเหมือนผีอำ ครั้งเดียวเท่านั้นยังจำได้ดี แต่เราไม่มีความรู้เราก็คิดว่าเราเจอผี
    จนมันกลับมาเกิดขึ้นบ่อยๆ ในซักสามเดือนที่ผ่านมา

    ช่วงที่ใช้ยานอนหลับเราจะไม่ฝันร้าย ไม่อะไรทั้งนั้น จะหลับเหมือนภาพตัด แต่จะตื่นขึ้นมาอย่างไม่สดชื่น โงหัวไม่ขึ้น ซึ่งหมอคงเห็นว่ามันดีกว่าให้ไม่ยอมนอนแล้วฟุ้งซ่านไปไหนต่อไหน

    เราออนยานอนหลับ หรือว่ายาอื่นๆ ที่ช่วยให้หลับมาจะครบปีแล้ว จนเหมือนสมองเรามันเข้านอนเองไม่เป็น เราเพิ่งตระหนักว่าเราสูญเสียระบบพื้นฐานของร่างกายไปเมื่อเร็วๆ นี้ และนั่นก็ทำให้เรารู้สึกเป็นมนุษย์น้อยลงกว่าเดิม รู้สึกแย่ที่จัดการตัวเองไม่ได้ และอีกแปดหมื่นสิ่งที่ทำให้ทุกข์ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

  • อาการผีอำครั้งล่าสุดของเราน่ากลัวมาก .
    เรารู้ว่าอะไรพวกนี้มันเหมือนสวิตช์เปิดปิดที่ทำงานคลาดเคลื่อน ไม่มีผีไม่มีอะไรหรอก
    แถมยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนด้วย

    แต่เราเวลานั้นนอนหงาย (อาการผีอำจะเกิดเฉพาะตอนนอนหงาย) ตัวแข็งอยู่บนเตียงใน พยายามที่จะหลับ มอง (หรือรู้สึกว่าเห็น) แฟนที่กำลังนั่งทำงานอยู่อีกฝั่งของห้อง มันมีความรู้สึกหนักบนตัวบนอกเหมือนมีอะไรมากดไว้ให้จมลงไปในเตียง เราเห็นว่ามีอะไรบ้างอย่าง ผีหรือสัตว์ประหลาดก็ไม่รู้ แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีในห้องนอน หลายๆ ตัวพวกนั้นวุ่นวาย รุมอยู่บนตัวและรอบๆ เรา

    เราในตอนนั้นรู้ตัวดีว่า ที่เกิดขึ้นมันคืออาการผีอำ แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงสั้นๆ นั้นน้อยลง

    ในใจ (หรือในสมอง?) เราตั้งใจว่าจะส่งเสียงกรี๊ดให้แฟนได้ยิน เขาจะได้มาช่วย เราพยายามร้องอยู่หลายรอบ เรารับรู้ว่าในอกมันเกร็ง รู้สึกถึงความตะเบ็ง แต่มันก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมาก
    จนถึงเวลาที่ โอเค สมองจะทำงานเข้าระบบถูกต้องแล้วนะ เราก็เฮือกขึ้นมา หายใจแรง ใจเต้นเร็ว เหนื่อยด้วย กลัวด้วย , เราถามแฟนว่าได้ยินที่เรากรี๊ดไหม เขาก็บอกว่าไม่ได้ยิน

    กว่าจะพยายามหลับอีกรอบ ก็ต้องให้ใจกลับมาเต้นปกติและผ่อนคลายพอ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา บางคืนรำคาญจนแบบ ไม่อยากหลับแม่งแล้ว หรือไม่ก็รู้สึกกลัวการนอนหลับไปทั้งคืน

    หลับ ฝันร้าย เฮือก ลุก 
    วนไปจนเช้า จนมันล้ามากๆ ถึงจะได้นอนหลับเป็นหลักชั่วโมงบ้าง

    ถ้ากินยา อาการรบกวนพวกนี้จะเกิดขึ้นประมาณ 10%
    ถ้าไม่กินยา คือ 100% เต็ม เราทดลองมาแล้ว

    เศร้า .
  • ช่วงนี้เป็นแบบนี้มาหลายรอบแล้ว ยังไม่แน่ใจสาเหตุที่แท้ แต่ทำให้ใจเสียมาก ทำอะไรไม่ได้ด้วยนอกจากหลับหูหลับตากินยาไปทุกวัน แม้จะรำคาญผลข้างเคียงของมันแค่ไหนก็ตาม

    "ค่อยเป็นค่อยไปนะ" 
    แฟนเราจะพูดแบบนี้ ทุกครั้งที่เราประสาทเสียเพราะนอนดีดีไม่ได้เหมือนคนอื่น แถมไม่มีแนวโน้มว่าจะทำได้ด้วย


    เอาจริงๆ นะ เราคิดว่ามนุษย์มีฟังก์ชั่นพื้นฐานในการใช้ชีวิตก็แค่ eat, sleep, shit, fuck
    ความป่วยเอาช่วงเวลาที่มีความสุขจากการ sleep and fuck  ไป
    สร้างความลำบากในการ shit เพราะท้องผูกอย่างชิบหายเมื่อกินยา
    เหลืออย่างเดียวที่ยังปกติและเหมือนจะเพิ่มเผื่อส่วนอื่นที่หายไปด้วย จนทำให้เรากลายเป็นนังหมูอ้วนแบบทุกวันนี้

    ไม่เข้าใจเลย , อยากกินข้าวไม่ได้เยอะๆ บ้าง

    เออแต่นั่นแหละ
    ถ้ามันพังทุกเรื่องเราคงตายไปแล้ว
    นี่มีบางเรื่องที่ทำให้หรรษาได้บ้าง ยังเป็นบ้าเป็นบอขนาดนี้เลย



    .. โอเค ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ..
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in