เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[SF/OS] When you love someone | (jaedo/johnyong/markmin)arj__7
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน Señorita (johnyong) - 1 #wylso
  • Couple : johnyong

    Note : ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ 



    (1)

    Land in Miami
    The air was hot from summer rain
    Sweat dripping off me
    Before I even knew her name la la la


    ผมเจอเขาครั้งแรกที่ร้านอาหารตรงหัวมุมถนนถัดจากที่นี่ไปสองสามแยกไฟแดง วันนั้นเป็นวันที่เหนื่อยมากวันนึงของผมเลย เดินเข้าเดินออกไปมาระหว่างครัวกับหน้าร้านเป็นว่าเล่น ข่าวดีคืออีกไม่กี่นาทีกำลังจะถึงเวลาเปลี่ยนกะของผมแล้ว นึกอยากจะไปหมุนเข็มยาวบนหน้าปัดให้ถึงเลขหกเสียเต็มประดา 


    “ ไอ้เหี้ย แน่จริงมึงอย่าหนี “

    ให้ตาย ข้างนอกตีกันอีกแล้วแหง 

    บังเอิญหรือถูกพระเจ้ากลั่นแกล้งไม่ทราบได้ ผมเป็นพนักงานเสิร์ฟคนเดียวที่เป็นผู้ชาย พวกผู้หญิงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายพอๆกับผม ไม่กี่วินาทีต่อมาผมหันหลังให้กับจานที่กองพะเนินทางด้านหลัง และเดินออกมาจากครัวด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย 


    “ .. ถ้าพวกคุณทั้งหมดไม่ออกไปจากร้านภายในสามนาที ผมจะโทรแจ้งตำรวจ “


    นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมพูด ก่อนจะทำทีเดินไปยกหูโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์

    คนพวกนั้นออกไปแล้ว เหลือแต่คนตรงหน้าที่นั่งใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ปาก ผมถอนหายใจอีกครั้งและหยิบทิชชู่ในกระเป๋ายื่นให้เขาไป 


    “ ขอบคุณ ”

    “ อืม ”


    จังหวะที่ผมกำลังจะเดินออกจากร้าน เขารั้งข้อมือผมเอาไว้


    “ จะกลับบ้านหรอ? “ 

    “ อืม ”

    “ ขอไปส่งได้ป้ะ “

    “ ไม่ต้องอ่ะ ”


    ผมเดินออกมาโดยที่ไม่ได้หันไปมองเขาอีกเลย เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ สมองผมฉายแต่แววตาดุๆของคนที่เพิ่งเดินจากมาเมื่อกี้ซ้ำๆ มุมปากที่ช้ำกับหางคิ้วที่แตก จนรู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่ที่หน้ารั้วบ้านของตัวเองเสียเเล้ว 


    หมอนั่นจะทำแผลเป็นไหมนะ


    .

    .


    “ ทีวาย เขามาจีบแกหรอวะ ”

    “ อะไร ? ” ผมขมวดคิ้ว

    “ ก็โต๊ะนั้นไง เขามองแกตลอดเลยอ่ะ”

    “ บ้าดิ ” ผมชะงักแล้วหันไปมอง

    “ เขาฮอตเป็นบ้า ลูกค้าคนอื่นฝากเบอร์ไปให้เขาเต็มเลย” 


    ผมกรอกตาไปมาเเล้วถอนหายใจ 

    “ทีวาย โต๊ะแปด”

    ผมยกอาหารออกมาจากครัวและเดินตรงไปที่โต๊ะจังหวะที่ผมเงยหน้าขึ้นมา ผมสบตาเขาเข้าอย่างจังในตอนที่ออกมาเสิร์ฟออร์เดอร์ที่หกของตัวเองในวันนี้ 

    ข้างนอกนั่น รถฮาร์เล่ย์ของเขายังคงจอดอยู่ที่เดิม เสื้อยืดสีขาวที่แขนของมันถูกถกขึ้นมากองบนหัวไหล่เพราะอากาศที่อบอ้าวของไมอามี่ เส้นผมชื้นเหงื่อ อาหารเมนูเดิมๆที่เขาสั่ง ดวงตาคู่เดิมที่มองมาทางผม

    ต้นแขนเปลือยที่ดูเปียกนิดหน่อยจากเหงื่อของหมอนั่น มัน .. 

    ผมรีบหลบตา รู้สึกว่าอุณหภูมิในตัวสูงขึ้นจนหน้าเห่อร้อน น่าจะเป็นเพราะอากาศที่นี่ในตอนนี้ 

    มาทำไมทุกวันกันนะ บ้านช่องไม่มีอยู่หรือยังไง


    .

    .


    (2)

    Sapphire moonlight, we dance for hours in the sand
    Tequila sunrise, her body fit right in my hands la la la 


    เจเน็ตคะยั้นคะยอให้ผมไปเป็นเพื่อนที่ชายหาดตอนเย็น ปาร์ตี้กันอีกแล้ว ผมบ่นไปเช็ดโต๊ะไป


    “ น่านะ ไปเป็นเพื่อนกันหน่อย ”

    “ เฮ้อ ไปก็ไป ว่าแต่ครั้งก่อนๆก็ไปกับบลายธ์นี่ ”

    “ ยัยนั่นไปกับแฟน ฉันล่ะเซ็ง ”


    ผมส่ายหัวแล้วหันไปเช็ดโต๊ะต่อ 


    วันนี้ผมแปลกใจนิดหน่อย นี่ก็บ่ายเเล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีว่าผู้ชายคนนั้นจะมาที่ร้าน ผมหลับตาลงสักพักพลางคิดไปว่าจะไปนึกถึงหมอนั่นทำไมกัน ซวยตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วตอนนี้เขากำลังคิดบ้าอะไรอยู่ หมอนั่นอาจจะชอบอาหารที่ร้านก็ได้เลยมาบ่อยๆ วันนี้อาจจะเบื่อแล้วก็ได้มั้ง คิดแค่นั้นแล้วก็เดินกลับเขาไปในครัว 

    อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะหมดกะของผมแล้ว และแทนที่จะได้กลับไปนอนพักร่างที่บ้านกลับต้องออกไปปาร์ตี้ที่หาดต่อ ผ้ากันเปื้อนและชุดถูกถอดออก ผมทืี่ชื้นเหงื่อถูกเสยขึ้นแบบไม่เป็นทรงสักเท่าไหร่


    “ เฮ้ ถ้าฉันควงแกไปพวกนั้นต้องคิดว่านายเป็นแฟนฉันแน่ๆอ่ะ ”

    “ โอ้ยเจเน็ต! ตกใจหมด!! ”


     ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปพูดกับเธอ 


    “ เหม่ออะไร เปลี่ยนชุดเร็วๆเลย อยากไปสนุกจะแย่แล้ว ”

    “ เพิ่งจะทุ่มกว่าๆเองไหม ”


    ผมเดินเตรดเตร่ไปตามถนนเรื่อยๆ ปล่อยให้เจเน็ตพูดงุ้งงิ้งไปคนเดียว ไม่นานนักเรามาถึงที่หาด ลมเย็นๆจากทะเลปะทะที่ผิวชวนให้รู้สึกเหนียวตัวเบาๆ กระป๋องเบียร์ถูกยื่นมาให้จากเจเน็ต ผมเจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมแล้วยืนคุยกันเล็กน้อย 

    อาจเป็นความบังเอิญ รถฮาร์เล่ย์ที่จอดอยู่ตรงที่จอดรถตรงนั้นมันคุ้นตาอย่างประหลาด ‘เหมือนรถของหมอนั่นเลย’  ผมคิด

    ท่ามกลางฝูงชน เสียงกีตาร์แปร่งๆดังขึ้นคลอไปกับเสียงคลื่น อันที่จริงตัวผมเองเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่งเท่าไหร่ ผมคิดว่าอีกฝั่งของปาร์ตี้น่าจะเหมาะกับผมมากกว่า นั่งฟังเสียงกีตาร์รอเจเน็ตเต้นกับหนุ่มหน้าคมคนนั้น ผมเดินไปบอกเธอแล้วพูดแซวกันเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเดินถือกระป๋องเบียร์ออกมา

    ร่างสูงรูปร่างคุ้นตาในเสื้อยืดสีขาวแขนกุดกับสีเข้มในลุคที่ดูสบายตา กำลังดีดกีตาร์ที่อีกฝั่งของกองไฟกำลังมองผมด้วยสายตาที่ทำเอาอากาศรอบตัวผมร้อนขึ้นเรื่อยๆ

    สัญญาณ SOS ดังขึ้นในใจ

    ให้ตายเอาอีกแล้ว

    นี่เรียกว่าเขินหรือเปล่านะ



    .

    .



    แอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์บางเบา รู้ตัวอีกทีผมกำลังเดินตามแรงจูงของเขาออกมา 


    “ ทำอะไรเนี่ย ”


    ผมถูกอุ้มขึ้นมายืนบนเท้าของเขา เรากำลังขยับเป็นจังหวะเดียวกันใต้แสงจันทร์ที่สาดไปทั่วทั้งหาดและเพลงสุดท้ายที่เปิดคลอในช่วงดึกเต็มที 


    “ ไม่รู้ กลัวเมาแล้วคุณหัวทิ่ม ”

    “ คุณขึ้นมาเชียว ” 

    ผมหัวเราะกับสรรพนามใหม่ที่เขาใช้เรียก


    เขาเอาแต่มองหน้าผมทั้งคืนที่เราอยู่ด้วยกัน เริ่มจากเสี้ยววินาทีที่ผมหันไปมองเขาในช่วงที่ทางฝั่งตรงข้ามเปิดเพลงที่ผมชอบ 

    ผมยุ่งๆของเขาที่ถูกพัดไปตามคลื่นลมทะเลกับกลิ่นแอลกอฮอล์บางๆบนตัวเขาชวนให้ผมใจเต้นผิดจังหวะ

    และเป็นผมที่หลบตาอีกครั้ง


    “ ตัวคุณโคตรเล็กอ่ะ ”

    “ สมส่วนเถอะ ”

    ผมหันไปเถียง

    “ หมายถึง ตัวเล็กกว่าผม ”


    ตาเยิ้มๆของเขาเหมือนคนเมาและกำลังยิ้มเหมือนเจอของที่ถูกใจ การเงยหน้ามองเขาทำให้ผมเงียบกับคำว่า ‘ตัวเล็ก’ ของเขา เมื่อเห็นส่วนสูงที่ต่างกันชัดเจนระหว่างเรา


    “ เอวก็เล็กด้วย ”


    เขาก้มลงมากระซิบเบาๆ ไรหนวดบางๆนั่นขูดเข้าที่ข้างแก้มชวนให้รู้สึกวูบวาบไม่น้อย 

    และโดยทันที ผมได้ฝากรอยนิ้วมือของผมกลับไปเป็นของแถมที่แขนข้างซ้ายของเขา


    แย่แล้ว

    ผมเหมือนตัวกำลังจะระเบิด


    เนิ่นนานหลายชั่วโมงจนเกือบจะเช้า เราเดินกลับมาที่จุดเดิมที่แยกกับเจเน็ต และพบว่าเธอกลับไปกับหนุ่มหน้าคมคนนั้นแล้ว 


    “ แล้วกลับยังไงวะเนี่ย ”

    “ จะกลับบ้านหรอ ? ”

    ” ก็อือ ”

    “ ขอไปส่งได้ป้ะ “

    และคราวนี้ผมไม่สามารถปฏิเสธสายตาและคำขอของเขาได้เลย

    “ แค่ส่งอย่างเดียวนะ ”

    เขาหัวเราะ แล้วจูงมือผมไปที่มอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ของเจ้าตัว


    .

    .



    (3)

    Locked in the hotel
    There's just some things that never change
    You say that we are just friends
    But friends don't know the way you taste la la la


    ผมไม่ว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันเรียกว่าอะไร เจเน็ตถามผมหลายครั้ง และทุกครั้งผมไม่มีคำตอบที่ดีไปกว่าการตอบว่าผมกับเขาเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น 


    ฮาร์เล่ย์ของเขาไม่ได้จอดอยู่ที่เดิมในวันนี้ ปกติจากที่มาทุกวัน พักหลังๆเขาเริ่มมาประมาณสี่วันต่ออาทิตย์ และเหมือนเดิมวันนี้ลูกค้าผู้หญิงเยอะกว่าปกติเพราะคิดว่าเขาจะมา ตามปกติแล้วเขาไม่เคยหายไปในวันศุกร์ และมานั่งที่นี่ทั้งวัน ช่วงนี้มันแปลกไปหรือผมคิดไปเองไม่อาจทราบได้ 


    จะเป็นอะไรไหมถ้าผมบอกว่าไม่ได้มีแต่ลูกค้าผู้หญิงที่คาดหวังว่าเขาจะมา ผมก็แอบหวังเหมือนกันว่าจะเห็นเขาเปิดประตูร้านเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะตัวเดิม


    และความจริงก็กลับมากระชากสติของผมอีกครั้ง 


    “ ขอโทษนะคะ วันนี้จอห์นไม่มาหรอคะ? ”

    “ อ่า ไม่ทราบเหมือนกันครับ ”


    ผมพูดและยิิ้มบางๆให้เธอไป 


    “ คุณเป็นเพื่อนจอห์นใช่ไหมคะ? ”

    “ ครับผม มีอะไรหรือเปล่าครับ? ”


    เธอชวนผมคุยเกี่ยวกับเรื่องของเขาที่ผมเองก็ไม่ได้อยากรู้สักเท่าไหร่ 


    “ ถ้าเขามา ฝากคืนเขาด้วยนะคะ”


    เธอหยิบถุงกระดาษใบหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะ ผมมองมันโดยเก็บความสงสัยไว้ในใจ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็เดินออกจากร้านไปพร้อมความสงสัยของผม


    “ นี่ ..แกไม่อยากรู้หรอกหรอ “ 

    เจเนตกระซิบแล้วพยักเพยิดให้ผมมองที่ถุงในมือ

    “ อยาก แต่มันเรื่องส่วนตัวของจอห์น ”


    ผมเก็บความสงสัยนั่นไว้ เก็บของๆเขาเอาไว้ในล็อกเกอร์ และเดินกลับไปทำงานตามปกติทั้งๆที่ในใจรู้สึกขมุกขมัวเต็มที วันนี้เป็นอีกวันที่ค่อนข้างหนักหน่วงสำหรับตัวผม อีกราวๆหนึ่งเดือนผมกำลังจะเปิดภาคเรียน และการทำงานพาร์ทไทม์ช่วงฤดูร้อนของผมใกล้จะสิ้นสุดลง ถึงตอนนั้นสิ่งงที่มันกำลังคลุมเครืออยู่อาจจะกระจ่างกว่านี้ ผมหวังไว้แบบนั้น 


    .

    .



    วันนี้เลิกงานตรงเวลา ไม่มีการทะเลาะวิทาทกันในร้าน ไม่มีปาร์ตี้ ผมคิดในหัวระหว่างเดินออกทางข้างหลังร้านว่าจะกลับไปทำอะไรบ้างที่บ้าน


    “ เฮ้ ทีวาย ”

     ผมหันไปตามเสียงเรียก 



    จอห์นในเสื้อสีขาวแขนกุดตัวบางที่สะบัดไปตามลมน้อยๆ ผมเขาดูยุ่งๆไม่ได้เซ็ตเหมือนเดิม เขาค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ผมช้าๆ สายตาแพรวพราวของเขาตรึงผมไว้กับที่ 

    อีกครั้งที่ผมหลุบตามองพื้น ใจเต้นรัว สารภาพตรงนี้เลยว่าดีใจที่เขามาและยืนอยู่ตรงหน้าผม


    “ ไง ” หลายนาทีกว่าผมจะเค้นเสียงออกมา 

    “ รีบกลับบ้านอีกแล้วหรอ ”


    ในใจของผมตอนนี้ละล่ำละลักตะโกนถามเขาว่า หายไปไหนมา ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนคุณหรอ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่หายไป


    “ อือ ”

    และนี่คือสิ่งงที่ผมเลือกตอบออกไป


    ผมมองมือของเขาที่จับข้อแขนผมเอาไว้ จนเขาเปลี่ยนเป็นกระชับมันเข้าหาตัว นิ้วโป้งไล่วนที่หลังมือราวปลอบประโลม 

    แต่ทั้งหมดทั้งงมวนนั่นผมพยามคิดว่ามันคือปฏิกิริยาแบบเดิมๆ ‘เวลาที่เขาต้องการมันจากผม’

    พยามคิดว่า ทั้งหมดมันก็แค่นั้น เขาก็เหมือนทุกคนที่อยากนอนกับผมแล้วเช้ามาก็บอกว่า ‘เราเป็นเพื่อนกันนะ’

    ถ้าเจเน็ตรู้เธอต้องด่าผมจนร้องไห้แน่ๆ 

    บ้านเรือน ร้านค้า ไฟจราจรและร้านรวงตามถนนที่พล่าเบลอ ทุกอย่างเป็นภาพเบลอๆ ฮาร์เล่ย์คู่ใจของเขาทะยานออกไปบนท้องถนนด้วยความเร็วคงที่ ผมไม่รู้ว่าเราจะเป็นแบบนี้กันไปอีกนานแค่ไหน ผมเอียงซบที่แจ็คเก็ตยีนส์ของเขา รู้สึกชื้นๆที่ข้างแก้ม 

    ไม่รู้ว่ามันคือน้ำตาหรือเปล่า มันออกมาแค่หยดเดียวเท่านั้น อาจเป็นด้วยความอึดอัดใจ

    ทันทีที่เขาล็อคประตู ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย มันเหมือนเดิมที่กลับมาจบที่ห้องนอนของเขา


    .

    .



    (4)

    Oh, when your lips undress me, hooked on your tongue
    Oh love, your kiss is deadly, don't stop



    เขานั่งลงบนเตียงและมองผมที่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ผมตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยังไง ในตอนนี้ผมจะวางทุกๆสถานะและความกังวลใจทุกอย่างลง ทุกอย่างตอนนี้มันมีเพียงเเค่เขากับผม 


    แค่เขาและผม 

    ในห้องนอนโง่ๆนี่ 


    เขาถอดเสื้อและค่อยๆลุกขึ้นยืนในระหว่างที่ผมค่อยๆเดิินเข้าไปหา เราจูบกันอีกครั้งก่อนจะพาร่างของเราทั้งคู่ล้มลงบนเตียงนุ่ม

    จูบ 

    ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ในสามชั่วโมงที่ผ่านมา


    เสียงที่ฟังดูจาบจ้วงชื้นแฉะของน้ำลายดังไปทั่วห้อง ริมฝีปากของเขากำลังทำให้ตัวผมเองรู้สึกเหมือนกำลังถูกหลอมละลาย ดูดดึงและกวาดต้อน จนผมอ่อนยวบไปทั้งตัว

    มือทั้งสองข้างของผมถูกเขารวบเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวของเขา ในขณะที่เขาใช้ขาทั้งสองข้างกักขังผมด้วยการคร่อมเอาไว้ 

    มืออีกข้างที่ว่างอยู่ของเขาก็ลดลงมาค่อยๆปลดซิปกางเกงตัวเก่งของผมและโยนมันออกไปให้พ้นทาง 

    ร่างกายของผมถูกมือหน้าเคล้นคลึงตั้งแต่ต้นขาขึ้นไล่ไปจนถึงบนหน้าอกขึ้นริ้วแดงๆไปทั้งตัว ผมตัวกระตุกดิ้นเบาๆเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจจากจูบของเขา 


    “ อ อือ ”


    ผมหอบหายใจน้อยๆ เมื่อเขาปล่อยให้ปากผมเป็นอิสระ ลมหายใจร้อนๆถูกพ่นมาที่ข้างหูชวนให้ขนอ่อนลุกชันเบาๆ 

    น้ำตาคลอหน่วยที่ดวงตาในช่วงที่เขาปลุกปั่นอารมณ์ช่วงล่างของผม ความรู้สึกบิดเร้าเหมือนมีมวนพายุขนาดย่อมโหมอยู่ในท้อง สัมผัสทั้งข้างบนและล่างถูกจู่โจมด้วยจังหวะเนิบๆจนรู้สึกเหมือนกำลังจะตายให้ได้ยังไงยังงั้น


    ”อา อะ ห..”


    ทุกแรงกระแทกที่ส่งมาทำให้ผมต้องจิกมือที่หมอนปากที่เม้มแน่นค่อยๆถูกคลึงเบาๆ นิ้วเรียวของเขากวาดต้อนเข้าๆออกๆอยู่ในโพรงปาก ที่ยอดอกถูกกระตุ้นโดยการเลียดูดดึง ทั้งหมดทั้งมวนเต็มไปด้วยความสะท้านจนใจสั่น

    จังหวะที่อัดกระแทกเข้ามาทำให้ตาผมพร่าเบลอ สมองผมถูกปิดกั้นชั่วขณะ แรงตอบรับข้างในตัวผมทำให้เขาครางออกมาเบาๆที่ข้างหู 

    “ อะ .. อา ดี .. แบบนั้น “

    “ อ๊ะ.. “

    คำพูดหยาบโลนถูกพ่นออกมาพร้อมจังหวะที่เปลี่ยนไป ผมแทบคลั่งไปกับความเนิบนาบที่เขามอบให้ นิ้วมือที่จิกเบาๆบนเรือนผมนุ่ม ผมกัดปากพร้อมร่างกายที่สั่นเทาด้วยความพึงใจ

    ความวาบหวามที่ถูกส่งเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนไม่รู้จักพอของอีกฝ่ายทำให้ผมรู้สึกหมดแรง เขากอดผมเอาไว้ทั้งคืน ทุกจังหวะทุกหยดหยาดความต้องการของเขาผมรับมันเอาไว้ทั้งสิ้น

    เขาจูบอีกครั้งเข้าที่ขมับชื้นเหงื่อของผม ผมไม่แน่ใจว่าเขาทำไปเพราะว่าอยากทำจริงๆ หรือทำไปเพราะเอาใจไปงั้นๆให้รางวัลในรสเซ็กส์เหมือนเคย 




    แสงอ่อนๆยามเช้าตกกระทบที่หน้าของผมจนรู้สึกตัวตื่น เสื้อเชิ้ตตัวบางบนตัวผมถูกเขาจัดการให้เมื่อคืนตอนที่ผมนอนหมดแรงคาอกเขาไป  ผมค่อยๆลุกและเดิน ไปเปิิดม่านบางๆนั่นออกและมองออกไปนอกหน้าต่าง


    “ ตื่นเช้าจัง ”


    เขานอนหนุนแขนปรือตามองผมอยู่บนที่นอน ผมรู้สึกถึงสายตาที่แปลกไป มีบางอย่างทำให้ผมรู้สึกขวยเขิน ผมมองเขา เนิ่นนานจนเขาลุกขึ้นนั่งและตื่นเต็มตา

    “ สวย ”

    “ หื้ม ”  

    ผมเอียงคอมองเขาแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหา เราจูบกันจนผมต้องตีไหล่เขาเบาๆเรียกร้องหาอากาศ 


    “ อ อา ”


    สะโพกที่ถูกเคล้นไปมาเหมือนเป็นตัวจุดชวนอารมณ์ ผมทิ้งสะโพกเริ่มถูไถทางส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายไปมา ก่อนจะค่อยๆกดส่วนนั้นของเขาไปข้างในตัว เซ็กส์ตอนเช้ากับแสงอาทิตย์อ่อนๆที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างทำเอาผมหมดแรงยิ่งกว่าเดิม 

    แรงกระแทกของเขาที่ส่งเข้ามาทำให้ผมคิดได้ว่าวันนี้คงต้องฝากเจเน็ตลาป่วยทางร้านแทนสักวันแล้วละมั้ง 


    .

    .



    “ เมื่อวาน มีคนฝากของไว้ให้ ”

    “ ใคร ? ”

    “ ไม่รู้ ไม่ได้ถามชื่อ เป็นผู้หญิง ”


    เขาเงียบไปนานหลายนาที ในขณะที่เขากำลังนอนเล่นผมของผมอยู่บนเตียงในใจผมฉุกคิดถึงความเป็นจริงที่ว่าในตอนนี้ ไม่น่าจะมีแค่ผมกับเขาอีกต่อไปแล้ว เรื่องราวของเราอาจจะต้องจบลงไม่สวยนัก 

    ในคราแรกผมคิดว่าระหว่างผมกับเขามันเป็นความสัมพันธ์ประเภท friend with benefit เสียด้วยซ้ำ ผมรู้ว่ามันไม่มีกฎตายตัวสักเท่าไหร่นัก แต่เราทั้งคู่มาไกลเกินกว่านั้นมาก เราสามารถมีเซ็กส์กับคนที่เรียกว่าเพื่อนซ้ำๆได้กี่ครั้งกัน แล้วเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้จริงๆหรอ ในเมื่อตอนแรก วินาทีที่สบตากันผมไม่ได้มองเขาเป็นเพื่อนเลยเลยด้วยซ้ำ


    ผมชอบเขา


    ตั้งแต่ราวๆหนที่สามที่เขามานั่งมองผมเสิร์ฟอาหารได้


    ยอมรับโดยดีเลยล่ะ



    .

    .




    (5)

    I love it when you call me senorita
    I wish I could pretend I didn't need ya
    I should be running
    I wish it wasn't so damn hard to leave ya



    “ สวยจังครับ คุณผู้หญิง”

    “ เงียบไปเลยจอห์น ”


    เขานอนมองผมที่เตียงเหมือนเดิมและหยอกล้อผมไปมาด้วยคำเดิมๆ เขาเล่าว่า ตอนแรกที่เจอผม ถ้าผมไม่ตะโกนออกมาไล่พวกอันธพาลพวกนั้นไป เขานึกว่าผมเป็นผู้หญิงผมสั้นใส่ต่างหูห่วงคนนึง แต่ติดที่เสียงงผมห้าวและมีเส้นเลือดที่แขนเต็มไปหมด แถมใส่กางเกงด้วย


    “ คุณมีลูกกระเดือกโผล่มาด้วย”

    “ ได้ไง ” ผมมองค้อนเขาไปแล้วเอามือลูบไปมาที่คอ

    “ ที่ไปทุกวัน ก็นั่งมองอยู่ไง ”

    “ … ”

    “ สังเกตทุกอย่างแหละ ”


    ผมไม่รู้ว่ามันเรียกว่าเขินได้ไหม บนความรู้สึกที่เจ็บหน่วงหน่อยๆกับความรู้สึกดีที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ผมควรจะถามเขาไหมว่าสรุปแล้วเรื่องราวระหว่างเขาและผมมันจะเป็นยังไงต่อ หรือควรปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้เพราะยังไงซะผมก็จะไม่ได้เจอเขาอีกอยู่ดี 


    จนเเล้วจนรอดทุกครั้งที่ผมมองตาเขา ทุกสิ่งที่อย่างที่กังวลถูกกดเอาไว้จนลึกสุดใจ 


    “ ไปส่งเลย ขี้เกียจโกหกที่บ้านว่าไปไหนมา”

    “ ครับผม คุณผู้หญิง”


    ถึงผมจะเอาแต่มองค้อนและตีเขาไปมากเท่าไหร่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกใจหนึ่งผมก็ชอบนะที่เขาเรียกผมแบบนี้

    แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่รู้ว่าจะมี ‘คุณผู้หญิง’  อีกกี่คนกันที่เขาเรียกหลังมีเซ็กส์ด้วยถ้าไม่นับผม


    .

    .



    จากหนึ่งวันเป็นสอง จากหนึ่งอาทิตย์และเริ่มนานขึ้นเรื่อยๆ สองอาทิตย์ต่อมาผมเริ่มขาดการติดต่อกับเขา  ผมเหม่อมองออกไปข้างนอกร้าน ตรงที่เดิมที่ฮาร์เล่ย์ของเขามักจอดอยู่ตรงนั้น 


    นี่เรียกว่าอาการอกหักหรือเปล่านะ


    “ เจเน็ต จะไปแล้วนะ ”

    “ ไม่ไปไม่ได้หรอ ” เธอพูดไปเช็ดน้ำตาไป

    “ ทำเหมือนจะไม่ได้เจอกันแล้วอย่างนั้นแหละ ”


    ผมยิ้มให้เธอบางๆ จริิงๆแล้วเพื่อนที่สนิทด้วยที่นี่ก็เห็นจะมีแค่เจเน็ตนี่แหละ แต่ลำพังตัวเธอเองมีปัญหาเรื่องครอบครัวก็หนักแล้ว จะให้ตัวผมเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องไปปรึกษาเธอมันคงจะไม่ดีเท่าไหร่ในช่วงนี้ ทางที่ดีที่สุดควรปล่อยให้มันอยู่กับตัวผมและปล่อยให้มันค่อยๆจางไปนั่นคงจะดีกว่า  

    ฤดูร้อนปีที่ยี่ิสิบเอ็ดของผมมันอัดแน่นไปด้วยความทรงจำที่มีคุณลุงเจ้าของร้านที่ใจดี เพื่อนร่วมงานที่ตลกและน่ารักกับผมเสมอมา ชายหาดในฤดูร้อน ปาร์ตี้ริมทะเล 

    และเขา ผู้ชายร่างสูงที่ขับมอเตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ 

    มันสวยงามเสมอแหละถึงแม้มันจะดูคลุมเครือบ้าง 

    ในชีวิตนี้จะมีใครเรียกผมแบบเขาอีกไหมนะ จริงๆแล้วเรื่องทั้งหมดมันอาจจะมีแค่ผมคนเดียวก็ได้ที่คิดและรู้สึกไปเอง 

    “ นี่ เจเน็ต ถ้าจอห์นมา ฝากนี่ให้เขาด้วยนะ ”

    “ ยังไม่คืนอีกหรอเนี่ย ” 

    ผมยื่นถุงกระดาษให้เจเน็ต และได้แต่พยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆส่งไป  

    “ ฝากบอกเขาด้วยว่า ดีใจที่ได้เจอ ฤดูร้อนที่ผ่านมามันดีที่สุดในชีวิตเลย ”


    ผมเริ่มเก็บข้าวของ และเดิินทางออกจากที่นี่ตอนสายๆของอีกวัน จริงๆแล้วผมต้องกลับไปเรียนและทำวิทยานิพนธ์ต่อ ผมคงจะคิดถึงที่นี่มาก ยังไงซะ ผมก็ต้องกลับมาหาครอบครัวและเพื่อนๆที่นี่อยู่ดี 

    ชีวิตของเราทุกคนยังต้องเดินต่อไปไม่ว่าเราจะงงงวยกับทางข้างหน้าสักแค่ไหน

    แพลนของผมคือเรียนจบและเที่ยวไปเรื่อยๆหาประสบการณ์ชีวิตก่อน และถ้าโชคดีผมอาจจะกลับมาแล้วเจอเขาที่นี่ที่ร้านอาหารตรงงหัวมุมถนนเหมือนเดิม หรืออาจจะเจอเขาที่ไหนสักแห่งบนโลกก็ได้ 

    ถ้าหากคุณเจอผู้ชายลักษณะแบบเขา ขับฮาร์เล่ย์ ใช้สายตาแพรวพราวหว่านล้อมให้คุณตกหลุมละก็รีบๆหนีไปเลยนะครับ ถ้าไม่อยากอกหักแบบผม ฮ่าๆ (ผมล้อเล่นน่ะ)


    คงงต้องลากันตรงนี้ 

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านชีวิตเรื่อยเปื่อยในช่วงฤดูร้อนของผมครับ



    — TY Track 


    .

    .

    .

    TBC



    Talk : ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ แต่ๆๆๆ เพิ่มฉากโคมไฟขึ้นมานิดหน่อย ;—;
    สารภาพว่านี่คือคัท(ที่ไม่คัท)แรกในชีวิต แงงง

    ติชมกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in